เราหยุดลาคลอดไป 3 เดือนค่ะ
ก่อนหน้านี้เราสนิทกับพี่หยกมาก
เพราะทำงานโต๊ะใกล้ๆกัน
เราเองเป็นคนเงียบๆ เลยสนิทกับพี่หยกคนเดียว ส่วนพี่หยกมีตำแหน่งสูงกว่าเรา
และเป็นคนทำงานเก่ง พี่หยกพูดเก่ง
เข้ากับคนง่าย แต่พี่เค้าสนิทกับเรามากที่สุด
บางทีมีคนที่ทำงานมาเป่าหู ทำให้เราแยกกัน แต่เราก็เอามาคุยมาเคลียร์กันค่ะ
กอดคอร้องไห้กันมาแล้ว สัญญาว่าจะไม่ทิ้งกัน
แต่เมือเราลาคลอด
3 เดือนผ่านไป เรากลับมาทำงานอีกครั้ง
เราพบว่าพี่หยกไม่เหมือนเดิม
พี่หยกมักจะไปไหนมาไหนกับพี่แตน
พนักงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามา
พี่แตนพูดเก่ง เข้ากับคนง่ายเหมือนพี่หยก
เราไม่ซีเรียสนะ ถ้าพี่แตนจะเข้ามาอีกคน
แต่เราคิดมากตรงที่
เค้ามักจะไปไหนมาไหนกันโดยที่ลืมเรา
เช่นเวลาทานข้าว เค้าก็จะไปทานด้วยกัน
โดยที่ไม่เรียกเรา เมื่อก่อนเราจะไปคุยกะพี่หยกเสมอที่โต๊ะทำงานของเขา
แต่ตอนนี้ไป ไม่เจอเค้าเลยสักครั้ง
เพราะพี่หยกไปคุยที่โต๊ะทำงานของพี่แตน
ทั้งๆที่อยู่คนละชั้นกัน แต่ก็หอบหิ้วเอกสารไปทำ ทั้งๆที่งานคนละส่วนกัน
ตอนนี้เราเหมือนโดนทิ้งจริงๆ
เพราะคุยกับใครก็ไม่สนิทใจ
ได้แต่เอาเวลาที่ว่างช่วงทานข้าว มาปั๊มนมให้ลูก เพราะไม่รู้จะคุยกับใคร
เรารู้สึกแย่จังเลยค่ะ
โดนเพื่อนร่วมงานที่สนิททิ้ง เพียงเพราะเราหยุดลาคลอด
ก่อนหน้านี้เราสนิทกับพี่หยกมาก
เพราะทำงานโต๊ะใกล้ๆกัน
เราเองเป็นคนเงียบๆ เลยสนิทกับพี่หยกคนเดียว ส่วนพี่หยกมีตำแหน่งสูงกว่าเรา
และเป็นคนทำงานเก่ง พี่หยกพูดเก่ง
เข้ากับคนง่าย แต่พี่เค้าสนิทกับเรามากที่สุด
บางทีมีคนที่ทำงานมาเป่าหู ทำให้เราแยกกัน แต่เราก็เอามาคุยมาเคลียร์กันค่ะ
กอดคอร้องไห้กันมาแล้ว สัญญาว่าจะไม่ทิ้งกัน
แต่เมือเราลาคลอด
3 เดือนผ่านไป เรากลับมาทำงานอีกครั้ง
เราพบว่าพี่หยกไม่เหมือนเดิม
พี่หยกมักจะไปไหนมาไหนกับพี่แตน
พนักงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามา
พี่แตนพูดเก่ง เข้ากับคนง่ายเหมือนพี่หยก
เราไม่ซีเรียสนะ ถ้าพี่แตนจะเข้ามาอีกคน
แต่เราคิดมากตรงที่
เค้ามักจะไปไหนมาไหนกันโดยที่ลืมเรา
เช่นเวลาทานข้าว เค้าก็จะไปทานด้วยกัน
โดยที่ไม่เรียกเรา เมื่อก่อนเราจะไปคุยกะพี่หยกเสมอที่โต๊ะทำงานของเขา
แต่ตอนนี้ไป ไม่เจอเค้าเลยสักครั้ง
เพราะพี่หยกไปคุยที่โต๊ะทำงานของพี่แตน
ทั้งๆที่อยู่คนละชั้นกัน แต่ก็หอบหิ้วเอกสารไปทำ ทั้งๆที่งานคนละส่วนกัน
ตอนนี้เราเหมือนโดนทิ้งจริงๆ
เพราะคุยกับใครก็ไม่สนิทใจ
ได้แต่เอาเวลาที่ว่างช่วงทานข้าว มาปั๊มนมให้ลูก เพราะไม่รู้จะคุยกับใคร
เรารู้สึกแย่จังเลยค่ะ