คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ตอนสมัยผมเป็นลูกน้องทำงานในเอเจนซี่โฆษณา
หัวหน้าผมเป็นคนริเริ่มทำ Job order ให้บริษัทเลยครับ
เพื่อป้องกันลูกน้องงานโหลดนี่แหละ
คือให้ทั้งบริษัทจะมาให้ทีมเจ๊ทำงาน ต้องลงรายละเอียดงานในใบจ๊อบก่อนครับ
ว่าคืองานอะไร จากใคร ต้องเสร็จเมื่อไหร่ ถ้าขอเร่งพิเศษก็ต้องติ๊กมาในใบจ๊อบครับ
แล้วส่งมาให้เจ๊ เจ๊ก็จะบริหารงานจนเสร็จ
ในใบจ๊อบจะมีรหัสประจำงานชิ้นนั้นเลยครับ
งานแผนกไหนก็มีรหัสตัวหน้าของแผนกนั้น ตามด้วยรหัสลูกค้าเจ้าของงาน และตามด้วยประเภทงาน และตามด้วยหมายเลขเรียงตามลำดับ
เช่น แผนกการตลาดก็ MKT แผนกผลิตหนัง/วิทยุก็ PD ลูกค้าคอลเกต ลูกค้าวอลโว่ ก็รหัสย่อของลูกค้า
แล้ว 001 คือลำดับ 1 002 ก็ลำดับ 2 เรียงกันไป
ถามว่าเจ๊ผมทำไปทำไม เหตุผลคือถ้าเจ้านายดูใบจ๊อบงานจะรู้เลยว่า
มีงานเข้าใหม่มากแค่ไหน งานเก่าค้างอยู่แค่ไหน มีกี่งานที่ทำเสร็จแล้ว
นับใบจ๊อบกันเลยครับ มันเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ
แล้วมันยังมีการทำสีของใบจ๊อบที่ถูก "ตีกลับมาแก้" ด้วยนะครับ เป็นคนละสีกับใบจ๊อบแรก หนีบมาคู่กัน
มันก็จะรู้เลยว่างานเดิมถูกแก้ซ้ำกี่รอบ(เสียเวลาคอด) และแก้ด้วยเหตุผลอะไร (ต้องลงรายละเอียดครับ)
มันจะมองออกเลยทันทีจากหลักฐาน ว่าที่งานทีมเราโหลดเยอะเพราะเออีของเรารับบรีฟมาผิดซ้ำผิดซาก
หรือเพราะทีมเราทำงานผิดเอง
แล้วแผนกไหนสั่งงานเร่งตลอดด่วนตลอด แผนกไหนสั่งงานผิดตลอดแก้ตลอด(เพราะมันมีรหัสอยู่หน้าจ๊อบไงครับ)
และถ้าใบจ๊อบเรามีเยอะแล้ว แต่ทีมอื่นมีน้อย งานใหม่ก็จะถูกกระจายไปที่ทีมอื่นแทนครับ
ถ้าทำระบบที่ชัดเจนตรวจสอบได้แบบนี้ มันจะป้องกันการโหลดงาน ป้องกันแก้งานซ้ำซาก ป้องกันการโดนเจ้านายตำหนิว่าไม่เห็นงานเยอะอะไรเลยครับ
ไม่รู้ว่าจะช่วยคุณจขกท.ได้ไหมนะครับ
หัวหน้าผมเป็นคนริเริ่มทำ Job order ให้บริษัทเลยครับ
เพื่อป้องกันลูกน้องงานโหลดนี่แหละ
คือให้ทั้งบริษัทจะมาให้ทีมเจ๊ทำงาน ต้องลงรายละเอียดงานในใบจ๊อบก่อนครับ
ว่าคืองานอะไร จากใคร ต้องเสร็จเมื่อไหร่ ถ้าขอเร่งพิเศษก็ต้องติ๊กมาในใบจ๊อบครับ
แล้วส่งมาให้เจ๊ เจ๊ก็จะบริหารงานจนเสร็จ
ในใบจ๊อบจะมีรหัสประจำงานชิ้นนั้นเลยครับ
งานแผนกไหนก็มีรหัสตัวหน้าของแผนกนั้น ตามด้วยรหัสลูกค้าเจ้าของงาน และตามด้วยประเภทงาน และตามด้วยหมายเลขเรียงตามลำดับ
เช่น แผนกการตลาดก็ MKT แผนกผลิตหนัง/วิทยุก็ PD ลูกค้าคอลเกต ลูกค้าวอลโว่ ก็รหัสย่อของลูกค้า
แล้ว 001 คือลำดับ 1 002 ก็ลำดับ 2 เรียงกันไป
ถามว่าเจ๊ผมทำไปทำไม เหตุผลคือถ้าเจ้านายดูใบจ๊อบงานจะรู้เลยว่า
มีงานเข้าใหม่มากแค่ไหน งานเก่าค้างอยู่แค่ไหน มีกี่งานที่ทำเสร็จแล้ว
นับใบจ๊อบกันเลยครับ มันเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ
แล้วมันยังมีการทำสีของใบจ๊อบที่ถูก "ตีกลับมาแก้" ด้วยนะครับ เป็นคนละสีกับใบจ๊อบแรก หนีบมาคู่กัน
มันก็จะรู้เลยว่างานเดิมถูกแก้ซ้ำกี่รอบ(เสียเวลาคอด) และแก้ด้วยเหตุผลอะไร (ต้องลงรายละเอียดครับ)
มันจะมองออกเลยทันทีจากหลักฐาน ว่าที่งานทีมเราโหลดเยอะเพราะเออีของเรารับบรีฟมาผิดซ้ำผิดซาก
หรือเพราะทีมเราทำงานผิดเอง
แล้วแผนกไหนสั่งงานเร่งตลอดด่วนตลอด แผนกไหนสั่งงานผิดตลอดแก้ตลอด(เพราะมันมีรหัสอยู่หน้าจ๊อบไงครับ)
และถ้าใบจ๊อบเรามีเยอะแล้ว แต่ทีมอื่นมีน้อย งานใหม่ก็จะถูกกระจายไปที่ทีมอื่นแทนครับ
ถ้าทำระบบที่ชัดเจนตรวจสอบได้แบบนี้ มันจะป้องกันการโหลดงาน ป้องกันแก้งานซ้ำซาก ป้องกันการโดนเจ้านายตำหนิว่าไม่เห็นงานเยอะอะไรเลยครับ
ไม่รู้ว่าจะช่วยคุณจขกท.ได้ไหมนะครับ
แสดงความคิดเห็น
หัวหน้าทีม บริหารคนยังไงดี ถ้าเจองานเยอะๆ และกดดัน
บริษัทรับงานมา ในแต่ละ project จะใช้ 3 ทีมในการทำงาน โดยที่ผมมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีม 1 ทีม มีลูกน้องประมาณ 3 คน
งานช่วงแรกๆ ก็ ok เสร็จตามเป้าหมาย เร็วขึ้นได้ ถ้าจำเป็น ถ้าฝ่าย managemant ขอร้องมา ผมก็จะเร่งให้
แต่พองานออกมาได้ดีและใช้เวลาน้อยลง บริษัทก็รับงานเยอะขึ้น จนงานกองขึ้นเรื่อยๆ
เริ่มมีการกลับดึก จากงานที่แบ่งชัดเจน กำหนดเวลาได้ เริ่มปิดไม่ได้ งานที่ปิดก็คุณภาพไม่ค่อยดี
ต้องมีการแก้ วนต่อไปเรื่อยๆ
ผมบอกทางเจ้าของไป เจ้าของก็จะเพิ่มคนให้ แต่ก็เพิ่มคนก็เพิ่มงาน แถมคนที่เพิ่มมาก็ยังไม่สามารถปรับตัวเข้ากับทีมได้ดี
งานยิ่งช้า ยิ่งแก้ เข้าไปใหญ่
ลูกน้องในทีม เริ่มมีการ บ่นว่า งานหนัก อยากออกบ้าง (ตัวผมยังบ่นว่างานหนักเลย) ไม่ไหวบ้าง
บ้างคนมีธุระก็กลับเลย งานไม่เรียบร้อยช่างมัน เริ่มไม่เหมือนแต่ก่อน จะทำจนกว่าจะปิดงานได้
บรรยากาศการทำงานยังสนุกนะครับ แต่ความเหนื่อยล้ามันสะสมมาก
ขอถามความคิดเห็นหน่อยว่าจะทำยังไงดี หรือ จะมีหลักการแก้ปัญหาตรงนี้ยังไงดี