หลายต่อหลายครั้งที่ทางเว็บบอร์ด ต่างๆ สื่อยูทูป โทรทัศน์ต่างๆได้นำเสนอรีวิวศัลยกรรม จากคนมีปมด้อยให้สวยสง่า
แต่ในอีกมุมหนึ่งอยากให้เพื่อนๆได้ลองดูเคส ศัลยกรรมพลาด ที่เกือบจะทำให้ตาบอด
อีกทั้งบางเคสส่งผลอันตรายถึงชีวิต
วันนี้อยากให้กระทู้เหล่านี้เป็นคลังเก็บรวมรวบเคสศัลยกรรมพลาด
*เนื้อหาทั้งหมดไม่ได้มีการโฆษราแอบแฝงอยากให้เป็นอุทาหรณ์กับเพื่อนๆ เพราะกระทู้เหล่านี้มีประโยชน์มากเราจึงเก็บรวบรวมไว้
บางภาพอยู่ในสื่อต่างๆ ไม่ได้เก็บไว้ยังไงก็ลองหาข่าวต่างๆ
เลือกหมอต้องเลือกหมอเฉพาะทาง มีสติกับการเสพย์ความงาม

1.*ศัลยกรรม ฟิลเลอร์ Filler (สารเติมเต็ม)  ใต้ตา ฉีดกับหมอมีใบประกอบวิชาชีพ แต่พลาด!! หวิดตาบอดเสียโฉมตลอดชีวิต !!
เนื้อหาเพิ่มเติม
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=fertaro&month=04-2015&date=05&group=1&gblog=7


2.เตือนภัยฉีดฟิลเลอร์ ที่จมูก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/photo.php?fbid=662905707058151&set=a.208167122532014.67161.100000161837119&type=1&theater

เตือนภัยพวกฉีดฟิลเลอร์ การศัลยกรรมต้องศึกษาข้อมูลดีๆ อย่าเห็นแก่ของถูกหรือโฆษณาชวนเชื่อ ต้องเลือกหมอพี่มีประสบการณ์ ฝีมือดี
เครดิต..Hyena Care

3.ศัลยกรรมเสียชีวิต สาวฆ่าตัวตาย หลังหน้าพังเพราะหมอกระเป๋า


จขกท.ขอไว้อาลัยให้กับน้องที่เสียชีวิตด้วยขอให้ไปสู่สุขคติสู่ภพภูมิที่ดี หากใครติดตามข่าวน้อง น้องมีอาการแพ้สิลิโคน ต้องฉีดยารักษาแพง
ร่างกายได้รับความทรมานเป็นอย่างมาก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ศัลยกรรมเสียชีวิต อีกหนึ่งอุทาหรณ์ หญิงสาวฆ่าตัวตาย หลังหน้าพังเพราะฉีดเสริมความงามกับหมอกระเป๋า พร้อมเตือนใจสาว ๆ อย่าคิดทำตาม

ปัจจุบันการทำศัลยกรรมหรือฉีดเพื่อเสริมความงาม เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเปิดกว้างในบ้านเรา หลายคนทำแล้วดูดีขึ้น สวย หล่อ ชีวิตดี ช่วยส่งเสริมด้านหน้าที่การงานให้รุ่งเรือง แต่บางครั้งการตัดสินใจทำศัลยกรรมก็อาจเกิดความผิดพลาดที่ส่งผลเสียกับทั้งชีวิตได้ อย่างก่อนหน้านี้ที่มีข่าว น้องหญิง พริตตี้ ศัลยกรรมเสียชีวิต จากการแพ้ยาสลบจนเสียชีวิตระหว่างผ่าตัด

4.กระเทย พลาด!! ศัลยกรรมกล่องเสียง พูดไม่ได้ตลอดชีวิต
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้“กระเทย” พลาด!! เชื่อใจโรงพยาบาลชื่อดัง!! ศัลยกรรมกล่องเสียง เสี่ยงพูดไม่ได้ตลอดชีวิต

ตัดสินใจผิด ชีวิตมืดมิดกันเลยทีเดียว สำหรับสาวประเภทสอง “คุณรัชวินศ์ สวัสดิ์นิโรธ” หรือ “บี” อายุ 34 ปี ที่มี “ปอย ตรีชฎา เพชรรัตน์” เป็นไอดอลในความสวย โดย “บี” เผยในรายการปากโป้ง ช่อง 8 เครืออาร์เอส ว่ามีอาชีพเป็นเซลล์อยู่ที่บริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง กำลังก้าวหน้าในหน้าที่การงานเป็นอย่างมาก และในขณะเดียวกันก็พัฒนาความสวยของตัวเองมาเรื่อยๆ อยากสวยแบบน้องปอย จนกระทั่งวันหนึ่ง เพื่อนแนะนำให้ไปทำศัลยกรรมผ่าตัดกล่องเสียงเพราะเพื่อนไปทำมาและประสบความสำเร็จ เพียง 20 วัน เพื่อนเสียงเล็กลงและหายเป็นปกติ เราก็เห็นว่าเพื่อนทำมาแล้วดี และทางโรงพยาบาลก็มีชื่อเสียง ในด้านการทำศัลยกรรมมาก ทำให้เรารู้สึกเชื่อมั่นว่าปลอดภัยพอสมควร จึงตัดสินใจไปทำ

หลังจากผ่าตัดเสร็จ เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คอเราเบี้ยวและบวม ช่วงแรกก็คิดว่าเป็นอาการบวมหลังจากการผ่าตัด คุณหมอบอกว่า 3 เดือน จะหายเป็นปกติ แต่พอเวลาผ่านมา เราคิดว่าไม่ปกติแน่ๆ เพราะในระยะเวลา 1-2 เดือนที่ผ่านมา ก็พยายามพูด แต่พูดไม่ได้มันเจ็บมาก ทนไม่ไหว เหมือนโดนอะไรซักอย่างแทงที่คอ ไปหาหมอเกือบจะทุกสัปดาห์เลย พอหลังจาก 3 เดือน อาการก็ยังไม่ดีขึ้น เวลาพูดเสียงจะแหบและต้องเกร็งคอตลอดเวลา ทรมานสุดๆ แต่หมอก็บอกว่าปกติดี เราจึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลอื่น ซึ่งผลตรวจออกมาพบว่ากล่องเสียงเราเบี้ยว และมีความผิดปกติจริงจากการผ่าตัดกล่องเสียง และมีเอกสารยืนยันจากทางโรงพยาบาล แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือตอนนี้กำลังจะโดนลดตำแหน่งงาน คืออาชีพเราต้องใช้เสียง แล้วพอเราเป็นแบบนี้มันก็ลำบากมากในการสื่อสาร ผ่านมาแล้ว 5 เดือน ทางโรงพยาบาลก็บอกจะรับผิดชอบ แต่เราอยากได้ ความชัดเจน ว่าจะรับผิดชอบยังไง เพราะตัวบีเองตอนนี้ ไม่มั่นใจที่จะผ่าตัดแก้ไข กับโรงพยาบาลนี้อีก อยากให้มีเอกสารออกมายืนยัน ความรับผิดชอบที่ชัดเจน

และฝากเป็นอุทาหรณ์ ให้ทุกคนที่คิดจะทำศัลยกรรมกล่องเสียงหรืออะไรก็ตาม ขอให้คิดและศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อน ถ้าเสียงของเรามันไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย ก็อย่าไปทำเลย “บี” กล่าว

5.อุทาหรณ์ แดนเซอร์หนุ่มหน้าพัง ทำศัลยกรรมหมอเถื่อน


6.คุณเหมี่ยว ประเด็นดัง ศัลยกรรมจมูกผิดพลาด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
http://ppantip.com/topic/31418703

7.อุทาหรณ์!! คนไทยไปศัลยกรรมเกาหลี ระวังได้ผลไม่ดีแถมไม่มีใครรับผิดชอบ!

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โดยในเฟสบุ๊ค นายแพทย์สุรเวช น้ำหอมได้ลงบทความเอาไว้ดังนี้ …

“ตอนนี้ผมเริ่มมีคนไข้ที่ไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีแล้วได้ผลผ่าตัดที่เสียหายมาตรวจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่มีใครรับผิดชอบและคนไข้ไม่สามารถจะไปหาทนายมาช่วยเหลือเพราะไม่รู้ว่าเกาหลีมีกฎหมายคุ้มครองคนไข้หรือไม่


ทุกคนจะมาแบบเดียวกันคือฝันว่าผ่าตัดเสร็จแล้วจะออกมาสวยเหมือนดาราหรือเหมือนรายการทางทีวี ก่อนผ่าทาง agencyและคลินิกก็จะมีกระบวนการกล่อมให้เคลิบเคลิ้ม คนไข้ผมบอกว่าเอารูปดาราไปให้หมอดู หมอเกาหลีบอกว่าจะทำให้สวยกว่าในรูปอีกด้วยซ้ำ

แต่พอผลผ่าตัดออกมาห่วย สิ่งนึงที่เหมือนกันทุกที่คือจะบอกให้คนไข้รอไปเรื่อยๆให้อาการเข้าที่ ปกติสัก 3-6 เดือนเราก็น่าจะเห็นแล้วหละครับว่าน่าจะสวยหรือไม่สวย ถ้ารอเป็นปีเนี่ย ผลอย่างไรก็คงเป็นอย่างนั้นแน่นอนแล้ว ซึ่งพอรอไปนานขนาดนั้นแล้วติดต่อขอแก้ไข ก็จะเริ่มมีการบ่ายเบี่ยงจากทั้ง agencyและคลินิกแล้ว ซึ่งหากตกลงกันไม่ได้ ผลที่รับเคราะห์ก็คือคนไข้นั่นเอง!


ต้องรู้ข้อเท็จจริงก่อนว่าที่เกาหลีหมอศัลยกรรมไม่ได้เก่งทุกคน ที่ฝีมือห่วยก็มีมากมาย หากเราไม่สามารถเช็คโปรไฟล์หมอก่อนได้ การไปผ่าที่เกาหลีก็ถือว่าเสี่ยงมากๆ และหากมีปัญหาก็จะติดต่อไม่ได้ สื่อสารก็ไม่รู้เรื่อง เรียกว่าอันตรายสุดๆ

ค่าใช้จ่ายในการไปผ่าตัดต่างประเทศอย่างน้อยก็ต้องหลักแสน หลายๆแสน คนไข้ทุกคนก็คงจะหวังไว้สูง แต่ความเป็นจริงหมอที่ผ่าตัดได้เก่งก็เหมือนกันทั่งโลกคือมีน้อย ส่วนใหญ่จะโม้โอ้อวดเสียมากกว่า ซึ่งคนไข้ก็ยากที่จะรู้ว่าคนที่ผ่าให้เก่งหรือโม้ แต่ตามประสบการณ์ผม หมอที่เก่งจริงมักจะไม่โฆษณาตัวเองมาก หมอที่โฆษณามากๆมักไม่เก่ง ใช้ได้กับทุกชาติทุกประเทศครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นหากเพื่อนๆมีตัวอย่างอุทาหรณ์การศัลยกรรมสามารถมาโพสบอกได้นะเพื่อเป็นวิทยาทานความรู้
อย่างน้อยคนที่แชร์กระทู้นี้ไปก็จะเป็นประโยชน์ ให้คิดให้ดีอย่ามองแต่ด้านบวกของศัลยกรรม

8. เหยื่อสาวประเภทสองฉีดสะโพก ! ถึงแก่ความตาย.
นอกจากคดีหมอป๊อบน้องพริตตี้ที่ดังอื้อฉาวไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน มีคดีที่เกิดขึ้นกับการฉีดสะโพกเสียชีวิตแต่ไม่เป็นข่าวมาแล้วหลายต่อหลายครั้งครั้ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีหนึ่งประสบการณ์ของชีวิตที่อยากเล่าสู้กันฟัง เมื่อประมาณปี 2002 เรื่องราวเกิดขึ้นในซอยลาดพร้าว 122 พวกเราเหล่า สาว 2 ก็อาศัยอยู่ที่ เคเอส เเมนชั่น ตัวหนึ่งเองก็ได้อยู่ร่วมห้องกับสาว 2 คนนึง ที่ชื่อเอ พวกเรารักกันมากๆ ซึ่ง เอ คือรุ่นน้องที่ชอบทำศัลยกรรมมาก แล้ว เอ นั้นได้ไปฉีดสะโพกมาแล้ว 3 รอบ ในคลีนิกนึงซึ่งดังมากๆในช่วงเวลานั้น วันเกิดเหตุ เอ ได้ชวนพวกหนึ่ง ไปที่คลีนิกดังกล่าว เราไปกันประมาณ 5 คน ซึ่ง เอ อยากได้สะโพกอีก 1 รอบเพิ่มเพราะช่วงก้นยังไม่เต็มมากตามความคิดของ เอ ในขณะหมอได้ทำการลงเข็มฉีดอยู่นั้น พวกเราได้เหลือบไปเห็นว่ามีอยู่เข็มนึง ได้มีการย้อนของเลือดไหลออกมา ทันใดนั้นตัว เอ เองก็ได้ไอขึ้นมา หมอตกใจมากๆหยุดการฉีดเพิ่ม แล้วบอกพวกเราว่าให้นำตัว เอ ไปตรวจปอดที่ รพ ราชวิธี พวกเราจึงได้พา เอ ไปตรวจซึ่งไม่พบอาการใดๆ พวกเราจึงนำตัวเอ กลับมา ที่คอนโดให้ เอ ได้นอนพักผ่อน ส่วนพวกเราได้นั่งเล่นไพ่ เฝ้าดูอาการของ เอ เวลาผ่านไปประมาณ 4 ชั่วโมงเห็นจะได้ หน้าของ เอ ได้เปลี่ยนสีเป็นสีออกเขียวๆ พวกเราเห็นถ้าไม่ดีแล้ว จึงนำตัว เอ ส่งทาง รพ ที่ใกล้ที่สุด คือ รพ ลาดพร้าว ซึ่งตัวหนึ่งเองได้โทรไปทางคลีนิกที่ เอ ได้ไปฉีดสะโพก ซึ่งทางคลีนิกบอกว่าจะออกค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด และทางเราก็ได้โทรไปบอกทางครอบครัวของ เอ ที่ชัยนาทให้เข้ามาที่ รพ ซึ่งพวกเราได้เฝ้าดูอาการของ เอ ที่โรงพยาบาล( เอ เป็นสาว 2 ที่นิสัยดีมากๆ) เมื่อเพื่อนๆทุกๆคนรู้ข่าวก็ได้มารวมตัวกันที่ รพ ลาดพร้าวเกือบ 100 คน ร่วมใจกันสวดมนต์อยู่ที่หน้าห้อง ICU หนึ่งได้เห็นภาพเหล่านั้นรู้สึกปลื้มใจแทน เอ
รุ่งเช้าของอีกวันนึง คุณหมอก็ได้เรียกญาติและเพื่อนสนิท เข้าไปเยี่ยมเอ ครั้งสุดท้าย ร่างของ เอ ถูกมัดมือ มัดเท้านอนอยู่บน เตียง ร่างกายผลุดลุก ผลุดนั่ง และดิ้นไปดิ้นมาทุรน ทุราย เลือดไหลออกจากทวารทั้ง 9 และจุดที่ไหลออกมากคือทางปาก หนึ่ง ได้เห็นภาพเพื่อนแล้ว หัวใจ จะสลาย หมอ บอกว่า เอ ไม่รู้สึกตัวแล้ว เป็นปกติกริยาเอฟแฟลก์ของร่างกาย แต่ หนึ่ง ไม่เชื่อ หนึ่งเดินไปจับมือ เอ แล้วบอกว่าอย่าเป็นห่วงทางนี้ เจ้จะจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ซึ่ง เอ ได้น้ำตาไหลทะลุเลือดจากตาออกมา แววตาซึ่งเป็นแววตาที่กังวล และเธอบอกว่าไม่อยากไป ไม่อยากตาย เพราะเมื่อเราอยู่ด้วยกันเราสนิทกันมากจนไม่ต้องพูด ซึ่งมองตาเราก็รู้ใจ แล้ว เอ ก็หมดลมหายใจ เหลือไว้เพียงความเศร้าโศก ให้กับบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนๆ
เรื่องราวยังไม่จบอยู่แค่นี้นะค่ะ เด่วมีต่อ ภาค 2 เพราะเรื่องมันยาวไปกลัวคนอ่านเบื่อ แต่บอกเลยว่าเรื่องราวที่เกิดต่อจากนี้ระทึกขวัญแน่นอน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/PinkAangel/posts/1573038202978950?fref=nf&pnref=story

9.พลาดฉีดดั้ง บัณฑิตใหม่  ตาบอดอีกราย !!

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่องราวนี้เปิดเผยในรายการ ข่าว 3 มิติ โดยน้องบอย บัณฑิตใหม่คนหนึ่งที่ตากำลังเริ่มบอด แต่อยากเปิดเผยเรื่องนี้เพื่อเป็นข้อเตือนใจสำหรับคนที่จะไปฉีดฟิลเลอร์ที่จมูกให้ได้ฉุกคิดก่อนตัดสินใจ คลินิกที่น้องบอยไปฉีดฟิลเลอร์อยู่แถวสุทธิสาร ที่ได้หาข้อมูลแล้วมาเป็นอย่างดีว่าเป็นคลินิกที่ได้มาตรฐานมีแพทย์เป็นเจ้าของ แต่คนฉีดไม่น่าจะใช้แพทย์
ขณะที่ฉีดน้องบอยก็รู้สึกได้ว่า ตาข้างขวาเริ่มพร่ามัว ตัวสั่น อาเจียร ทางคลินิกจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล เมื่อถึงโรงพยาบาลหมอก็บอกว่าได้เสียดวงตาไปข้างหนึ่งแล้ว หากมาถึงโรงพยาบาลช้ากว่านี้อาจเป็นอัมพาตได้
รศ. นพ. นภดล นพคุณ นายก สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย ยำว่าการใช้สารฟิลเลอร์ฉีดจมูกแทนซิลิโคนนั้นเกิดความเสียหายมาแล้วหลายครั้ง ฉีดแล้วมีโอกาสอุดตันหลอดเลือดเหมือนผู้ป่วยรายล่าสุด และอาจกดทับหลอดเลือด
โดยคุณหมอเปิดเผยว่าถึงแม้จะเป็นสารที่สลายไปได้เองภายในระยะเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปี แต่ทางอย. ไม่ได้อนุญาติให้ฉีดบริเวณจมูก หากฉีดไปแล้วเข้าไปในหลอดเลือดทำให้เส้นประสาทตาเสียทำให้ตาบอดอย่างถาวร
สำหรับในปัจจุบันฟิลเลอร์สามารถหาซื้อได้ง่าย และคนที่ไม่ใช่แพทย์ก็สามารถซื้อหาได้ไม่ยาก แม้แต่คนที่ฉีดเป็นแพทย์เองก็มีโอกาสที่จะพลาดได้เช่นกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นหากเพื่อนๆมีตัวอย่างอุทาหรณ์การศัลยกรรมสามารถมาโพสบอกได้นะเพื่อเป็นวิทยาทานความรู้
อย่างน้อยคนที่แชร์กระทู้นี้ไปก็จะเป็นประโยชน์ ให้คิดให้ดีอย่ามองแต่ด้านบวกของศัลยกรรม

แก้ไข 1. ภาพบางภาพสยองขอปิดเป็นสปอยนะจ้า