จากมติชนออนไลน์
จากรายงานของเอพี หลังภัยพิบัติจากสึนามิที่สร้างความเสียหายให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นผ่านพ้นไปได้สี่ปี วันนี้ญี่ปุ่นได้วางแผนรับมือภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้าด้วยการสร้างกำแพงยักษ์สูง 12.5 เมตร เท่ากับตึกห้าชั้นเป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตรรอบชายฝั่ง
โครงการนี้ต้องใช้งบประมาณสูงถึงหกพันแปดร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งผู้คัดค้านมองว่าการสร้างกำแพงคอนกรึตรอบชายฝั่งนอกจากจะทำลายระบบนิเวศทางทะเล รวมถึงทำลายทัศนียภาพ และเป็นอุปสรรคต่อการทำประมงแล้ว พวกมันยังมีส่วนช่วยชีวิตคนจากภัยพิบัติได้น้อยมาก เนื่องจากวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชีวิตรอดคือการหนีขึ้นที่สูง ส่วนผู้สนับสนุนโครงการมองว่ากำแพงนี้เป็น"ความชั่วร้ายที่จำเป็น" และยังมีส่วนช่วยในการจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย
นายคาซึโตชิ มุซาชิ ชาวบ้านในเมืองท่าโอซาเบะ ผู้เคยอาศัยอยู่ริมชายฝั่งก่อนย้ายไปอยู่พื้นที่ด้านในหลังเกิดสึนามิ กล่าวว่า กำแพงที่กำลังถูกสร้างทำให้เขามองไม่เห็นชายฝั่งและมีลักษณะไม่ต่างไปจากำแพงเรือนจำ
โครงการนี้ถูกผลักดันโดยพรรครัฐบาลและธุรกิจก่อสร้างรวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่นซึ่งอาจช่วยป้องกันความเสียหายได้ระดับหนึ่งแต่นักวิจารณ์มองว่านี่อาจทำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเกิดความประมาทได้ซึ่งในภัยพิบัติครั้งที่ผ่านมาผู้ประสบเหตุที่สูญหายและเสียชีวิตไม่น้อยละเลยการเตือนภัยที่มีขึ้นในขณะนั้น
ในเขตอิวานุมะทางใต้ของเซนไดมีการสร้างกำแพงสูง7.2เมตรทะเลเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งก่อนเกิดเหตุสึนามิหลายปีมันสามารถช่วยลดความรุนแรงของคลื่นยักษ์ได้เช่นเดียวกับแนวต้นสนใหญ่ แต่สึนามิก็พัดเข้าไปในพื้นที่ส่วนในเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร สำนักงานบริหารส่วนท้องถิ่นได้ทำการซ่อมแซมแนวกำแพงดังกล่าวแต่ไม่มีแผนที่จะสร้างให้สูงขึ้นกว่าเดิม แต่พวกเขาวางแผนที่จะสร้าง"กำแพงต้นไม้"ด้วยการปลูกป่าด้วยต้นไม้หลากชนิดซึ่งจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่ากำแพงคอนกรีตที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งกล่าวว่ากำแพงสูงไม่ใช่สิ่งจำเป็นแต่สิ่งที่จำเป็นคือการอพยพอย่างทันท่วงที
นายโทโมอากิ ทาคาฮาชิ หนึ่งในผู้ผลักดันการสร้างกำแพงต้นไม้ กล่าวว่าถึงแม้จะมีเสียงคัดค้านโครงการสร้างกำแพงคอนกรีตนี้บ้าง แต่ประชาชนจำนวนมากให้การสนับสนุนโครงการนี้เพราะช่วยสร้างงานในสภาวะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังตกต่ำ และหลายคนที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่กล้าออกมาคัดค้าน
แต่มีหนึ่งผู้คัดค้านที่หลายคนไม่คาดคิดคือภรรยาของนายชินโซะ อาเบะ, นางอาคิเอะได้ออกมาแสดงความเห็นต่อต้านโครงการนี้โดยในการให้ปาฐกถาในนิวยอร์คเมื่อกันยายนที่ผ่านมาเธอกล่าวว่ากำแพงนี้จะทำให้ประชาชนขาดความระมัดระวังและยังต้องใช้เงินอีกไม่น้อยในการบำรุงรักษาโดยเธอเสนอให้มีการใช้แนวทางป้องกันที่หลากหลายและมีความยืดหยุ่นมากกว่าที่จะนำมาตรการเดียวกันไปบังคับใช้กับทุกๆกรณี
"The Great Wall of Japan" ญี่ปุ่นสร้างกำแพงยักษ์กันคลื่อนสึนามิ สูงเท่าตึก5ชั้น
จากรายงานของเอพี หลังภัยพิบัติจากสึนามิที่สร้างความเสียหายให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นผ่านพ้นไปได้สี่ปี วันนี้ญี่ปุ่นได้วางแผนรับมือภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้าด้วยการสร้างกำแพงยักษ์สูง 12.5 เมตร เท่ากับตึกห้าชั้นเป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตรรอบชายฝั่ง
โครงการนี้ต้องใช้งบประมาณสูงถึงหกพันแปดร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งผู้คัดค้านมองว่าการสร้างกำแพงคอนกรึตรอบชายฝั่งนอกจากจะทำลายระบบนิเวศทางทะเล รวมถึงทำลายทัศนียภาพ และเป็นอุปสรรคต่อการทำประมงแล้ว พวกมันยังมีส่วนช่วยชีวิตคนจากภัยพิบัติได้น้อยมาก เนื่องจากวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชีวิตรอดคือการหนีขึ้นที่สูง ส่วนผู้สนับสนุนโครงการมองว่ากำแพงนี้เป็น"ความชั่วร้ายที่จำเป็น" และยังมีส่วนช่วยในการจ้างงานเพิ่มขึ้นด้วย
นายคาซึโตชิ มุซาชิ ชาวบ้านในเมืองท่าโอซาเบะ ผู้เคยอาศัยอยู่ริมชายฝั่งก่อนย้ายไปอยู่พื้นที่ด้านในหลังเกิดสึนามิ กล่าวว่า กำแพงที่กำลังถูกสร้างทำให้เขามองไม่เห็นชายฝั่งและมีลักษณะไม่ต่างไปจากำแพงเรือนจำ
โครงการนี้ถูกผลักดันโดยพรรครัฐบาลและธุรกิจก่อสร้างรวมทั้งหน่วยงานท้องถิ่นซึ่งอาจช่วยป้องกันความเสียหายได้ระดับหนึ่งแต่นักวิจารณ์มองว่านี่อาจทำให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยเกิดความประมาทได้ซึ่งในภัยพิบัติครั้งที่ผ่านมาผู้ประสบเหตุที่สูญหายและเสียชีวิตไม่น้อยละเลยการเตือนภัยที่มีขึ้นในขณะนั้น
ในเขตอิวานุมะทางใต้ของเซนไดมีการสร้างกำแพงสูง7.2เมตรทะเลเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งก่อนเกิดเหตุสึนามิหลายปีมันสามารถช่วยลดความรุนแรงของคลื่นยักษ์ได้เช่นเดียวกับแนวต้นสนใหญ่ แต่สึนามิก็พัดเข้าไปในพื้นที่ส่วนในเป็นระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร สำนักงานบริหารส่วนท้องถิ่นได้ทำการซ่อมแซมแนวกำแพงดังกล่าวแต่ไม่มีแผนที่จะสร้างให้สูงขึ้นกว่าเดิม แต่พวกเขาวางแผนที่จะสร้าง"กำแพงต้นไม้"ด้วยการปลูกป่าด้วยต้นไม้หลากชนิดซึ่งจะเป็นประโยชน์ยิ่งกว่ากำแพงคอนกรีตที่มนุษย์สร้างขึ้นโดยเจ้าหน้าที่รายหนึ่งกล่าวว่ากำแพงสูงไม่ใช่สิ่งจำเป็นแต่สิ่งที่จำเป็นคือการอพยพอย่างทันท่วงที
นายโทโมอากิ ทาคาฮาชิ หนึ่งในผู้ผลักดันการสร้างกำแพงต้นไม้ กล่าวว่าถึงแม้จะมีเสียงคัดค้านโครงการสร้างกำแพงคอนกรีตนี้บ้าง แต่ประชาชนจำนวนมากให้การสนับสนุนโครงการนี้เพราะช่วยสร้างงานในสภาวะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังตกต่ำ และหลายคนที่ไม่เห็นด้วยก็ไม่กล้าออกมาคัดค้าน
แต่มีหนึ่งผู้คัดค้านที่หลายคนไม่คาดคิดคือภรรยาของนายชินโซะ อาเบะ, นางอาคิเอะได้ออกมาแสดงความเห็นต่อต้านโครงการนี้โดยในการให้ปาฐกถาในนิวยอร์คเมื่อกันยายนที่ผ่านมาเธอกล่าวว่ากำแพงนี้จะทำให้ประชาชนขาดความระมัดระวังและยังต้องใช้เงินอีกไม่น้อยในการบำรุงรักษาโดยเธอเสนอให้มีการใช้แนวทางป้องกันที่หลากหลายและมีความยืดหยุ่นมากกว่าที่จะนำมาตรการเดียวกันไปบังคับใช้กับทุกๆกรณี