***กระทู้นี้อาจจะมีตัวหนังสือเยอะหน่อยนะคะ เราเป็นพวกพูดมาก เลยติดนิสัยพิมพ์เยอะไปหน่อย แหะๆๆ***
***ภาพทั้งหมดถ่ายจากไอโฟน ต่างช่วงเวลากัน ทั้งตอนดึกและตอนเช้า เอียงบ้าง ไม่สวยบ้าง ไม่ว่ากันนะ***
สวัสดีค่าทุกคน เราเพิ่งไปเที่ยวญี่ปุ่นกับแก๊งเพื่อนๆสาวโสดมาสดๆร้อนๆ เมื่อวันที่ 20-28 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมานี้เอง โดยได้มีโอกาสไปเที่ยวทั้งที่โอซาก้ากับโตเกียวเลย ซึ่งการไปเที่ยวของเรายึดคอนเซปประหยัด แต่สบาย คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปให้ได้มากที่สุด ดังนั้นสถานที่พักที่เราเลือก จึงหนีไม่พ้นโฮลเทล (Hostel) ค่ะ^^
แต่เนื่องจากทุกคนที่ไปเป็นผู้หญิงล้วนทั้งหมด การเลือกโฮลเทลจึงต้องพิถีพิถันนิดนึง ไม่ใช่สักแต่ราคาถูกอย่างเดียว ต้องสะอาด ปลอดภัย เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัวด้วย หมายถึง ต้องแน่ใจว่าจะไม่มีใครมาวอแว วุ่นวายกับแก๊งเที่ยวของเราอ่ะค่ะ (แลดูเยอะเนอะ) ซึ่งหลังจากที่สืบเสาะหามาหลายที่ จึงได้เลือกที่พักที่ Drop Inn Osaka ค่ะ เราจองล่วงหน้าไว้ 6 เดือนเลย ตั้งแต่ปีทีแล้ว เป็นตอนที่โฮลเทลแห่งนี้เพิ่งเปิดใหม่ๆเลยค่ะ ยังไม่เห็นใครรีวิวด้วยซ้ำ แต่ได้อ่านความเห็นของคนที่ไปพักแล้ว กระแสไปในทิศทางเดียวกันว่า ดีถึงดีมาก จึงไม่รอช้า รีบจัดการจองเอาไว้เลย
วิธีการจองของเรา เราจองผ่าน www.booking.com ค่ะ ต้องใช้บัตรเครดิตในการจองด้วยนะคะ แต่ไม่ตัดบัตรค่ะ แค่เป็นหลักประกันไว้เฉยๆว่าจะเข้าพักจริงๆ ซึ่งเราจะจ่ายเงินก็ตอนเช็คอินที่โรงแรมเลยค่ะ รายละเอียดห้องพักต่างๆ ไม่รู้ว่าลงลิ้งได้ไหม ขอใส่สปอยล์เอาไว้ก็แล้วกันนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.booking.com/hotel/jp/drop-inn-osaka.th.html?aid=397616;sid=616d0b8b56599a7ec4cac3054b5b39e3;dcid=4;dist=0&type=total&
เราจอง Female Dromitory Room ไปทั้งหมด 5 เตียง เป็นเวลา 3 คืน 4 วัน รวมเป็นเงิน 51000เยน (ประมาณ 13690บาท) ตกคนละ 10020เยน(ประมาณ 2690บาท) ค่ะ สำหรับเราถือว่าราคาถูกมาก ถ้าเทียบกับราคาโรงแรมทั่วๆไป
อันดับต่อไปคือวิธีการเดินทางไปยังโฮลเทล เราเดินทางออกจากสนามบินคันไซด้วยลีมูซีนบัส ราคา 1550เยน (เราไม่ขอลงรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อตั๋วลีมูซีนบัสนะคะ มีคนตั้งกระทู้ + ลงรายละเอียดเยอะแล้ว แต่ถ้าหาไม่เจอจริงๆ หลังไมค์มาถามเราได้ค่ะ) ซึ่งรถบัสจะจอดที่หน้าตึก Harbis Ent. เลยค่ะ จากนั้นก็เดินตามแผนที่ข้างล่างนี้ไปโล้ดดดดด จริงๆเรียกแท๊กซี่ได้นะ แปบเดียวก็ถึง ไม่เกิน 5 นาที แต่เรากับเพื่อนๆค่อนข้างงก ทั้งๆที่ไปถึงในเมืองโฮซาก้าตอนเกือบตีหนึ่ง แต่ก็เลือกที่จะเดินไปโฮลเทล ใช้เวลาประมาณ 20 นาที (ไม่รวมเวลาหลงทาง เพราะเลี้ยวผิดนะ 555+) แต่ที่โอซาก้าปลอดภัยมากกกกกกกกกกค่ะ ไม่มีใครมาแซวหรือหาเรื่องเลยนะ แถมพอเราเดินๆไปถามทางกับคนที่เดินสวนมา เขาเต็มใจช่วยซะแบบพวกเราจนเกรงใจอ่ะ ทั้งๆที่เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ประทับใจคนโอซาก้าสุดๆ มีหลายเรื่องเลยล่ะที่เขาช่วยเหลือ เพราะหลงทางบ่อย 555+
เนื่องจากเวลาเช็คอินที่โฮลเทลคือตั้งแต่ 15.00-21.00น. เราได้ส่งเมลไปบอกทางโฮลเทลก่อนแล้วว่าจะเช็คอินช้านะ ดังนั้นเขาจึงให้รหัสผ่านประตูเข้าตึกมาก่อนเลยค่ะ (ส่งมาทางเมล) แล้วเขาจะวางกุญแจห้องไว้ให้ที่ล็อบบี้ชั้นสาม ถ้าใครจะเช็คอินช้าเหมือนเรา อย่าลืมส่งเมลไปบอกเขาด้วยนะคะ ^^
หน้าตาภายนอกของโฮลเทลเป็นแบบนี้ค่ะ
มีรหัสล็อคประตู ปลอดภัยแน่นอน แฮ่!
เข้ามาแล้วจะเจอะกับล็อบบี้ชั้น 1 ก่อน ซึ่งไม่มีใครอยู่ค่ะ เพราะหนาว 55+ ต้องขึ้นไปชั้น 3 เน้อ
นี่ค่ะ รายละเอียดชั้นต่างๆว่าแต่ละชั้นมีอะไรตั้งอยู่บ้าง ซึ่งที่พักของเราจะอยู่ชั้น 4 ค่ะ
เช็คอิน-เช็คเอ้าท์ที่เคาท์เตอร์ชั้น3ค่ะ มาเอาผ้าขนหนูไปอาบน้ำได้ ฟรีค่ะ ชอบมาก เพราะโฮลเทลที่สิงคโปร์ต้องจ่ายเงินอ่ะ แต่อาบเสร็จแล้วต้องคืนนะ ภายในห้องน้ำจะมีถังสีส้มไว้ใส่ผ้าขนหนูที่ใช้แล้วอยู่ค่ะ
ห้องส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้นสามทั้งหมด อ้อ! ลืมบอกว่าที่นี่มี wifi ให้ใช้ฟรี แถมเร็วทะลุนรกมาก ทุกชั้นเลยค่ะ เรางี้ชอบมาก อัพรูปรัวๆ^^ แล้วก็สามารถใช้ห้องครัว ตู้เย็น อ่างล้างจานได้ค่ะ เหมือนอยู่ที่บ้านเราเลย แต่อย่าลืมล้าง แล้วแยกขยะ เศษอาหารด้วยล่ะ ที่สำคัญ เวลามานั่งพูดคุยเป็นกลุ่มๆ อย่าเสียงดังจนรบกวนคนอื่นๆนะคะ คนญี่ปุ่นค่อนข้างซีเรียสเรื่องเสียงดังพอสมควรเลย ส่วนถ้าจะซักผ้า ก็ครั้งละ 300 เยนค่ะ แบ่งเป็นซักผ้า 200เยน แล้วก็อบผ้าอีก 100เยน ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง ตอนดึกๆจะมีคนมาซักเยอะมาก เพราะต่างคนต่างกลับมาจากเที่ยวต้องแบ่งเวลามาซักผ้าดีๆนะคะ
้
สิ่งที่คุณสาวๆมักกังวลเวลาพักที่โฮลเทลคือเรื่องห้องน้ำ+ห้องอาบน้ำใช่ไหมคะ โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องการแก้ผ้าอาบน้ำอยู่แล้ว ฮา แต่ที่นี่ไม่มีห้องน้ำรวมอย่างนั้นค่ะ หายห่วงได้ 55+ ห้องน้ำกับห้องอาบน้ำของที่นี่จะแยกกัน โดยห้องน้ำจะมีทุกชั้นค่ะ ส่วนห้องอาบน้ำจะมีอยู่ที่ชั้นสาม ลักษณะห้องอาบน้ำก็จะเป็นเหมือนในรูปเลยค่ะ สามารถเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนได้เลย มีแชมพู+สบู่ให้ใช้ฟรีด้วย มีไดร์เป่าผมให้ใช้ด้วยค่ะ แต่ไดร์เป่าผมต้องใช้ที่ห้องน้ำเท่านั้นนะ ห้ามเอาขึ้นไปเป่าผมที่เตียงนอนเด็ดขาด มันรบกวนคนอื่นค่ะ ปอลอ ห้องอาบน้ำชายก็อยู่ข้างๆกัน แต่ไม่เห็นใครมาอาบน้ำเลย เซ็งง่ะ >__< 555+
ต่อไป ขึ้นไปที่ชั้น 4 กันบ้างดีกว่า เป็นชั้นที่เราพักอยู่ค่ะ ซึ่งในชั้น 4 เนี่ย นอกจากเป็นโดมนอนของสตรีแล้ว ยังมีห้องสำหรับผู้ที่มาเป็นกรุ๊ป ปูด้วยเสื่อตาตามิ นอนบนฟูกแบบญี่ปุ่นตั้งอยู่ด้วยค่ะ ห้องค่อนข้างกว้างและเป็นส่วนตัวมากๆ แต่ราคาก็แพงตามไปด้วย (ใช้ห้องน้ำรวมเหมือนกันนะ)
โฉมหน้าของเตียงที่เราพักค่ะ แบ่งเป็นล็อกๆแบบนี้ คล้ายๆเตียงสองชั้น เห็นงี้แต่ข้างในกว้างมากนะคะ กลิ้งตัวไปมาได้สบายมาก ที่นอนดูหน้าตาธรรมดาสุดๆ แต่มันนุ่มสบายมากกกกกกกกกกกกกก!!!! นิ่มซะจนอยากจะถามเขาว่าไปซื้อมาจากไหน อยากเอากลับมาที่ไทยด้วย LOL แถมผ้าห่มเนี่ยก็อุ่นสุดๆ ทั้งๆที่เป็นผ้าลื่นๆ เชื่อไหมว่าตอนเรานอน เราใส่ชุดนอนแขนกุด กางเกงขาสั้น ห่มผ้าเนี่ยผืนเดียว อุ่นสบายมากๆ เพื่อนๆที่ไปด้วยกันกับเราก็ลงความเห็นแบบเดียวกัน โคตรชอบเลย 555+ ปอลอ ถึงจะมีเตียงเยอะแยะ แต่เงียบกริบมากกกกกกกกกกก ใครจะมาพัก ต้องระวังอย่าเสียงดังเด็ดขาด นำของกินมากินในเตียงไม่ได้นะ ห้ามเลย!
โดยรวมแล้วที่นี่ คุ้มราคามากค่ะสำหรับเรา แต่ถ้าใครจะมาพักเป็นครอบครัวล่ะก็ เราไม่แนะนำนะ เพราะใช้ห้องน้ำ+ห้องอาบน้ำรวม อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ ทีสำคัญ ที่นี่ไม่รับเด็กเข้าพักค่ะ ถ้ามาเป็นกรุ๊ปเกิน 4 คน แล้วอยากจะกรี๊ดกร๊าดตอนกลางคืน แนะนำให้จองห้องแบบกรุ๊ปค่ะ แต่ก็กรี๊ดกร๊าด ปาร์ตี้กันหนักหน่วง เสียงดังโครมครามไม่ได้ อ้อ! ที่นี่มีที่พักสำหรับคุณผู้ชายด้วยนะคะ จะอยู่ที่ชั้น 5 แต่เราไม่ได้ขึ้นไปถ่ายรูปมา กลัวจะได้ถ่ายห้องพัก ได้แต่รูปผู้ชาย 555+
จริงๆเราอยากให้ที่นี่ 5 ดาวเต็มเลยค่ะ แต่ขอหักไป 0.5 ดาว เพราะว่าเวลาฝากกระเป๋า ต้องเสียเงินตั้ง 600เยนแน่ะ แต่เขาก็มีเหตุผลของเขานะ เขาบอกว่า เคยมีแขกมาฝากกระเป๋าไว้แล้ว ไปเที่ยวฮิโรชิม่า 4 วัน แล้วแบบกระเป๋าเขาใบใหญ่มากกกกกกก ทำให้ไม่มีพื้นที่พอที่จะเก็บสัมภาระอย่างอื่น เราก็เข้าใจแหละ แต่ก็นะ เดี๋ยวจะรีวิวให้ดูอีกที่ ซึ่งอยู่โตเกียว ฝากกระเป๋าได้ฟรี ไม่คิดตังค์เพิ่ม 555+
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกระทู้ของเราจนจบนะคะ ^__^ ใครสนใจจะไปพักที่นี่ เชิญเลยค่ะ สะดวก สะอาด ปลอดภัย สตาฟทุกคนเฟรนลี่ แล้วก็พูดภาษาอังกฤษได้คล่องปร๋อเลย ไม่ต้องกลัวว่าจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง แต่แนะนำว่าให้จองล่วงหน้านานนิดนึงเน้อ เพราะเต็มเร็วเหมือนกันค่ะ
***ถ้าใครที่เข้ามาอ่านกระทู้ของเราหลังจากตั้งกระทู้ไปนานแล้ว (เกินหนึ่งเดือนอะไรแบบนี้) หรือต้องการสอบถามข้อมูลอื่นๆ เช่น การเดินทางโดยรถบัสจากสนามบินคันไซมาที่โฮลเทลแห่งนี้ หลังไมค์มานะคะ เพราะเราไม่ค่อยเข้ามาที่หน้ากระทู้ของตัวเองสักเท่าไหร่หลังจากตั้งกระทู้ไปนานแล้ว บางทีเม้นแล้วอาจจะไม่เห็นค่ะ ขอบคุณค่ะ***
[CR] Drop Inn Osaka โฮลเทลเปิดใหม่ย่านใจกลางโอซาก้า ราคาเบาๆ แต่สบายเกินคุ้ม!
***ภาพทั้งหมดถ่ายจากไอโฟน ต่างช่วงเวลากัน ทั้งตอนดึกและตอนเช้า เอียงบ้าง ไม่สวยบ้าง ไม่ว่ากันนะ***
สวัสดีค่าทุกคน เราเพิ่งไปเที่ยวญี่ปุ่นกับแก๊งเพื่อนๆสาวโสดมาสดๆร้อนๆ เมื่อวันที่ 20-28 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมานี้เอง โดยได้มีโอกาสไปเที่ยวทั้งที่โอซาก้ากับโตเกียวเลย ซึ่งการไปเที่ยวของเรายึดคอนเซปประหยัด แต่สบาย คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปให้ได้มากที่สุด ดังนั้นสถานที่พักที่เราเลือก จึงหนีไม่พ้นโฮลเทล (Hostel) ค่ะ^^
แต่เนื่องจากทุกคนที่ไปเป็นผู้หญิงล้วนทั้งหมด การเลือกโฮลเทลจึงต้องพิถีพิถันนิดนึง ไม่ใช่สักแต่ราคาถูกอย่างเดียว ต้องสะอาด ปลอดภัย เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัวด้วย หมายถึง ต้องแน่ใจว่าจะไม่มีใครมาวอแว วุ่นวายกับแก๊งเที่ยวของเราอ่ะค่ะ (แลดูเยอะเนอะ) ซึ่งหลังจากที่สืบเสาะหามาหลายที่ จึงได้เลือกที่พักที่ Drop Inn Osaka ค่ะ เราจองล่วงหน้าไว้ 6 เดือนเลย ตั้งแต่ปีทีแล้ว เป็นตอนที่โฮลเทลแห่งนี้เพิ่งเปิดใหม่ๆเลยค่ะ ยังไม่เห็นใครรีวิวด้วยซ้ำ แต่ได้อ่านความเห็นของคนที่ไปพักแล้ว กระแสไปในทิศทางเดียวกันว่า ดีถึงดีมาก จึงไม่รอช้า รีบจัดการจองเอาไว้เลย
วิธีการจองของเรา เราจองผ่าน www.booking.com ค่ะ ต้องใช้บัตรเครดิตในการจองด้วยนะคะ แต่ไม่ตัดบัตรค่ะ แค่เป็นหลักประกันไว้เฉยๆว่าจะเข้าพักจริงๆ ซึ่งเราจะจ่ายเงินก็ตอนเช็คอินที่โรงแรมเลยค่ะ รายละเอียดห้องพักต่างๆ ไม่รู้ว่าลงลิ้งได้ไหม ขอใส่สปอยล์เอาไว้ก็แล้วกันนะคะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราจอง Female Dromitory Room ไปทั้งหมด 5 เตียง เป็นเวลา 3 คืน 4 วัน รวมเป็นเงิน 51000เยน (ประมาณ 13690บาท) ตกคนละ 10020เยน(ประมาณ 2690บาท) ค่ะ สำหรับเราถือว่าราคาถูกมาก ถ้าเทียบกับราคาโรงแรมทั่วๆไป
อันดับต่อไปคือวิธีการเดินทางไปยังโฮลเทล เราเดินทางออกจากสนามบินคันไซด้วยลีมูซีนบัส ราคา 1550เยน (เราไม่ขอลงรายละเอียดเกี่ยวกับการซื้อตั๋วลีมูซีนบัสนะคะ มีคนตั้งกระทู้ + ลงรายละเอียดเยอะแล้ว แต่ถ้าหาไม่เจอจริงๆ หลังไมค์มาถามเราได้ค่ะ) ซึ่งรถบัสจะจอดที่หน้าตึก Harbis Ent. เลยค่ะ จากนั้นก็เดินตามแผนที่ข้างล่างนี้ไปโล้ดดดดด จริงๆเรียกแท๊กซี่ได้นะ แปบเดียวก็ถึง ไม่เกิน 5 นาที แต่เรากับเพื่อนๆค่อนข้างงก ทั้งๆที่ไปถึงในเมืองโฮซาก้าตอนเกือบตีหนึ่ง แต่ก็เลือกที่จะเดินไปโฮลเทล ใช้เวลาประมาณ 20 นาที (ไม่รวมเวลาหลงทาง เพราะเลี้ยวผิดนะ 555+) แต่ที่โอซาก้าปลอดภัยมากกกกกกกกกกค่ะ ไม่มีใครมาแซวหรือหาเรื่องเลยนะ แถมพอเราเดินๆไปถามทางกับคนที่เดินสวนมา เขาเต็มใจช่วยซะแบบพวกเราจนเกรงใจอ่ะ ทั้งๆที่เขาพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย ประทับใจคนโอซาก้าสุดๆ มีหลายเรื่องเลยล่ะที่เขาช่วยเหลือ เพราะหลงทางบ่อย 555+
เนื่องจากเวลาเช็คอินที่โฮลเทลคือตั้งแต่ 15.00-21.00น. เราได้ส่งเมลไปบอกทางโฮลเทลก่อนแล้วว่าจะเช็คอินช้านะ ดังนั้นเขาจึงให้รหัสผ่านประตูเข้าตึกมาก่อนเลยค่ะ (ส่งมาทางเมล) แล้วเขาจะวางกุญแจห้องไว้ให้ที่ล็อบบี้ชั้นสาม ถ้าใครจะเช็คอินช้าเหมือนเรา อย่าลืมส่งเมลไปบอกเขาด้วยนะคะ ^^
ห้องส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้นสามทั้งหมด อ้อ! ลืมบอกว่าที่นี่มี wifi ให้ใช้ฟรี แถมเร็วทะลุนรกมาก ทุกชั้นเลยค่ะ เรางี้ชอบมาก อัพรูปรัวๆ^^ แล้วก็สามารถใช้ห้องครัว ตู้เย็น อ่างล้างจานได้ค่ะ เหมือนอยู่ที่บ้านเราเลย แต่อย่าลืมล้าง แล้วแยกขยะ เศษอาหารด้วยล่ะ ที่สำคัญ เวลามานั่งพูดคุยเป็นกลุ่มๆ อย่าเสียงดังจนรบกวนคนอื่นๆนะคะ คนญี่ปุ่นค่อนข้างซีเรียสเรื่องเสียงดังพอสมควรเลย ส่วนถ้าจะซักผ้า ก็ครั้งละ 300 เยนค่ะ แบ่งเป็นซักผ้า 200เยน แล้วก็อบผ้าอีก 100เยน ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง ตอนดึกๆจะมีคนมาซักเยอะมาก เพราะต่างคนต่างกลับมาจากเที่ยวต้องแบ่งเวลามาซักผ้าดีๆนะคะ
้
สิ่งที่คุณสาวๆมักกังวลเวลาพักที่โฮลเทลคือเรื่องห้องน้ำ+ห้องอาบน้ำใช่ไหมคะ โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องการแก้ผ้าอาบน้ำอยู่แล้ว ฮา แต่ที่นี่ไม่มีห้องน้ำรวมอย่างนั้นค่ะ หายห่วงได้ 55+ ห้องน้ำกับห้องอาบน้ำของที่นี่จะแยกกัน โดยห้องน้ำจะมีทุกชั้นค่ะ ส่วนห้องอาบน้ำจะมีอยู่ที่ชั้นสาม ลักษณะห้องอาบน้ำก็จะเป็นเหมือนในรูปเลยค่ะ สามารถเอาเสื้อผ้าเข้าไปเปลี่ยนได้เลย มีแชมพู+สบู่ให้ใช้ฟรีด้วย มีไดร์เป่าผมให้ใช้ด้วยค่ะ แต่ไดร์เป่าผมต้องใช้ที่ห้องน้ำเท่านั้นนะ ห้ามเอาขึ้นไปเป่าผมที่เตียงนอนเด็ดขาด มันรบกวนคนอื่นค่ะ ปอลอ ห้องอาบน้ำชายก็อยู่ข้างๆกัน แต่ไม่เห็นใครมาอาบน้ำเลย เซ็งง่ะ >__< 555+
ต่อไป ขึ้นไปที่ชั้น 4 กันบ้างดีกว่า เป็นชั้นที่เราพักอยู่ค่ะ ซึ่งในชั้น 4 เนี่ย นอกจากเป็นโดมนอนของสตรีแล้ว ยังมีห้องสำหรับผู้ที่มาเป็นกรุ๊ป ปูด้วยเสื่อตาตามิ นอนบนฟูกแบบญี่ปุ่นตั้งอยู่ด้วยค่ะ ห้องค่อนข้างกว้างและเป็นส่วนตัวมากๆ แต่ราคาก็แพงตามไปด้วย (ใช้ห้องน้ำรวมเหมือนกันนะ)
โฉมหน้าของเตียงที่เราพักค่ะ แบ่งเป็นล็อกๆแบบนี้ คล้ายๆเตียงสองชั้น เห็นงี้แต่ข้างในกว้างมากนะคะ กลิ้งตัวไปมาได้สบายมาก ที่นอนดูหน้าตาธรรมดาสุดๆ แต่มันนุ่มสบายมากกกกกกกกกกกกกก!!!! นิ่มซะจนอยากจะถามเขาว่าไปซื้อมาจากไหน อยากเอากลับมาที่ไทยด้วย LOL แถมผ้าห่มเนี่ยก็อุ่นสุดๆ ทั้งๆที่เป็นผ้าลื่นๆ เชื่อไหมว่าตอนเรานอน เราใส่ชุดนอนแขนกุด กางเกงขาสั้น ห่มผ้าเนี่ยผืนเดียว อุ่นสบายมากๆ เพื่อนๆที่ไปด้วยกันกับเราก็ลงความเห็นแบบเดียวกัน โคตรชอบเลย 555+ ปอลอ ถึงจะมีเตียงเยอะแยะ แต่เงียบกริบมากกกกกกกกกกก ใครจะมาพัก ต้องระวังอย่าเสียงดังเด็ดขาด นำของกินมากินในเตียงไม่ได้นะ ห้ามเลย!
โดยรวมแล้วที่นี่ คุ้มราคามากค่ะสำหรับเรา แต่ถ้าใครจะมาพักเป็นครอบครัวล่ะก็ เราไม่แนะนำนะ เพราะใช้ห้องน้ำ+ห้องอาบน้ำรวม อาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ ทีสำคัญ ที่นี่ไม่รับเด็กเข้าพักค่ะ ถ้ามาเป็นกรุ๊ปเกิน 4 คน แล้วอยากจะกรี๊ดกร๊าดตอนกลางคืน แนะนำให้จองห้องแบบกรุ๊ปค่ะ แต่ก็กรี๊ดกร๊าด ปาร์ตี้กันหนักหน่วง เสียงดังโครมครามไม่ได้ อ้อ! ที่นี่มีที่พักสำหรับคุณผู้ชายด้วยนะคะ จะอยู่ที่ชั้น 5 แต่เราไม่ได้ขึ้นไปถ่ายรูปมา กลัวจะได้ถ่ายห้องพัก ได้แต่รูปผู้ชาย 555+
จริงๆเราอยากให้ที่นี่ 5 ดาวเต็มเลยค่ะ แต่ขอหักไป 0.5 ดาว เพราะว่าเวลาฝากกระเป๋า ต้องเสียเงินตั้ง 600เยนแน่ะ แต่เขาก็มีเหตุผลของเขานะ เขาบอกว่า เคยมีแขกมาฝากกระเป๋าไว้แล้ว ไปเที่ยวฮิโรชิม่า 4 วัน แล้วแบบกระเป๋าเขาใบใหญ่มากกกกกกก ทำให้ไม่มีพื้นที่พอที่จะเก็บสัมภาระอย่างอื่น เราก็เข้าใจแหละ แต่ก็นะ เดี๋ยวจะรีวิวให้ดูอีกที่ ซึ่งอยู่โตเกียว ฝากกระเป๋าได้ฟรี ไม่คิดตังค์เพิ่ม 555+
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกระทู้ของเราจนจบนะคะ ^__^ ใครสนใจจะไปพักที่นี่ เชิญเลยค่ะ สะดวก สะอาด ปลอดภัย สตาฟทุกคนเฟรนลี่ แล้วก็พูดภาษาอังกฤษได้คล่องปร๋อเลย ไม่ต้องกลัวว่าจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง แต่แนะนำว่าให้จองล่วงหน้านานนิดนึงเน้อ เพราะเต็มเร็วเหมือนกันค่ะ
***ถ้าใครที่เข้ามาอ่านกระทู้ของเราหลังจากตั้งกระทู้ไปนานแล้ว (เกินหนึ่งเดือนอะไรแบบนี้) หรือต้องการสอบถามข้อมูลอื่นๆ เช่น การเดินทางโดยรถบัสจากสนามบินคันไซมาที่โฮลเทลแห่งนี้ หลังไมค์มานะคะ เพราะเราไม่ค่อยเข้ามาที่หน้ากระทู้ของตัวเองสักเท่าไหร่หลังจากตั้งกระทู้ไปนานแล้ว บางทีเม้นแล้วอาจจะไม่เห็นค่ะ ขอบคุณค่ะ***
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น