เมื่อชีวิตมาถึงจุดมืดมิด...อยู่ดีๆมีแสงสว่างจากจุดที่คาดไม่ถึง

สวัสดีคับ....กระทู้นี้อาจจะเวิ่นเว้อ แต่มันเป็นปัญหาที่คิดไม่ตกฝากพี่ๆ เพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์ช่วยชี้แนะหน่อยนะคับ

       เริ่มเรื่องเลยละกัน...ผมเคยทำธุรกิจมาก่อนเริ่มจากจุดเล็กๆ แล้วทำไปทำมาธุรกิจก็ใหญ่ขึ้นจนตัวเองตั้งตัวไม่ทันหรือพูดง่ายๆว่าหลงตัวเองไปชั่วขณะ กิจการต่างๆเหมือนจะไปได้ดี แล้วก็มาเกิดจุดพลิกผลันคือบริหารเงิน และงานที่มีไม่เป็น คบคนไม่ถูก ทำให้ใช้เงินที่หามาได้ไปแบบไร้ประโยชน์ จากเงินที่บวกกลายเป็นส่วนที่ติดลบ เริ่มมีหนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง จากหนี้รายเดือน กลายมาเป็นหนี้รายวัน จุดจบเริ่มมาถึงกิจการแย่ลงเรื่อยๆ งานที่รับมาเริ่มทำไม่ทันเพราะเงินทุนไปจ่ายรายวันหมด ชักหน้าไม่ถึงหลัง หนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายกิจการก็ต้องปิดตัวลง
       ผมกลายมาเป็นคนเร่ร่อน...คับผมใช้คำว่า"เป็นคนเร่ร่อน" คือไม่สามารถอาศัยอยู่ที่บ้านเกิดได้เนื่องจากปัญหาหนี้รายวัน มาอาศัยอยู่ต่างจังหวัดไปสมัครงานเป็นลูกจ้างรายวัน ข้าวปลานี่ไม่ต้องพูดถึงแทบไม่พอกินคับ มีอยู่ครั้งนึงมีเงินติดตัวอยู่ 100 บาทแต่นมลูกชายคนเล็กหมด(ผมมีลูกชาย 2 คน) ซึ่งเงินที่มีไม่พอซื้อนมแน่ๆ ผมเลยตัดสินใจไปเข้าบ่อนพนันได้เงินมา 180 บาท เลยพอซื้อนมและไก่ทอด 2 ไม้ วันนั้นเป็นอะไรที่ดีใจสุดๆละคับ
       ผมเริ่มทำงานมาได้ซักพักเริ่มสามารถเบิกเงินกับเจ้านายได้การกินอยู่เลยค่อยๆ ขยับขึ้นมีพอกินคับ แล้วไม่นานก็ได้โอกาสใหม่ได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ มีบ้านให้พัก ทีนี้ลูกกับภรรยาก็สบายขึ้นคือไม่ต้องเร่ร่อนแต่เงินยังพอแค่ค่ากินอยู่ จากนั้นผมก็พยายามทำงานและหางานที่สามารถจะขยับตัวเองขึ้นไปได้อีกเพื่อให้ภรรยาและลูกๆพอกินพอใช้ ก็มีโอกาสได้ทำงานบริษัท แต่การออกจากที่ทำงานเก่าที่พักก็ต้องเปลี่ยนคือจากอยู่ฟรีก็ต้องไปเช่าซึ่งผมคิดว่าการได้ทำบริษัทใหญ่ๆ น่าจะเป็นโอกาสที่ดีกว่าที่เราจะสามารถเติบโตได้เลยตัดสินใจออกมาทำงานบริษัท ทีนี้ก็ไม่แน่ใจว่าคิดผิดหรือคิดถูกเพราะเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นแต่ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้น คือพอเงินเดือนเยอะขึ้นผมก็เริ่มทยอยส่งเงินไปจ่ายดอกที่บ้าน(ดอกอย่างเดียวไม่หักต้น)และมีค่าเช่าเพิ่มมาอีก ไปๆมาๆ เหมือนจะชักหน้าไม่ถึงหลังอีกแล้ว ถามว่าทำไมต้องส่งดอก เพราะสงสารแม่ยายคับแกต้องกู้เงินมาช่วยผมตอนธุรกิจผมแย่ ถามอีกว่าทำไมญาติพี่น้องผมไม่ช่วย ตอบครับผมเอาเงินญาติพี่น้องมาจ่ายรายวันเยอะมากๆ มากจนไม่กล้าคุยกับใครเลยก็ว่าได้ ซึ่งเมื่อเป็นแบบนี้ผมก็ทำท่าว่าจะกลับไปแย่เหมือนเดิมทั้งที่หน้าที่การงานเริ่มดีขึ้น เลยพยายามจะหางานใหม่ที่ขยับตัวเองขึ้นไปอีก
     แล้วจุดเปลี่ยนก็มาครับ วันนี้!! สดๆ ร้อนๆ เลย เพื่อนผมคนนึง คบกันมาเป็น 10 ปี (แต่ก่อนผมเพื่อนเยอะมากครับ ใครมีปัญหาอะไรช่วยหมด เหมือนโฆษณาที่กำลังมาตอนนี้อ่ะคับ ผมเหมือนคนพ่อเด๊ะเลย....และคงจะมีคนคิดเหมือนผมหลายๆคนว่า "ตอนที่พ่อเมิงจะตาย เพื่อนพ่อเมิงไปไหนหมด" อะไรประมาณนั้น) เพื่อนคนนี้คบกันมานานคับ กินเหล้า เที่ยวเตร่ หลับนอนด้วยกัน ตอนผมทำธุรกิจเค้าก็เป็นพนักงานบ้าง ตกงานบ้างตามประสาวัยรุ่นน่ะคับ มีอะไรก็ช่วยกัน พอมาตอนผมแย่ ผมก็ไม่ได้ติดต่อกับเค้าเลย แล้วมาเจออีกทีปรากฏว่าเค้าได้ทำธุรกิจมีกิจการที่ดีคับ เพื่อนคนนี้แปลกอย่างเวลาผมยืมตังมันนะ....บอกไม่มี..ไม่พอตลอด...แต่วันนี้มันบอกกับผมว่า ที่ไม่ให้ยืมน่ะเพราะยืมไปก็หมดไม่เกิดอะไรขึ้นมาเป็นหนี้กันเมิงก็ไม่ใช้กรูอยู่ดี 555+ ปกติยืมตังกันไม่ค่อยคืนกันคับ เอางี้เมิงไปคิดมาเมิงอยากทำอะไรกรูลงทุนให้กำไรมาแบ่งกันเอาแบบนี้ดีกว่า ผมนี่อึ้งสิคับ ตายหร่าาาล่ะตั้งแต่กิจการล้มมาคิดแต่ว่าจะทำงานอะไรให้ได้เงิน จะสมัครงานที่ไหน จะทำอะไรดี พอมีเพื่อนมาพูดแบบนี้ไปไม่เป็นคับ นั่นล่ะครับประเด็นที่ผมเวิ่นเว้อมาคือผมไม่รู้ว่าผมจะทำอะไรดี จะไปแบบไหนดี รบกวนพี่ๆ เพื่อนๆ ช่วยชี้แนะทีครับ
   1.ผมทำงานออกแบบ
   2.ผมชอบค้าขาย (ค้าขายทางเน็ตเป็นรายได้เสริมอยู่)
   3.ผมจะทำอะไรใหม่ดี
   4.ผมต้องการทำธุรกิจที่สามารถตั้งตัวได้
เนื้อเรื่องข้างต้นอาจจะดูเวิ่นเว้อ แต่มันเป็นเรื่องจริงล้วนๆ เงินทุนที่เพื่อนผมจะลงให้หลักหมื่นคับ แต่มันซับพอร์ทต่อเนื่องได้...ซึ่งนั่นคือโจทย์เริ่มต้นที่ต้องคิดก็เลยอยากสอบถาม พี่ๆ เพื่อนๆ ที่มีประสบการณ์การลงทุนจากเงินหลักหมื่นต้นๆ ว่ามีอะไรพอเสนอแนะได้บ้าง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่