***[ทีมชาติเยอรมัน]**[30.03.15]** ****[ ภาพบรรยากาศหลังเกมส์ Georgien 0:2 Deutschland ]
สวัสดีแฟนๆทีมชาติเยอรมันทุกคนนะคะ
วันนี้พอกลับมาถึงบ้านก็รีบวิ่งมาเปิดกระทู้ด้วยความเร็วแสงเลย..555
พร้อมแล้วก็ตามมาดูมามุงกันข้างล่างนะคะ
แชมป์โลกกลับสู่วงโคจรลุ้นเข้ารอบแบบเต็มตัวอีกครั้ง หลังบุกเอาชนะประเทศแถบทะเลดำอย่างจอร์เจียไป 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนนขึ้นนำจ่าฝูงของกลุ่มชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว
ฟุตบอลยูโร 2016 รอบคัดเลือก กลุ่ม D นัดที่ 5 ณ สนามบอริด ไพชัดซิส เอรอฟนูลี ระหว่าง จอร์เจีย ก่อนเกมรั้งอันดับ 5 ของกลุ่ม เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เยอรมนี แชมป์โลก 4 สมัยและอดีตแชมป์ยูโร 3 สมัย ก่อนเกมรั้งรองจ่าฝูงของกลุ่ม
คาคาเบอร์ คัดดัดเซ บิ๊กบอสเจ้าถิ่น จัดทีมเน้นตั้งรับตามสไตล์ถนัดในระบบ 5-4-1 วาง เลวาน เอ็มเชดลิดเซ ดาวยิงจากเอ็มโปลีเป็นหน้าเป้าไล่ลาตาข่ายเช่นเคย โดยมี ยาบา คานคาวา, ตอร์นิเก้ โอคลาชวิลี, คาคี มาคาลัดเซ และ ซานโด โคบาคลิชเซ คอยเติมเกมสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
ขณะที่ฝั่งผู้มาเยือนของกุนซือ โยอาคิม เลิฟ ตัดสินใจส่ง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กลับมาสวมปลอกแขนเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงอีกครั้ง นับตั้งแต่ศึกฟุตบอลโลก 2014 หลังได้รับบาดเจ็บไปนานหลายเดือน ส่วนตำแหน่งอื่นจัดเต็มสูบ นำโดย มานูเอล นอยเออร์ (ผู้รักษาประตู), แมตส์ ฮุมเมลส์, โทนี โครส, เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์, มาริโอ เกิทเซ และ มาร์โก รอยส์
เริ่มเกมได้เพียง 5 นาที แชมป์โลกได้โอกาสทักทายแบบจะๆก่อน จากจังหวะที่ โธมัส มุลเลอร์ แทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ มาร์โก รอยส์ ตวัดยิงตามน้ำเต็มข้อ ส่งบอลพุ่งชนคานกระดอนออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ถัดมาในนาทีที่ 13 ทีมเยือนได้ลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ โทนี โครส เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวาเข้ามาตรงจุดนัดพบให้ โธมัส มุลเลอร์ ตวัดยิงด้วยขวาในกรอบ 6 หลา บอลพุ่งผ่านเสาไกลออกหลังไปนิดเดียว
นาทีที่ 39 ความพยายามของแชมป์โลกก็มาประสบความสำเร็จจนได้ จากจังหวะที่ มาริโอ เกิทเซ ใช้ความแข็งแกร่งทะลุทะลวงแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนบอลทะลักไปเข้าทาง มาร์โก รอยส์ วางเท้าแปด้วยขวาเน้นๆ ส่งบอลเสียบเสาแรกเข้าไปตุงตาข่าย ช่วยให้เยอรมนีขึ้นนำ 1-0 พร้อมกับเป็นประตูที่ 9 ในนามทีมชาติของแนวรุกโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วย
เกมทำท่าจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้อยู่แล้ว ทว่าก่อนหมดเวลา 1 นาที เยอรมนีมาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เมซุต โอซิล แทงขึ้นหน้าให้ โธมัส มุลเลอร์ พยายามเบิ้ลต่อให้เพื่อน แต่ติดบล็อกกองหลังเจ้าถิ่น ทว่ากลายเป็นดีบอลตั้งเข้าทาง มุลเลอร์ บรรจงแปด้วยขวาสวนตัว จอร์จี้ ลอเรีย เข้าไป และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง เยอรมนียังกุมความได้เปรียบอยู่หลายขุม และในนาทีที่ 60 พวกเขาก็หวิดได้ประตูที่สาม จากจังหวะที่ เซบาสเตียน รูดี้ เปิดเลียดจากฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ มาร์โก รอยส์ แปด้วยซ้ายเน้นๆบริเวณวงกลมจุดโทษ ทว่าบอลกลับพุ่งชนคานอย่างน่าเสียดาย
ช่วงเวลาที่เหลือเป็นแชมป์โลกที่ครองเกมอยู่ฝ่ายเดียว แต่ทำอะไรเพิ่มไม่ได้
จบเกม เยอรมนี บุกไปเอาชนะ จอร์เจีย สบาย 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนน ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงกลุ่ม D ชั่วคราวเรียบร้อย ส่วน จอร์เจีย ยังอยู่ที่ 5 ต่อไป มีเพียง 3 คะแนนจาก 5 นัด
Photos and gifs aren’t mine, credit to the owners!
***[ทีมชาติเยอรมัน]**[30.03.15]** ****[ ภาพบรรยากาศหลังเกมส์ Georgien 0:2 Deutschland ]
สวัสดีแฟนๆทีมชาติเยอรมันทุกคนนะคะ
วันนี้พอกลับมาถึงบ้านก็รีบวิ่งมาเปิดกระทู้ด้วยความเร็วแสงเลย..555
พร้อมแล้วก็ตามมาดูมามุงกันข้างล่างนะคะ
แชมป์โลกกลับสู่วงโคจรลุ้นเข้ารอบแบบเต็มตัวอีกครั้ง หลังบุกเอาชนะประเทศแถบทะเลดำอย่างจอร์เจียไป 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนนขึ้นนำจ่าฝูงของกลุ่มชั่วคราวเรียบร้อยแล้ว
ฟุตบอลยูโร 2016 รอบคัดเลือก กลุ่ม D นัดที่ 5 ณ สนามบอริด ไพชัดซิส เอรอฟนูลี ระหว่าง จอร์เจีย ก่อนเกมรั้งอันดับ 5 ของกลุ่ม เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เยอรมนี แชมป์โลก 4 สมัยและอดีตแชมป์ยูโร 3 สมัย ก่อนเกมรั้งรองจ่าฝูงของกลุ่ม
คาคาเบอร์ คัดดัดเซ บิ๊กบอสเจ้าถิ่น จัดทีมเน้นตั้งรับตามสไตล์ถนัดในระบบ 5-4-1 วาง เลวาน เอ็มเชดลิดเซ ดาวยิงจากเอ็มโปลีเป็นหน้าเป้าไล่ลาตาข่ายเช่นเคย โดยมี ยาบา คานคาวา, ตอร์นิเก้ โอคลาชวิลี, คาคี มาคาลัดเซ และ ซานโด โคบาคลิชเซ คอยเติมเกมสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
ขณะที่ฝั่งผู้มาเยือนของกุนซือ โยอาคิม เลิฟ ตัดสินใจส่ง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กลับมาสวมปลอกแขนเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงอีกครั้ง นับตั้งแต่ศึกฟุตบอลโลก 2014 หลังได้รับบาดเจ็บไปนานหลายเดือน ส่วนตำแหน่งอื่นจัดเต็มสูบ นำโดย มานูเอล นอยเออร์ (ผู้รักษาประตู), แมตส์ ฮุมเมลส์, โทนี โครส, เมซุต โอซิล, โธมัส มุลเลอร์, มาริโอ เกิทเซ และ มาร์โก รอยส์
เริ่มเกมได้เพียง 5 นาที แชมป์โลกได้โอกาสทักทายแบบจะๆก่อน จากจังหวะที่ โธมัส มุลเลอร์ แทงทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ มาร์โก รอยส์ ตวัดยิงตามน้ำเต็มข้อ ส่งบอลพุ่งชนคานกระดอนออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ถัดมาในนาทีที่ 13 ทีมเยือนได้ลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ โทนี โครส เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวาเข้ามาตรงจุดนัดพบให้ โธมัส มุลเลอร์ ตวัดยิงด้วยขวาในกรอบ 6 หลา บอลพุ่งผ่านเสาไกลออกหลังไปนิดเดียว
นาทีที่ 39 ความพยายามของแชมป์โลกก็มาประสบความสำเร็จจนได้ จากจังหวะที่ มาริโอ เกิทเซ ใช้ความแข็งแกร่งทะลุทะลวงแนวรับเจ้าถิ่นเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนบอลทะลักไปเข้าทาง มาร์โก รอยส์ วางเท้าแปด้วยขวาเน้นๆ ส่งบอลเสียบเสาแรกเข้าไปตุงตาข่าย ช่วยให้เยอรมนีขึ้นนำ 1-0 พร้อมกับเป็นประตูที่ 9 ในนามทีมชาติของแนวรุกโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ด้วย
เกมทำท่าจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้อยู่แล้ว ทว่าก่อนหมดเวลา 1 นาที เยอรมนีมาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ เมซุต โอซิล แทงขึ้นหน้าให้ โธมัส มุลเลอร์ พยายามเบิ้ลต่อให้เพื่อน แต่ติดบล็อกกองหลังเจ้าถิ่น ทว่ากลายเป็นดีบอลตั้งเข้าทาง มุลเลอร์ บรรจงแปด้วยขวาสวนตัว จอร์จี้ ลอเรีย เข้าไป และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง เยอรมนียังกุมความได้เปรียบอยู่หลายขุม และในนาทีที่ 60 พวกเขาก็หวิดได้ประตูที่สาม จากจังหวะที่ เซบาสเตียน รูดี้ เปิดเลียดจากฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ มาร์โก รอยส์ แปด้วยซ้ายเน้นๆบริเวณวงกลมจุดโทษ ทว่าบอลกลับพุ่งชนคานอย่างน่าเสียดาย
ช่วงเวลาที่เหลือเป็นแชมป์โลกที่ครองเกมอยู่ฝ่ายเดียว แต่ทำอะไรเพิ่มไม่ได้
จบเกม เยอรมนี บุกไปเอาชนะ จอร์เจีย สบาย 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนน ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงกลุ่ม D ชั่วคราวเรียบร้อย ส่วน จอร์เจีย ยังอยู่ที่ 5 ต่อไป มีเพียง 3 คะแนนจาก 5 นัด