ออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ใช่ติ่งใครทั้งนั้น ตอนนี้หลักฐานก็ชัดแล้วว่าปันปันไม่ได้พิมพ์ประโยคนั้น แต่ดันเป็นประโยคที่โดนตัดต่อแล้วแชร์กันจนเป็นเรื่องราว แถมโดนด่าเยอะมากกกกก มากกว่าน้องผู้ชายที่เต้นในค

ที่บริษัทของผมจะมีการให้พนักงานคิดโครงการการปรับปรุงการทำงานของแต่ละคน ในทุกระดับการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดระยะการทำงาน หรือลดค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อวานหัวหน้า

สมมติ วันนึงแฟนเดินมาบอก เราคบกันมานานแล้วนะ อย่างมีอะไรเป็นสิ่งเป็นอัน แบบจะให้เรากู้ร่วม สร้างมันไปด้วยกัน เราอยู่ของเราดีๆ อยากได้ ก็เก็บงินซื้อเองไปสิ เราสร้างของเราเองมาตั้งเยอะ ก่อนจะมาเจอคุณ หา

ออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้เป็นแอนตี้แฟน เป็นโค้ชคีย์บอร์ดหรือเป็นคนที่อยากให้ทีมงานโดนด่า แต่สงสัยจริงๆว่าทำไมการทำงานของสื่อถึงแทบจะไม่มีการวิพากวิจารณ์ฟอร์มโค้ชและผู้เล่นเลย เอาตรงๆคือสื่อเลือกแต่จะอวยก

เห็นปันปันกับทัอปแท้ปออกมาขอโทษแล้ว และปันปันบอกว่าไม่ได้พูดว่า ดึงสติกันหน่อยน่าา อันนี้เราว่าก็น่าคิดนะคะ เพราะถ้าปันปันพิมพ์จริง ทำไมมีรูปแค่รูปเดียว มันก็น่าจะมีคนเห็นและแคปไว้มาลงบ้าง แต่นี่เร

ช่วงอยู่ม.ต้น   ตอนนั้นมีกลุ่มเพื่อนสนิทกัน4คน  แล้วตอนนั้นเป็นคาบว่าง  กลุ่มผญทั้งห้องก็มานั่งเล่นคุยกัน  พอมานึกๆได้ตอนนี้  ทำไมเรายังฝังใจกับคำนี้อยู่  คือเพื่อนที่สนิ

ผมนั่งอ่านดราม่านี้มาหลายวันแล้วครับ และโดยส่วนตัวผมเองไม่เคยติดตามผลงานน้องคนนี้ด้วย เพราะมัวแต่นั่งฟังสุนทราภรณ์อยู่ ซึ่งข้อความที่น้องเขาทวีตเนี่ย ผมว่า ใครๆอ่านก็ต้องรู้ว่ามันเป็นอาการ "หัวร

เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจากผมเเละเเฟนที่คบหากันทางออนไลน์ครับ ซึ่งเราคบกันมาได้ซักพักหนึ่งเเล้วเเล้วเคยผมเคยเดินทางไกลมาหาเเฟนเเล้วครั้งหนึ่ง เเล้วประมาณวันที่ 20 เดือนนี้ผมเองก็กำลังจะขึ้นเครื่องไปหา ผ

คือเรื่องมันเกิดขึ้นมาไม่นานนี้ครับคือเพื่อนเก่าของแฟนผมเขาทักมาหาแฟนผม ผมงั้นผมขอใช้นานสมุมตินะครับคือนายAคือเขาทักมาหาแฟนผมแล้วเขาก็คุยกันครับแล้วมันมีประโยคสนทนานึกมันทำให้ผมรู้ไม่ชอบครับคือเขาบอกว