จา พนม รับรางวัล“มวยไทย ไลฟ์ อวอร์ด” เผยวิน ดีเซล ชอบมวยไทย อยากได้ท่าใหม่ใช้แสดงหนัง

ที่มา ข่าวสดออนไลน์

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 8 เม.ย. ที่ โรงละคร เดอะสเตจ เอเชียทีค จา-พนม ยีรัมย์ นักแสดงบู๊ชื่อดังซึ่งกำลังมีผลงานโกอินเตอร์ในภาพยนตร์ “ฟาสต์ แอนด์ ฟิวเรียส 7” เดินทางมารับรางวัลเกียรติยศ “มวยไทย ไลฟ์ อวอร์ด” จาก ศ.ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม โดยมี พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร ประธานสภามวยไทยโลก, ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกสมาคมมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และประธานสหพันธ์มวยไทยสมัครเล่นนานาชาติ, พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ รองประธานสภามวยโลก และประธาน WBC มวยไทย, คุณเกียรติ กัญจนศิริกุล กรรมการบริหาร WBC มวยไทย, และ อ.ชินวุธ ศิริสัมพันธ์ นายกสมาคมครูมวยไทย และประธานสหพันธ์มวยโบราณโลก ร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบรางวัลดังกล่าว

สำหรับ “มวยไทย ไลฟ์ อวอร์ด” เป็นรางวัลที่มอบเพื่อสนับสนุนและยกย่องบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่มวยไทยโบราณ ผ่านผลงานอันเป็นเอกลักษณ์อย่างต่อเนื่องในทุกสาขาอาชีพ ซึ่ง จา-พนม คือบุคคลแรกที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักขณะที่จา-พนม เดินพรมแดงมีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก โดยภายในงานมีบุคคลมีชื่อเสียง อาทิ จีจ้า-ญาณิน วิสมิตะนันทน์, ไมเคิล ดี เซลบีย์ ผู้จัดการส่วนตัว ฯลฯ รวมถึง น.ส.ปิยรัตน์ หรือ บุ้งกี๋ โชติวัฒนานนท์ ภรรยา, น้องจอมขวัญ-ด.ญ.หทัยปวีต์ ลูกสาว และนางวรรณา มารดาของภรรยา มาร่วมยินดีด้วย

หลังจากรับรางวัล จา เผยความรู้สึกว่า ดีใจและภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก เป็นรางวัลที่ทำให้ตนมีกำลังใจที่จะเดินหน้าต่อไป รวมถึงอยากมอบรางวัลนี้ให้กับคุณพ่อเพราะท่านเป็นคนสอนมวยไทยให้ตนเป็นคนแรก

ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสภาพยนตร์ทั้งเมืองไทยและต่างประเทศจากล่าวว่าที่ต่างประเทศทุกคนให้การต้อนรับอย่างดีและให้เกียรติ เปรียบเสมือนเขาต้อนรับมวยไทย ตอนนี้ไปไหนมาไหนมีชาวต่างชาติเข้ามาทักและสวัสดี รวมถึงทีมงานจากภาพยนตร์เรื่องนี้อยากใช้สไตล์การบู๊แบบมวยไทย เช่น วิน ดีเซล สนใจที่จะเรียนมวยไทย อยากมีท่าใหม่ๆ ที่ตนใช้ในภาพยนตร์ซึ่งเขาอยากทำตาม ส่วนในประเทศไทยก็ทราบว่ากระแสดีเช่นกัน คนมาดูหนังกันเยอะมาก

ต่อข้อถามที่ก่อนหน้านี้ภาพยนตร์ ฟาสต์ แอนด์ ฟิสเรียส 7 ถูกศาลสั่งให้ระงับฉายชั่วคราวนั้นทราบบ้างหรือไม่ นักแสดงหนุ่มกล่าวว่า พอทราบเรื่อง ถามว่าตกใจมั้ย ในฐานะที่เป็นคนไทยตนอยากนำเสนอฝีมือของคนไทย ตอนได้ยินข่าวยอมรับว่าตกใจ ส่วนว่าได้เข้าไปพูดคุยกับทางสหมงคลฟิล์มหรือยัง ตนไม่ขอพูดถึงเพราะในวันนี้มารับรางวัลจึงขอพูดแต่สิ่งดีๆ ไม่อยากพูดอะไรที่พาดพิงใคร

ถามว่าจะเข้าไปคุยกับเสี่ยเจียง-สมศักดิ์ ไหม จากล่าวว่า คงไม่คุย คงให้ทนายเป็นคนคุย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตนไปเปิดตลาดฮอลลีวู้ดแล้ว เรื่องต่อไปก็อยากให้สนับสนุน อยากให้ร่วมมือร่วมใจกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าตั้งใจจะเข้าไปเคลียร์ปัญหากับทางสหมงคลฟิล์มเมื่อไหร่จากล่าวว่าตอนนี้ทุกฝ่ายก็ทำหน้าที่กันอยู่ ส่วนตนก็ทำหน้าที่ทำภาพยนตร์ นำมวยไทยไปเผยแพร่ทั่วโลก

ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมถึงไม่อยากเข้าไปเคลียร์ปัญหาจากล่าวว่ามันมีระบบขั้นตอนของมัน ตนก็ทำหน้าที่ของตน และปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทนาย อยากให้สื่อมวลชนช่วยนำเสนอข่าวในทางบวก

ผู้สื่อข่าวว่ากลัวเกิดกรณีเดียวกันนี้กับหนังสกินเทรด และ เอสพีเแอล 2 ที่จาแสดงหรือไม่ จากล่าวว่า ตนขอทำวันนี้ให้ดีที่สุด ตรงนี้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่และทางด้านฝ่ายกฎหมาย ส่วนตนขอโฟกัสการทำหน้าที่ของตน และกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนวันที่ 23 เม.ย. นี้จะมีกำหนดฉายเรื่อง สกิน เทรด ซึ่งยังไม่มีปัญหาอะไร ส่วนตนโฟกัสที่การทำหน้าที่ของตัวเอง

ต่อข้อถามเรื่องเงิน 26 ล้านบาทที่ขอกับทางสหมงคลฟิล์มไปสร้างหนัง ไอ้หนุ่มกังนัม แต่ไม่มีความคืบหน้า เรื่องนี้นักแสดงหนุ่มไม่ขอตอบพร้อมกับถูกบอดี้การ์ดดึงตัวออกไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่