*ข้อมูลผิดนิดหน่อยน้าค่ะไปต้นเดือนเมษาค่า *

อันนี้จะเป็นการรีวิวเที่ยวฮอคไกโดค่า อันนี้ไม่ได้ไปเองนะค่ะไปทัวร์ ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่อให้เป็นหนึ่งในการประกอบการตัดสินใจ ให้กับคนที่อยากไปเที่ยวฮอคไกโดแต่ไม่รู้จะเลือกทัวไหนดี เลยอยากมาแนะนำทัวนี้ค่า ตอนแรกก็ search หาข้อมูลอยู่เยอะเหมือนกัน แต่เลือกทัวนี้เพราะมีแต่คนรีวิวว่าดีค่ะ เลยอยากลองดูสักครั้งว่าดีจริงสมคำรีวิวไหม แต่พอไปมาพูดได้เต็มปากเลยค่ะว่า ดีมากๆ ทั้งอาหารที่จัดเต็ม (กินเหนื่อยค่ะเที่ยวไม่เหนื่อยเลย)  ที่พักดี ไกด์บริการเยี่ยม ลองมาดูกันเลยค่าว่าไปเที่ยวที่ไหนบ้าง...^^

ช่วงที่ไปต้นๆเมษาค่า ฮอคไกโดตอนนั้นยังมีหิมะอยู่ ยังคงหนาว แต่หิมะก็เริ่มละลายแล้ว  แต่ถ้าให้แนะนำให้ไปต้นๆเดือนกุมภาดีกว่าค่าถ้าอยากเจอหิมะแบบจัดเต็ม หนาวจัดๆ มีหิมะตกไรงี้ ไฟท์ที่บินเป็นตอนช่วงเที่ยงคืนค่า เป็นการบินไทยนั่งเครื่อง 5 ชม.  บนเครื่องเขาก็จะแจกเป็นขนมคบเคี้ยวให้ค่าในตอนดึก แล้วพอตอนเช้าแล้วเขาก็จะมีข้าวเช้าให้ค่า



พอเราทานข้าวเสร็จนั่งเครื่องไปสักพัก ก็จะถึง สนามบินชิโตะเซะ ค่ะ  ซึ่งพอไปถึงที่สนามบินพอผ่านด่านตรวจเมือง รับกระเป๋าเรียบร้อยแล้วก็จะมี โดเรม่อนอยู่ต้อนรับเราที่สนามบินเลยค่า เสียดายตอนนั้นไม่ได้ไปถ่าย เพราะเห็นคนเยอะ ไกด์เขาจะปล่อยให้เราจัดเตรียมเสื้อกันหนาว เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ก่อนไปขึ้นรถบัสค่า ซึ่งอาหารมื้อแรกที่เราได้กินที่ฮอคไกโดคือแซนวิชที่ไกด์เขาแจกให้ ถือว่าอร่อยๆค่า


ซึ่งที่แรกที่เราไปเที่ยวคือ " โรงงานช็อคโกแลตค่า" ที่หมู่บ้านอิชิยะ นี่คือบรรณยากาศโดยรอบค่า


ตอนที่ไปฝนตกพอดีค่า ตกทั้งวันเลย แอบเซ็งๆ


นี่คือบรรณยากาศข้างในน้าค่ะ






อันนี้คือส่วนที่เป็นคาเฟ่นะค่ะที่สามารถให้นั่งกินได้ แต่ตอนไปที่คนเยอะมาก เลยอด ส่วนคนที่จะซื้อแบบกลับบ้านมีอีกทีค่ะอยู่อีกตึกหนึ่ง



อันนี่คือส่วนที่ขายของค่า ซึ่งขนมขึ้นชื่อที่นี่ Shiroi koibito.

พอเดินเข้าไปในตึกปุ๊ปจะเจอบันไดนี่ค่ะ สวยมาก



พอเดินเที่ยวข้างในเสร็จก็ถึงเวลากินข้าวเที่ยงค่า ซึ่งเมนูวันนี้จะมีสองแบบ
1. ข้าวหน้าปลาดิบ (สดมากๆ) ข้าวหน้าปลาดิบที่กรุงเทพร้านดังๆ ยังสู้ที่นี่ไม่ได้ แนะนำให้กินมากๆค่า อย่าพลาดๆเลย
โดยเฉพาะไข่หอยเม่น ที่นี่สดอร่อยมาก แล้วก็มีหอยเชลตัวใหญ่ๆให้เราอีกคนละตัวค่า

ให้เห็นอีกมุมหนึ่งๆ...


ส่วนอีกเมนูหนึ่งสำหรับคนที่ไม่ชอบกินของสดน้าค่ะ ก็จะเป็นปลาหิมะ หมักมิโสะอย่างหอมๆนุ่มๆ
พร้อมกับหอยเชล 1 ตัว แล้วก็ ปูขน ขึ้นชื่อของที่นี่

อันนี้แม่จะเป็นคนกินค่า เลยไม่ค่อยรู้รสชาติว่าเป็นไง แต่แม่ก็บอกอร่อยใช้ได้ค่า

พอกินเสร็จก็เดินชมของขายแถวๆนั้นค่า เลยถ่ายรูปมาฝาก
อันนี้คือ ปูขนค่า

ขาปูที่นี่เขาใหญ่จริงๆนะค่ะ


หลังจากนั้นก็จะไปเที่ยว เมืองโอตารุค่า ที่มีการออกแบบบ้านสไตล์ตะวันตก  เป็นเมืองท่าขึ้นสำคัญสุดแสนโรแมนติค
แต่ช่วงที่ไปหิมะละลายแล้วค่าเลยให่บรรณยากาศคนละแบบ...

ถ้ามีหิมะจะเป็นแบบนี่ค่า...

เห็นพอดีค่า คล้ายสามล้อบ้านเรา แต่ของเขาใช้คนวิ่ง ...


ต่อจากนี้ก็จะไปเที่ยว ย่านคิตะอิจิ ค่ะที่จะเหมือนเป็นถนนขายของเป็นแนวยาวเลย
ไกด์เขาจะนำเราเดินไป พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้ว ก่อนที่จะปล่อยเราเดิน
อิสระค่า ซึ่งจะถ่ายพิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วให้ดูก่อนนะค่ะ

บรรณยากาศข้างในค่า...

อันนี่คือประเภทพวกเครื่องแก้วค่า...






เครื่องแก้วสวยดีค่า แต่ไม่ค่อยกล้าซื้อเลย พอเห็นราคา...แล้วขนกลับลำบาก
พอดูเครื่องแก้วเสร็จก็ไปกิน เค้กที่ร้านลาเต๋าค่ะ ใครที่มาเที่ยวฮอคไกโดแนะนำมากๆค่ะว่าให้มากิน..
เค้กของฮอคไกโด โดยเฉพาะร้านนี้อร่อยมากๆ ค่ะ ของขึ้นชื่ออีกอันหนึ่งคือ เหล้าบ๋วยค่ะ ของฮอคไกโดขึ้นชื่อค่ะ รสาติดีอร่อยมาก

อันนี้คือ หน้าร้านลาเต๋าที่ไปกินค่ะ ร้านลาเต๋าจะมีหลายสาขา ถ้ามากินที่นี่ก็บรรณยากาศดีค่า


พอขึ้นมาชั้น 2 ก็จะเป็นคาเฟ่ที่ให้เรานั่งกินได้...


ส่วนเค้กที่เราสั่งมาก็มีสองแบบค่า แบบชาเขียว กับ สตอเบอรรี่




พอเดินเที่ยวเสร็จต่อไปก็จะกินข้าวเย็นค่า ...อันนี้คือชุดที่เราได้ แล้วเป็นแบบบุฟเฟ่กินไม่อั้น แนะนำหอยเชลค่าอร่อยมาก



ซุทให้เห็นชัดๆ ...



วันนี้ก็จบไปอีกหนึ่งวัน (อิ่มสุดๆ) ค่า กลับมานอนที่โรงแรม...


ตอนเช้าของวันที่สองค่า...ตื่นมาก็มาถ่ายบรรณยากาศหน้าโรงแรม
รถแท็กซี่ญี่ปุ่นค่า...



ต่อมาก็ถึงเวลากินข้าวเช้าของโรงแรมค่า ....

บรรณญากาศดีมากค่ะโรงแรมนี้ ..


วันนี้มีโปรแกรมไป  Hotle piano ค่า เพื่อไปเล่นกีฬาหิมะ อันนี้จะไม่ค่อยมีรูปน้าค่ะ ... มัวแต่เล่นจนลืมถ่ายเลยค่า
วันนี้จะเจอหิมะจัดเต็ม ไม่มีฝนแล้วๆ...



ซึ้งสิ่งที่เขาให้เล่นก็จะมี 3 อย่าง... 1.เป็นแผ่นกระดานให้เรานั่งลงไปแล้วไถลลงมาจากเนินค่า
ส่วนอันที่ 2 จะเป็น...นั่งอันนี้แล้วไถลแบบหมุนลงมา สนุกค่าชอบมากๆ ....

แบบที่ 3 อันนี้จะนั่งได้ครั้งเดียวค่ะ ส่วนอันอื่นเล่นเท่าไหร่ก็ได้...
เราจะนั่งอยู่ตรงเรือแล้วให้เขาลากสนุกดีค่ะชอบๆๆ


พอเล่นไปนานๆสักพักเหงื่อออก เพราะเริ่มร้อนค่า แล้วชอบทัวนี้อย่างหนึ่งค่า เขาให้เวลาแบบจัดเต็มมากๆ
ในการเล่น เล่นจนหายอยากแน่นอน...

หลังจากเล่นเสร็จก็จะนั่งรถยาวๆ ไปกินเนื้อวากิวกันค่ะ ซึ่งเนื้อวากิวที่ให้เป็นระดับ A5 ละลายในปากแล้วนุ่มมากๆค่ะ
เป็นเนื้อแกะหรือที่เรียกว่าเจงกิสข่าน แล้วที่สำคัญนะค่ะ คือ !! เติมไม่อั้น !! จัดเต็ม!!
จริงเนื้ออื่นก็มีให้เยอะนะค่ะ แต่ที่แนะนำคือเนื้อวากิวค่ะ...


ซูมเนื้อวากิวๆๆชัดๆๆ

แค่โต๊ะเราก็ปาไป 4-5 ถาดเลยค่ะ คืออร่อยมาก สั่งเยอะจนมีช่วงหนึ่งพนักงงานเสิฟเขาหายไปเลย
ไม่เดินมาดูเลย จนพี่ไกด์เขาต้องเดินไปตาม  คนญี่ปุ่นไม่รู้ฤทธิ์คนไทยซะแล้วว 55555

ให้เห็นเนื้อชัดๆอีกรุป...



เมื่อเรากินกันเสร็จก็จะถึงเวลานั่งรถยาวๆไปเมือง เอซาชิ ค่า ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆอันนี้จะอยู่แบบท่ามกลางธรรมชาติ
แล้วเมืองนี้เขาขึ้นชื่อว่าเด่นเรื่อง ปูขนฮอคไกโดค่า ซึ่งเราจะได้กินแบบสดๆกันที่ โรงแรม แล้วทางโรงแรมกับ
ชาวบ้านในเมืองนั้น ก็ร่วมกันจัดเหมือนงานวัดให้เราได้สัมผัส แล้วก็ให้เราได้แต่งชุดแบบชาวญี่ปุ่นด้วยค่ะ
ผู้หญิงได้ใส่ชุด ยูกะตะ (อันนี้คือเราได้ชุดกลับไปด้วยนะค่ะ) ส่วนผู้ชายจำไม่ได้ว่าใส่ชุด ที่เรียกว่าอะไร...

อันนี้คือบรรณยากาศรอบๆระหว่างนั่งรถไปค่า ซึ่งทางไกด์เขาจะมีเสิฟชาร้อนๆระหว่างทางอยู่ตลอด หรือ
บางทีก็มีขนมให้เรากิน  แล้วก็มีwifi ให้เราใช้บนรถด้วย ดีมากๆค่า บางทีเราก็อาจเห็นกวางด้วยนะค่ะ
เราโชคดีได้เห็น 2 ครั้ง แต่ลืมถ่ายใว้เพราะผ่านไปเร็วมาก....




ระหว่างทางเขาก็จะหยุดให้เราเข้าห้องน้ำเป็นระยะๆ อันนี้คือขนมโมจิ ซื้อร้านที่ได้รางวัลของญี่ปุ่น
เลยซื้อมาชิม 1 อัน อร่อยดีค่ะใช้ได้ๆ


ต่อตอนที่ 2 ตามลิ้งนี้เลยค่า http://ppantip.com/topic/33492056