เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2558 ดิฉันและครอบครัวได้ไปเที่ยวภูเก็ต
เมื่อไปถึงสนามบินมีเคาท์เตอร์แท็กซี่ติดต่อราคาคนละ200 บาท เราก็ไปยืนเข้าคิวโดยมีรถตู้วนมารับตามคิวที่ยืนไปเรื่
จนถึงคิวของเรามีคนรวมกัน 12 คนขึ้นรถ มีผู้หญิงถือวิทยุสื่อสารมาถามว่ามีกี่คน เค้าบอกว่านั่งไม่ได้คนเยอะ พวกดิฉันก็ลงไปเอากระเป๋า
คนขับรถตู้ซึ่งกำลังจัดกระเป๋าอยู่ข้างหลังดิฉันก็บอกคนขับว่านั่งไม่ได้ เค้าหันมาถามเสียงเข้มว่า" ทำไมถึงนั่งไม่ได้" โดยไม่มีหางเสียงเลย
ดิฉันก็ตอบว่าไม่ทราบผู้หญิงคนที่ถือวิทยุสื่อสารขึ้นมาบอก เค้าก็ดึงเก้าอี้เสริมอีก 2 ที่ข้างหลัง ดิฉันเห็นแบบนั้นก็เลยให้เด็กเล็กไปนั่ง
ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเราก็นั่งคุยกันสนุกสนานไปได้สักระยะ รถตู้ก็แวะเข้าไปจอดหน้าตึกแถวเป็นบริษัททัวร์ พนักงานในบริษัทมาเปิดประตู
บอกผู้โดยสารว่าบริษัทขอเช็คจำนวนผู้โดยสารขอให้ลงรถเข้าไปนั่งในบริษัทก่อน พอเราเข้าไปพนักงานชาย-หญิงในนั้นก็เริ่มเสนอ
ขายทัวร์ไปเกาะต่างๆ ซึ่งดิฉันไม่ซื้อเพราะมีเด็กเล็กไปด้วยและเราตั้งใจไปพักผ่อนเงียบๆเลยจองโรงแรมกะตะธานีรีสอร์ทแอนด์บิช
พอเราไม่ซื้อพนักงานชายเริ่มพูดไม่ค่อยดีและบอกว่าถ้าไปซื้อแถวหาดจะแพง ทั้งที่เค้าขายแพงมาก ไปเกาะพีพี เค้าขาย 3,400.-บาท
(แต่คนจีน 6 คนที่โดนต้อนลงไปด้วยกันไปซื้อที่ป่าตองได้ในราคา 1.500 บาท) เค้าเห็นเราไม่ซื้อจริงก็เลยถามเรื่องรถขากลับจะไปรับที่โรงแรม
ก็เลยคิดว่าซื้อไว้ก็ดีจ่ายเงินให้เค้า พอถึงวันกลับ รถนัดมารับ 07.30
เรารอถึง 08.00 ไม่มารับโทร.หาคนขับตามเบอร์ที่ให้ไว้ปิดเครื่อง พนักงานที่กะตะธานีพยายามติดต่อให้แต่เราไม่รอแล้วเพราะกลัวตกเครื่อง
เลยใช้บริการรถตู้หน้าโรงแรมราคาเท่ากัน ในที่สุดโทร.เข้าบริษัทติดต่อได้ดิฉันเลยบอกเค้าให้จ่ายเงินให้คนขับรถตู้ที่ไปส่งและให้เค้าคุย
กับคนขับ ผู้หญิงที่รับสายเค้าก็ขอโทษ เราต้องนั่งลุ้นไปตลอดทางเพราะตัวเมืองภูเก็ตรถติดมาก ที่ดิฉันโพสท์กระทู้นี้มีจุดประสงค์คือ
1. อยากให้ ททท.ภูเก็ตตรวจสอบกรณีเอาผู้โดยสารจากสนามบินไปลงกลางทางเพื่อซื้อทัวร์ซึ่งเสียเวลามากขนาดไม่ซื้อยังโดยยื้อเวลา
กว่า20 นาที พอไม่ซื้อจริงเดินตามมาส่งที่รถยังพูดว่า เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย ซึ่งดิฉันยอมรับว่าไม่พอใจมากแต่ก็ไม่ได้โต้ตอบ
ก่อนที่ดิฉันจะขึ้นรถก็มีรถตู้นำนักท่องเที่ยวจีนมาอีกคัน การกระทำเช่นนี้เหมือนกับการต้อนหมูเข้าเล้าชัดๆ
2. กรณีรถตู้ทิ้งผู้โดยสารทั้งที่จ่ายเงินไปแล้ว โดยตั้งใจปิดมือถือ จึงอยากให้เป็นกรณีศึกษาให้กับผู้ที่จะเดินทางไปภูเก็ตได้ทราบ
รถตู้จากสนามบินภูเก็ตพานักท่องเที่ยวไปฟัน
เมื่อไปถึงสนามบินมีเคาท์เตอร์แท็กซี่ติดต่อราคาคนละ200 บาท เราก็ไปยืนเข้าคิวโดยมีรถตู้วนมารับตามคิวที่ยืนไปเรื่
จนถึงคิวของเรามีคนรวมกัน 12 คนขึ้นรถ มีผู้หญิงถือวิทยุสื่อสารมาถามว่ามีกี่คน เค้าบอกว่านั่งไม่ได้คนเยอะ พวกดิฉันก็ลงไปเอากระเป๋า
คนขับรถตู้ซึ่งกำลังจัดกระเป๋าอยู่ข้างหลังดิฉันก็บอกคนขับว่านั่งไม่ได้ เค้าหันมาถามเสียงเข้มว่า" ทำไมถึงนั่งไม่ได้" โดยไม่มีหางเสียงเลย
ดิฉันก็ตอบว่าไม่ทราบผู้หญิงคนที่ถือวิทยุสื่อสารขึ้นมาบอก เค้าก็ดึงเก้าอี้เสริมอีก 2 ที่ข้างหลัง ดิฉันเห็นแบบนั้นก็เลยให้เด็กเล็กไปนั่ง
ก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรเราก็นั่งคุยกันสนุกสนานไปได้สักระยะ รถตู้ก็แวะเข้าไปจอดหน้าตึกแถวเป็นบริษัททัวร์ พนักงานในบริษัทมาเปิดประตู
บอกผู้โดยสารว่าบริษัทขอเช็คจำนวนผู้โดยสารขอให้ลงรถเข้าไปนั่งในบริษัทก่อน พอเราเข้าไปพนักงานชาย-หญิงในนั้นก็เริ่มเสนอ
ขายทัวร์ไปเกาะต่างๆ ซึ่งดิฉันไม่ซื้อเพราะมีเด็กเล็กไปด้วยและเราตั้งใจไปพักผ่อนเงียบๆเลยจองโรงแรมกะตะธานีรีสอร์ทแอนด์บิช
พอเราไม่ซื้อพนักงานชายเริ่มพูดไม่ค่อยดีและบอกว่าถ้าไปซื้อแถวหาดจะแพง ทั้งที่เค้าขายแพงมาก ไปเกาะพีพี เค้าขาย 3,400.-บาท
(แต่คนจีน 6 คนที่โดนต้อนลงไปด้วยกันไปซื้อที่ป่าตองได้ในราคา 1.500 บาท) เค้าเห็นเราไม่ซื้อจริงก็เลยถามเรื่องรถขากลับจะไปรับที่โรงแรม
ก็เลยคิดว่าซื้อไว้ก็ดีจ่ายเงินให้เค้า พอถึงวันกลับ รถนัดมารับ 07.30
เรารอถึง 08.00 ไม่มารับโทร.หาคนขับตามเบอร์ที่ให้ไว้ปิดเครื่อง พนักงานที่กะตะธานีพยายามติดต่อให้แต่เราไม่รอแล้วเพราะกลัวตกเครื่อง
เลยใช้บริการรถตู้หน้าโรงแรมราคาเท่ากัน ในที่สุดโทร.เข้าบริษัทติดต่อได้ดิฉันเลยบอกเค้าให้จ่ายเงินให้คนขับรถตู้ที่ไปส่งและให้เค้าคุย
กับคนขับ ผู้หญิงที่รับสายเค้าก็ขอโทษ เราต้องนั่งลุ้นไปตลอดทางเพราะตัวเมืองภูเก็ตรถติดมาก ที่ดิฉันโพสท์กระทู้นี้มีจุดประสงค์คือ
1. อยากให้ ททท.ภูเก็ตตรวจสอบกรณีเอาผู้โดยสารจากสนามบินไปลงกลางทางเพื่อซื้อทัวร์ซึ่งเสียเวลามากขนาดไม่ซื้อยังโดยยื้อเวลา
กว่า20 นาที พอไม่ซื้อจริงเดินตามมาส่งที่รถยังพูดว่า เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย ซึ่งดิฉันยอมรับว่าไม่พอใจมากแต่ก็ไม่ได้โต้ตอบ
ก่อนที่ดิฉันจะขึ้นรถก็มีรถตู้นำนักท่องเที่ยวจีนมาอีกคัน การกระทำเช่นนี้เหมือนกับการต้อนหมูเข้าเล้าชัดๆ
2. กรณีรถตู้ทิ้งผู้โดยสารทั้งที่จ่ายเงินไปแล้ว โดยตั้งใจปิดมือถือ จึงอยากให้เป็นกรณีศึกษาให้กับผู้ที่จะเดินทางไปภูเก็ตได้ทราบ