สถานการณ์เศรษฐกิจ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทรุดหนักมากขึ้น โดยตั้งแต่ก่อการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมายังไม่มีทีท่าว่าจะกระเตื้องขึ้นแม้แต่น้อย ล่าสุดสัญญาณการล่มสลายของเศรษฐกิจสังคมไทยดูเหมือนจะชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นไตรมาสแรกของปี 2558 เมื่อพบว่า ภาคเอกชนหลายบริษัทได้ทยอยปรับลดจำนวนพนักงาน อุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ชื่อดังหลายต่อหลายบริษัทแห่ย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศไทย และดูเหมือนจะมีข้อมูลที่ชัดเจนว่าผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยทยอยปิดกิจการ เนื่องจากแบกรับภาระค่าใช้จ่ายและต้นทุนในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ไม่ไหว

โดยล่าสุดพบว่า กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ได้จัดทำข้อมูลรายงานสถานการณ์การว่างงาน การเลิกจ้างและความต้องการแรงงาน ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2558 โดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า รายงานสถานการณการณ์ว่างงาน การเลิกจ้างและความตอ้งการแรงงาน (กุมภาพันธ์ 2558) ที่จัดทำโดยกรมการจัดงานหา กระทรวงแรงงาน ดังกล่าวนั้น ระบุว่า “สถานการณ์การว่างงาน” ของคนไทยนั้น จากข้อมูลของสํานักงานสถิติแห่งชาติ ที่ทําการสํารวจในเดือนมกราคม 2558 ปรากฏว่ามีกําลังแรงงานประมาณ 38.01 ล้านคน เป็นผู้มีงานทํา 37.36 ล้านคน ผู้ว่างงานจํานวน 4.04 แสนคน (คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 1.06) และผู้รอฤดูกาล 0.25 แสนคน

เมื่อพิจารณาผู้ว่างงานจากประสบการณ์การทํางาน พบว่าเป็นผู้ที่ไม่เคยทํางานมาก่อน 1.64 แสนคน และเคยทํางานมาก่อน 2.40 แสนคน ในจํานวนผู้ที่เคยทํางานมาก่อน เคยทํางานอยู่ในภาคการบริการ และการค้ามากที่สุดจํานวน 1.19 แสนคน รองลงมาอยู่ในภาคการผลิต จํานวน 0.78 แสนคน และภาคเกษตรกรรมน้อยที่สุด จํานวน 0.43 แสนคน

สําหรับผู้ว่างงานในเดือนมกราคม 2558 มีผู้ว่างงานจํานวน 4.04 แสนคน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 1.06 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจํานวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น 4.3 หมื่นคน คิดเป็นร้อยละ 11.79 ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.2

โดยแนวโน้มการว่างงานเดือนมีนาคม 2558   กรมการจัดหางานได้นําข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาทําการวิเคราะห์ในเชิงสถิติแล้วเห็นว่าในเดือนมีนาคม 2558 จะมีผู้ว่างงานประมาณ 350,000 คน คิดเป็นอัตราการว่างงานร้อยละ 0.9 ของกําลังแรงงาน ซึ่งจํานวน ผู้ว่างงานจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 6.0 หมื่นคน อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.2 ซึ่งในจํานวนผู้ว่างงานนี้เป็นผู้ที่ไม่เคยทํางานมาก่อน 1.66 แสนคน และผู้ที่เคยทํางานมาก่อน 1.84 แสนคน โดยทํางานอยู่ในภาคบริการและการค้ามากที่สุดจํานวน 9.39 หมื่นคน รองลงมาอยู่ในการ ผลิตจํานวน 5.36 หมื่นคน และภาคเกษตรกรรม 3.68 หมื่นคน ตามลําดับ

นอกจากนี้ ด้าน “สถานการณ์การเลิกจ้าง” รายงานดังกล่าวได้อ้างว่า สถิติผู้ประกันตนที่มาขึ้นทะเบียนขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเดือนมกราคม 2558 ว่ามีจํานวนทั้งสิ้น 45,705 คน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พบว่าเพิ่มขึ้น จํานวน 5,295 คน หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.10   โดยผู้ถูกเลิกจ้างเพิ่มขี้น จํานวน 1,278 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.56 และผู้ที่ลาออกเพิ่มขึ้น จํานวน 4,017 คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.85

เมื่อพิจารณาผู้ประกันตนที่ถูกเลิกจ้าง สาเหตุเนื่องมาจากนายจ้างปิดกิจการมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 62.33 รองลงมาได้แก่ นายจ้างลดจํานวนพนักงาน คิดเป็นร้อยละ 22.42 สาเหตุอื่นๆ เช่น สุขภาพไม่ดี หยุดกิจการชั่วคราว คิดเป็นร้อยละ 12.54 ไม่ผ่านการประเมิน/ทดลองงาน คิดเป็นร้อยละ 2.27 มีความผิด คิดเป็นร้อยละ 0.39 นายจ้างใช้เครื่องจักรที่ทันสมัย คิดเป็นร้อยละ 0.06