เพิ่งมีโอกาสได้คุยกับจิตแพทย์ค่ะ
จากเดิมที่คิดว่าตัวเองรับมือและปล่อยวางกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้แล้ว
แต่พอมาคุยกับจิตแพทย์ กลับร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าหมอ น่าอายจริง ๆ
เลยไม่รู้ว่าการได้คุยกับจิตแพทย์นี่ เป็นการแก้ปัญหาหรือสะกิดให้เราคิดถึงปัญหากันแน่
ปกติเราก็เป็นคนอ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว ฟังเรื่องเศร้า ๆ สะเทือนใจของคนอื่นก็น้ำตาไหล
(แค่ฟังเพลงสรรพเสริญพระบารมีในโรงหนัง ก็น้ำตาซึมแล้ว)
เลยแปลกใจว่าจิตแพทย์ที่ฟังเรื่องราวหดหู่ของคนไข้
ทำยังไงให้ไม่มีน้ำตาเลยคะ
น้อง ๆ ที่เรียนสาขานี้ เคยมีอารมณ์ร่วม เช่น หดหู่ สงสารไปกับคนไข้บ้างมั้ยคะ
คนที่เรียนจิตแพทย์นี่ ต้องจิตใจเข้มแข็งมาก ๆ เลยใช่มั้ยคะ
จากเดิมที่คิดว่าตัวเองรับมือและปล่อยวางกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้แล้ว
แต่พอมาคุยกับจิตแพทย์ กลับร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าหมอ น่าอายจริง ๆ
เลยไม่รู้ว่าการได้คุยกับจิตแพทย์นี่ เป็นการแก้ปัญหาหรือสะกิดให้เราคิดถึงปัญหากันแน่
ปกติเราก็เป็นคนอ่อนไหวง่ายอยู่แล้ว ฟังเรื่องเศร้า ๆ สะเทือนใจของคนอื่นก็น้ำตาไหล
(แค่ฟังเพลงสรรพเสริญพระบารมีในโรงหนัง ก็น้ำตาซึมแล้ว)
เลยแปลกใจว่าจิตแพทย์ที่ฟังเรื่องราวหดหู่ของคนไข้
ทำยังไงให้ไม่มีน้ำตาเลยคะ
น้อง ๆ ที่เรียนสาขานี้ เคยมีอารมณ์ร่วม เช่น หดหู่ สงสารไปกับคนไข้บ้างมั้ยคะ