3. จะมีบุตรได้ไหม
ไม่ว่าคุณจะมีเชื้อเอชไอวีหรือไม่ก็ตาม คุณอาจต้องการมีบุตร, ในประเทศออสเตรเลีย ผู้ติดเชื้อเอชไอวีสามารถมีบุตรที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงได้
ถ้าคุณวางแผนจะมีบุตรหรือเพิ่งทราบว่าตนแองกำลังตั้งครรภ์ โปรดปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด แพทย์จะอธิบายทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการตั้งครรค์และเอชไอวี
ภายใต้การดูแลทางการแพทย์ที่ดี คุณจะให้โอกาสที่ดีที่สุดกับตัวคุณเองในการมีบุตรที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ในประเทศออสเตรเลีย เป็นไปได้น้อยมากสำหรับมารดาที่อยู่ภายใต้การบำบัดรักษาเอชไอวี ที่จะส่งต่อเชื้อไวรัสไปสู่บุตร
มารดาที่ติดเชื้อเอชไอวีสามารถลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่บุตรโดย;
• รับประทานยาต้านไวรัสเอชไอวี ระหว่างตั้งครรภ์
• คลอดบุตรโดยวิธีผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องแทนการคลอดทางช่องคลอด
• ไม่เลี้ยงทารกด้วยนมมารดา
• ให้บุตรรับประทานยาต้านไวรัสเอชไอวี (Anti Retroviral Treatment) หลังจากคลอดเป็นเวลาหกสัปดาห์
อาจจะมีประโยชน์กับคุณในการพูดคุยกับผู้อื่นที่ติดเชื้อเอชไอวี ผู้เชี่ยวชาญเอชไอวีของคุณและสภาโรคเอดส์ในแต่ละรัฐ แต่ละเขตส่วนใหญ่ น่าจะสามารถประสานงานและติดต่อคุณกับบิดามารดาอื่นๆที่ติดเชื้อเอชไอวีได้
“เราได้คุยกันเรื่องการมีลูกมาเป็นเวลานาน เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งที่เราได้ตกลงใจร่วมกัน เมื่อทราบเป็นครั้งแรกว่าเรามีเชื้อเอชไอวีเราไม่ได้คิดเลยว่าเราสามารถมีลูกได้ ความคิดในเรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างช้าๆ แล้วเมื่อเราสอบถาม แพทย์ก็ให้การสนับสนุน เราได้คุยกับใครๆ หลายคน แล้วได้ทราบว่าคนที่มีเชื้อเอชไอวีคนอื่นๆมีลูกที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง”
4. จะเป็นอย่างไรบ้างถ้าฉันฉีดยาเสพติด
ถ้าคุณฉีดยาเพสติดต้องมั่นใจว่าใช้อุปกรณ์ในการฉีดยาของคุณเอง หรือใช้เข็ม กระบอกฉีดยา และอุปกรณ์อื่นๆชุดใหม่อย่าใช้อุปกรณ์ฉีดยาร่วมกับคนอื่น เพื่อเป็นการป้องกันคุณและคนอื่นๆจากการติดเชื้อเอชไอวี, โรคไวรัสตับอักเสบบี และโรคไวรัสตับอักเสบซี
วางแผนล่วงหน้าและแน่ใจว่าคุณมีเข็มฉีดยาและกระบอกฉีดยาสำรองไว้เมื่อถึงเวลาต้องการ
ในประเทศออสเตรเลีย ผู้ที่ฉีดยาเสพติด สามารถขอรับเข็ม กระบอกฉีดยา และอุปกรณ์อื่นๆ ในการฉีดยาได้ฟรี แต่ไม่ได้หมายความว่าการฉีดยาเสพติดเป็นสิ่งถูกต้องตามกฏหมาย
คุณสามารถขอรับอุปกรณ์ ในการฉีดยาได้ฟรีจากหน่วยบริการแลกเปลี่ยนเข็มและกระบอกฉีดยา ที่เรียกว่า นิดเดิ้ลแอนด์ ซีรินจ์ โปรแกรม(NSP-Needle and Syringe Program) และร้านขายยาบางแห่ง หน่วยบริการแลกเปลี่ยนเข็มและกระบอกฉีดยา (NSP-Needle and Syringe Program) คือหน่วยบริการสำหรับผู้ที่ใช้ยาเสพติด และยังให้บริการข้อมูลและช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกยาเสพติด
เครื่องจำหน่ายเข็มฉีดยาสามารถพบเห็นได้หลายแห่งและเปิดบริการ 24 ชั่วโมง ต้องการทราบข้อมูลของหน่วยบริการแลกเปลี่ยนเข็มและกระบอกฉีดยา และเครื่องจำหน่ายเข็มฉีดยาใกล้บ้านในรัฐนิวเซาท์เวลลส์ โทรหน่วยบริการแอลกอฮอล์แอนด์ดรัคเซอร์วิส (ADIS -Alcohol and Drug Information Service) ที่ 1-800-422-599 ได้ทุกเวลา
เมื่อคุณฉีดยาเสพติด ใช้สำลีเช็ดแผลเพื่อห้ามเลือดและล้างมือของคุณให้สะอาดทุกครั้งหลังใช้
อย่าห้ามเลือดโดยการใช้นิ้วมือหรือหัวแม่มือของคุณ
ทิ้งอุปกรณ์ในการฉีดยาให้ปลอดภัยทุกครั้ง สถานที่ที่เหมาะสมที่สุดในการทิ้งอุปกรณ์ในการฉีดยาคือหน่วยบริการแลกเปลี่ยนเข็มและกระบอกฉีดยา ที่เรียกว่า นิดเดิ้ลแอนด์ ซีรินจ์ โปรแกรม(NSP-Needle and Syringe Program) ในกล่องทิ้งเข็มฉีดยาสีเหลืองที่เรียกว่า เยลโล่ ชาร์ฟ ดิสโพโซ่ล คอนเทนเนอร์ หรือฟิต บิน (yellow sharps disposal container (fit bin)) ร้านขายยาบางแห่งและโรงพยาบาลหลักๆ มีที่รับทิ้งอุปกรณ์ฉีดยาที่ใช้แล้ว นอกจากนี้คุณยังสามารถพบเห็นกล่องทิ้งเข็มฉีดยาได้ในห้องน้ำสาธารณะบางแห่งอีกด้วย
ถ้าหากคุณไม่สามารถเดินทางไปที่หน่วยบริการแลกเปลี่ยนเข็มและกระบอกฉีดยา ที่เรียกว่า นิดเดิ้ลแอนด์ ซีรินจ์ โปรแกรม(NSP-Needle and Syringe Program) หรือ กล่องทิ้งเข็มฉีดยาสาธารณะ (ฟิต บิน) ได้ ให้ทิ้งเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วในขวดที่มีฝาเกลียว (เช่น ขวดน้ำดื่ม) หมุนฝาปิดให้สนิทก่อนนำไปทิ้งในถังขยะ
เป็นความคิดที่ดีที่คุณควรบอกกับแพทย์ของคุณว่าคุณใช้ยาเสพติดอยู่ เนื่องจากยาเสพติดสามารถมีผลกระทบกับสุขภาพและการบำบัดรักษาเอชไอวีของคุณ แพทย์ของคุณยังสามารถที่จะแนะนำคุณไปยังหน่วยงานที่เชี่ยวชาญสำหรับผู้ใช้ยาเสพติดได้ด้วย
5. จะเดินทางไปต่างประเทศได้ไหม
ได้, แต่มีหลายสิ่งที่คุณควรพิจารณาในการเดินทาง เพราะว่าร่างกายของคุณอาจจะติดเชื้อโรคได้ง่ายกว่า ในขณะที่คุณไม่เคยติดเชื้อโรคเหล่านั้นในออสเตรเลีย การป้องกันไว้ก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงเชื้อโรคเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะถ้าคุณป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี
• บอกแพทย์ให้ทราบถึงแผนการเดินทางของคุณ แพทย์ของคุณสามารถช่วยในเรื่องความจำเป็นด้านการใช้ยา หรือกรณีฉุกเฉินที่ท่านอาจต้องประสบ
• ติดต่อสภาโรคเอดส์ในเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับบริการต่างๆ ที่คุณอาจจำเป็นต้องรู้ในประเทศที่คุณวางแผนจะเดินทางไป
• ถ้าคุณกำลังรับการรักษาหรือได้รับยาอย่างใดอย่างหนื่งอยู่ ต้องแน่ใจว่าคุณมียาเพียงพอสำหรับใช้ตลอดระยะเวลาที่เดินทาง ในบางประเทศยังไม่มียาสำหรับการรักษาเชื้อไอวี หรือถ้ามีก็แพงมาก ควรหาข้อมูลสำหรับขั้นตอนต่าง ๆในประเทศเหล่านั้น ถ้ายาของท่านเกิดเสียหายหรือสูญหาย
• ปรึกษาแพทย์ถึงเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโรค วัคซีนบางอย่างไม่ควรใช้กับผู้มีเชื้อเอชไอวี เช่นวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลือง (เยลโลว์ ฟีเวอร์, yellow fewer) ในขณะที่วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบเอและโรคตับอักเสบบี แนะนำให้ฉีด
• โปรดจำไว้เสมอว่าอาหารและเครื่องดื่มในบางประเทศอาจไม่มีความสะอาดและปลอดภัยเหมือนในประเทศออสเตรเลีย และอาจก่อให้เกิดอาการท้องร่วงและโรคอื่น ๆ
• ต้องมั่นใจว่าประเทศที่ท่านกำลังจะเดินทางไป ไม่มีกฎห้ามผู้มีเชื้อเอชไอวีหรือผู้นำยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีเข้าประเทศ
• บรรจุถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นไว้ในการะเป๋าเดินทางด้วย บางประเทศอาจไม่มีสินค้าเหล่านี้ หรือถ้ามีก็เป็นชนิดที่ด้อยคุณภาพ
ที่มา : hivrestrictions
Report : LIV APCO
คำถามที่ต้องการคำตอบ : ใช้ชีวิตอยู่กับเชื้อเอชไอวี อย่างไรดี??? (PART II)
ไม่ว่าคุณจะมีเชื้อเอชไอวีหรือไม่ก็ตาม คุณอาจต้องการมีบุตร, ในประเทศออสเตรเลีย ผู้ติดเชื้อเอชไอวีสามารถมีบุตรที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงได้
ถ้าคุณวางแผนจะมีบุตรหรือเพิ่งทราบว่าตนแองกำลังตั้งครรภ์ โปรดปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุด แพทย์จะอธิบายทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการตั้งครรค์และเอชไอวี
ภายใต้การดูแลทางการแพทย์ที่ดี คุณจะให้โอกาสที่ดีที่สุดกับตัวคุณเองในการมีบุตรที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ในประเทศออสเตรเลีย เป็นไปได้น้อยมากสำหรับมารดาที่อยู่ภายใต้การบำบัดรักษาเอชไอวี ที่จะส่งต่อเชื้อไวรัสไปสู่บุตร
มารดาที่ติดเชื้อเอชไอวีสามารถลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อสู่บุตรโดย;
• รับประทานยาต้านไวรัสเอชไอวี ระหว่างตั้งครรภ์
• คลอดบุตรโดยวิธีผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องแทนการคลอดทางช่องคลอด
• ไม่เลี้ยงทารกด้วยนมมารดา
• ให้บุตรรับประทานยาต้านไวรัสเอชไอวี (Anti Retroviral Treatment) หลังจากคลอดเป็นเวลาหกสัปดาห์
อาจจะมีประโยชน์กับคุณในการพูดคุยกับผู้อื่นที่ติดเชื้อเอชไอวี ผู้เชี่ยวชาญเอชไอวีของคุณและสภาโรคเอดส์ในแต่ละรัฐ แต่ละเขตส่วนใหญ่ น่าจะสามารถประสานงานและติดต่อคุณกับบิดามารดาอื่นๆที่ติดเชื้อเอชไอวีได้
“เราได้คุยกันเรื่องการมีลูกมาเป็นเวลานาน เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญอีกครั้งหนึ่งที่เราได้ตกลงใจร่วมกัน เมื่อทราบเป็นครั้งแรกว่าเรามีเชื้อเอชไอวีเราไม่ได้คิดเลยว่าเราสามารถมีลูกได้ ความคิดในเรื่องนี้เกิดขึ้นอย่างช้าๆ แล้วเมื่อเราสอบถาม แพทย์ก็ให้การสนับสนุน เราได้คุยกับใครๆ หลายคน แล้วได้ทราบว่าคนที่มีเชื้อเอชไอวีคนอื่นๆมีลูกที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง”
4. จะเป็นอย่างไรบ้างถ้าฉันฉีดยาเสพติด
ถ้าคุณฉีดยาเพสติดต้องมั่นใจว่าใช้อุปกรณ์ในการฉีดยาของคุณเอง หรือใช้เข็ม กระบอกฉีดยา และอุปกรณ์อื่นๆชุดใหม่อย่าใช้อุปกรณ์ฉีดยาร่วมกับคนอื่น เพื่อเป็นการป้องกันคุณและคนอื่นๆจากการติดเชื้อเอชไอวี, โรคไวรัสตับอักเสบบี และโรคไวรัสตับอักเสบซี
วางแผนล่วงหน้าและแน่ใจว่าคุณมีเข็มฉีดยาและกระบอกฉีดยาสำรองไว้เมื่อถึงเวลาต้องการ
ในประเทศออสเตรเลีย ผู้ที่ฉีดยาเสพติด สามารถขอรับเข็ม กระบอกฉีดยา และอุปกรณ์อื่นๆ ในการฉีดยาได้ฟรี แต่ไม่ได้หมายความว่าการฉีดยาเสพติดเป็นสิ่งถูกต้องตามกฏหมาย
คุณสามารถขอรับอุปกรณ์ ในการฉีดยาได้ฟรีจากหน่วยบริการแลกเปลี่ยนเข็มและกระบอกฉีดยา ที่เรียกว่า นิดเดิ้ลแอนด์ ซีรินจ์ โปรแกรม(NSP-Needle and Syringe Program) และร้านขายยาบางแห่ง หน่วยบริการแลกเปลี่ยนเข็มและกระบอกฉีดยา (NSP-Needle and Syringe Program) คือหน่วยบริการสำหรับผู้ที่ใช้ยาเสพติด และยังให้บริการข้อมูลและช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ต้องการเลิกยาเสพติด
เครื่องจำหน่ายเข็มฉีดยาสามารถพบเห็นได้หลายแห่งและเปิดบริการ 24 ชั่วโมง ต้องการทราบข้อมูลของหน่วยบริการแลกเปลี่ยนเข็มและกระบอกฉีดยา และเครื่องจำหน่ายเข็มฉีดยาใกล้บ้านในรัฐนิวเซาท์เวลลส์ โทรหน่วยบริการแอลกอฮอล์แอนด์ดรัคเซอร์วิส (ADIS -Alcohol and Drug Information Service) ที่ 1-800-422-599 ได้ทุกเวลา
เมื่อคุณฉีดยาเสพติด ใช้สำลีเช็ดแผลเพื่อห้ามเลือดและล้างมือของคุณให้สะอาดทุกครั้งหลังใช้
อย่าห้ามเลือดโดยการใช้นิ้วมือหรือหัวแม่มือของคุณ
ทิ้งอุปกรณ์ในการฉีดยาให้ปลอดภัยทุกครั้ง สถานที่ที่เหมาะสมที่สุดในการทิ้งอุปกรณ์ในการฉีดยาคือหน่วยบริการแลกเปลี่ยนเข็มและกระบอกฉีดยา ที่เรียกว่า นิดเดิ้ลแอนด์ ซีรินจ์ โปรแกรม(NSP-Needle and Syringe Program) ในกล่องทิ้งเข็มฉีดยาสีเหลืองที่เรียกว่า เยลโล่ ชาร์ฟ ดิสโพโซ่ล คอนเทนเนอร์ หรือฟิต บิน (yellow sharps disposal container (fit bin)) ร้านขายยาบางแห่งและโรงพยาบาลหลักๆ มีที่รับทิ้งอุปกรณ์ฉีดยาที่ใช้แล้ว นอกจากนี้คุณยังสามารถพบเห็นกล่องทิ้งเข็มฉีดยาได้ในห้องน้ำสาธารณะบางแห่งอีกด้วย
ถ้าหากคุณไม่สามารถเดินทางไปที่หน่วยบริการแลกเปลี่ยนเข็มและกระบอกฉีดยา ที่เรียกว่า นิดเดิ้ลแอนด์ ซีรินจ์ โปรแกรม(NSP-Needle and Syringe Program) หรือ กล่องทิ้งเข็มฉีดยาสาธารณะ (ฟิต บิน) ได้ ให้ทิ้งเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วในขวดที่มีฝาเกลียว (เช่น ขวดน้ำดื่ม) หมุนฝาปิดให้สนิทก่อนนำไปทิ้งในถังขยะ
เป็นความคิดที่ดีที่คุณควรบอกกับแพทย์ของคุณว่าคุณใช้ยาเสพติดอยู่ เนื่องจากยาเสพติดสามารถมีผลกระทบกับสุขภาพและการบำบัดรักษาเอชไอวีของคุณ แพทย์ของคุณยังสามารถที่จะแนะนำคุณไปยังหน่วยงานที่เชี่ยวชาญสำหรับผู้ใช้ยาเสพติดได้ด้วย
5. จะเดินทางไปต่างประเทศได้ไหม
ได้, แต่มีหลายสิ่งที่คุณควรพิจารณาในการเดินทาง เพราะว่าร่างกายของคุณอาจจะติดเชื้อโรคได้ง่ายกว่า ในขณะที่คุณไม่เคยติดเชื้อโรคเหล่านั้นในออสเตรเลีย การป้องกันไว้ก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงเชื้อโรคเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยเฉพาะถ้าคุณป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวี
• บอกแพทย์ให้ทราบถึงแผนการเดินทางของคุณ แพทย์ของคุณสามารถช่วยในเรื่องความจำเป็นด้านการใช้ยา หรือกรณีฉุกเฉินที่ท่านอาจต้องประสบ
• ติดต่อสภาโรคเอดส์ในเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับบริการต่างๆ ที่คุณอาจจำเป็นต้องรู้ในประเทศที่คุณวางแผนจะเดินทางไป
• ถ้าคุณกำลังรับการรักษาหรือได้รับยาอย่างใดอย่างหนื่งอยู่ ต้องแน่ใจว่าคุณมียาเพียงพอสำหรับใช้ตลอดระยะเวลาที่เดินทาง ในบางประเทศยังไม่มียาสำหรับการรักษาเชื้อไอวี หรือถ้ามีก็แพงมาก ควรหาข้อมูลสำหรับขั้นตอนต่าง ๆในประเทศเหล่านั้น ถ้ายาของท่านเกิดเสียหายหรือสูญหาย
• ปรึกษาแพทย์ถึงเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโรค วัคซีนบางอย่างไม่ควรใช้กับผู้มีเชื้อเอชไอวี เช่นวัคซีนป้องกันโรคไข้เหลือง (เยลโลว์ ฟีเวอร์, yellow fewer) ในขณะที่วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบเอและโรคตับอักเสบบี แนะนำให้ฉีด
• โปรดจำไว้เสมอว่าอาหารและเครื่องดื่มในบางประเทศอาจไม่มีความสะอาดและปลอดภัยเหมือนในประเทศออสเตรเลีย และอาจก่อให้เกิดอาการท้องร่วงและโรคอื่น ๆ
• ต้องมั่นใจว่าประเทศที่ท่านกำลังจะเดินทางไป ไม่มีกฎห้ามผู้มีเชื้อเอชไอวีหรือผู้นำยาต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีเข้าประเทศ
• บรรจุถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นไว้ในการะเป๋าเดินทางด้วย บางประเทศอาจไม่มีสินค้าเหล่านี้ หรือถ้ามีก็เป็นชนิดที่ด้อยคุณภาพ
ที่มา : hivrestrictions
Report : LIV APCO