3 วันอันมืดมิด

วันนี้ผมขอเสนออีกเวอร์ชั่นหนึ่งเป็นของท่านนักบุญคุณพ่อปีโอ แห่งปีเอเตรชีนา ซึ่งได้รับการสถาปนา เป็นนักบุญเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2002 ผมเองได้นำคณะทัวร์ชาวคาทอลิกไทยไปร่วมพิธีนี้ด้วย ชาวคาทอลิกทั่วโลกรู้จักท่านดีขณะยังมีชีวิต และกล่าวกันว่า ท่านเป็นนักบุญตั้งแต่ยังมีชีวิต (โดยที่วาติกันยังไม่ได้แต่งตั้งให้เป็นนักบุญอย่างเป็นทางการ) ท่านเสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 กันยายน 1968 หลังจากนั้นเพียง 34 ปี ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นนักบุญ

เกี่ยวกับ 3 วันอันมืดมิดที่ขอนำเสนอนี้ เป็นนิมิตที่ท่านนักบุญคุณพ่อปีโอได้รับขณะยังเป็นพระสงฆ์ ทางภาคใต้ของอิตาลีเป็นการเปิดเผย (revelation) จากพระเยซูเจ้าให้แก่คุณพ่อปีโอ พระสงฆ์ชาวอิตาลี ผู้ได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ (หมายถึงรอยตะปูที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้าและสีข้าง เช่นเดียวกับที่พระเยซูเจ้าได้รับตอนถูกตรึงบนไม้กางเขน) ท่านเกิดที่เมือง Pietrelcina ภาคใต้ของอิตาลีเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 1887 และได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ฟรังซิสกัน เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 1910 เมื่อวันที่ 20 กันยายน 1918 ท่านหายตัวไป เพื่อนๆ ในอารามต่างตามหากันจ้าละหวั่น ที่สุดไปพบท่านอยู่ในวัด นอนจมกองเลือด ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และสีข้างมีรอยแผลเลือดไหลโชก ซึ่งมีกลิ่นหอมประหลาด นำความงุนงงแก่คุณหมอ Amico Bignam ยิ่งนัก ท่านได้รับรอยแผลศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับเซนต์ฟรันซิส แห่งอัสซีซีและเซนต์คัทเธอรีน แห่งซีเอนา ท่านสิ้นชีวิตเมื่อวันที่ 23 กันยายน 1968


ในปี 1962 โป๊ปจอห์นพอลที่ 2 ขณะยังดำรงตำแหน่งเป็นพระอัครสังฆราชแห่งคราโคฟได้เขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงคุณพ่อปีโอ ขอคำภาวนาเป็นพิเศษสำหรับสตรีคนหนึ่ง ชื่อวานดา โปลาตาสกา เธอเป็นจิตแพทย์เป็นมารดาของบุตร 4 คน กำลังจะตายด้วยโรคมะเร็ง เล่ากันว่า คุณพ่อปีโอได้พูดกับคนใกล้ชิดว่า "รายนี้ปฏิเสธไม่ได้" 2-3 วันก่อนการผ่าตัด คณะแพทย์พบว่า วานดาได้หายจากโรคมะเร็งอย่างปาฏิหาริย์ ปัจจุบันแพทย์หญิง วานดาทำงานอยู่ที่วาติกัน ทำหน้าที่ให้คำแนะนำแก่คู่สมรส

ต่อไปนี้เป็นคำแปลจดหมายของคุณพ่อปีโอ ที่มีไปถึงคณะกรรมการ Heroldsbach แต่งตั้งโดยวาติกันเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการเผยแสดงที่พระเยซูเจ้าทรงประทานแก่คุณพ่อปีโอ...


คืนวันสิ้นปี 1949 พระเยซูเจ้าตรัสแก่คุณพ่อปีโอ "ลูกรัก เราปรารถนามาเป็นเวลานานแล้ว ที่จะให้ถึงชั่วโมงนี้ เราจะเผยความรักอันยิ่งใหญ่จากหัวใจเราที่มีต่อลูก ความรักที่เรามีต่อมนุษย์ เป็นความรักอันยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้ที่ถวายตนแก่เรา พวกเขาเป็นที่พักพิง และเป็นที่บรรเทาใจเรา ชดเชยแทนคนมากมายที่ขาดความเคารพอย่างไม่น่าให้อภัย ซึ่งเราต้องรับทนในศีลแห่งความรักของเรา (คือ การทุราจารศีล... คนเข้าไปรับศีลมหาสนิททั้งๆที่ยังมีบาปหนักอยู่ พระเยซูเจ้าทรงจำยอมอยู่กับผู้ที่ไม่คู่ควร)"

จงหมั่นสวดภาวนาและทำกิจใช้โทษบาป แนะนำและตักเตือนผู้อื่น ให้ทำเช่นเดียวกัน เพราะเวลามาใกล้แค่เอื้อมแล้ว เราจะมาพบคนที่ไม่ซื่อสัตย์ เพราะพวกเขาไม่ได้เอาใจใส่เวลาแห่งพระหรรษทานของเรา จงสวดภาวนาอย่าได้หยุดหย่อนเพื่อว่า ศัตรูของลูกจะไม่สามารถมาเป็นนายเหนือลูก จงบอกให้ทุกคนเตรียมพร้อมทุกขณะ เพราะว่าการพิพากษาจะมาถึงพวกเขาอย่างฉับพลัน ในเวลาที่พวกเขาไม่คาดคิด จะไม่มีใครหนีรอดได้ เราจะมาพบพวกเขาทุกคนไม่เว้นใคร เราจะปกป้องคนชอบธรรม จงสังเกตุดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาวบนท้องฟ้า เมื่อมันปรากฏอาการผิดแปลกในวงโคจร จงรู้ไว้เถิดว่าวันนั้นอยู่ไม่ไกลแล้ว จงรวมตัวกันเป็นกลุ่มสวดภาวนา แล้วเฝ้าคอยจนกว่าฑูตสวรรค์แห่งการทำลายล้างจะผ่านประตูบ้านของลูกไป จงสวดขอให้วันเหล่านี้สิ้นสุดโดยเร็ว  ลูกที่รัก จงวางใจเถิด เราอยู่กับพวกลูก อาณาจักรของเราจะรุ่งโรจน์ และนามของเราจะได้รับการสรรเสริญจนสุดปลายแผ่นดิน อาณาจักรของเราจะไม่สิ้นสุดเลย

23 มกราคม 1950 "จงสวดภาวนา และทำกิจใช้โทษบาป มีใจร้อนรนในการรับใช้พระเจ้า และทำพลีกรรม ในรูปแบบต่างๆ เช่น งดเหล้า บุหรี่ หรืออดอาหารบางมื้อ พวกลูกกำลังอยู่ห้วงเวลาที่อันตรายอย่างใหญ่หลวง มนุษย์กำลังวิ่งสู่อเวจีอย่างสนุกสนานสำราญใจ ประหนึ่งว่ากำลังไปงานรื่นเริง หรืองานฉลองของพวกปีศาจ....  จงช่วยเราในการช่วยวิญญาณให้รอด บาปของมนุษย์มากเกินมาตรวัดแล้ว วันแห่งการลงโทษอยู่ใกล้แล้ว ใกล้เกินกว่าที่ลูกคาดคิด และโลกกำลังหลับใหลในความปลอดภัยอันจอมปลอม การพิพากษาของพระเจ้าจะกระหน่ำพวกเขาประดุจสายอสุนีบาต คนที่ไม่มีพระ คนชั่วช้าจะถูกทำลายอย่างไร้ความปรานี เช่นเดียวกับชาวเมืองโซโดม และโกโมราห์ในอดีต เราขอบอกกับลูกว่า ไม่มีครั้งใดที่ความชั่วช้าจะมากล้นเท่าบาปของมนุษย์ในยุคนี้"


28 มกราคม 1950 "จงปิดหน้าต่างให้มิดชิด อย่าได้มองออกไปข้างนอก แต่ให้จุดเทียนเสก ซึ่งจะติดได้หลายวัน แล้วสวดสายประคำและอ่านหนังสือบำรุงศรัทธา ให้รับศีลด้วยใจ (ปรารถนา) และหมั่นประกอบกิจแห่งความรักฉันพี่น้อง ซึ่งนำความพอใจแก่เราเป็นอย่างยิ่ง จงกางแขนสวด หรือหมอบราบกับพื้นสวดเพื่อวิญญาณจะได้รอด อย่าออกไปจากบ้าน ให้จัดหาอาหารไว้กับบ้าน พลังแห่งธรรมชาติจะทำเสียงครืนครัน แล้วฝนไฟจะทำให้ผู้คนสั่นสะท้านด้วยความกลัว แต่จงเข้มแข็ง เราจะอยู่กับลูก"

7 กุมภาพันธ์ 1950 "จงดูแลฝูงสัตว์ในวันเหล่านี้ให้ดี เราเป็นผู้สร้างและผู้เลี้ยงสรรพสัตว์เช่นเดียวกับมนุษย์ เราจะให้สัญญาณบางอย่างแก่ลูก ก่อนเหตุการณ์จะเกิด เพื่อลูกจะได้เตรียมอาหารไว้มากพอสำหรับพวกมัน เราจะปกป้องทรัพย์สินและฝูงสัตว์ของผู้ชอบธรรม เพื่อลูกจะได้ใช้ประโยชน์ในคราวจำเป็นต่อไป อย่าให้มีผู้ใดข้ามทุ่งไปไหนเลย แม้เพื่อจะไปเลี้ยงสัตว์ก็ตาม ใครที่ย่างก้าวออกไปจะไม่รอด! จงปิดหน้าต่างให้มิดชิด ผู้ได้รับเลือกสรรจะไม่เห็นพระพิโรธของเรา จงวางใจในเราเถิด เราจะคุ้มครองลูก ความวางใจของลูกบังคับเรา ให้มาช่วยลูก...


เวลาของเราใกล้เข้ามาแล้ว แต่เราจะแสดงพระเมตตา การลงโทษอันเจ็บปวดจะเป็นสักขีพยาน ในวันเหล่านั้นฑูตสวรรค์ของเรา พร้อมที่จะลงดาบแล้ว พวกเขาจะจัดการบดขยี้คนที่ดูหมิ่นเรา และไม่เชื่อในการเผยแสดงของเรา พายุไฟจะกระหน่ำลงมาจากหมู่เมฆและแผ่ปกคลุมทั่วโลก พายุ อากาศวิปริต สายอสุนีบาตและแผ่นดินไหวจะเกิดขึ้นสองวันเต็มๆ ไฟจะตกลงมาดังสายฝน แล้วจะเริ่มเย็นลงๆ ทั้งหมดนี้เพื่อแสดงว่า พระเจ้า คือเจ้าแห่งจักรวาล"

"ใครที่หวังในเรา และเชื่อในคำของเรา ไม่ต้องกลัวสิ่งใดเราจะไม่ทอดทิ้งพวกเขา หรือคนที่อยู่ในสถานะพระหรรษทาน (บุญ) ซึ่งร้องขอความคุ้มครองจากพระมารดาของเรา ก็ไม่ต้องกลัวเช่นกัน"

"จงเตรียมพร้อมเถิด เราจะให้สัญญาณและคำแนะนำแก่ลูกดังนี้ : ในตอนกลางคืนจะหนาวมาก ลมจะพัดแรง ทำเสียงหวีดหวิว หลังจากนั้นจะเกิดเสียงฟ้าผ่า ให้ลูกปิดประตูและหน้าต่าง อย่าได้พูดกับใครนอกบ้าน แต่ให้คุกเข่าลงต่อหน้าไม้กางเขน เป็นทุกข์ถึงบาป และขอความคุ้มครองจากแม่พระ อย่าได้มองอะไรภายนอกขณะเกิดแผ่นดินไหว เพราะนั่นคืออาญาจากฑูตสวรรค์ของพระเจ้า (พระองค์ก็ทรงไม่ต้องการให้พวกเรามองดูพระพิโรธของพระเจ้า  แต่พระพิโรธของพระเจ้าควรจะนำมารำพึงด้วยความยำเกรง)"

"คนที่ไม่ถือตามคำแนะนำนี้จะถูกปลิดชีวิตในทันที ลมจะพาก๊าซพิษมา ซึ่งจะแพร่กระจายไปทั่วโลก ใครที่ทรมาน และตายไปโดยไม่มีบาปติดตัว ก็จะเป็นนักบุญมรณสักขี เขาจะไปอยู่กับเราในสวรรค์"

"ซาตานจะมีชัย แต่ในชั่วเวลา 3 คืน แผ่นดินจะหยุดไหว และไฟจะหยุดตก และในวันต่อมาพระอาทิตย์จะฉายแสงดังเดิม บรรดาทูตสวรรค์จะร่อนลงมาจากฟากฟ้า และนำสันติสุขมายังแผ่นดินโลก ผู้ที่รอดชีวิตจะรู้สำนึกพระคุณพระเจ้า ที่รอดพ้นจากการลงโทษ และฝันร้ายอันน่าสะพรึงกลัวตั้งแต่สร้างโลกมา แล้วพระเจ้าจะทรงเสด็จมาเยี่ยมโลก"

"เราได้เลือกวิญญาณในประเทศอื่นด้วย เช่น เบลเยียม สวิตเซอร์แลนด์ สเปน ซึ่งได้รับการเผยแสดงนี้เช่นกัน เพื่อว่าทุกคนจะได้เตรียมตัว จงสวดสายประคำด้วยความตั้งใจ เพื่อให้คำภาวนาไปถึงสวรรค์ ในไม่ช้าหายนะที่น่ากลัวกว่านี้ จะมาสู่โลกเป็นการลงโทษที่น่ากลัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่จะมีคนที่ไม่สนใจไยดีกับคำเตือนนี้ และไม่เตรียมตัวสำหรับเหตุการณ์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน  จนเมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นพวกเขาจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์อย่างฉับพลัน และจะร้องว่า ไม่น่าเลย..... ไม่น่าเลย.....


น้ำหนักตราชูของพระเจ้าได้มาถึงโลกแล้ว พระพิโรธของพระบิดาของเรากำลังจะเทลงบนโลก เรากำลังเตือนโลกอีกครั้งหนึ่ง ผ่านลูกที่เป็นเครื่องมือของเรา ดังที่ได้เคยทำกับลูกมาก่อน(รอยแผลศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 5)

บาปของมนุษย์ได้ทวีขึ้นเกินมาตรวัดจะรับไหวแล้ว การขาดความเคารพต่อพระศาสนจักร การเสแสร้งทำศาสนกิจ การขาดความรักฉันพี่น้อง การแต่งกายไม่สุภาพและน่าละอาย โดยเฉพาะในฤดูร้อน โลกเต็มไปด้วยความชั่วช้า หายนะจะเกิดแก่โลกประหนึ่งสายฟ้าแลบ ชั่วขณะที่แสงตอนเช้าของดวงอาทิตย์ในฉับพลันจะกลับเป็นความมืดมิด ความมืดนั้นไม่มีใครสามารถออกจากบ้านหรือมองออกไปนอกหน้าต่างได้ และในขณะนั้นเป็นต้นไป เราเองจะมาท่ามกลางเสียงฟ้าคำรามและสายฟ้าแลบ คนชั่วจะมองเห็นพระหฤทัยของเรา จะเกิดความสับสนวุ่นวายครั้งใหญ่ เพราะเกิดความมืดครอบคลุมไปทั่วโลกและผู้คนจำนวนมากจะล้มตาย เพราะความกลัวและความสิ้นหวัง

ใครที่ได้ต่อสู้เพราะเห็นแก่เราจะได้รับหรรษทานจากพระหฤทัยของเรา และร้องขึ้นว่า "ใครเล่าจะยิ่งใหญ่เท่าพระเจ้า"
อัครเทวดามีคาเอล จะเป็นหนึ่งเครื่องมือแห่งความคุ้มครองแก่คนทั้งหลาย แต่กระนั้นหลายคนจะไหม้เกรียมในที่แจ้ง เหมือนหญ้าที่ร่วงโรย คนที่ไม่มีพระจะถูกบดขยี้ และคนชอบธรรมก็จะสามารถเริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาใหม่"


"ในวันนั้น ทันทีที่ความมืดได้คืบคลานเข้ามาเต็มที่ ไม่มีใครที่จะออกจากบ้านได้ หรือจะมองออกไปทางหน้าต่าง ความมืดจะคงอยู่หนึ่งวันและหนึ่งคืน และตามมาด้วยอีกวัน และอีกวัน แต่ในคืนถัดไป ดวงดาวจะเริ่มส่องแสง และในวันรุ่งขึ้นดวงอาทิตย์จะฉายแสงอีกครั้ง และมันจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ    ในวันที่มืดมิดนั้น ลูกที่ได้รับเลือกจะไม่หลับใหลเหมือนสานุศิษย์ในสวนมะกอก พวกเขาจะสวดภาวนาอย่างไม่หยุดหย่อน และพวกเขาจะไม่ผิดหวังในตัวเรา เราจะรวบรวมผู้ที่ได้รับเลือก นรกคิดว่ามันได้ครอบครองทั้งโลกแล้ว แต่เราจะดึงกลับมา

จงภาวนา จงสวดภาวนา เราปรารถนาคำภาวนาของลูก พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ นักบุญ เอลีซาเบท นักบุญคอนราด นักบุญไมเคิล นักบุญเปโตร นักบุญเทเรซาน้อย และบรรดาอารักขาเทวดาของลูกๆ จะเป็นผู้เสนอวิงวอนต่อพระผู้เป็นเจ้าเพื่อลูก จงเป็นทหารหาญของพระคริสต์ เมื่อแสงกลับมาส่องสว่างอีกครั้ง  ทุกคนจะขอบพระคุณพระตรีเอกภาพ ในการที่พระองค์ทรงปกปักรักษาพวกลูก.... การทำลายล้างจะหนักหนาสาหัสเพื่อชำระล้างโลก  แต่เรา...พระเจ้าของลูก จะอยู่ในท่ามกลางพวกลูก จงไว้ใจเถิด"

เราได้เตือนมนุษย์ครั้งแล้วครั้งเล่า และบ่อยครั้ง เราได้ให้โอกาสเพื่อให้เขากลับมาเดินในหนทางที่ถูกต้อง แต่บัดนี้ ความชั่วช้าสูงท่วมท้นแล้ว แม้กระนั้น ดวงใจของเราระทมทุกข์เป็นสายเลือด เพื่อเห็นแก่นามของเรา เราต้องดูแลการลงโทษนี้ จงบอกให้มนุษย์ทุกคนว่า เวลานั้นได้มาถึงแล้ว ที่ทุกสิ่งจะต้องสำเร็จสมบูรณ์ไป"

ท่านสามารถติดตามบทความ วีดีทัศน์ อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ https://www.facebook.com/help.souls
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา : ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- เสาร์ที่ 1 พย. 57
ปรับปรุงโดย : a little sheep