สวัสดีค่ะพ่อๆ แม่ๆ เคยอ่านกระทู้ที่ระบายความในใจว่าไม่ชอบเสียงเด็กร้องในที่สาธารณะกันบ้างมั้ยคะ
แล้วรู้สึกเจ็บจี๊ดกันบ้างมั้ยเมื่อมีคนมาว่าดูแลลูกไม่ได้ก้ไม่ต้องพาออกมา และถ้าจัดการกับปัญหาตรงนี้ไม่ได้
ถ้าไม่พร้อมก็อย่ามีลูกกันเลย ไม่ชอบประโยคที่ว่าไม่พร้อมก็อย่ามีลูกเลย จะให้พร้อมหรือไม่พร้อมก็เจอปัญหา
นี้เหมือนกัน แทบจะทุกครอบครัวนะ
และเข้าใจหัวอกคนที่เค้าตั้งกระทู้ด้วยนะ เพราะตอนยังไม่มีลูกเราก็เป็นเหมือนกันไม่ถึงกับไม่ชอบเด็ก
ก็แค่ไม่ชอบเสียงร้องของเด็กเท่านั้นเอง พอมีลูกเราเข้าใจทันที ว่าไม่ใช่เรื่อง่ายที่จะควบคุม พ่อๆแม่มีวิธีรับ
สถานการณ์แบบนี้ยังงัยกันบ้าง มาแชร์กันดีกว่า
ถ้าเป็นเราอุ้มหนีจากที่ตรงนั้นก่อนค่ะ เรารู้สึกเกรงใจคนรอบข้าง ระหว่างอุ้มหนีเราจะคุยเสียงเข้มๆกับเค้าค่ะ
แต่ถ้าอาละวาทมากไปจะไม่คุยเลยให้ออกจากตรงนั้นก่อนแลัวก็มานั่งคุยกันว่าไม่ควรทำแบบนี้อีกลูกเรา 1 ขวบกว่า
เราจะบอกเค้าเสมอว่าแม่ไม่รู้ว่าหนูรู้เรื่องมั้ยแต่แม่ก็ต้องพูด ว่าพฤติกรรมแบบนี้แม่ไม่ชอบและลูกควรจะเกรงใจและ
เคารพต่อส่วนรวมด้วยนะ ถ้าขืนลูกเป็นแบบนี้อีก แม่จะไม่พามาด้วยแล้ว พอคุยเสร็จก็จะพาเค้าเดินเพื่อลดความเครียด
ค่ะ แต่บางครั้งสถานการณ์เลวร้ายมากๆเราก็ต้องปล่อย บางทีอุ้มมาจากทีนึงแล้วไม่หยุด มาอีกที่นึงแล้วยังร้องคุยก็แล้ว
พาเดินก็แล้ว แต่ยังร้องเราก็ปล่อยค่ะ เราอยากจะบอกว่าบางครั้งพ่อแม่อาจจะแก้ปัญหาทุกวิถีทางแล้วก็ได้ ถ้าเค้าอยู่ในที่
ส่วนกลางที่ไม่ใช่โรงหนัง ในร้านอาหารหรือร้านขายของ ถึงคนที่ไม่เข้าใจคุณอาจจะเจอครอบครัวนี้แค่ครั้งเดียวในชีวิต
และครั้งนั้นคุณโดนแจ็คพ๊อตที่ไปเจอช่วงที่น้องออกฤทธิ์ และพ่อแม่สอนเรื่องกติกาของครอบครัว และการอยู่ร่วมกับคนอื่น
ก็เป็นไปได้นะ ครั้งต่อไปเด็กคนนี้อาจจะแหกปากสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างน้อยลงหรือไม่ร้องเลยก็ได้
ในฐานะคนเป็นแม่และคนเคยเกลียดเสียงเด็กร้อง อยากขอความเห็นใจค่ะ ไม่มีครอบครัวไหนอยากให้ลูกร้อง
รบกวนคนอื่น เวลาเจอสถานการณ์แบบนี้คนเป็นพ่อเป็นแม่ยกตัวอย่างเราเนียะ ใจแทบอยากจะก้มกราบขอโทษสี่ทิศกันเลยทีเดียว
ทำได้แค่ก้มหัวแล้วยกตัวเจ้าปัญหานั้นออกไป แต่ครั้นจะไม่พาลูกไปเรียนรู้ข้างนอกบ้านบ้างมันก็ไม่ใช่วิธีแก้ที่ดีใช่มั้ยคะการออก
มาข้างนอกจะช่วยให้เค้าเรียนรู้มากกว่าอยู่บ้านสอนให้เค้าเจอสังคมและเคารพต่อส่วนรวม ถ้าอยู่บ้านเค้าไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้แน่นอน
เวลาออกไปข้างนอกและเราจะคิดเสมอว่าไม่ใช่ทุกคนที่เอ็นดูลูกเรา และไม่ใช่ทุกคนที่เข้าใจเราแน่นอน สำหรับเราที่เป็นแม่เราก็ทำ
เต็มที่จริงๆค่ะ ถ้าควบคุมได้ก็จะทำทุกวิถีทาง เพราะเราจะรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันทีถ้าได้ยินว่า "ถ้าดุแลไม่ได้ก็อย่าเอาออกมาเป็นภาระของสังคม"
อิแม่คงร้องไห้หนักมาก
ให้กำลังใจคนที่เป็นพ่อแม่นะคะ สู้ๆ
ขอบคุณค่ะที่อ่าน ^___^
ด้วยความเคารพ คือที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาดิฉันไม่ได้จะต่อว่าใครและเห็นใจ เข้าใจคนรอบข้างด้วยซ้ำ แค่อยากจะมาบอกว่าดิฉันไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อเกิดปัญหา และอยากแชร์วิธีแก้ปัญหาของตัวดฉันให้พ่อแม่คนอื่นทราบ เพื่อหาทางแก้ไขกัน เราไม่ได้เรียกร้องความเห็นใจจากสังคมอย่างเดียวพวกเราพ่อแม่ทำเต็มที่เหมือนกัน ดิฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ ดิฉันจะใช้ความเป็นแม่สอนลูกให้เคารพสิทธิ์ของสวนรวมและจะสอนลูกให้เป็นคนเห็นใจคนอื่นด้วยเช่นกัน ขอบคุณมากค่ะ
จากใจคนเป็นแม่กับคำพูดที่ว่า "ทำไมปล่อยลูกให้ร้องกลางห้าง" ถ้าดูแลไม่ได้ก็อย่าเอาออกมาเป็นภาระของสังคม
แล้วรู้สึกเจ็บจี๊ดกันบ้างมั้ยเมื่อมีคนมาว่าดูแลลูกไม่ได้ก้ไม่ต้องพาออกมา และถ้าจัดการกับปัญหาตรงนี้ไม่ได้
ถ้าไม่พร้อมก็อย่ามีลูกกันเลย ไม่ชอบประโยคที่ว่าไม่พร้อมก็อย่ามีลูกเลย จะให้พร้อมหรือไม่พร้อมก็เจอปัญหา
นี้เหมือนกัน แทบจะทุกครอบครัวนะ
ก็แค่ไม่ชอบเสียงร้องของเด็กเท่านั้นเอง พอมีลูกเราเข้าใจทันที ว่าไม่ใช่เรื่อง่ายที่จะควบคุม พ่อๆแม่มีวิธีรับ
สถานการณ์แบบนี้ยังงัยกันบ้าง มาแชร์กันดีกว่า
แต่ถ้าอาละวาทมากไปจะไม่คุยเลยให้ออกจากตรงนั้นก่อนแลัวก็มานั่งคุยกันว่าไม่ควรทำแบบนี้อีกลูกเรา 1 ขวบกว่า
เราจะบอกเค้าเสมอว่าแม่ไม่รู้ว่าหนูรู้เรื่องมั้ยแต่แม่ก็ต้องพูด ว่าพฤติกรรมแบบนี้แม่ไม่ชอบและลูกควรจะเกรงใจและ
เคารพต่อส่วนรวมด้วยนะ ถ้าขืนลูกเป็นแบบนี้อีก แม่จะไม่พามาด้วยแล้ว พอคุยเสร็จก็จะพาเค้าเดินเพื่อลดความเครียด
ค่ะ แต่บางครั้งสถานการณ์เลวร้ายมากๆเราก็ต้องปล่อย บางทีอุ้มมาจากทีนึงแล้วไม่หยุด มาอีกที่นึงแล้วยังร้องคุยก็แล้ว
พาเดินก็แล้ว แต่ยังร้องเราก็ปล่อยค่ะ เราอยากจะบอกว่าบางครั้งพ่อแม่อาจจะแก้ปัญหาทุกวิถีทางแล้วก็ได้ ถ้าเค้าอยู่ในที่
ส่วนกลางที่ไม่ใช่โรงหนัง ในร้านอาหารหรือร้านขายของ ถึงคนที่ไม่เข้าใจคุณอาจจะเจอครอบครัวนี้แค่ครั้งเดียวในชีวิต
และครั้งนั้นคุณโดนแจ็คพ๊อตที่ไปเจอช่วงที่น้องออกฤทธิ์ และพ่อแม่สอนเรื่องกติกาของครอบครัว และการอยู่ร่วมกับคนอื่น
ก็เป็นไปได้นะ ครั้งต่อไปเด็กคนนี้อาจจะแหกปากสร้างความรำคาญให้คนรอบข้างน้อยลงหรือไม่ร้องเลยก็ได้
รบกวนคนอื่น เวลาเจอสถานการณ์แบบนี้คนเป็นพ่อเป็นแม่ยกตัวอย่างเราเนียะ ใจแทบอยากจะก้มกราบขอโทษสี่ทิศกันเลยทีเดียว
ทำได้แค่ก้มหัวแล้วยกตัวเจ้าปัญหานั้นออกไป แต่ครั้นจะไม่พาลูกไปเรียนรู้ข้างนอกบ้านบ้างมันก็ไม่ใช่วิธีแก้ที่ดีใช่มั้ยคะการออก
มาข้างนอกจะช่วยให้เค้าเรียนรู้มากกว่าอยู่บ้านสอนให้เค้าเจอสังคมและเคารพต่อส่วนรวม ถ้าอยู่บ้านเค้าไม่ได้เรียนรู้เรื่องนี้แน่นอน
เวลาออกไปข้างนอกและเราจะคิดเสมอว่าไม่ใช่ทุกคนที่เอ็นดูลูกเรา และไม่ใช่ทุกคนที่เข้าใจเราแน่นอน สำหรับเราที่เป็นแม่เราก็ทำ
เต็มที่จริงๆค่ะ ถ้าควบคุมได้ก็จะทำทุกวิถีทาง เพราะเราจะรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาทันทีถ้าได้ยินว่า "ถ้าดุแลไม่ได้ก็อย่าเอาออกมาเป็นภาระของสังคม"
อิแม่คงร้องไห้หนักมาก
ด้วยความเคารพ คือที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาดิฉันไม่ได้จะต่อว่าใครและเห็นใจ เข้าใจคนรอบข้างด้วยซ้ำ แค่อยากจะมาบอกว่าดิฉันไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อเกิดปัญหา และอยากแชร์วิธีแก้ปัญหาของตัวดฉันให้พ่อแม่คนอื่นทราบ เพื่อหาทางแก้ไขกัน เราไม่ได้เรียกร้องความเห็นใจจากสังคมอย่างเดียวพวกเราพ่อแม่ทำเต็มที่เหมือนกัน ดิฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ ดิฉันจะใช้ความเป็นแม่สอนลูกให้เคารพสิทธิ์ของสวนรวมและจะสอนลูกให้เป็นคนเห็นใจคนอื่นด้วยเช่นกัน ขอบคุณมากค่ะ