สวัสดีครับทุกท่าน เนื่องในวันนี้เป็นวันเกิดของผม
เป็นวันที่พระเจ้าได้ให้ผมเกิดมา ได้ให้ชีวิตและสันติสุขแก่ผม
ผมจึงอยากแบ่งปันสิ่งดีๆ เล็กๆน้อยๆ โดยการหนุนใจท่านทั้งหลายในการดำเนินชีวิต
ข้อพระคัมภีร์หลายๆข้อ ท่านได้เคยอ่านมาแล้วก็ถือเป็นการทบทวนไปในตัว
และผมขอบคุณพระบิดาพ่อแห่งฟ้าสวรรค์
ที่ท่านทั้งหลาย ได้เปิดตาเปิดใจรับเอาคำหนุนใจเล็กน้อยอันนี้
ขอบพระคุณพระบิดาเจ้าที่สิ่งใดกล่าวห้ามในโลก สิ่งนั้นก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์
และสิ่งใดอนุญาตในโลก สิ่งนั้นจะกล่าวอนุญาตในสวรรค์ด้วย
ขอบพระคุณที่พระบิดาเจ้าที่ได้มอบสันติสุข ได้อวยพรท่าน และให้ในสิ่งที่ท่านต้องการและอธิษฐานขอแล้ว
พ่อที่เป็นคนบาปยังให้สิ่งดีๆกับบุตรของตน พ่อของท่านบนสวรรค์จะให้ท่านมากกว่านั้น
ขอบคุณพระบิดาที่ได้ปกป้องทุกท่านจากปัญหาต่างๆ
จากการล่อลวงของวิญญาณในน่านฟ้า จากอันตรายทั้งปวง
ปัญหาต่างๆ การล่อลวง ความอธรรม อันตรายทั้งปวง จึงไม่สามารถเข้ามากล้ำกลาย คือไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
ขอบคุณพระบิดาเจ้าที่ส่งทูตสวรรค์นับพันนับหมื่นตั้งค่ายห้อมล้อมดูแลท่านทั้งหลายและครอบครัว
ขอบคุณพระบิดาที่ไม่ได้มอบวิญญาณแห่งความกลัวให้แก่ท่านทั้งหลาย
ดังนั้นท่านทั้งหลายจึงมีความกล้าในการก้าวไปข้างหน้า
ขอบคุณที่ด้วยรอยแผลเฆี่ยนของพระคริสต์ท่านทั้งหลายจึงได้หายจากโรคภัยต่างๆ
ทั้งยังมีใจรื่นเรินยินดี เป็นยาดีแก่ร่างกายท่านทั้งหลาย โรคภัยจึงไม่อาจกล้ำกลายอีกต่อไป
ขอบคุณที่พระองค์ได้อวยพรให้ท่านทั้งหลายหายจากการเหนื่อยล้าในการทำงานต่างๆแล้ว
ขอบคุณที่ชีวิตของพระองค์อยู่ในท่านทั้งหลาย
เพราะพระองค์เป็นความรักและทุกสิ่ง ท่านทั้งหลายจึงมีความรักให้แก่กัน
ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า สรรพสิ่งล้วนมาจากพระองค์ เป็นของพระองค์
ขอสถาปณาถ้อยคำนี้ไปยังโลกวิญญาณในนามพระเยซูคริสต์
ต่อมาเป็น 5ข้อเล็กๆน้อยๆครับ คือ
1. ลืมเรื่องเก่าๆที่ผ่านพ้นมา ให้มองไปที่พระเจ้า
ฟิลิปปี 3:13
ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว
แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย
และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า (มองไปที่พระเจ้าผู้เดียว)
13 Brothers, I count not myself to have apprehended:
but this one thing I do, forgetting those things which are behind,
and reaching forth to those things which are before,
2. อย่าคิดถึงวันพรุ่งนี้ พระเจ้าทรงอยู่ด้วยตลอดเวลา
มัทธิว 6:32-34
พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงทราบแล้วว่า
ท่านต้องการสิ่งทั้งปวง เหตุฉะนั้น อย่ากระวนกระวายถึงพรุ่งนี้
เพราะว่าพรุ่งนี้คงมีการกระวนกระวายสำหรับพรุ่งนี้เอง แต่ละวันก็มีทุกข์พออยู่แล้ว
Therefore take no thought, for your heavenly Father knows
that you have need of all these things.Take therefore no thought for the morrow:
for the morrow shall take thought for the things of itself.
Sufficient to the day is the evil thereof.
3. พระเจ้าไม่มีวันทอดทิ้งท่าน
ฮีบรู 13:5
ท่านจงอย่าเป็นคนเห็นแก่เงิน จงพอใจในสิ่งที่ท่านมีอยู่
เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสว่า เราจะไม่ละท่านหรือทอดทิ้งท่านเลย
I will never leave you, nor forsake you.
4. ดำเนินชีวิตให้เป็นไป ตามผลแห่งการตายของพระองค์
ฟิลิปปี 3:10-16
10 ข้าพเจ้าต้องการจะรู้จักพระองค์ และได้รับประสบการณ์ในฤทธิ์เดช
เนื่องในการที่พระองค์ทรงคืนพระชนม์นั้น และร่วมทุกข์กับพระองค์
คือ ยอมรับผลจากการตายของพระคริสต์ คือตายในพระองค์
11 ถ้าเป็นไปได้ข้าพเจ้าก็จะได้เป็นขึ้นมาจากความตายด้วย
12 มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้แล้ว หรือสำเร็จแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป
เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฉวยเอาไว้เป็นของตน อย่างที่พระเยซูคริสต์
ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้เป็นของพระองค์แล้ว
13 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว
แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย
และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า
14 ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล
ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบนให้เราไปรับ
15 เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วจึงคิดอย่างนั้น และถ้าท่านคิดอย่างอื่น
พระเจ้าก็จะทรงโปรดให้เรื่องนั้นประจักษ์แก่ท่านด้วย
16 แต่เราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตรงตามนั้นต่อไป
10 That I may know him, and the power of his resurrection,
and the fellowship of his sufferings, being made conformable to his death;
11 If by any means I might attain to the resurrection of the dead.
12 Not as though I had already attained, either were already perfect:
but I follow after, if that I may apprehend that for which also
I am apprehended of Christ Jesus.
13 Brothers, I count not myself to have apprehended:
but this one thing I do, forgetting those things which are behind,
and reaching forth to those things which are before,
14 I press toward the mark for the prize of the high calling of God in Christ Jesus.
15 Let us therefore, as many as be perfect, be thus minded:
and if in anything you be otherwise minded, God shall reveal even this to you.
16 Nevertheless, whereto we have already attained,
let us walk by the same rule, let us mind the same thing
5. ให้พระวิญญาณ ทำการควบคุมเรา
กาลาเทีย 5:24-25
24 ผู้ที่อยู่ฝ่ายพระเยซูคริสต์ได้เอาเนื้อหนังกับความอยาก
และตัณหาของเนื้อหนังตรึงไว้ที่กางเขนแล้ว
25 ถ้าเรามีชีวิตอยู่โดยพระวิญญาณ ก็จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณด้วย
26 เราอย่าถือตัว อย่ายั่วโทสะกัน และอย่าอิจฉาริษยากันเลย
การแปลใหม่ ใน Twenty Bible บอกว่า เพราะชีวิตเราขึ้นอยู่กับพระวิญญาณ
เราจึงให้พระวิญญาณควบคุมเราเพื่อที่เราจะไม่อิจฉากันไม่ทะเลาะกัน
Twenty
24 And those who belong to Jesus, the Christ,
have already crucified their earthly nature, with its passions and its cravings.
25 Since our Life is due to the Spirit, let us rule our conduct also by the Spirit.
26 Do not let us grow vain, and provoke or envy one another.
[หนุนใจ คริสเตียน] 5 ข้อหนุนใจชีวิตคริสตชน ในวันเกิดเจ้าของกระทู้
เป็นวันที่พระเจ้าได้ให้ผมเกิดมา ได้ให้ชีวิตและสันติสุขแก่ผม
ผมจึงอยากแบ่งปันสิ่งดีๆ เล็กๆน้อยๆ โดยการหนุนใจท่านทั้งหลายในการดำเนินชีวิต
ข้อพระคัมภีร์หลายๆข้อ ท่านได้เคยอ่านมาแล้วก็ถือเป็นการทบทวนไปในตัว
และผมขอบคุณพระบิดาพ่อแห่งฟ้าสวรรค์
ที่ท่านทั้งหลาย ได้เปิดตาเปิดใจรับเอาคำหนุนใจเล็กน้อยอันนี้
ขอบพระคุณพระบิดาเจ้าที่สิ่งใดกล่าวห้ามในโลก สิ่งนั้นก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์
และสิ่งใดอนุญาตในโลก สิ่งนั้นจะกล่าวอนุญาตในสวรรค์ด้วย
ขอบพระคุณที่พระบิดาเจ้าที่ได้มอบสันติสุข ได้อวยพรท่าน และให้ในสิ่งที่ท่านต้องการและอธิษฐานขอแล้ว
พ่อที่เป็นคนบาปยังให้สิ่งดีๆกับบุตรของตน พ่อของท่านบนสวรรค์จะให้ท่านมากกว่านั้น
ขอบคุณพระบิดาที่ได้ปกป้องทุกท่านจากปัญหาต่างๆ
จากการล่อลวงของวิญญาณในน่านฟ้า จากอันตรายทั้งปวง
ปัญหาต่างๆ การล่อลวง ความอธรรม อันตรายทั้งปวง จึงไม่สามารถเข้ามากล้ำกลาย คือไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
ขอบคุณพระบิดาเจ้าที่ส่งทูตสวรรค์นับพันนับหมื่นตั้งค่ายห้อมล้อมดูแลท่านทั้งหลายและครอบครัว
ขอบคุณพระบิดาที่ไม่ได้มอบวิญญาณแห่งความกลัวให้แก่ท่านทั้งหลาย
ดังนั้นท่านทั้งหลายจึงมีความกล้าในการก้าวไปข้างหน้า
ขอบคุณที่ด้วยรอยแผลเฆี่ยนของพระคริสต์ท่านทั้งหลายจึงได้หายจากโรคภัยต่างๆ
ทั้งยังมีใจรื่นเรินยินดี เป็นยาดีแก่ร่างกายท่านทั้งหลาย โรคภัยจึงไม่อาจกล้ำกลายอีกต่อไป
ขอบคุณที่พระองค์ได้อวยพรให้ท่านทั้งหลายหายจากการเหนื่อยล้าในการทำงานต่างๆแล้ว
ขอบคุณที่ชีวิตของพระองค์อยู่ในท่านทั้งหลาย
เพราะพระองค์เป็นความรักและทุกสิ่ง ท่านทั้งหลายจึงมีความรักให้แก่กัน
ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า สรรพสิ่งล้วนมาจากพระองค์ เป็นของพระองค์
ขอสถาปณาถ้อยคำนี้ไปยังโลกวิญญาณในนามพระเยซูคริสต์
ต่อมาเป็น 5ข้อเล็กๆน้อยๆครับ คือ
1. ลืมเรื่องเก่าๆที่ผ่านพ้นมา ให้มองไปที่พระเจ้า
ฟิลิปปี 3:13
ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว
แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย
และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า (มองไปที่พระเจ้าผู้เดียว)
13 Brothers, I count not myself to have apprehended:
but this one thing I do, forgetting those things which are behind,
and reaching forth to those things which are before,
2. อย่าคิดถึงวันพรุ่งนี้ พระเจ้าทรงอยู่ด้วยตลอดเวลา
มัทธิว 6:32-34
พระบิดาของท่านผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงทราบแล้วว่า
ท่านต้องการสิ่งทั้งปวง เหตุฉะนั้น อย่ากระวนกระวายถึงพรุ่งนี้
เพราะว่าพรุ่งนี้คงมีการกระวนกระวายสำหรับพรุ่งนี้เอง แต่ละวันก็มีทุกข์พออยู่แล้ว
Therefore take no thought, for your heavenly Father knows
that you have need of all these things.Take therefore no thought for the morrow:
for the morrow shall take thought for the things of itself.
Sufficient to the day is the evil thereof.
3. พระเจ้าไม่มีวันทอดทิ้งท่าน
ฮีบรู 13:5
ท่านจงอย่าเป็นคนเห็นแก่เงิน จงพอใจในสิ่งที่ท่านมีอยู่
เพราะว่าพระองค์ได้ตรัสว่า เราจะไม่ละท่านหรือทอดทิ้งท่านเลย
I will never leave you, nor forsake you.
4. ดำเนินชีวิตให้เป็นไป ตามผลแห่งการตายของพระองค์
ฟิลิปปี 3:10-16
10 ข้าพเจ้าต้องการจะรู้จักพระองค์ และได้รับประสบการณ์ในฤทธิ์เดช
เนื่องในการที่พระองค์ทรงคืนพระชนม์นั้น และร่วมทุกข์กับพระองค์
คือ ยอมรับผลจากการตายของพระคริสต์ คือตายในพระองค์
11 ถ้าเป็นไปได้ข้าพเจ้าก็จะได้เป็นขึ้นมาจากความตายด้วย
12 มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้แล้ว หรือสำเร็จแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป
เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฉวยเอาไว้เป็นของตน อย่างที่พระเยซูคริสต์
ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้เป็นของพระองค์แล้ว
13 ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว
แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย
และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า
14 ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล
ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบนให้เราไปรับ
15 เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วจึงคิดอย่างนั้น และถ้าท่านคิดอย่างอื่น
พระเจ้าก็จะทรงโปรดให้เรื่องนั้นประจักษ์แก่ท่านด้วย
16 แต่เราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตรงตามนั้นต่อไป
10 That I may know him, and the power of his resurrection,
and the fellowship of his sufferings, being made conformable to his death;
11 If by any means I might attain to the resurrection of the dead.
12 Not as though I had already attained, either were already perfect:
but I follow after, if that I may apprehend that for which also
I am apprehended of Christ Jesus.
13 Brothers, I count not myself to have apprehended:
but this one thing I do, forgetting those things which are behind,
and reaching forth to those things which are before,
14 I press toward the mark for the prize of the high calling of God in Christ Jesus.
15 Let us therefore, as many as be perfect, be thus minded:
and if in anything you be otherwise minded, God shall reveal even this to you.
16 Nevertheless, whereto we have already attained,
let us walk by the same rule, let us mind the same thing
5. ให้พระวิญญาณ ทำการควบคุมเรา
กาลาเทีย 5:24-25
24 ผู้ที่อยู่ฝ่ายพระเยซูคริสต์ได้เอาเนื้อหนังกับความอยาก
และตัณหาของเนื้อหนังตรึงไว้ที่กางเขนแล้ว
25 ถ้าเรามีชีวิตอยู่โดยพระวิญญาณ ก็จงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณด้วย
26 เราอย่าถือตัว อย่ายั่วโทสะกัน และอย่าอิจฉาริษยากันเลย
การแปลใหม่ ใน Twenty Bible บอกว่า เพราะชีวิตเราขึ้นอยู่กับพระวิญญาณ
เราจึงให้พระวิญญาณควบคุมเราเพื่อที่เราจะไม่อิจฉากันไม่ทะเลาะกัน
Twenty
24 And those who belong to Jesus, the Christ,
have already crucified their earthly nature, with its passions and its cravings.
25 Since our Life is due to the Spirit, let us rule our conduct also by the Spirit.
26 Do not let us grow vain, and provoke or envy one another.