ช่วยด้วยครับ!! ฟอร์ดเฟียสต้า 1.4 โดนฟ้องเรียกค่าซ่อม 7 หมื่นและแพ้คดีความ

(เป็นเรื่องของเพื่อนๆที่เข้ามาขอคำปรึกษาครับ)

ขอคำแนะนำครับ

         เรื่องมีอยู่ว่า ผมใช้รถเฟียสต้ามาประมาน 1.5 ปี รถมีอาการกระตุก แร่งไม่ขึ้น ระหว่างขับอยู่บนถนนมีอาการกะชากระหว่างเปลี่ยนเกียร์ จึงนำรถเข้าศูนย์ ได้รับคำตอบว่าต้องนัดล่วงหน้าไม่งั้นจะไม่สามารถตรวจสอบได้อละถ้ายืนยันจะให้เช็คก้อต้องนำรถจอดไว้ที่ศูนย์และไม่สามารถบอกได้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ ผมจึงนำรถออกมาและแจ้งทางฟอร์ดแห่งประเทศไทยว่าทางศูนย์ไม่ตรวจสอบสภาพเบื้องต้นให่เกิดนำรถขับไปเป็นอันตรายใครจะรับผิดชอบ สักพักทางศูนย์โทรกลับมาขอโทษและให้นำรถเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นทราบว่า ตัวTCM อาจจะเสียต้องนัดนำรถเข้าเช็ค จากนั้นได้นำรถเข็คและได้นัดนำรถเข้าเครมในสัปดาห์ถัดไป

          จากนั้นทางศูนย์ก้อเงียบไป 2 สัปดาห์ถัดมาจึงเข้าไปสอบถามความคืบหน้า ได้ความว่า มีชุดคลัช TCM โซรินอย.และอุปกรณ์ส่วนควบอนๆอีกและบอกว่าถ้าเสร็จแล้วจะโทรแจ้งอีกครั้ง ถัดไปอีก 2 สัปดาห์ทางศูนย์โทรมาแจ้งส่าเสร็จแล้วให้มานำรถกลับได้และแจ้งว่าค่าใช้จ่าย 6 หมื่น 9 นโดยประมาน วันรุ่งขึ้นจึงเข้าไปที่ศูนย์และแจ้งว่า ผมนำรถเครมไม่ใช่นำมาซ่อมและเรื่องค่าใช้จ่ายไม่มีใครแจ้งผมมาก่อนเลย ทางศูนย์แจ้งว่ารถผมมีการตรวจสอบภายหลังว่าไม่เช็คระยะครบตามกำหนดจึงหลุดประกัน จึงต้องจ่ายเงินเอง ผมจึงบอกว่า ถ้าซ่อมแพงขนาดนี้แล้วไม่แจ้งล่วงหน้าผมไม่จ่ายและอีกอย่างถึงแม้จะไม่ถ่ายน้ำมันเครื่องศูนย์ผมถ่ายเองใช้นำ้มันดีกว่าด้วยซ้ำ และรถเพิ่งใช้ปีครึ่งเจ็ดแปดหมื่นกิโลไม่น่าจะต้องซ่อมขนาดนี้ จากนั้นได้ขับรถออกไปและทางศูนย์แจ้งว่าจะแจ้งความและฟ้องศาลเรื่องค่าใช้จ่าย ร่วมเจ็ดหมื่น

          จากนั้นเขาได้ส่งเอกสารการแจ้งความ การฟ้องศาลผู้บริโภคมาให้ แต่เนื่องด้วยรถเป็นชื่อพ่อผมอายุมากแล้วและผมมาทำงานกรุงเทพจึงไม่ได้ไปขึ้นศาล ศาลผู้บริโภคจึงตัดสินฝ่ายเดียวให้ผมแพ้คดีและต้องชำระเงิน ผมจึงอยากขอความช่วยเหลือว่าผมสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้างครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
1. ไม่เข้าตามกำหนด ผิดเงื่อนไขการรับประกัน เค้ามีสิทธิ์ตัด warranty อยู่แล้ว

2. ขับรถออกมา โดยไม่จ่ายเงิน นั่นคือ การฉ้อโกง ยังไงก็ผิด
ความคิดเห็นที่ 6
ยี่ห้ออื่นมีมากมายไม่ชื้อไปชื้อฟอร์ด เสียใจด้วยครับ
ความคิดเห็นที่ 67
มีประเด็นว่า ศูนย์ไม่แจ้งค่าใช้จ่ายก่อน
แถมเคยบอกว่าเคลมได้ แต่พอเวลาจริงกลับต้องจ่ายเอง
เพราะทราบทีหลังว่าประกันหลุด จากทำผิดสัญญา

การบอกกล่าวว่าเคลมได้ด้วยวาจา มีน้ำหนักหลักฐาน
น้อยกว่าข้อความในสัญญาที่ เจ้าของรถ ได้เซ็นยอมรับ
ตั้งแต่ซื้อรถ ให้ถือว่ายอมรับข้อตกลงครบถ้วนแล้ว
สัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษร ย่อมมีน้ำหนักมากกว่า
คือ เจ้าของรถต้องรู้อยู่แก่ใจ ว่าไม่เช็คระยะ ทำให้ประกันขาด

การที่ศูนย์แจ้งว่า เคลมได้ ด้วยวาจา
เกิดเพราะศูนย์ เข้าใจว่า รถเข้ารับการเช็คระยะตามกำหนด
ทำให้เข้าใจผิดไปว่าเคลมได้ ตามสัญญารับประกัน
ตามความเข้าใจโดยปุถุชนทั่วไป ว่าเจ้าของรถไม่ได้ผิดสัญญา
โดยอาจไม่ได้ตรวจสอบก่อน

ประเด็นนี้ เจ้าของรถ ได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ศูนย์หรือไม่ ว่าไม่ได้เช็คระยะรถตามกำหนด ทั้งๆที่คนเซ็นสัญญา
ต้องรู้อยู่แล้ว ว่าประกันจะต้องขาด
ถ้าเจ้าของรถไม่ได้แจ้งแก่เจ้าหน้าที่ เจ้าของรถก้มีส่วนผิดด้วย
จะมาอ้างว่า "ไหนบอกว่าเคลมได้" นั้นทำไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่