ประสบการณ์บวชพระที่ไม่ธรรมดา

ประสบการณ์บวชพระที่ไม่ธรรมดา แต่อาจจะธรรมดาสำหรับหลายคนนะครับ

เจริญพรสาธุชน คุณโยมเพื่อนๆชาวพันทิป

อยากจะแบ่งปันประสบการณ์ และประโยชน์ที่ได้รับ ระหว่างที่บวชที่วัดป่าอรัญญานี อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ






จากการบวชตอบแทนบุญคุณบิดา มารดา วันหนึ่งต้องเป็นส่วนหนึ่งของ

โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน. เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยาม บรมราชกุมารี

(ช่างบวชถูกวัดได้ดีจริงๆ)

วันแรกที่บวชเสร้จ ก็เก็บข้าวของต่างในกุฏิที่พัก ปากฎว่า หลวงพี่ที่วัดบอกกุฏิไม่พอ เลยได้ขึ้นไปจำวัดบนศาลาเป็นห้องพระ

บอกไม่ถูก คือน่ากลัวมาก แล้วห้องน้ำต้องเดินลงมาห่างจากศาลาพอสมควร

ยิ่งญาติโยม เพื่อนฝูงที่มางานบวช ทะยอยกลับ หลังจากบวชเสร็จ บรรยากาศก็ยิ่งเงียบเหงา #ร้องไห้หนักมาก

สามคืนแรกเปิดไฟนอนตลอดคืนและในระหว่างที่นอนก็ระแวงตลอด(ปกติเป็นคนกลัวผี) แล้วสภาพห้องพระก็เป็นห้องกระจกรอบห้อง

กิจวัตรของพระใหม่ โดยมีหลวงพี่หมู (วิศวกร เพิ่งเรียนจบบวชมาหลายเดือน) เป็นผู้แนะนำตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโบสถ์ การนุ่งห่มผ้า ห่มจีวร แนะนำกิจวัตรต้องทำ ทุกอย่าง





เช้าวันแรกเสียงระฆังดังเวลา ตี4 พระทุกรูปจะต้องไปรวมกันที่ศาลาทำวัตร เป็นศาลาเก่าที่สร้างมานานไม่แน่ใจว่ากี่ปีมาแล้ว ในศาลาจะมีพระประธานสีขาวองค์โต ดูคลังมาก พอถึงเวลาก็ตื่นและไปถึงศาลานั่นอย่างรวดเร็ว เป็นพระรูปแรกๆเลยก็ว่าได้ เพราะคืนแรกนอนไม่หลับเลย ก็นั่งทำวัตรเช้านานมากสำหรับผู้ไม่เคยทำวัตรหรือนั่งนานๆ เสร็จประมาณ ตี5ครึ่ง ปวดขากันเลยทีเดียว และก็ไปเตรียทหอฉันต่อ


สถานที่ทำวัตรเช้าเย็นครับ

จากนั้นประมาณ6โมงเช้าก็จะมีเสียงระฆังรวม เรียกพระเพื่อออกรับบิณฑบาตรในหมู่บ้าน เนื่องจากเป็นวัดป่า ก็เดินไกลพอสมควร ต้องเดินเท้าเปล่า คือเจ็บมาก หลังจากเดินบิณฑบาตรเสร็จ ก็กลับมาที่วัด เพื่อรอประเคนอาหาร ในการให้พรก็ได้แค่สัพพี บทอื่นก็ถั่วงาไป เสร็จฉันเช้าก็ประมาณ8โมง จากนั้นก็เก็บศาลา กวาด ถู



ประมาณ10.30 ก็ต้องเตรียมศาลาฉันเพล 11.00 ก็ถึงเวลาฉันเพล อาหารตอนนั้นยังไม่ย่อยเลย ก็ต้องฉันเพราะตอนเย็นไม่ได้ทานอะไร ก็ต้องตุนไว้เยอะ

ประมาณ 16.30 ก็กวาดลานวัด เก็บกวาดตามศาลา สถานที่ต่างๆ
กิจวัตรพวกนั้นก็คงเหมือนทุกที่หรือป่าว ก็ทำแบบนี้มาทุกๆวัน





จนกระทั้งวันหนึ่งก่อนสามเณรจะบวช มีหลวงพี่ในวัดมานิมนต์ให้ไปช่วยงานในโครงการ  ทีแรกไม่คิดจะได้ทำ เพราะมีพระบวชใหม่อีก5รูปที่สมัครเป็นพระพี่เลี้ยงในโครงการ
วันแรกก็นี้เลยครับ ยกโต๊ะเกาอี้ จัดสถานที่ ตัดไผ่ในป่า มาทำป้าย ขึ้นป้ายทั้งในศาลาและบริเวณวัด นอกวัด ประชาสัมพันธ์



วันต่อไปตัดหญ้าเลยครับ คิดภาพพระหิ้วเครื่องตัดหญ้า ตัดอยู่หน้าวัดริมถนน  จากนั้นก็ปักธงชาติ ธงต่างๆ
วันต่อมาครับ จับผ้าทั้งในศาลาและด้านนอก พระไทยทำได้ทุกอย่าง555+





วันสุดท้ายของการเตรียมงานก็มีญาติโยมมาช่วยครับ ชื่นใจขึ้นมาหน่อย 555+
และในระหว่างนี้ก่อนบวชสามเณร พ่อแม่จะทะยอยมามอบตัวให้เป็นนาค ในระหว่างวันและทุกเย็นก็ต้องสอนให้ท่องคำขอบรรพชาให้ได้ นี้ต้องได้มาเป็นพระอาจารย์กันเลยทีเดียว มีบางคนร้องไห้อยากกลับบ้านบ้าง ต้องช่วยปลอบ แต่ยิ่งปลอบก็ยิ่งร้อง ทำไงดี มีรถไอติมผ่านมาก็จัดให้ไป1แท่ง 555







พอถึงวันงานบวชสามเณร พ่อแม่ญาติพี่น้องของนาค ก็มาแต่เช้า แต่งตัวให้  เริ่มตั้งขบวนแห่จากในหมู่บ้านเข้ามาในวัด แตรวงเถิดเทิงพร้อม555
ในระหว่างบวชก็มีประธานในพิธีคือนายอำเภอพรเจริญ เป็นประธาน  ก่อนจะบวชก็ต้องมีการขอขมาบิดามารดา พระเณรทราบซึ่ง ญาติโยมก็ร้องไห้        เป็นธรรมดาที่เห็นลูกหลานบวช









บวชเสร็จก็เป็นสามเณรเป็นที่เรียบร้อย มีอีกครับ ญาติโยมจะต้องกลับบ้าน ร้องไห้สิครับ ก็ต้องปลอบกันไป กิจวัตรของสามเณรและพระก็เหมือนกันตั้งแต่ตื่นตี 4 ทำวัตรเช้านั่งสมาธิ จัดหอฉัน เดินบิณฑบาตร ตอนเย็นเพิ่มมาหน่อยให้สามเณรคือล้างห้องน้ำ สามเณรชอบครับ





แต่ที่งานเพิ่มมาให้หลวงพี่คืองานหนักละสิครับ

หลวงพี่ที่เป็นหัวหน้าโครงการนิมนต์ให้ไปนันทนาการสามเณร คิดหนักพอสมควร แต่มีอะไรที่พระไทยทำไม่ได้ เปิดอินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลต่างๆ
เกมส์หรือกิจกรรมที่เล่นกะญาติโยมก็พอทำได้นะครับเพราะออกค่ายบ่อยสมัยเรียนมหาลัย แต่ใช่กับสามเณรจะให้ปรบมือ ร้องเพลง เต้น มันก็ไม่ได้555
แต่ก็ไม่ละความพยายาม ได้มา1กิจกรรม จัดไปเลยครับ






กิจกรรมสามเณรดี 5อ่อน (ชื่อดูไม่ค่อยดีเท่าไร555)
ก่อนเข้าสู่กิจกรรมก็เตรียมตัวกันหน่อยให้อยู่ในท่าสงบ

สะอาด คือให้ตบที่ข่า
สว่าง คือ ให้ตบที่มือ
สงบ คือ ให้มือประสานในท่านั่งสมาธิ

พอเริ่มมีสมาธิก็ เริ่มกิจกรรม ถ้าหลวงพี่พูดอวัยวะไหนในร่างกายก็ให้ชี้ไปที่อวัยวะนั่น จะมี5ที่คือ
1.ศรีษะ
2.ปาก
3.มือ
4.หลัง
5.เข่า
เล่นๆสลับไปมา แกล้งบ้างเช่น พูดเข่าแต่มาชี้ที่ปาก ประมาณนี้ พอจบเกมส์ก็มาอธิบาย
1.ศรีษะอ่อนคือ เป็นคนที่วานรสอนง่าย คือหัวอ่อนนั้นเอง บราๆ
2.ปากอ่อนคือเป็นคนที่พูดจามีครับผม ขอบคุณครับ
3.มืออ่อนคือเป็นคนที่ไปลามาไหว้ มีสัมมาคาราวะ ไหว้พระผู้ใหญ่ หลวงพี่ เวลาพูดก็ยกมือไหว้
4.หลังอ่อนคือเดินผ่านผู้ใหญ่ต้องก้มหลัง แสดงถึงความอ่อนน้อม
5.เข่าอ่อนคือเวลาเข้ามาหาผู้ใหญ่ก็คลานเข่าเข้ามา หรือนั่งคุกเข่าเวลาพระผู้ใหญ่เดินผ่าน

กิจกรรมเหมือนจะดูดี 555 มีอีกเยอะ หลายกิจกรรมที่ทำอันนี้แซมเปิล

วันต่อมามีงานใหม่มาอีก โหยยยต้องพาสามเณรไปบิณฑบาตรตามหมู่บ้านต่างๆ เป็นพวกข้าวสาร อาหารแห้ง
งานหนักของหลวงพี่ที่สอนสามเณรคือต้องท่องสรถัญญะให้ได้ อวยพรญาติโยมม แต่สุดท้ายด้วยความตั้งใจของสามเณรก็ท่องได้ ถึงแหมจะยาวกี่บทก็ตาม

วันแรกที่ออกรับบิณฑบาตร วัดสว่างอารมณ์ บ้านหนองลาด โหยยยเดินกันรอบหมู่บ้านแต่เช้าตรู่ สาธุชนก็มานั่งรอตามข้างทางเพื่อรอตักบาตร เป็นภาพที่ประทับอีกอย่างหนึ่ง





พอเสร็จก็จะฉันข้าวเช้าที่วัดของหมู่บ้านๆนั้น คือแต่ละวันออกบิณฑบาตรและฉัน เปลี่ยนไปทุกๆหมู่บ้าน 555

หมู่บ้านที่ 2 บ้านเหล่าใหญ่


หมู่บ้านที่ 3 บ้านนาคำ





ก่อนจะเข้าศาลาฉันก็ต้องเข้าแถวกันหน่อย



หมู่บ้านที่ 4 วัดศรีสง่า บ้านท่าศรีชมชื่น






จำชื่อวัดไม่ค่อยได้ครับ

จนถึงวันนี้น่าจะหมู่บ้านที่5 บ้านหนองหัวช้าง วัดอัมพวันครับ



ลืมกิจวัตรตอนเย็นอีก1 อย่าง คือการเดินจงกลม (ยุ่งเยอะมาก)








จบการรีวิวเพียงเท่านี้ วันนี้ให้สามเณรซักสบง จีวร หลังจากใช้งานมาหลายเพลา หลวงพี่มีเวลาว่างพอดี  ขอเจริญพร อนุโมทนาสาธุ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่