คำถาม: การเป็นคริสเตียนคืออะไร?
คำตอบ: พจนานุกรมฉบับเวบสเตอร์ได้ให้คำจำกัดความของคำว่าคริสเตียน ว่า “คนที่แสดงความเชื่อในพระเยซูว่าทรงเป็นพระคริสต์ หรือในศาสนาที่มีคำสอนของพระเยซูเป็นหลัก” คำว่า คริสเตียน ถูกนำมาใช้สามครั้งในพันธสัญญาใหม่ (กิจการ 11:26; กิจการ 26:28; 1 เปโตร 4:16) คือผู้ที่ติดตามพระเยซูคริสต์
“คริสเตียน” ถูกเรียกเป็นครั้งแรก ในเมืองอันทิโอก (กิจการ 11:26) ทั้งนี้คือ ผู้ที่ติดตาม พระเยซู ปรารถนาจะเรียนแบบอย่างจากพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นความประพฤติ, การกระทำ และ คำพูด และใช้เรียก ผู้ที่บังเกิดใหม่ ที่ติดตามพระเยซูคริสต์ เช่นกัน
หลายคนอาจเข้าใจผิด คิดว่าตนเอง เข้าโบสถ์เรียนคำสอน จบ คอร์ส นั่นคือ เป็น คริสเตียนแล้ว แต่หารู้ไม่
ถ้าเมื่อไหร่ ที่เราเอง ไม่ได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์ เข้ามาในชีวิต บังเกิดใหม่ กลับใจใหม่อย่างแท้จริง นั่นหมายความว่า เรายังไม่ได้เป็นคริสเตียน ยังไม่ได้เป็นบุตรของพระเจ้า ที่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิต
นั่นหมายความว่า ความรอด ที่เราจะได้รับในอนาคต ที่เราจะไปอยู่กับพระองค์ บนสวรรค์ เมื่อเราจากโลกนี้ไปแล้ว อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเป็นแน่
ยอห์น14:6 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา
พระเยซูเป็นผู้นำทางเราไปถึงพระบิดา และเป็นกุญแจที่ช่วยผู้เชื่อเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บนสวรรค์ ได้
อย่าให้เราไปเพียงแค่โบสถ์ แต่ไม่ได้ บังเกิดใหม่ หรือกลับใจใหม่อย่างแท้จริง เพราะจะกลายเป็นแค่ประเพณีทางศาสนาเท่านั้น
แต่ถ้าเราบังเกิดใหม่แล้ว เราก็ควรที่จะไปโบสถ์เพื่อ รับการเสริมสร้างฝ่ายจิตวิญญาณ และได้รับการปกคลุม ฝ่ายวิญญาณ และ ช่วยให้เราเติบโต ในทางของพระเจ้า ได้ดี ด้วยเช่นกัน หรือ หลายท่านที่บังเกิดใหม่แล้ว บอกมีเพื่อน พี่น้อง คริสเตียน สรรเสริญนมัสการที่บ้านได้มั้ย ได้ เพราะคริสต์จักร สมัยแรกก็ทำแบบนั้น เช่นกัน
พระคัมภีร์สอนว่าการทำการดีด้วยตนเอง (เพื่อได้รับความรอด) ไม่ได้ทำให้เราเป็นที่ยอมรับของพระเจ้าได้ ข้อพระคัมภีร์ ทิตัส 3:5 บอกเราว่า “พระองค์ได้ทรงช่วยเราให้รอด มิใช่ด้วยการกระทำที่ชอบธรรมของเราเอง แต่พระองค์ทรงพระกรุณาชำระให้เรามีใจบังเกิดใหม่ และทรงสร้างเราขึ้นมาใหม่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์”
ดังนั้น คริสเตียน คือ คนที่บังเกิดใหม่โดยพระเจ้า (ยอห์น 3:3; ยอห์น 3:7; 1 เปโตร 1:23) ข้อพระคัมภีร์เอเฟซัส 2:8 บอกเราว่า “ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้”
คนที่เป็นคริสเตียนแท้ ก็คือ คนที่กลับใจใหม่และหันหลังให้กับความบาปของตนเอง และเชื่อวางใจไว้ที่พระเยซูคริสต์แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ความวางใจของเขาไม่ได้อยู่ที่การนับถือศาสนา หรือการมีข้อหลักปฏิบัติ หรือ สิ่งที่ทำได้ ทำไม่ได้ ซึ่งมีรายการบอกไว้เป็นชุด ๆ
คนที่เป็นคริสเตียนแท้ คือ คนที่วางใจและเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ และ เชื่อในข้อเท็จจริงที่ว่า พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปให้กับเรา และทรงฟื้นคืนพระชนม์ในวันที่สาม เพื่อทรงรับชัยชนะเหนือความตาย และทรงประทานชีวิตนิรันดร์ให้กับทุกคนที่เชื่อในพระองค์ ข้อพระคัมภีร์ยอห์น
1:12 บอกเราว่า “แต่ส่วนบรรดาผู้ที่ต้อนรับพระองค์ พระองค์ทรงประทานอำนาจให้เป็นบุตรของพระเจ้า คือคนทั้งหลายที่เชื่อในพระนามของพระองค์” คริสเตียนแท้คือลูกของพระเจ้าโดยแท้จริง เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของพระเจ้าที่แท้จริง และเป็นผู้ที่ได้รับชีวิตใหม่ในพระคริสต์ ตราประทับของคริสเตียนแท้ คือ ความรักที่มีต่อผู้อื่น และ การเชื่อฟ้งพระวจนะของพระเจ้า (1 ยอห์น 2:4; 1 ยอห์น 2:10).
http://www.gotquestions.org/Thai/Thai-what-Christian.html
คำถาม: การเป็นคริสเตียนคืออะไร และ คริสเตียนเชื่ออะไร?
คำตอบ: ข้อพระคัมภีร์ 1 โครินธ์ 15:1-4 กล่าวว่า “ยิ่งกว่านี้ พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอให้ท่านคำนึงถึงข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าเคยประกาศแก่ท่านทั้งหลาย ซึ่งท่านได้ยอมรับไว้ อันเป็นฐานซึ่งท่านทั้งหลายตั้งมั่นอยู่ และซึ่งทำให้ท่านรอดด้วย ถ้าท่านยึดหลักคำสอนที่ข้าพเจ้าได้ประกาศไว้แก่ท่านทั้งหลายนั้น เว้นเสียแต่ท่านได้เชื่ออย่างไร้ประโยชน์ เรื่องซึ่งข้าพเจ้ารับไว้นั้น ข้าพเจ้าได้ประกาศแก่ท่านทั้งหลายก่อน คือว่าพระคริสต์ได้ทรงวายพระชนม์เพราะบาปของเราทั้งหลาย ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ และทรงถูกฝังไว้ แล้ววันที่สามพระองค์ทรงเป็นขึ้นมาใหม่ตามที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์นั้น”
ในการตอบสั้น ๆ นั่นคือความเชื่อแบบคริสเตียน ความเชื่อแบบคริสเตียนมีเอกลักษณ์แตกต่างจากความเชื่ออื่น ๆ เพราะความเชื่อแบบคริสเตียนเป็นความเชื่อที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ มากกว่าการมีพิธีกรรมทางศาสนา แทนที่จะเป็นการทำตามรายการ “จงละเว้นนั้น อย่าละเว้นนี่” เป้าหมายของคริสเตียนคือการเข้าสนิทกับพระเจ้าพระบิดาทีละเล็กละน้อย ความสัมพันธ์นี้เป็นไปได้เพราะการกระทำของพระเยซูคริสต์ และการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในชีวิตของคริสเตียน
คริสเตียนเชื่อว่าพระคัมภีร์ได้รับการดลใจ และเป็นพระวจนะของพระเจ้าที่ไม่มีข้อผิดพลาด และคำสอนจากพระคัมภีร์คือสิทธิอำนาจสูงสุด (2 ทิโมธี 3:16, 2 เปโตร 1:20-21) คริสเตียนเชื่อในพระเจ้าผู้ทรงเป็นหนึ่งเดียวในสามพระภาค คือ พระบิดา พระบุตร (พระเยซูคริสต์) และ พระวิญญาณบริสุทธิ์
คริสเตียนเชื่อว่ามนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า แต่ความบาปมาแยกมนุษย์ออกจากพระองค์ (โรม 5:12, โรม 3:23) ความเชื่อแบบคริสเตียนสอนว่า พระเยซูคริสต์ทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางเรา ทรงเป็นทั้งมนุษย์และพระเจ้า( ฟีลิปปี 2:6-11) และทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
คริสเตียนเชื่อว่าหลังจากที่ได้ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้การเขนแล้ว ทรงถูกนำไปฝัง แล้วทรงฟื้นคืนพระชนม์ และเดี๋ยวนี้ทรงประทับอยู่ ณ เบื้องขวาของพระบิดา ทรงอธิษฐานวิงวอนเพื่อผู้เชื่อทั้งหลายอยู่เป็นนิตย์ ไม่จำเป็นต้องมีบุคคลอื่นมาช่วยอ้อนวอน หรือ ภาวนาให้เพิ่มเติม เพราะพระองค์ทรงทำกิจนั้นอยู่แล้ว (ฮีบรู 9:11-14, ฮีบรู 10:10, โรม 6:23, โรม 5:8).
เราเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ได้ทำสำเร็จลงบนไม้กางเขน หากใครคนใดคนหนึ่งเชื่อในพระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์แทนเขาเพื่อไถ่บาปให้กับเขา แล้วทรงฟื้นคืนพระชนม์ เท่านั้นเอง คน ๆ นั้นก็จะได้รับความรอด ไม่มีอะไรที่ใครจะทำได้เพื่อที่จะได้รับความรอด ไม่มีใคร “ ชอบธรรมแล้ว หรือ ดีพร้อมแล้ว”
โดยตัวเองที่จะทำให้ถึงมาตรฐาน ของพระเจ้าได้ เพราะเราทุกคนเป็นคนบาป (อิสยาห์ 64: 6-7, อิสยาห์ 53:6) ประการที่สอง คือ ไม่มีอะไรอีกแล้วที่จะต้องทำ เพราะพระคริสต์ได้ทรงกระทำทั้งหมดไปแล้ว!
เมื่อทรงถูกตรึงอยู่บนการเขน พระองค์ตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” (ยอห์น 19:30)
เช่นเดียวกับที่ไม่มีอะไรที่ใครสามารถจะทำได้เพื่อที่จะได้รับความรอด เมื่อคน ๆ นั้นเชื่อในสิ่งที่พระคริสต์ได้ทำลงไปบนไม้กางเขน ก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาสูญเสียความรอดไปได้ จงจำไว้ว่าหน้าที่นั้นพระคริสต์เป็นผู้ทรงทำและได้ทำสำเร็จไปแล้ว! ไม่มีอะไรเกี่ยวกับความรอดที่ผู้รับจะต้องทำเพื่อที่จะได้มา
ซื่งความรอดนั้น! ข้อพระคัมภีร์ยอห์น 10:27-29 กล่าวว่า “แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา และเรารู้จักแกะเหล่านั้น และแกะนั้นตามเรา เราให้ชีวิตนิรันดร์แก่แกะนั้น และแกะนั้นจะไม่พินาศเลย และจะไม่มีผู้ใดแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือของเราได้ พระบิดาของเราผู้ประทานแกะนั้นให้แก่เราเป็นใหญ่กว่าทุกสิ่ง และไม่มีผู้ใดสามารถชิงแกะนั้นไปจากพระหัตถ์ของพระบิดาของเราได้”
บางคนอาจจะคิดว่า “ดีจังเลย -- พอฉันได้รับความรอดปุ๊บ ฉันก็จะสามารถทำอะไรก็ได้ตามความพอใจโดยไม่ต้องสูญเสียความรอดเสียด้วย!” แต่ความรอดไม่ใช่การเป็นอิสระเพื่อที่จะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ ความรอดคือความเป็นอิสระจากธรรมชาติบาปเก่า ๆ และความเป็นอิสระใน
การมีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า ตราบเท่าที่ผู้เชื่อยังคงมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ในกายบาป เขาก็ยังจะต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะความบาปอยู่นั่นเอง การมีชีวิตอยู่ในความบาปเป็นการขวางความสัมพันธ์ที่พระเจ้าทรงต้องการที่จะมีกับมนุษย์
แต่อย่างไรก็ตาม คริสเตียนสามารถเอาชนะความบาปได้โดยการนำพระวจนะ (พระคัมภีร์) มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และอยู่ภายใต้การควบคุมของพระวิญญาณบริสุทธิ์ -- นั่นคือการยอมจำนนต่อการทรงนำของพระวิญญาณในทุกสถานการณ์ ทุกวัน และเชื่อฟังพระวจนะโดยผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์
ดังนั้น สมัยก่อนเราถูกสอนให้ปฏิบัติบางอย่าง ละเว้นบางอย่าง การเป็นคริสเตียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับการมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า การเป็นคริสเตียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อว่าพระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปให้เรา หลังจากนั้นทรงฟื้นคืนพระชนม์ เราหมดหนี้บาปแล้วและสามารถมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้
เรามีชัยชนะเหนือธรรมชาติบาปของเรา และสามารถมีความสัมพันธ์และเชื่อฟังพระเจ้าได้
นี่คือการเป็น
คริสเตียนตามนิยามในพระคัมภีร์ที่แท้จริง.
http://www.gotquestions.org/Thai/Thai-Christianity.html
ขอพระเจ้าทรงอวยพรทุกท่านค่ะ
การเป็นคริสเตียนคืออะไร?
คำตอบ: พจนานุกรมฉบับเวบสเตอร์ได้ให้คำจำกัดความของคำว่าคริสเตียน ว่า “คนที่แสดงความเชื่อในพระเยซูว่าทรงเป็นพระคริสต์ หรือในศาสนาที่มีคำสอนของพระเยซูเป็นหลัก” คำว่า คริสเตียน ถูกนำมาใช้สามครั้งในพันธสัญญาใหม่ (กิจการ 11:26; กิจการ 26:28; 1 เปโตร 4:16) คือผู้ที่ติดตามพระเยซูคริสต์
“คริสเตียน” ถูกเรียกเป็นครั้งแรก ในเมืองอันทิโอก (กิจการ 11:26) ทั้งนี้คือ ผู้ที่ติดตาม พระเยซู ปรารถนาจะเรียนแบบอย่างจากพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นความประพฤติ, การกระทำ และ คำพูด และใช้เรียก ผู้ที่บังเกิดใหม่ ที่ติดตามพระเยซูคริสต์ เช่นกัน
หลายคนอาจเข้าใจผิด คิดว่าตนเอง เข้าโบสถ์เรียนคำสอน จบ คอร์ส นั่นคือ เป็น คริสเตียนแล้ว แต่หารู้ไม่
ถ้าเมื่อไหร่ ที่เราเอง ไม่ได้ต้อนรับพระเยซูคริสต์ เข้ามาในชีวิต บังเกิดใหม่ กลับใจใหม่อย่างแท้จริง นั่นหมายความว่า เรายังไม่ได้เป็นคริสเตียน ยังไม่ได้เป็นบุตรของพระเจ้า ที่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิต
นั่นหมายความว่า ความรอด ที่เราจะได้รับในอนาคต ที่เราจะไปอยู่กับพระองค์ บนสวรรค์ เมื่อเราจากโลกนี้ไปแล้ว อาจไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดเป็นแน่
ยอห์น14:6 พระเยซูตรัสกับเขาว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้นอกจากมาทางเรา
พระเยซูเป็นผู้นำทางเราไปถึงพระบิดา และเป็นกุญแจที่ช่วยผู้เชื่อเข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บนสวรรค์ ได้
อย่าให้เราไปเพียงแค่โบสถ์ แต่ไม่ได้ บังเกิดใหม่ หรือกลับใจใหม่อย่างแท้จริง เพราะจะกลายเป็นแค่ประเพณีทางศาสนาเท่านั้น
แต่ถ้าเราบังเกิดใหม่แล้ว เราก็ควรที่จะไปโบสถ์เพื่อ รับการเสริมสร้างฝ่ายจิตวิญญาณ และได้รับการปกคลุม ฝ่ายวิญญาณ และ ช่วยให้เราเติบโต ในทางของพระเจ้า ได้ดี ด้วยเช่นกัน หรือ หลายท่านที่บังเกิดใหม่แล้ว บอกมีเพื่อน พี่น้อง คริสเตียน สรรเสริญนมัสการที่บ้านได้มั้ย ได้ เพราะคริสต์จักร สมัยแรกก็ทำแบบนั้น เช่นกัน
พระคัมภีร์สอนว่าการทำการดีด้วยตนเอง (เพื่อได้รับความรอด) ไม่ได้ทำให้เราเป็นที่ยอมรับของพระเจ้าได้ ข้อพระคัมภีร์ ทิตัส 3:5 บอกเราว่า “พระองค์ได้ทรงช่วยเราให้รอด มิใช่ด้วยการกระทำที่ชอบธรรมของเราเอง แต่พระองค์ทรงพระกรุณาชำระให้เรามีใจบังเกิดใหม่ และทรงสร้างเราขึ้นมาใหม่โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์”
ดังนั้น คริสเตียน คือ คนที่บังเกิดใหม่โดยพระเจ้า (ยอห์น 3:3; ยอห์น 3:7; 1 เปโตร 1:23) ข้อพระคัมภีร์เอเฟซัส 2:8 บอกเราว่า “ด้วยว่าซึ่งท่านทั้งหลายรอดนั้นก็รอดโดยพระคุณเพราะความเชื่อ และมิใช่โดยตัวท่านทั้งหลายเอง แต่พระเจ้าทรงประทานให้”
คนที่เป็นคริสเตียนแท้ ก็คือ คนที่กลับใจใหม่และหันหลังให้กับความบาปของตนเอง และเชื่อวางใจไว้ที่พระเยซูคริสต์แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ความวางใจของเขาไม่ได้อยู่ที่การนับถือศาสนา หรือการมีข้อหลักปฏิบัติ หรือ สิ่งที่ทำได้ ทำไม่ได้ ซึ่งมีรายการบอกไว้เป็นชุด ๆ
คนที่เป็นคริสเตียนแท้ คือ คนที่วางใจและเชื่อในองค์พระเยซูคริสต์ และ เชื่อในข้อเท็จจริงที่ว่า พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปให้กับเรา และทรงฟื้นคืนพระชนม์ในวันที่สาม เพื่อทรงรับชัยชนะเหนือความตาย และทรงประทานชีวิตนิรันดร์ให้กับทุกคนที่เชื่อในพระองค์ ข้อพระคัมภีร์ยอห์น
1:12 บอกเราว่า “แต่ส่วนบรรดาผู้ที่ต้อนรับพระองค์ พระองค์ทรงประทานอำนาจให้เป็นบุตรของพระเจ้า คือคนทั้งหลายที่เชื่อในพระนามของพระองค์” คริสเตียนแท้คือลูกของพระเจ้าโดยแท้จริง เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวของพระเจ้าที่แท้จริง และเป็นผู้ที่ได้รับชีวิตใหม่ในพระคริสต์ ตราประทับของคริสเตียนแท้ คือ ความรักที่มีต่อผู้อื่น และ การเชื่อฟ้งพระวจนะของพระเจ้า (1 ยอห์น 2:4; 1 ยอห์น 2:10).
http://www.gotquestions.org/Thai/Thai-what-Christian.html
คำถาม: การเป็นคริสเตียนคืออะไร และ คริสเตียนเชื่ออะไร?
คำตอบ: ข้อพระคัมภีร์ 1 โครินธ์ 15:1-4 กล่าวว่า “ยิ่งกว่านี้ พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอให้ท่านคำนึงถึงข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าเคยประกาศแก่ท่านทั้งหลาย ซึ่งท่านได้ยอมรับไว้ อันเป็นฐานซึ่งท่านทั้งหลายตั้งมั่นอยู่ และซึ่งทำให้ท่านรอดด้วย ถ้าท่านยึดหลักคำสอนที่ข้าพเจ้าได้ประกาศไว้แก่ท่านทั้งหลายนั้น เว้นเสียแต่ท่านได้เชื่ออย่างไร้ประโยชน์ เรื่องซึ่งข้าพเจ้ารับไว้นั้น ข้าพเจ้าได้ประกาศแก่ท่านทั้งหลายก่อน คือว่าพระคริสต์ได้ทรงวายพระชนม์เพราะบาปของเราทั้งหลาย ตามที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์ และทรงถูกฝังไว้ แล้ววันที่สามพระองค์ทรงเป็นขึ้นมาใหม่ตามที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์นั้น”
ในการตอบสั้น ๆ นั่นคือความเชื่อแบบคริสเตียน ความเชื่อแบบคริสเตียนมีเอกลักษณ์แตกต่างจากความเชื่ออื่น ๆ เพราะความเชื่อแบบคริสเตียนเป็นความเชื่อที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ มากกว่าการมีพิธีกรรมทางศาสนา แทนที่จะเป็นการทำตามรายการ “จงละเว้นนั้น อย่าละเว้นนี่” เป้าหมายของคริสเตียนคือการเข้าสนิทกับพระเจ้าพระบิดาทีละเล็กละน้อย ความสัมพันธ์นี้เป็นไปได้เพราะการกระทำของพระเยซูคริสต์ และการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในชีวิตของคริสเตียน
คริสเตียนเชื่อว่าพระคัมภีร์ได้รับการดลใจ และเป็นพระวจนะของพระเจ้าที่ไม่มีข้อผิดพลาด และคำสอนจากพระคัมภีร์คือสิทธิอำนาจสูงสุด (2 ทิโมธี 3:16, 2 เปโตร 1:20-21) คริสเตียนเชื่อในพระเจ้าผู้ทรงเป็นหนึ่งเดียวในสามพระภาค คือ พระบิดา พระบุตร (พระเยซูคริสต์) และ พระวิญญาณบริสุทธิ์
คริสเตียนเชื่อว่ามนุษย์ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า แต่ความบาปมาแยกมนุษย์ออกจากพระองค์ (โรม 5:12, โรม 3:23) ความเชื่อแบบคริสเตียนสอนว่า พระเยซูคริสต์ทรงดำเนินอยู่ท่ามกลางเรา ทรงเป็นทั้งมนุษย์และพระเจ้า( ฟีลิปปี 2:6-11) และทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน
คริสเตียนเชื่อว่าหลังจากที่ได้ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้การเขนแล้ว ทรงถูกนำไปฝัง แล้วทรงฟื้นคืนพระชนม์ และเดี๋ยวนี้ทรงประทับอยู่ ณ เบื้องขวาของพระบิดา ทรงอธิษฐานวิงวอนเพื่อผู้เชื่อทั้งหลายอยู่เป็นนิตย์ ไม่จำเป็นต้องมีบุคคลอื่นมาช่วยอ้อนวอน หรือ ภาวนาให้เพิ่มเติม เพราะพระองค์ทรงทำกิจนั้นอยู่แล้ว (ฮีบรู 9:11-14, ฮีบรู 10:10, โรม 6:23, โรม 5:8).
เราเชื่อว่าพระเยซูคริสต์ได้ทำสำเร็จลงบนไม้กางเขน หากใครคนใดคนหนึ่งเชื่อในพระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์แทนเขาเพื่อไถ่บาปให้กับเขา แล้วทรงฟื้นคืนพระชนม์ เท่านั้นเอง คน ๆ นั้นก็จะได้รับความรอด ไม่มีอะไรที่ใครจะทำได้เพื่อที่จะได้รับความรอด ไม่มีใคร “ ชอบธรรมแล้ว หรือ ดีพร้อมแล้ว”
โดยตัวเองที่จะทำให้ถึงมาตรฐาน ของพระเจ้าได้ เพราะเราทุกคนเป็นคนบาป (อิสยาห์ 64: 6-7, อิสยาห์ 53:6) ประการที่สอง คือ ไม่มีอะไรอีกแล้วที่จะต้องทำ เพราะพระคริสต์ได้ทรงกระทำทั้งหมดไปแล้ว! เมื่อทรงถูกตรึงอยู่บนการเขน พระองค์ตรัสว่า “สำเร็จแล้ว” (ยอห์น 19:30)
เช่นเดียวกับที่ไม่มีอะไรที่ใครสามารถจะทำได้เพื่อที่จะได้รับความรอด เมื่อคน ๆ นั้นเชื่อในสิ่งที่พระคริสต์ได้ทำลงไปบนไม้กางเขน ก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้เขาสูญเสียความรอดไปได้ จงจำไว้ว่าหน้าที่นั้นพระคริสต์เป็นผู้ทรงทำและได้ทำสำเร็จไปแล้ว! ไม่มีอะไรเกี่ยวกับความรอดที่ผู้รับจะต้องทำเพื่อที่จะได้มา
ซื่งความรอดนั้น! ข้อพระคัมภีร์ยอห์น 10:27-29 กล่าวว่า “แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา และเรารู้จักแกะเหล่านั้น และแกะนั้นตามเรา เราให้ชีวิตนิรันดร์แก่แกะนั้น และแกะนั้นจะไม่พินาศเลย และจะไม่มีผู้ใดแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือของเราได้ พระบิดาของเราผู้ประทานแกะนั้นให้แก่เราเป็นใหญ่กว่าทุกสิ่ง และไม่มีผู้ใดสามารถชิงแกะนั้นไปจากพระหัตถ์ของพระบิดาของเราได้”
บางคนอาจจะคิดว่า “ดีจังเลย -- พอฉันได้รับความรอดปุ๊บ ฉันก็จะสามารถทำอะไรก็ได้ตามความพอใจโดยไม่ต้องสูญเสียความรอดเสียด้วย!” แต่ความรอดไม่ใช่การเป็นอิสระเพื่อที่จะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ ความรอดคือความเป็นอิสระจากธรรมชาติบาปเก่า ๆ และความเป็นอิสระใน
การมีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับพระเจ้า ตราบเท่าที่ผู้เชื่อยังคงมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ในกายบาป เขาก็ยังจะต้องต่อสู้เพื่อเอาชนะความบาปอยู่นั่นเอง การมีชีวิตอยู่ในความบาปเป็นการขวางความสัมพันธ์ที่พระเจ้าทรงต้องการที่จะมีกับมนุษย์
แต่อย่างไรก็ตาม คริสเตียนสามารถเอาชนะความบาปได้โดยการนำพระวจนะ (พระคัมภีร์) มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน และอยู่ภายใต้การควบคุมของพระวิญญาณบริสุทธิ์ -- นั่นคือการยอมจำนนต่อการทรงนำของพระวิญญาณในทุกสถานการณ์ ทุกวัน และเชื่อฟังพระวจนะโดยผ่านทางพระวิญญาณบริสุทธิ์
ดังนั้น สมัยก่อนเราถูกสอนให้ปฏิบัติบางอย่าง ละเว้นบางอย่าง การเป็นคริสเตียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับการมีความสัมพันธ์กับพระเจ้า การเป็นคริสเตียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเชื่อว่าพระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปให้เรา หลังจากนั้นทรงฟื้นคืนพระชนม์ เราหมดหนี้บาปแล้วและสามารถมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าได้
เรามีชัยชนะเหนือธรรมชาติบาปของเรา และสามารถมีความสัมพันธ์และเชื่อฟังพระเจ้าได้
นี่คือการเป็นคริสเตียนตามนิยามในพระคัมภีร์ที่แท้จริง.
http://www.gotquestions.org/Thai/Thai-Christianity.html
ขอพระเจ้าทรงอวยพรทุกท่านค่ะ