พอเรามาถึงโรงแรมทางไกด์เขาจะบอกให้ผู้หญิงลงมาแต่งตัวใส่ชุดยูกาตะค่ะ
แล้วเดี๋ยวชาวบ้านเขาจะช่วยแต่งตัวทำผมให้ค่ะ ส่วนผู้ชายจะใส่ง่ายให้ใส่ลงมารอเลย
ซึ่งกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดให้ จะมีโชแล่ปลาแซลม่อน สอนปั้นซูชิ แล้วเราก็จะได้ทำเองด้วย
แล้วเราก็จะต้องกินเองด้วยค่ะ มีสอนทำโมจิ แล้วก็สอนทำทาโกยากิค่ะ
กิจกรรมจริงๆมีเยอะมากค่ะ บอกไม่หมด ส่วนใหญ่ถ่ายวีดิโอเลยไม่มีภาพมาให้ชมกัน
ซึ่งระหว่างทำกิจกรรมก็จะมีของกินให้ตลอดงานเลย
มีเหล้าบ๋วยให้กินด้วยค่ะ อยากบอกว่าอร่อยมากๆ ต้องลองๆ
ชุดยูกาตะ...
มีการแล่ปลาแซลม่อนให้ดูด้วย เขาบอกว่าปลาแซลม่อนที่อยู่ตามธรรมชาติ จะเป็นสีแบบนี้นะค่ะ ตรงส่วนเนื้อ
ปลาแซลม่อนจะดีกว่าปลาแซลม่อนเลี้ยง เนื้อปลาแซลม่อนเลี้ยงจะดูง่ายๆค่ะคือ เนื้อจะสีส้มสด ไม่ใช่สีแบบนี้
ลองตีกลองตามจังหว่ะแบบญี่ปุ่นค่ะ...
ซึ่งอาหารเย็นที่เราจะได้กินก็จะเป็นปูขนฮอคไกโดค่า อร่อยแล้วสดมาก ได้คนละตัวเลยๆ
เซตอาหารดึกค่ะ นั่นคือสภาพปูที่จัดการแกะเรียบร้อยแล้ว...
ส่วนนี่คือซูชิที่เราปั้นเองค่า..
อยากบอกว่าคืนนี้ยังเป็นอีกคืนที่จัดหนัดจัดเต็มมากๆ ห้องพักที่นี่จะเป็นแบบญี่ปุ่นค่ะ คือเป็นปูแบบนอนบนพื้น
ลืมถ่ายมาให้ และที่นี่ก็จะมีออนเซ็นด้วยน้าค่ะ
เช้าวันที่สามวันนี้มีโปรแกรมไปขึ้น cable car ชมเทือกเขาไดเซ็ทสึซัง แล้วก็จะได้ชมยอดเขาคุโรดาเกะที่มีความสูง 1980 เมตร ค่า
เมนูอาหารเช้าวันนี้ค่ะ กินแบบง่ายๆ จะได้ไปหนักเอามื้ออื่นค่ะ ...
ก่อนที่จะไปขึ้นดูวิวภูเขา ไกด์เขาจะพาเราไปกินราเมน ณ หมู่บ้านราเมน ซึ่งจะมีอยู่ 8 ร้านค่ะ
ซึ่งร้านที่เราไปกินจะเป็นร้านที่มีดาราไทยไปกินบ่อย....แต่จำชื่อร้านไม่ได้แล้ว ถามว่ารสชาติ
อร่อยไหม บอกตรงๆว่าเฉยๆค่า เราว่าร้านราเม็งขึ้นชื่อในกรุงเทพ เราว่าอร่อยกว่าค่ะ ร้านนี้ยังอาจ
ไม่ใช่ร้านเด็ดเท่าไหร่ .... แต่เกี๊ยวซ่าใช้ได้ค่ะ อร่อยๆๆ
พอกินเสร็จ ไกด์จะปล่อยให้เราช้อปปิ้งค่ะ มีซูเปอร์มาเก็ตให้ไปถล่มใกล้ๆพอดีเลย จัดเต็มม
เดินๆซื้อของไปเจอ คิตตี้กระป๋องนี้เห็นน่ารักดีค่ะ แล้วไม่มีแอลกกอฮอร์เลยลองซื้อมากินดู ก็แปลกๆดี
ต่อไปก็จะถึงเวลาไปนั่ง cable car แล้วค่า ...อากาศค่อนข้างหนาวเลยค่ะพอขึ้นไปบนเขา ลมแรงมากๆ
แต่วิวสวยมากค่ะ วันที่ 2 กับ 3 เราจะได้เจอหิมะแบบจัดเต็มแน่นอน ....
วิวค่ะ เมื่อตอนที่ขึ้นมาแล้ว...
นี่คือวิวพอเราขึ้นมาถึงแล้วค่า...บรรณยากาศสวยมากๆค่ะ
พอขึ้นมาถึงแล้วมันก็จะเป็นทางเดินยาวไปเป็นหิมะตลอดทางเลยค่ะ
อันนี้จะเป็นรูปวิวข้างบนจุดชมวิวค่า ที่อุณหภูมิ -4 องศา ขึ้นไปอยู่แปปเดียวรีบหนีลงเลยค่ะหนาวมากๆ
อากาศที่ฮอคไกโดถือว่าไม่หนาวมากนะค่ะ แต่เสียอย่างเดียวคือที่นี่ลมแรงมาก ถ้าเจอลมนี่บวกความหนาวไปหลายเท่าเลย
โปรแกรมต่อไปก็จะพาไปเที่ยวชมน้ำตก คู่ที่มีชื่อเสียง แห่งหุบเขาโซอุนเคียว คือ น้ำตกกิงกะ
นี่คือน้ำตกกิงกะค่ะ...หรือน้ำตกแม่น้ำสีเงิน...ถ้าไปช่วงหนาวจะเจอแบบนี้ค่า
แต่ถ้าไปช่วงไม่หนาวแล้วก็จะเป็นแบบนี้ค่า...สวยไปอีกแบบเนาะ
รูปน้ำตกอีกอันหนึ่งค่า...น้ำตกเขาจะเป็นน้ำตกคู่
บรรณยากาศอีกสักรูปค่า...
สิ้นสุดโปรแกรมวันนี้ค่ะ ไกด์พาเข้าโรงแรมที่พัก แล้วจะกินข้าวเย็นที่โรงแรมเลย...
เป็นแบบบุฟเฟ่ค่ะ ส่วนวันนี้ได้ถ่ายภาพบรรณยากาศห้องแบบญี่ปุ่นมาให้ค่ะ
ให้กลิ่นอายญี่ปุ่นมากๆค่า ^^ ส่วนที่นอนจะเป็นแบบนอนปูพื้นค่ะ แบบญี่ปุ่นเลย
ซึ่งอาหารที่โรงแรมจัดให้พอดีไม่ได้ถ่ายไว้ แต่ที่แน่ๆคือมีขาปูให้กินไม่อั้นค่ะ...
โรงแรม sounkaku grand ที่นี่เขามีออนเซ็นให้ 2 แบบค่ะ แบบ in door แล้วก็ out door ...
ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปสัมผัสเลยค่ะแบบ out door เพราะดูจากอากาศคงไม่รอดแน่ๆ....
ลองหาจากเน็ตก็น่าจะประมาณนี้น้าค่ะ สวยดีๆ
ซึ่งอย่างหนึ่งที่โรงแรมนี้เขาแนะนำคือ ทรีทเม้นไขม้าค่ะ แต่เขาจะมีให้ลองใช้แค่
เฉพาะคนที่ไปแช่ออนเซ็นเท่านั้น ไอ้เราก็ไม่ได้ไป แต่แม่ไปลองมาแล้วบอกดีมากๆค่ะ
ใช้แล้วผมนิ่ม สวย เลยแนะนำค่ะใครที่จะไป ซื้อกลับมาด้วยน้าค่ะ
หน้าตาซองก็จะเป็นแบบนี้....ส่วนชาเขียวนี่จะเป็นแบบผสมข้าวคั่วหอม ไกด์เขามีให้บริการบนรถลองชิมดู
พอดีเราชิมแล้วถูกปากเลยซื้อกลับมาค่ะ กลิ่นหอม....
ข้าวเช้าของวันที่ 4 ค่า เห็นมีคนมาบอกว่า ข้าวหน้าแกงกระหรี่ที่นี่อร่อยมาก เมื่อวานลืมกิน
เลยขอจัดตอนเช้าค่า แล้วก็ อร่อยจริงค่ะ หอมเครื่องเทศฟรุ้งๆตลอดค่ะ เผ็ดนิดๆ ชอบมากๆ
วันที่นี้มีโปรแกรมไปเมืองบิเอะค่า ไปชมทุ่ง patchwork แต่แอบเสียดายค่าด้วยเพราะไป
ช่วงต้นเมษา จะไม่ได้เจอทุ่งแบบหิมะปกคลุมขาวสวยๆ สงสัยคงต้องมาช่วงต้นกุมภาถึงจะเจอ
และเพราะปีนี้มันหนาวเร็วด้วยค่าเลยพลาดไป....
ตอนที่เราไปจะเจอเป็นทุ่ง ที่มีหิมะเป็นกระหย่อมๆ ซึ่งก็ดูเฉยๆ...
ซึ่งทุ่งนี้ถ้าเราไปช่วงกรกฏาคมจะเจอเป็นแบบนี้ค่า สวยมากกกจนอยากมาช่วงนั้น ....
ถ้ามาช่วงหนาวต้นกุมภาจะเป็นแบบนี้ค่ะ....แอบเสียดายมาช้าไป T T
อาหารกลางวันวันนี้ ไกด์พาเราไปกิน " ข้าวหน้าปลาไหล" ค่ะ ..
อันนี้คือบรรณยากาศร้านค่า ....
อันนี้คือชื่อร้านที่เราไปกินค่ะ...
ต่อมาก็มาถึงพระเอกของเราแล้วค่า ข้าวหน้าปลาไหล ตัวเบ้งๆ ราดซอสมาฉ่ำๆ อร่อยมากกกก
กินที่ไทยไม่ได้อย่างนี้เลยค่า ถึงต่อให้ไปร้านดีๆเลย ก็ไม่ได้ตัวอย่างนี้...แนะนำให้กินๆๆๆ
ซูมเนื้อให้ดูอีกรอบ...
แล้วก้จะมีสลัดให้ค่า...
หรือถ้าคนไหนไม่กินปลาไหลก็จะมีข้าวหน้าเทมปุระที่กรอบอร่อยพร้อมกุ้งตัวใหญ่ให้พิเศษ
ต่อมาไกด์ก็จะพาเข้าสู่ใจกลางเมืองซัปโปโร แล้วก็พาเราไปชม ตึกรัฐบาลเก่า...
หลังจากนั้นไกด์ก็จะปล่อยเราให้เดินช็อปอิสระภายในเมืองค่า...
ถนนคนเดินของญี่ปุ่น...
บรรณยากาศในเมืองซับโปโรตอนใกล้ค่ำ...
อาหารค่ำมื้อสุดท้ายในญี่ปุ่นแล้วค่า วันนี้ก็จะยังเจอปูเหมือนเดิม แต่คราวนี้จะมีให้กินทั้ง
สามชนิดเลย ปูขน/ปูยักษ์ทาราบะ/แล้วปูซูไว .... แล้วก็ยังมีชาบู หมูสไลด์ที่นุ่มลิ้นให้กิน
เป็นแบบบุฟเฟ่นะค่ะกินไม่อั้นอีกแล้วว 55555 พอกลับกรุงเทพลดน้ำหนักด่วนแน่นอนค่า
ซูมอีกรูป...
ดูความยิ่งใหญ่ของขาปู อลาสก้า หรือ ปูทาราบะ ที่นี่นะค่ะ...
พอเรากินข้าวเสร็จไกด์ก็จะปล่อยให้เราไปเดินช็อปต่อได้ค่ะ โดยทางบริษัทจะให้ลูกทัวร์สามารถ
นั่งรถแท็กซี่กลับโรงแรมได้ (รถแท็กซี้ญี่ปุ่นแพงมากค่ะ) โดยที่ค่อยมาเบิกกับไกด์ได้อีกที
ซึ่งเราชอบระบบนี้มาก เลยทำให้ประทับใจกับทัวร์นี้ไปอีก
เช้าวันที่ 5 (กลับไทย) ค่า วันนี้เลยถ่ายบรรณยากาศโรงแรม กับห้องอาหารมาให้ดูค่ะ
วันนี้ได้ลองกินไข่ดิบกับข้าวญี่ปุ่นมาแล้วค่ะ หวานอร่อยค่ะ ไม่แหยะๆเหมือนที่คิดเลย
แต่ไข่ต้องสดจริงนะค่ะ
เราไฟท์บินกลับช่วงเช้าค่ะ มีอาหารให้บนเครื่อง บินกลับการบินไทยค่ะ โดยสรุปแล้วไปกับทัวร์นี้โอเคเลยค่ะ "กินดี อยู่ดี เที่ยวสบาย"
ไกด์ก็มากประสบการณ์ คอยเทคแคร์ตลอด อันนี้เป็นรีวิวเที่ยวครั้งแรก ก็ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ เดี๋ยวจะลงเรื่องของฝาก
ให้อีกทีน้าค่ะว่าควนซื้อไรมาบ้างที่ฮอคไกโด ^ ^
[CR] รีวิวเที่ยวฮอคไกโด ช่วงมีนาคม หนาวๆๆค่า ตอนที่ 2
แล้วเดี๋ยวชาวบ้านเขาจะช่วยแต่งตัวทำผมให้ค่ะ ส่วนผู้ชายจะใส่ง่ายให้ใส่ลงมารอเลย
ซึ่งกิจกรรมที่ทางโรงแรมจัดให้ จะมีโชแล่ปลาแซลม่อน สอนปั้นซูชิ แล้วเราก็จะได้ทำเองด้วย
แล้วเราก็จะต้องกินเองด้วยค่ะ มีสอนทำโมจิ แล้วก็สอนทำทาโกยากิค่ะ
กิจกรรมจริงๆมีเยอะมากค่ะ บอกไม่หมด ส่วนใหญ่ถ่ายวีดิโอเลยไม่มีภาพมาให้ชมกัน
ซึ่งระหว่างทำกิจกรรมก็จะมีของกินให้ตลอดงานเลย
มีเหล้าบ๋วยให้กินด้วยค่ะ อยากบอกว่าอร่อยมากๆ ต้องลองๆ
ชุดยูกาตะ...
มีการแล่ปลาแซลม่อนให้ดูด้วย เขาบอกว่าปลาแซลม่อนที่อยู่ตามธรรมชาติ จะเป็นสีแบบนี้นะค่ะ ตรงส่วนเนื้อ
ปลาแซลม่อนจะดีกว่าปลาแซลม่อนเลี้ยง เนื้อปลาแซลม่อนเลี้ยงจะดูง่ายๆค่ะคือ เนื้อจะสีส้มสด ไม่ใช่สีแบบนี้
ลองตีกลองตามจังหว่ะแบบญี่ปุ่นค่ะ...
ซึ่งอาหารเย็นที่เราจะได้กินก็จะเป็นปูขนฮอคไกโดค่า อร่อยแล้วสดมาก ได้คนละตัวเลยๆ
เซตอาหารดึกค่ะ นั่นคือสภาพปูที่จัดการแกะเรียบร้อยแล้ว...
ส่วนนี่คือซูชิที่เราปั้นเองค่า..
อยากบอกว่าคืนนี้ยังเป็นอีกคืนที่จัดหนัดจัดเต็มมากๆ ห้องพักที่นี่จะเป็นแบบญี่ปุ่นค่ะ คือเป็นปูแบบนอนบนพื้น
ลืมถ่ายมาให้ และที่นี่ก็จะมีออนเซ็นด้วยน้าค่ะ
เช้าวันที่สามวันนี้มีโปรแกรมไปขึ้น cable car ชมเทือกเขาไดเซ็ทสึซัง แล้วก็จะได้ชมยอดเขาคุโรดาเกะที่มีความสูง 1980 เมตร ค่า
เมนูอาหารเช้าวันนี้ค่ะ กินแบบง่ายๆ จะได้ไปหนักเอามื้ออื่นค่ะ ...
ก่อนที่จะไปขึ้นดูวิวภูเขา ไกด์เขาจะพาเราไปกินราเมน ณ หมู่บ้านราเมน ซึ่งจะมีอยู่ 8 ร้านค่ะ
ซึ่งร้านที่เราไปกินจะเป็นร้านที่มีดาราไทยไปกินบ่อย....แต่จำชื่อร้านไม่ได้แล้ว ถามว่ารสชาติ
อร่อยไหม บอกตรงๆว่าเฉยๆค่า เราว่าร้านราเม็งขึ้นชื่อในกรุงเทพ เราว่าอร่อยกว่าค่ะ ร้านนี้ยังอาจ
ไม่ใช่ร้านเด็ดเท่าไหร่ .... แต่เกี๊ยวซ่าใช้ได้ค่ะ อร่อยๆๆ
พอกินเสร็จ ไกด์จะปล่อยให้เราช้อปปิ้งค่ะ มีซูเปอร์มาเก็ตให้ไปถล่มใกล้ๆพอดีเลย จัดเต็มม
เดินๆซื้อของไปเจอ คิตตี้กระป๋องนี้เห็นน่ารักดีค่ะ แล้วไม่มีแอลกกอฮอร์เลยลองซื้อมากินดู ก็แปลกๆดี
ต่อไปก็จะถึงเวลาไปนั่ง cable car แล้วค่า ...อากาศค่อนข้างหนาวเลยค่ะพอขึ้นไปบนเขา ลมแรงมากๆ
แต่วิวสวยมากค่ะ วันที่ 2 กับ 3 เราจะได้เจอหิมะแบบจัดเต็มแน่นอน ....
วิวค่ะ เมื่อตอนที่ขึ้นมาแล้ว...
นี่คือวิวพอเราขึ้นมาถึงแล้วค่า...บรรณยากาศสวยมากๆค่ะ
พอขึ้นมาถึงแล้วมันก็จะเป็นทางเดินยาวไปเป็นหิมะตลอดทางเลยค่ะ
อันนี้จะเป็นรูปวิวข้างบนจุดชมวิวค่า ที่อุณหภูมิ -4 องศา ขึ้นไปอยู่แปปเดียวรีบหนีลงเลยค่ะหนาวมากๆ
อากาศที่ฮอคไกโดถือว่าไม่หนาวมากนะค่ะ แต่เสียอย่างเดียวคือที่นี่ลมแรงมาก ถ้าเจอลมนี่บวกความหนาวไปหลายเท่าเลย
โปรแกรมต่อไปก็จะพาไปเที่ยวชมน้ำตก คู่ที่มีชื่อเสียง แห่งหุบเขาโซอุนเคียว คือ น้ำตกกิงกะ
นี่คือน้ำตกกิงกะค่ะ...หรือน้ำตกแม่น้ำสีเงิน...ถ้าไปช่วงหนาวจะเจอแบบนี้ค่า
แต่ถ้าไปช่วงไม่หนาวแล้วก็จะเป็นแบบนี้ค่า...สวยไปอีกแบบเนาะ
รูปน้ำตกอีกอันหนึ่งค่า...น้ำตกเขาจะเป็นน้ำตกคู่
บรรณยากาศอีกสักรูปค่า...
สิ้นสุดโปรแกรมวันนี้ค่ะ ไกด์พาเข้าโรงแรมที่พัก แล้วจะกินข้าวเย็นที่โรงแรมเลย...
เป็นแบบบุฟเฟ่ค่ะ ส่วนวันนี้ได้ถ่ายภาพบรรณยากาศห้องแบบญี่ปุ่นมาให้ค่ะ
ให้กลิ่นอายญี่ปุ่นมากๆค่า ^^ ส่วนที่นอนจะเป็นแบบนอนปูพื้นค่ะ แบบญี่ปุ่นเลย
ซึ่งอาหารที่โรงแรมจัดให้พอดีไม่ได้ถ่ายไว้ แต่ที่แน่ๆคือมีขาปูให้กินไม่อั้นค่ะ...
โรงแรม sounkaku grand ที่นี่เขามีออนเซ็นให้ 2 แบบค่ะ แบบ in door แล้วก็ out door ...
ซึ่งเราก็ไม่ได้ไปสัมผัสเลยค่ะแบบ out door เพราะดูจากอากาศคงไม่รอดแน่ๆ....
ลองหาจากเน็ตก็น่าจะประมาณนี้น้าค่ะ สวยดีๆ
ซึ่งอย่างหนึ่งที่โรงแรมนี้เขาแนะนำคือ ทรีทเม้นไขม้าค่ะ แต่เขาจะมีให้ลองใช้แค่
เฉพาะคนที่ไปแช่ออนเซ็นเท่านั้น ไอ้เราก็ไม่ได้ไป แต่แม่ไปลองมาแล้วบอกดีมากๆค่ะ
ใช้แล้วผมนิ่ม สวย เลยแนะนำค่ะใครที่จะไป ซื้อกลับมาด้วยน้าค่ะ
หน้าตาซองก็จะเป็นแบบนี้....ส่วนชาเขียวนี่จะเป็นแบบผสมข้าวคั่วหอม ไกด์เขามีให้บริการบนรถลองชิมดู
พอดีเราชิมแล้วถูกปากเลยซื้อกลับมาค่ะ กลิ่นหอม....
ข้าวเช้าของวันที่ 4 ค่า เห็นมีคนมาบอกว่า ข้าวหน้าแกงกระหรี่ที่นี่อร่อยมาก เมื่อวานลืมกิน
เลยขอจัดตอนเช้าค่า แล้วก็ อร่อยจริงค่ะ หอมเครื่องเทศฟรุ้งๆตลอดค่ะ เผ็ดนิดๆ ชอบมากๆ
วันที่นี้มีโปรแกรมไปเมืองบิเอะค่า ไปชมทุ่ง patchwork แต่แอบเสียดายค่าด้วยเพราะไป
ช่วงต้นเมษา จะไม่ได้เจอทุ่งแบบหิมะปกคลุมขาวสวยๆ สงสัยคงต้องมาช่วงต้นกุมภาถึงจะเจอ
และเพราะปีนี้มันหนาวเร็วด้วยค่าเลยพลาดไป....
ตอนที่เราไปจะเจอเป็นทุ่ง ที่มีหิมะเป็นกระหย่อมๆ ซึ่งก็ดูเฉยๆ...
ซึ่งทุ่งนี้ถ้าเราไปช่วงกรกฏาคมจะเจอเป็นแบบนี้ค่า สวยมากกกจนอยากมาช่วงนั้น ....
ถ้ามาช่วงหนาวต้นกุมภาจะเป็นแบบนี้ค่ะ....แอบเสียดายมาช้าไป T T
อาหารกลางวันวันนี้ ไกด์พาเราไปกิน " ข้าวหน้าปลาไหล" ค่ะ ..
อันนี้คือบรรณยากาศร้านค่า ....
อันนี้คือชื่อร้านที่เราไปกินค่ะ...
ต่อมาก็มาถึงพระเอกของเราแล้วค่า ข้าวหน้าปลาไหล ตัวเบ้งๆ ราดซอสมาฉ่ำๆ อร่อยมากกกก
กินที่ไทยไม่ได้อย่างนี้เลยค่า ถึงต่อให้ไปร้านดีๆเลย ก็ไม่ได้ตัวอย่างนี้...แนะนำให้กินๆๆๆ
ซูมเนื้อให้ดูอีกรอบ...
แล้วก้จะมีสลัดให้ค่า...
หรือถ้าคนไหนไม่กินปลาไหลก็จะมีข้าวหน้าเทมปุระที่กรอบอร่อยพร้อมกุ้งตัวใหญ่ให้พิเศษ
ต่อมาไกด์ก็จะพาเข้าสู่ใจกลางเมืองซัปโปโร แล้วก็พาเราไปชม ตึกรัฐบาลเก่า...
หลังจากนั้นไกด์ก็จะปล่อยเราให้เดินช็อปอิสระภายในเมืองค่า...
ถนนคนเดินของญี่ปุ่น...
บรรณยากาศในเมืองซับโปโรตอนใกล้ค่ำ...
อาหารค่ำมื้อสุดท้ายในญี่ปุ่นแล้วค่า วันนี้ก็จะยังเจอปูเหมือนเดิม แต่คราวนี้จะมีให้กินทั้ง
สามชนิดเลย ปูขน/ปูยักษ์ทาราบะ/แล้วปูซูไว .... แล้วก็ยังมีชาบู หมูสไลด์ที่นุ่มลิ้นให้กิน
เป็นแบบบุฟเฟ่นะค่ะกินไม่อั้นอีกแล้วว 55555 พอกลับกรุงเทพลดน้ำหนักด่วนแน่นอนค่า
ซูมอีกรูป...
ดูความยิ่งใหญ่ของขาปู อลาสก้า หรือ ปูทาราบะ ที่นี่นะค่ะ...
พอเรากินข้าวเสร็จไกด์ก็จะปล่อยให้เราไปเดินช็อปต่อได้ค่ะ โดยทางบริษัทจะให้ลูกทัวร์สามารถ
นั่งรถแท็กซี่กลับโรงแรมได้ (รถแท็กซี้ญี่ปุ่นแพงมากค่ะ) โดยที่ค่อยมาเบิกกับไกด์ได้อีกที
ซึ่งเราชอบระบบนี้มาก เลยทำให้ประทับใจกับทัวร์นี้ไปอีก
เช้าวันที่ 5 (กลับไทย) ค่า วันนี้เลยถ่ายบรรณยากาศโรงแรม กับห้องอาหารมาให้ดูค่ะ
วันนี้ได้ลองกินไข่ดิบกับข้าวญี่ปุ่นมาแล้วค่ะ หวานอร่อยค่ะ ไม่แหยะๆเหมือนที่คิดเลย
แต่ไข่ต้องสดจริงนะค่ะ
เราไฟท์บินกลับช่วงเช้าค่ะ มีอาหารให้บนเครื่อง บินกลับการบินไทยค่ะ โดยสรุปแล้วไปกับทัวร์นี้โอเคเลยค่ะ "กินดี อยู่ดี เที่ยวสบาย"
ไกด์ก็มากประสบการณ์ คอยเทคแคร์ตลอด อันนี้เป็นรีวิวเที่ยวครั้งแรก ก็ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ เดี๋ยวจะลงเรื่องของฝาก
ให้อีกทีน้าค่ะว่าควนซื้อไรมาบ้างที่ฮอคไกโด ^ ^