สวัสดีตอนสายๆวันอาทิตย์แฟนๆพี่เสือทุกคนค่ะ
นัดเมื่อคืนยอมรับเลยว่าดูไลน์อัฟก่อนเกมแล้วเพลีย  เล่นแบบไม่มีหลังเป๊ปสั่งบุกห้ามตั้งรับ
เล่นแบบ  0-9-1อะไรประประมาณนั้นเคอะ 555..เอาเป็นว่าไม่ว่าเป๊ปจะจัดทีมยังไงผลก็คือชนะไป 3-0 จบแบบสวยๆ
และสำหรับวันนี้เราก็มีภาพบรรยากาศหลังเกมของนัดเมื่อคืนมาฝากเช่นเคย ตามมาดูด้านล่างเลยค่ะ

///ถ้าเพื่อนๆผ่านเข้าทู้มาก็แวะมาทักทายกันก่อนนะค่ะ มีรูปมีข่าวโพสได้ แปะได้ ปาดได้ ตลอดเวลาจ้าาาา



แนวรุกจอมมึนทีมชาติเยอรมันเหมา 2 ประตูในเกมลีกนัดที่ 200 ของเจ้าตัว ช่วยให้ บาเยิร์น ซิวชัยสามนัดรวดอัด เลเวอร์คูเซน ขาดลอย ขยับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว

การแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน สัปดาห์ที่ 3 ที่สนามอลิอันซ์ อารีนา ระหว่าง บาเยิร์น มิวนิค ก่อนเกมรั้งอันดับ 4 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ก่อนเกมรั้งอันดับ 6 ของตาราง โดยต่างฝ่ายต่างเปิดฤดูกาลมาด้วยชัยชนะ 2 นัดติดทั้งคู่
เกมนี้ เป็บ กวาร์ดิโอลา เทรนเนอร์ บาเยิร์น มิวนิค มีปัญหาในการจัดทัพพอสมควร เมื่อหมดสิทธิ์ใช้งานเซ็นเตอร์แบ็คธรรมชาติอย่าง เมห์ดี้ เบนาเตีย และ เยโรม บัวเต็ง ที่บาดเจ็บทั้งคู่ ทำให้ต้องปรับมาเล่นในระบบ 3-4-3 โดยถอย ชาบี อลอนโซ ลงไปยืนเป็นแนวรับร่วมกับ เดวิด อลาบ้า และ ฟิลิปป์ ลาห์ม พร้อมกับส่ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงอีกครั้ง
ขณะที่ฝั่ง ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ของกุนซือ โรเจอร์ ชมิดต์ ยังคงยึด 11 ผู้เล่นตัวจริงจากเกมยูฟ่า แชมป์เปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ นัดสอง ที่เปิดบ้านถล่ม ลาซิโอ ขาดลอย 3-0 นำโดย แบรนด์ เลโน (ผู้รักษาประตู), โรแบร์โต้ ฮิลเบิร์ต, คริสโตฟ เครเมอร์, ลาร์ส เบนเดอร์, คาริม เบลลาราบี, ฮาคาน คัลฮาโนกลู, อัดเมียร์ เมห์เมดี้ และ สเตฟาน คีสลิงก์





เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 26 กลายเป็นเจ้าบ้านที่มาทำประตูออกนำไปก่อน จากจังหวะที่ ชาบี อลอนโซ โยนบอลยาวจากแดนตัวเองมาทางริมเส้นฝั่งซ็ายให้ ดั๊กลาส คอสต้า แตะหนี โรแบร์โต้ ฮิลเบิร์ต เข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนเปิดยัดเข้ากลางให้ โธมัส มุลเลอร์ ชาร์จจ่อๆเข้าไปไม่เหลือ ช่วยให้บาเยิร์นขึ้นนำ 1-0







ถัดมาเพียง 3 นาที เจ้าถิ่นน่าได้ประตูที่สองจริงๆ จากจังหวะที่ อาร์เยน ร็อบเบน กระชากหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนตวัดหักเข้ากลางให้ ดั๊กลาส คอสต้า กระโดดแปด้วยซ้ายคนเดียวโล่งๆ แต่บอลเจ้ากรรมดันพุ่งไปชนสามเหลี่ยมฝั่งซ้ายออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 36 เลเวอร์คูเซน เริ่มเปิดฉากทักทายบ้างและเกือบเป็นประตูตีเสมอทันที จากจังหวะลูกฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลา และเป็นเจ้าพ่อลูกนิ่งอย่าง ฮาคาน คัลฮาโนกลู รับหน้าที่ตะบันด้วยขวาเต็มข้อ บอลกำลังจะพุ่งเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ มานูเอล นอยเออร์ ยังลอยตัวปัดออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด

จากนั้นเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบ 45 นาทีแรก เจ้าบ้านยังรักษาสกอร์นำอยู่ 1-0

กลับมาเล่นในครึ่งหลัง เลเวอร์คูเซน ของ โรเจอร์ ชมิดต์ ชิงแก้เกมก่อนทันที โดยถอดเอา อัดเมียร์ เมห์เมดี้ ออกไปพักที่ข้างสนาม แล้วจัดการส่ง ยูเลียน บรันด์ท ลงมาทำหน้าที่แทน

อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 60 กลายเป็นเจ้าบ้านที่มาขยับสกอร์หนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ชาบี อลอนโซ เปิดฟรีคิกทางกราบขวาเข้าไปในเขตโทษให้ อาร์ตูโร วิดัล เทคตัวโหม่ง แต่ถูก โรแบร์โต้ ฮิลเบิร์ต ผลักแบบดื้อๆ ทำให้ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกชี้เป็นลูกจุดโทษทันที และเป็น โธมัส มุลเลอร์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด พร้อมกับเป็นประตูที่ 76 ในเกมลีกนัดที่ 200 ของเจ้าตัวอีกด้วย



เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 70 แชมป์เก่ามาได้ประตูตอกฝากโลง จากจังหวะที่ ดั๊กลาส คอสต้า หลุดเข้าไปถึงสุดเส้นฝั่งในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนตวัดเปิดเข้ากลาง บอลพุ่งไปโดนมือของ โรแบร์โต้ ฮิลเบิร์ต เจ้าเก่า ทำให้ผู้ตัดสินไม่รอช้าเป่าเป็นลูกจุดโทษที่สองของเกมนี้ แต่คราวนี้เป็น อาร์เยน ร็อบเบน ขอรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด



จบเกม บาเยิร์น มิวนิค เปิดบ้านถล่ม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ไปอย่างขาดลอย 3-0 เก็บชัยรวด 3 นัด ขยับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงชั่วคราว โดยมีคะแนนนำอันดับสองอย่าง เอฟซี โคโลญจน์ อยู่ 2 คะแนน

สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป บาเยิร์น เตรียมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เอาก์สบวร์ก ในวันที่ 12 กันยายนนี้ เวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่ เลเวอร์คูเซน มีคิวกลับไปเล่นในบ้านพบกับน้องใหม่อย่าง ดาร์มสตัดท์ 98 ในวันและเวลาเดียวกัน