กระทู้เศรษฐกิจจากข่าวร้ายสู่ "คำถามยอดฮิต ใครคือคนทำลายเศรษฐกิจล่ะ"

จากกระทู้  "นักเศรษฐศาสตร์ วินิจฉัยอาการประเทศไทยเข้าข่าย “คนป่วยแห่งเอเชีย”
http://thaipublica.org/2015/03/thaipublica-forum-2558-1/

*************หัวข้อนี้ได้มาจาก การจัดเสวนาในหัวข้อ “ประเทศไทย คนป่วยคนใหม่ของเอเชีย?” โดยมีวิทยากรนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง,ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ประธานกรรมการบริหาร สถาบันอนาคตไทยศึกษา,ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ รองคณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด โดยมีนายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ openbooks ดำเนินรายการ ครับ************


ผมไม่ได้เขียนเองครับ


จากบทความนี้ผมจะสรุปในแต่ล่ะคำถาม

"เราป่วย แต่เราป่วยโรคอะไร"
โดยสรุป 1 แรงงานเรามีแต่คนแก่ 2 แรงงานเราคุณภาพต่ำลง 3 เราไม่คอยคิดถึงอนาคต เรามองแต่จะใช้วิธีแก้ระยะสั้นๆ

"ใครคือคนทำลายเศรษฐกิจล่ะ"
เราทำลายตัวเองทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชนตลอด 10 ปี  
ในส่วนภาครัฐเช่น นโยบายที่ออกมาเพื่อรักษาสุขภาพจริงๆมีน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นประชานิยม ลด แลก แจก แถม ไม่ว่าจะเช็คช่วยชาติ รถยนต์คันแรก จำนำข้าว ฯลฯ ซึ่งไม่ได้รักษาอาการของโรค
และภาคเอกชนเราก็ไม่เก่งนัก ไม่มีงานวิจัยมากนัก ชอบแข่งราคา

ทางรอดจากการขึ้นเมรุล่ะ?
การลงทุนภาคเอกชนให้เลิก wait and see โดยมีสิ่งที่ช่วยให้ทำได้ดีและเร็วก็คือมาตรการทางภาษี


แล้วแก้ไง?
"ดร.พิพัฒน์กล่าวว่า สำหรับวิธีแก้ปัญหา มีทั้ง 1. เพิ่มประสิทธิภาพระบบเศรษฐกิจ 2. เพิ่มคุณภาพแรงงาน โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา 3. ส่งเสริมให้เอกชนมีบทบาทและศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น ทุกวันนี้ที่คนไม่ innovate เพราะรู้ว่าซื้อได้ แล้ว innovation มาก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า ซื้อเอาดีกว่า และ 4. ต้องส่งเสริมให้เกิดการวิจัยมากขึ้น"

ภาครัฐ ล่ะแก้ไง

"ตั้ง Super Holding และต้องมีเส้นทางคู่ขนานที่ภาคเอกชนเดินไปกันเอง"

"มาตรการเรื่องภาษี การรื้อกฎหมายจำกัดสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติ ที่ใช้มาหลายสิบปีแล้ว เพราะการปกป้องจะมีไม่กี่คนได้ประโยชน์ แต่การแข่งขันจะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ ถ้าเปลี่ยนมุมคิดใหม่น่าจะสร้างความกระปี้กระเปร่าให้คนเข้ามาลงทุนมากขึ้น"

ด้านนโยบายล่ะ?
"การแก้ปัญหาระยะสั้น คือ รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ?????"

ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว
"มีสถาบันที่ส่งเสริมคนเก่ง โดยจะต้องส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นธรรมและลดการบิดเบือนในตลาด "

สรุป เศรษฐกิจเลวร้ายจริงมากนานแต่ไม่แก้ แต่ก็ยังไม่สายไป ส่วนการรอเทวดามาโปรด หรือ รอนักการเมืองที่ดีและเก่ง มากบารมี ทรงคุณธรรม แนะนำทางที่ดีกว่า ไปรอพระศรีอรียเมตไตร รอพุทธันดรหน้า น่าจะดีกว่าเพราะ คนที่แก้ได้จริงๆ โดยเราแค่รอเฉย คงต้องระดับพระเจ้าเท่านั้น







ที่มา http://thaipublica.org/2015/03/thaipublica-forum-2558-1

....................งด พูดประชด พูดด่า พูดไร้เหตุผลรองรับ ขอขอบคุณมากครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9

- แรงงานไทยมีแต่ผู้สูงอายุ !!!



ประเทศไทยตอนนี้ สัดส่วนประชากรคือ ผู้อยู่วันทำงานมากที่สุดคับ

- แรงงานไทยคุณภาพต่ำ  อันนี้ก็ไม่จริงคับ  คนไทยตอนนี้ที่ต้องทำงานแบบรับค่าแรงขั้นต่ำมีน้อยมาก   คนที่กินข้าแรงขั้นต่ำส่วนมากจะเป็นแรงงานจากต่างด้าว ซึ่งเป็นงานที่คนไทยไม่ทำกันแล้ว    

- เราไม่ค่อยคิดถึงอนาคต  อันนี้ถ้าเป็นส่วนของราชการก็ใช่เลยคับ  แต่หากเป็นภาคเอกชนนี่ก็ไม่ใช่แน่นอนคับ

...  ปัญหาจริงๆคือ    รัฐบาลของไทยขาดเสถียรภาพ  ทำให้นโยบาย  ยุทธศาสตร์ หรืองบประมาณมักเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่มีความแน่นอน
ต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุน   หรือแม้แต่ทุนไทยเองก็ไปไม่ถูก  ไม่รู้ว่าทางรัฐบาลไทยจะส่งเสริม หรือ มุ่งเน้นทางด้านใหนกันแน่ที่จะให้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจกันแน่      

...  ปัญหาอีกอย่างคือ  ไทยพึ่งพาการส่งออกมากเกินไป     จนยุคสมัยหนึ่งก็มีรัฐบาลที่เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจชนชั้นล่าง หรือที่เรียกว่ารากหญ้า
ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน   ให้คิดโครงการผลิตสินค้า รัฐบาลให้ทุนดอกเบี้ยต่ำ   และจัดหาตลาดให้   มีการจัดงานหมุนเวียนกันไปทั่วประเทศตลอดทั้งปี หรือที่เรียกว่า สินค้า Otop  พร้อมทั้งคัดเลือกสินค้าคุณภาพออกไปโร๊ดโชว์เพื่อเปิดตลาดใหม่ๆในต่างประเทศ     ทำให้คนชั้นล่างมีรายได้ ลืมตาอ้าปาก  ไม่ใช่พวกแก่ก่อนรวยอย่างที่ดร. พูดออกมาในงานสัมนา      มีการให้ทุนเด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดโอกาส ได้ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ    แต่สิ่งเหล่านี้หายไปหมดเพราะการเมือง    ไทยต้องกลับมาพึ่งตลาดต่างประเทศเหมือนเดิม  แล้วดูต่างประเทศสิคับ  จากซัพไพรม์ของอเมริกา   ก็ต่อด้วยหนี้กรีซ  สุดท้ายลามไปทั่วยุโรป   จนทุกวันนี้ยุโรปยังไม่ฟื้นเลย   แล้วตลาดในประเทศของเราก็ถูกทำลายลงไปแล้วด้วยการเมือง   ด้วยคำว่า "ประชานิยม"    

แล้วอะไรคือ ประชานิยม ????   ประชานิยมก็เปรียบเสมือนสวัสดิการของรัฐที่หมุนเวียนกลับมาตอบแทนผู้เสียภาษีใช่หรือไม่คับ   เป็นสวัสดิการจากเงินภาษีที่แต่ใหนแต่ไรมา  คนที่จะได้ก็คือข้าราชการเท่านั้น  แล้วประเทศอื่นมีมั๊ยคับ ประชานิยมเนี่ย    แล้วถ้ามีเขาต่อต้านกันมั๊ยคับ

จะให้ใช้มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุน  แต่กลับต่อต้านนโยบายรถคันแรก ...    อารายก๊านนนนนนน   งงวุ๊ยยยยยใบแดง

....  แล้วใครคือผู้ทำลายเศรษฐกิจล่ะ    คำตอบก็คือ  กลุ่มคน  กลุ่มการเมืองที่มุ่งแสวงหาอำนาจรัฐโดยไม่เคารพกติกาสังคมยังไงคับ  
ความคิดเห็นที่ 10
ท่านมีอคติกับประชานิยมมากเกินไป  

ประชานิยมถ้าทำแล้วเปนการกระตุ้นเศรษฐกิจมันก็คุ้มเพราะ เงินจ่ายออกไปหมุนเวียนในประเทศรัฐได้กลับมาในรูปแบบภาษี  ขึ้นอยู่กับการบริหารนโยบายว่าจะเอาเงินไปลงที่จุดไหนให้มีเงินหมุนเวียนมากที่สุด

ยกตัวอย่าง  จำนำข้าว 15000

จำนำข้าวเงินอัดลงไปที่ฐานล่างสุด  ชาวนามีเงินก็ได้ซื้อของ  ได้เรียนหนังสือ  ได้เข้าถึงโอกาศที่ไม่เคยได้  
พอชาวนาซื้อของ  ร้านได้ขายของ  โรงงานได้ขายของ  มีกำลังผลิตเพิ่ม  สั้งซื้อวัตถุดิบเพิ่ม  เกิดการจ้างงาน  
รัฐบาลได้เงินกลับมาในรูปแบบภาษี  มันไม่ได้ทำให้ประเทศล้มสลายแต่อย่างใด แค่เปลี่ยนที่เก็บเงินจาก คลังไปเก็บไว้ที่ประชาชน

ประโยชน์ทางอ้อมคือให้ชนชั้นล่างได้เข้าถึง สิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐาน เช่น การรักษา พยาบาล การศึกษา

แต่ข้อเสียคือประชานิยมมันต้องใช้ความสามารถในการบริหารค่อนข้างสูง  ถ้าบริหารไม่ดีงบที่อัดก็ไหลออกนอกประเทศได้


หลักๆปัญหามันมาจากระบบชนชั้นที่ชนชั้นนำกลัวการแข่งขันทางธุรกิจ

ระบบการศึกษาที่ชนชั้นนำวางระบบไว้สอนให้คนเรียนที่จะเป็นที่ตามที่ดี  พอใจในสถานะที่ตัวเองเป็น   เพื่อที่ชนชั้นล่างจะได้ไม่ก้าวขึ้นมาทำธุรกิจแข่งขัน

ระบบเส้นสายที่ใช้เอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจของผู้มีอำนาจ ทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน

พอไม่มีการแข่งขันการพัฒนาก็ช้า เพราะห่วยแค่ไหนก็ขายได้เพราะไม่มีตัวเลือกอื่น  

การแข่งขันในตลาดต่างประเทศต่ำเพราะคุณภาพแย่  ไม่มีการทำ R&D เพราะขายตลาดในประเทศได้อยู่แล้ว

พอตลาดในประเทศมีปัญหาก็ลำบากเพราะไม่รู้จะไปขายใคร
ความคิดเห็นที่ 4
เอาจริงๆแล้ว คำถามนี้ คาดว่าคำตอบที่ได้คงจะไม่พ้นโทษกันไปโทษกันมาระหว่างขั้วขัดแย้งทางการเมือง 2 ฝ่าย ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไรถ้า

ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมเปิดใจรับฟังเหตุผลและพิจารณาไตร่ตรองถึงสาเหตุที่มาและความเป็นไปอย่างรอบคอบและไม่มีอคติ

สำหรับดิฉันคิดว่า ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ในตอนนี้ มีเยอะมาก ทั้งจากภายในและภายนอก ทั้งจากควบคุมได้และควบคุมไม่ได้

สะสมกันมานานหลายปี  หลักๆแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของคนภายในประเทศนั่นแหละค่ะ ใครทำอะไรไว้ย่อมรู้ตัวเองอยู่แก่ใจ เพียงแต่ว่า

จะยอมรับกันหรือไม่เท่านั้นเอง

มาถึงนาทีนี้แล้ว ไม่อยากจะโทษใคร โทษไปก็ทำอะไรไม่ได้  แค่อยากจะให้ทุกคนมองไปข้างหน้าเพื่อหาทางแก้ไขจะดีกว่า  อดีตที่ผ่านมา

ก็จดจำไว้เป็นบทเรียน อันไหนดีก็นำมาพัฒนา ปรับปรุงให้ดีขึ้น อันไหนแย่ก็ทิ้งมันไปและหาทางป้องกันอย่าให้เกิดขึ้นอีก  

....  ไม่เริ่มต้นวันนี้แล้วเราจะเริ่มต้นกันวันไหน ? .....


ความคิดเห็นที่ 29
เศรษฐกิจพัง เพราะ การเมือง

พังเพราะ ชุดความคิดที่ว่า ทำยังไงก็ได้เพื่อกำจัดทักษิณ

ปัญหาเริ่มตอนรัฐประหารปี 2549 และยาวนานยันทุกวันนี้ จะ 10 ปีแล้ว

เมื่อการเมืองไม่นิ่ง ในส่วนของรัฐพิกลพิการ เพราะการแทรกแซง

เศรษฐกิจก็ไม่มีการก้าวหน้าได้ มีแค่ทรงกับทรุด
ความคิดเห็นที่ 15
ใครล่ะ

ใครเอ่ยย

ก้คนมีความสามารถไม่มี ที่ยืน

คนดีๆ คนเก่งๆ  ยืนได้ ก้ไม่นาน ตายเร็ว

ก้เจียมๆตัว  เงียบๆ กันไป

ปล่อยให้นักเลง เขาทำอะไรก้ทำไป

เดี่ยว ชีวิตจะสั้น
คหสต ไม่พาดพิงใค ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่