คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ถ้าเป็นผมนะ ผมจะมองแฟนเป็นหลัก ถ้าแฟนไม่ไหว ผมจะพาแฟนย้ายออกไปดีกว่า โดยให้เหตุผลกับน้องแบบอ้อมๆ ไม่ให้ขัดหู เดี๋ยวมีเรื่องกัน
ถ้าเจอคนประเภทนี้ ก็ต้องปล่อยเขาให้เขาอยุ่เองแหละ จะได้รู้ว่าที่ผ่านมาเราต้องแบกรับเขาขนาดไหน เพราะคนเรามันต้องต่างคนต่า่งสร้างครอบครัว อยู่ตั้งปีกว่า สมควรตั้งหลักได้แล้ว ผมเคยไปอยู่กับพี่สาว เพราะกำลังหางานทำ หรือเป็นช่วงวิกฤติของชีวิต ไปอาศัยญาติบ้าง เพื่อนบ้าง พ่อผมยังเคยด่าผมแรงมากว่าทำไมไปเกาะเขากิน ผมก็รู้สึกน้อยใจนะ แต่ก็เป็นแรงส่งให้ผมถีบตัวเองออกไปได้และไม่เคยคิดจะไปเกาะใครอีกเลย คำพูดคำเดียวของพ่อที่เหมือนโหดร้ายมากสำหรับคนเป็นลูก แต่กลับทำให้ผมแข็งแกร่งต่อสู้จนประสบความสำเร็จจนทุกวันนี้ ผมถึงได้ตระหนักว่าคำพูดแรงๆ บางครั้งก็เป็นยาขม ที่รักษาโรคได้ชงัด บางครั้งควรหยิบมาใช้บ้าง ถึงแม้มันจะมีผลข้างเคียง แต่ก็คุ้ม ลองดูครับ
ถ้าเจอคนประเภทนี้ ก็ต้องปล่อยเขาให้เขาอยุ่เองแหละ จะได้รู้ว่าที่ผ่านมาเราต้องแบกรับเขาขนาดไหน เพราะคนเรามันต้องต่างคนต่า่งสร้างครอบครัว อยู่ตั้งปีกว่า สมควรตั้งหลักได้แล้ว ผมเคยไปอยู่กับพี่สาว เพราะกำลังหางานทำ หรือเป็นช่วงวิกฤติของชีวิต ไปอาศัยญาติบ้าง เพื่อนบ้าง พ่อผมยังเคยด่าผมแรงมากว่าทำไมไปเกาะเขากิน ผมก็รู้สึกน้อยใจนะ แต่ก็เป็นแรงส่งให้ผมถีบตัวเองออกไปได้และไม่เคยคิดจะไปเกาะใครอีกเลย คำพูดคำเดียวของพ่อที่เหมือนโหดร้ายมากสำหรับคนเป็นลูก แต่กลับทำให้ผมแข็งแกร่งต่อสู้จนประสบความสำเร็จจนทุกวันนี้ ผมถึงได้ตระหนักว่าคำพูดแรงๆ บางครั้งก็เป็นยาขม ที่รักษาโรคได้ชงัด บางครั้งควรหยิบมาใช้บ้าง ถึงแม้มันจะมีผลข้างเคียง แต่ก็คุ้ม ลองดูครับ
แสดงความคิดเห็น
ช่วยคิด วิเคราะห์ และหาทางออกหน่อยค่ะ
ก่อนจะถาม เรามีเรื่องอยากเล่าให้ฟังค่ะ
ตอนนี้เราอยู่กับแฟนที่หอพักแห่งนึงในกทม. ในหอพักนั้นจะประกอบด้วยห้องซอยย่อย2ห้อง ห้องโถง1ห้อง และห้องน้ำ1ห้อง
เมื่อก่อนเราก็อยู่กัน 2 คน มีความสุขดี อาจจะมีทะเลาะกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราหนักใจอะไรค่ะ
จนวันนึงแฟนเราก็อยากจะให้น้องชายแท้ๆ (ที่ไม่ค่อยจะกระตือรือร้นในชีวิตเท่าไรนัก) เข้ามาหางานทำในกรุงเทพ
เพราะเห็นว่าน่าจะช่วยให้น้องได้ทำงานและดูแลตัวเอง เมียน้อง และลูกของน้องได้
แฟนเราบอกว่าในช่วงแรก (จนถึงตอนนี้ในความเป็นจริง) ให้น้องมาอยู่กับเราก่อน แยกห้องให้น้อง 1ห้องค่ะ เพราะทำงานในกรุงเทพมันมีค่าใช้จ่ายสูง
อยากช่วยให้น้องพ้นช่วงแรกไปก่อน...
แล้ววันนึง น้องชายของแฟนเราก็เอาเมียมาอยู่ที่ห้องด้วยค่ะ
ถ้านับเฉพาะน้องชาย ตอนนี้ที่อยู่ด้วยกันปีกว่าแล้ว
ถ้านับแฟนน้องชายที่เข้ามาอยู่ทีหลังก็ประมาณ 6-7 เดือนได้
เรามีคำถามอยู่ในสมองอยู่ตลอดเวลาว่า ทำไม? น้องๆ ไม่กระตือรือร้นที่จะออกไปหาหออยู่กันส่วนตัว (มันเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวค่ะ เรารู้)
แต่รู้ไหมคะ น้องๆใช้เงินสิ้นเปลือง ซื้อโน่นนี่มาใช้ ซื้อของกิน ทุกอย่าง สิ้นเปลืองมาก คือมันเปลืองกว่าที่ควรจะเป็นนะคะ
แถมมีเงินให้คนอื่นยืมใช้อีก
มันก็ไม่ใช่เรื่องแค่นี้หรอกค่ะ น้องผู้ชายเป็นคนสกปรก ไม่เคยกวาดห้อง ไม่ค่อยล้างจาน ไม่เคยล้างห้องน้ำ หรือช่วยทำความสะอาด
แถมยังทำสกปรกอีก แฟนน้องก็มีช่วยเก็บบ้าง แต่ก็ขยันทำเลอะเทอะเหมือนกันทังสองคน
เปิดเพลงเสียงดัง คุยดัง แหกปากร้องเพลง
เรารำคาญมากค่ะ เราก็เคยพูดตรงๆ ว่าเฮ้ย พี่ว่าเบาหน่อยนะ ล้างจานหน่อย กวาดบ้านหน่อย อันนี้เราพูดนะ
แต่จะให้เราพูดทุกครั้งเลยหรอ
เราทะเลาะกับแฟนเรื่องนี้บ่อยขึ้น บางทีเราก็พยายามเปลี่ยนอารมณ์ให้ดีๆ ใจเย็นๆ พูดคุยปกติ ก็ทำได้นะ
บางทีก็ไม่ได้เลยอ่ะ เราสงสารแฟนเราที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้มากเลย นั่นก็น้อง นี่ก็แฟน
เราไม่อยากให้แฟนไม่สบายใจ แต่พื้นฐานจิตใจส่วนเลวของเรามันไม่พอใจอยู่ลึกๆ มันโมโห มันเบื่อ
เราก็บอกแฟนตรงๆว่า เราไม่ใช่ไม่เอาใจคุณมาใส่ใจเรานะ เราทำแล้ว ทำแล้วและเห็นใจคุณมากด้วย แต่เราอดที่จะเงียบไว้ไม่ได้
เพราะอกจะแตกตายเสียก่อน เราไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
**ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้ววิเคราะห์ว่าเราเป็นคนใจแคบมากแค่ไหน รบกวนช่วยบอกทีนะ
ไม่อยากจะเล่าอะไรมากไปกว่านี้แล้ว เพราะยิ่งเล่าความเห็นแก่ตัวเรายิ่งออก ถามเลยละกัน
1. เราจะเปลี่ยนมุมมองส่วนเลวนี้ยังไงดี
2. มีทางออกอื่นไหม นอกจากทำใจ
3. ถ้าเราขอย้ายหอออกไปเอง (ไม่ได้ประชด) มันจะ make sense ไหม
4. ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี
เครียด กลืนไม่เข้าคายไม่ออก มีใครเข้าใจความรู้สึกที่เราเล่าไหม
???????
ปล.น้องแฟนกับเมีย ไม่ได้เป็นคนเลวนะคะ น้องเค้าเป็นคนดี แค่ไม่เกรงใจเราเท่าไร แค่นั้นเอง
เราไม่ต้องการให้ใครว่าแฟนน้องและเมียน้องว่านิสัยไม่ดี แต่ต้องการหาทางออกให้กับตัวเอง ว่าควรคิดอย่างไรดี
ชีวิตถึงจะมีความสุขมากขึ้น
รบกวนขอความเห็นหน่อยค่ะ
.................................................................................................งงง