สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
- แรงงานไทยมีแต่ผู้สูงอายุ !!!
ประเทศไทยตอนนี้ สัดส่วนประชากรคือ ผู้อยู่วันทำงานมากที่สุดคับ
- แรงงานไทยคุณภาพต่ำ อันนี้ก็ไม่จริงคับ คนไทยตอนนี้ที่ต้องทำงานแบบรับค่าแรงขั้นต่ำมีน้อยมาก คนที่กินข้าแรงขั้นต่ำส่วนมากจะเป็นแรงงานจากต่างด้าว ซึ่งเป็นงานที่คนไทยไม่ทำกันแล้ว
- เราไม่ค่อยคิดถึงอนาคต อันนี้ถ้าเป็นส่วนของราชการก็ใช่เลยคับ แต่หากเป็นภาคเอกชนนี่ก็ไม่ใช่แน่นอนคับ
... ปัญหาจริงๆคือ รัฐบาลของไทยขาดเสถียรภาพ ทำให้นโยบาย ยุทธศาสตร์ หรืองบประมาณมักเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่มีความแน่นอน
ต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุน หรือแม้แต่ทุนไทยเองก็ไปไม่ถูก ไม่รู้ว่าทางรัฐบาลไทยจะส่งเสริม หรือ มุ่งเน้นทางด้านใหนกันแน่ที่จะให้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจกันแน่
... ปัญหาอีกอย่างคือ ไทยพึ่งพาการส่งออกมากเกินไป จนยุคสมัยหนึ่งก็มีรัฐบาลที่เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจชนชั้นล่าง หรือที่เรียกว่ารากหญ้า
ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ให้คิดโครงการผลิตสินค้า รัฐบาลให้ทุนดอกเบี้ยต่ำ และจัดหาตลาดให้ มีการจัดงานหมุนเวียนกันไปทั่วประเทศตลอดทั้งปี หรือที่เรียกว่า สินค้า Otop พร้อมทั้งคัดเลือกสินค้าคุณภาพออกไปโร๊ดโชว์เพื่อเปิดตลาดใหม่ๆในต่างประเทศ ทำให้คนชั้นล่างมีรายได้ ลืมตาอ้าปาก ไม่ใช่พวกแก่ก่อนรวยอย่างที่ดร. พูดออกมาในงานสัมนา มีการให้ทุนเด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดโอกาส ได้ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ แต่สิ่งเหล่านี้หายไปหมดเพราะการเมือง ไทยต้องกลับมาพึ่งตลาดต่างประเทศเหมือนเดิม แล้วดูต่างประเทศสิคับ จากซัพไพรม์ของอเมริกา ก็ต่อด้วยหนี้กรีซ สุดท้ายลามไปทั่วยุโรป จนทุกวันนี้ยุโรปยังไม่ฟื้นเลย แล้วตลาดในประเทศของเราก็ถูกทำลายลงไปแล้วด้วยการเมือง ด้วยคำว่า "ประชานิยม"
แล้วอะไรคือ ประชานิยม ???? ประชานิยมก็เปรียบเสมือนสวัสดิการของรัฐที่หมุนเวียนกลับมาตอบแทนผู้เสียภาษีใช่หรือไม่คับ เป็นสวัสดิการจากเงินภาษีที่แต่ใหนแต่ไรมา คนที่จะได้ก็คือข้าราชการเท่านั้น แล้วประเทศอื่นมีมั๊ยคับ ประชานิยมเนี่ย แล้วถ้ามีเขาต่อต้านกันมั๊ยคับ
จะให้ใช้มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุน แต่กลับต่อต้านนโยบายรถคันแรก ... อารายก๊านนนนนนน งงวุ๊ยยยยย
.... แล้วใครคือผู้ทำลายเศรษฐกิจล่ะ คำตอบก็คือ กลุ่มคน กลุ่มการเมืองที่มุ่งแสวงหาอำนาจรัฐโดยไม่เคารพกติกาสังคมยังไงคับ
- แรงงานไทยมีแต่ผู้สูงอายุ !!!
ประเทศไทยตอนนี้ สัดส่วนประชากรคือ ผู้อยู่วันทำงานมากที่สุดคับ
- แรงงานไทยคุณภาพต่ำ อันนี้ก็ไม่จริงคับ คนไทยตอนนี้ที่ต้องทำงานแบบรับค่าแรงขั้นต่ำมีน้อยมาก คนที่กินข้าแรงขั้นต่ำส่วนมากจะเป็นแรงงานจากต่างด้าว ซึ่งเป็นงานที่คนไทยไม่ทำกันแล้ว
- เราไม่ค่อยคิดถึงอนาคต อันนี้ถ้าเป็นส่วนของราชการก็ใช่เลยคับ แต่หากเป็นภาคเอกชนนี่ก็ไม่ใช่แน่นอนคับ
... ปัญหาจริงๆคือ รัฐบาลของไทยขาดเสถียรภาพ ทำให้นโยบาย ยุทธศาสตร์ หรืองบประมาณมักเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่มีความแน่นอน
ต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุน หรือแม้แต่ทุนไทยเองก็ไปไม่ถูก ไม่รู้ว่าทางรัฐบาลไทยจะส่งเสริม หรือ มุ่งเน้นทางด้านใหนกันแน่ที่จะให้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจกันแน่
... ปัญหาอีกอย่างคือ ไทยพึ่งพาการส่งออกมากเกินไป จนยุคสมัยหนึ่งก็มีรัฐบาลที่เข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจชนชั้นล่าง หรือที่เรียกว่ารากหญ้า
ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ให้คิดโครงการผลิตสินค้า รัฐบาลให้ทุนดอกเบี้ยต่ำ และจัดหาตลาดให้ มีการจัดงานหมุนเวียนกันไปทั่วประเทศตลอดทั้งปี หรือที่เรียกว่า สินค้า Otop พร้อมทั้งคัดเลือกสินค้าคุณภาพออกไปโร๊ดโชว์เพื่อเปิดตลาดใหม่ๆในต่างประเทศ ทำให้คนชั้นล่างมีรายได้ ลืมตาอ้าปาก ไม่ใช่พวกแก่ก่อนรวยอย่างที่ดร. พูดออกมาในงานสัมนา มีการให้ทุนเด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดโอกาส ได้ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ แต่สิ่งเหล่านี้หายไปหมดเพราะการเมือง ไทยต้องกลับมาพึ่งตลาดต่างประเทศเหมือนเดิม แล้วดูต่างประเทศสิคับ จากซัพไพรม์ของอเมริกา ก็ต่อด้วยหนี้กรีซ สุดท้ายลามไปทั่วยุโรป จนทุกวันนี้ยุโรปยังไม่ฟื้นเลย แล้วตลาดในประเทศของเราก็ถูกทำลายลงไปแล้วด้วยการเมือง ด้วยคำว่า "ประชานิยม"
แล้วอะไรคือ ประชานิยม ???? ประชานิยมก็เปรียบเสมือนสวัสดิการของรัฐที่หมุนเวียนกลับมาตอบแทนผู้เสียภาษีใช่หรือไม่คับ เป็นสวัสดิการจากเงินภาษีที่แต่ใหนแต่ไรมา คนที่จะได้ก็คือข้าราชการเท่านั้น แล้วประเทศอื่นมีมั๊ยคับ ประชานิยมเนี่ย แล้วถ้ามีเขาต่อต้านกันมั๊ยคับ
จะให้ใช้มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุน แต่กลับต่อต้านนโยบายรถคันแรก ... อารายก๊านนนนนนน งงวุ๊ยยยยย
.... แล้วใครคือผู้ทำลายเศรษฐกิจล่ะ คำตอบก็คือ กลุ่มคน กลุ่มการเมืองที่มุ่งแสวงหาอำนาจรัฐโดยไม่เคารพกติกาสังคมยังไงคับ
ความคิดเห็นที่ 10
ท่านมีอคติกับประชานิยมมากเกินไป
ประชานิยมถ้าทำแล้วเปนการกระตุ้นเศรษฐกิจมันก็คุ้มเพราะ เงินจ่ายออกไปหมุนเวียนในประเทศรัฐได้กลับมาในรูปแบบภาษี ขึ้นอยู่กับการบริหารนโยบายว่าจะเอาเงินไปลงที่จุดไหนให้มีเงินหมุนเวียนมากที่สุด
ยกตัวอย่าง จำนำข้าว 15000
จำนำข้าวเงินอัดลงไปที่ฐานล่างสุด ชาวนามีเงินก็ได้ซื้อของ ได้เรียนหนังสือ ได้เข้าถึงโอกาศที่ไม่เคยได้
พอชาวนาซื้อของ ร้านได้ขายของ โรงงานได้ขายของ มีกำลังผลิตเพิ่ม สั้งซื้อวัตถุดิบเพิ่ม เกิดการจ้างงาน
รัฐบาลได้เงินกลับมาในรูปแบบภาษี มันไม่ได้ทำให้ประเทศล้มสลายแต่อย่างใด แค่เปลี่ยนที่เก็บเงินจาก คลังไปเก็บไว้ที่ประชาชน
ประโยชน์ทางอ้อมคือให้ชนชั้นล่างได้เข้าถึง สิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐาน เช่น การรักษา พยาบาล การศึกษา
แต่ข้อเสียคือประชานิยมมันต้องใช้ความสามารถในการบริหารค่อนข้างสูง ถ้าบริหารไม่ดีงบที่อัดก็ไหลออกนอกประเทศได้
หลักๆปัญหามันมาจากระบบชนชั้นที่ชนชั้นนำกลัวการแข่งขันทางธุรกิจ
ระบบการศึกษาที่ชนชั้นนำวางระบบไว้สอนให้คนเรียนที่จะเป็นที่ตามที่ดี พอใจในสถานะที่ตัวเองเป็น เพื่อที่ชนชั้นล่างจะได้ไม่ก้าวขึ้นมาทำธุรกิจแข่งขัน
ระบบเส้นสายที่ใช้เอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจของผู้มีอำนาจ ทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน
พอไม่มีการแข่งขันการพัฒนาก็ช้า เพราะห่วยแค่ไหนก็ขายได้เพราะไม่มีตัวเลือกอื่น
การแข่งขันในตลาดต่างประเทศต่ำเพราะคุณภาพแย่ ไม่มีการทำ R&D เพราะขายตลาดในประเทศได้อยู่แล้ว
พอตลาดในประเทศมีปัญหาก็ลำบากเพราะไม่รู้จะไปขายใคร
ประชานิยมถ้าทำแล้วเปนการกระตุ้นเศรษฐกิจมันก็คุ้มเพราะ เงินจ่ายออกไปหมุนเวียนในประเทศรัฐได้กลับมาในรูปแบบภาษี ขึ้นอยู่กับการบริหารนโยบายว่าจะเอาเงินไปลงที่จุดไหนให้มีเงินหมุนเวียนมากที่สุด
ยกตัวอย่าง จำนำข้าว 15000
จำนำข้าวเงินอัดลงไปที่ฐานล่างสุด ชาวนามีเงินก็ได้ซื้อของ ได้เรียนหนังสือ ได้เข้าถึงโอกาศที่ไม่เคยได้
พอชาวนาซื้อของ ร้านได้ขายของ โรงงานได้ขายของ มีกำลังผลิตเพิ่ม สั้งซื้อวัตถุดิบเพิ่ม เกิดการจ้างงาน
รัฐบาลได้เงินกลับมาในรูปแบบภาษี มันไม่ได้ทำให้ประเทศล้มสลายแต่อย่างใด แค่เปลี่ยนที่เก็บเงินจาก คลังไปเก็บไว้ที่ประชาชน
ประโยชน์ทางอ้อมคือให้ชนชั้นล่างได้เข้าถึง สิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐาน เช่น การรักษา พยาบาล การศึกษา
แต่ข้อเสียคือประชานิยมมันต้องใช้ความสามารถในการบริหารค่อนข้างสูง ถ้าบริหารไม่ดีงบที่อัดก็ไหลออกนอกประเทศได้
หลักๆปัญหามันมาจากระบบชนชั้นที่ชนชั้นนำกลัวการแข่งขันทางธุรกิจ
ระบบการศึกษาที่ชนชั้นนำวางระบบไว้สอนให้คนเรียนที่จะเป็นที่ตามที่ดี พอใจในสถานะที่ตัวเองเป็น เพื่อที่ชนชั้นล่างจะได้ไม่ก้าวขึ้นมาทำธุรกิจแข่งขัน
ระบบเส้นสายที่ใช้เอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจของผู้มีอำนาจ ทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน
พอไม่มีการแข่งขันการพัฒนาก็ช้า เพราะห่วยแค่ไหนก็ขายได้เพราะไม่มีตัวเลือกอื่น
การแข่งขันในตลาดต่างประเทศต่ำเพราะคุณภาพแย่ ไม่มีการทำ R&D เพราะขายตลาดในประเทศได้อยู่แล้ว
พอตลาดในประเทศมีปัญหาก็ลำบากเพราะไม่รู้จะไปขายใคร
ความคิดเห็นที่ 4
เอาจริงๆแล้ว คำถามนี้ คาดว่าคำตอบที่ได้คงจะไม่พ้นโทษกันไปโทษกันมาระหว่างขั้วขัดแย้งทางการเมือง 2 ฝ่าย ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไรถ้า
ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมเปิดใจรับฟังเหตุผลและพิจารณาไตร่ตรองถึงสาเหตุที่มาและความเป็นไปอย่างรอบคอบและไม่มีอคติ
สำหรับดิฉันคิดว่า ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ในตอนนี้ มีเยอะมาก ทั้งจากภายในและภายนอก ทั้งจากควบคุมได้และควบคุมไม่ได้
สะสมกันมานานหลายปี หลักๆแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของคนภายในประเทศนั่นแหละค่ะ ใครทำอะไรไว้ย่อมรู้ตัวเองอยู่แก่ใจ เพียงแต่ว่า
จะยอมรับกันหรือไม่เท่านั้นเอง
มาถึงนาทีนี้แล้ว ไม่อยากจะโทษใคร โทษไปก็ทำอะไรไม่ได้ แค่อยากจะให้ทุกคนมองไปข้างหน้าเพื่อหาทางแก้ไขจะดีกว่า อดีตที่ผ่านมา
ก็จดจำไว้เป็นบทเรียน อันไหนดีก็นำมาพัฒนา ปรับปรุงให้ดีขึ้น อันไหนแย่ก็ทิ้งมันไปและหาทางป้องกันอย่าให้เกิดขึ้นอีก
.... ไม่เริ่มต้นวันนี้แล้วเราจะเริ่มต้นกันวันไหน ? .....
ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมเปิดใจรับฟังเหตุผลและพิจารณาไตร่ตรองถึงสาเหตุที่มาและความเป็นไปอย่างรอบคอบและไม่มีอคติ
สำหรับดิฉันคิดว่า ปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ในตอนนี้ มีเยอะมาก ทั้งจากภายในและภายนอก ทั้งจากควบคุมได้และควบคุมไม่ได้
สะสมกันมานานหลายปี หลักๆแล้ว มันก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของคนภายในประเทศนั่นแหละค่ะ ใครทำอะไรไว้ย่อมรู้ตัวเองอยู่แก่ใจ เพียงแต่ว่า
จะยอมรับกันหรือไม่เท่านั้นเอง
มาถึงนาทีนี้แล้ว ไม่อยากจะโทษใคร โทษไปก็ทำอะไรไม่ได้ แค่อยากจะให้ทุกคนมองไปข้างหน้าเพื่อหาทางแก้ไขจะดีกว่า อดีตที่ผ่านมา
ก็จดจำไว้เป็นบทเรียน อันไหนดีก็นำมาพัฒนา ปรับปรุงให้ดีขึ้น อันไหนแย่ก็ทิ้งมันไปและหาทางป้องกันอย่าให้เกิดขึ้นอีก
.... ไม่เริ่มต้นวันนี้แล้วเราจะเริ่มต้นกันวันไหน ? .....
แสดงความคิดเห็น
กระทู้เศรษฐกิจจากข่าวร้ายสู่ "คำถามยอดฮิต ใครคือคนทำลายเศรษฐกิจล่ะ"
http://thaipublica.org/2015/03/thaipublica-forum-2558-1/
*************หัวข้อนี้ได้มาจาก การจัดเสวนาในหัวข้อ “ประเทศไทย คนป่วยคนใหม่ของเอเชีย?” โดยมีวิทยากรนายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง,ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ประธานกรรมการบริหาร สถาบันอนาคตไทยศึกษา,ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ รองคณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด โดยมีนายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ openbooks ดำเนินรายการ ครับ************
ผมไม่ได้เขียนเองครับ
จากบทความนี้ผมจะสรุปในแต่ล่ะคำถาม
"เราป่วย แต่เราป่วยโรคอะไร"
โดยสรุป 1 แรงงานเรามีแต่คนแก่ 2 แรงงานเราคุณภาพต่ำลง 3 เราไม่คอยคิดถึงอนาคต เรามองแต่จะใช้วิธีแก้ระยะสั้นๆ
"ใครคือคนทำลายเศรษฐกิจล่ะ"
เราทำลายตัวเองทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชนตลอด 10 ปี
ในส่วนภาครัฐเช่น นโยบายที่ออกมาเพื่อรักษาสุขภาพจริงๆมีน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นประชานิยม ลด แลก แจก แถม ไม่ว่าจะเช็คช่วยชาติ รถยนต์คันแรก จำนำข้าว ฯลฯ ซึ่งไม่ได้รักษาอาการของโรค
และภาคเอกชนเราก็ไม่เก่งนัก ไม่มีงานวิจัยมากนัก ชอบแข่งราคา
ทางรอดจากการขึ้นเมรุล่ะ?
การลงทุนภาคเอกชนให้เลิก wait and see โดยมีสิ่งที่ช่วยให้ทำได้ดีและเร็วก็คือมาตรการทางภาษี
แล้วแก้ไง?
"ดร.พิพัฒน์กล่าวว่า สำหรับวิธีแก้ปัญหา มีทั้ง 1. เพิ่มประสิทธิภาพระบบเศรษฐกิจ 2. เพิ่มคุณภาพแรงงาน โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา 3. ส่งเสริมให้เอกชนมีบทบาทและศักยภาพในการแข่งขันมากขึ้น ทุกวันนี้ที่คนไม่ innovate เพราะรู้ว่าซื้อได้ แล้ว innovation มาก็ไม่รู้ว่าจะได้ผลหรือเปล่า ซื้อเอาดีกว่า และ 4. ต้องส่งเสริมให้เกิดการวิจัยมากขึ้น"
ภาครัฐ ล่ะแก้ไง
"ตั้ง Super Holding และต้องมีเส้นทางคู่ขนานที่ภาคเอกชนเดินไปกันเอง"
"มาตรการเรื่องภาษี การรื้อกฎหมายจำกัดสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่างชาติ ที่ใช้มาหลายสิบปีแล้ว เพราะการปกป้องจะมีไม่กี่คนได้ประโยชน์ แต่การแข่งขันจะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ ถ้าเปลี่ยนมุมคิดใหม่น่าจะสร้างความกระปี้กระเปร่าให้คนเข้ามาลงทุนมากขึ้น"
ด้านนโยบายล่ะ?
"การแก้ปัญหาระยะสั้น คือ รักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ?????"
ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว
"มีสถาบันที่ส่งเสริมคนเก่ง โดยจะต้องส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นธรรมและลดการบิดเบือนในตลาด "
สรุป เศรษฐกิจเลวร้ายจริงมากนานแต่ไม่แก้ แต่ก็ยังไม่สายไป ส่วนการรอเทวดามาโปรด หรือ รอนักการเมืองที่ดีและเก่ง มากบารมี ทรงคุณธรรม แนะนำทางที่ดีกว่า ไปรอพระศรีอรียเมตไตร รอพุทธันดรหน้า น่าจะดีกว่าเพราะ คนที่แก้ได้จริงๆ โดยเราแค่รอเฉย คงต้องระดับพระเจ้าเท่านั้น
ที่มา http://thaipublica.org/2015/03/thaipublica-forum-2558-1
....................งด พูดประชด พูดด่า พูดไร้เหตุผลรองรับ ขอขอบคุณมากครับ