ทำใจอยู่นานว่าตั้งกระทู้ดีมั้ย เริ่มเลยละกัน ฮ่าๆๆๆๆ
เท่าที่จำได้เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนผู้ชายที่รู้จักกันตอนประถมแล้วตอนนั้นเขาเป็นคนเงียบๆเก็บกดสไตล์เด็กเรียนดัดฟันใส่แว่น เพื่อนเราชอบแกล้งเขาเสมอเพราะน่าแกล้งดีมั้ง ฮ่าๆๆๆ แต่ละครั้งที่แกล้งเขาก็จะชอบด่าเป็นฟืนเป็นไฟ(ปกติเขาเป็นคนปากจัดอยู่แล้วด้วย)ซึ่งเป็นภาพติดตาที่เห็นบ่อยๆในตอนนั้น พอขึ้นม.1 เขาย้ายไปเรียนโรงเรียนต่างจังหวัด เลยไม่ได้ติดต่อกันเลย แต่ตอนนั้นยังคิดแบบเพื่อนไม่ได้คิดอะไรเลย ....เคยทักไปถามไถ่ตอนช่วงม.2ได้มั้ง ช่วงนั้นก็ทักแชทไปคุยถามไถ่เขาตามภาษาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกัน เรียนไหนเป็นไงมั่ง แล้วจากนั้นก็ไม่ได้คุยไรกันอีก
จนถึงตอนนี้ ปัจจุบัน เราเรียนคณะสถาปัตย์ปี1 ก่อนช่วงปีใหม่เราบังเอิญเห็นชื่อเฟสเขาหน้าฟิต อยู่ๆก็คิดจะทักไปหาหน่อย ไม่ได้คุยกันนาน ก็ทักไปหาว่าเป็นไงไม่เจอกันนานมาก เราถามไปถามมารู้ว่าเขาเรียนอยู่คณะทันตะ ปี1 แต่อยู่คนละมหาลัยกับเรา เราก็คิดดีใจแทนเพื่อนนะเพราะปกติเรียนเก่งอยู่ละแถมยังติดทันตะอีก ด้วยความที่อยากเจอเพื่อนด้วยเลยชวนมาเจอกันตอนปิดเทอมเพราะพอปิดเทอมคนที่มาเรียนต่างจังหวัดก็จะกลับบ้านกัน เขาก็โอเคและให้เบอร์เรามาเผื่อติดต่อกันได้ เราก็เลยให้เบอร์ไปเผื่อติดต่อเช่นกัน
ถึงเวลาปิดเทอมไหนๆ จะเจอกันละ เลยคิดชวนเพื่อนๆที่คิดจะชวนด้วยสมัยประถมมานอกจากเขา แต่ไปๆมาๆ เพื่อนที่มาตามนัดก็มาแค่ 2 คน ยังไม่รวมเรากับเขานะ ทั้งหมดสองคนนี้เป็นผู้หญิงหมดกลายเป็นว่าเขาเป็นผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม ตามจริงเพื่อนผู้หญิงอีกคนนึงจะไม่ได้มาเพราะมีติดนัดอื่นแต่ก็มาแว๊บเที่ยวด้วยแป๊ปนึงขอแทนชื่อเพื่อนผู้หญิงคนนี้ว่า เอ ละกัน ฮ่าๆๆๆ ส่วนเพื่อนผู้หญิงอีกคนชื่อ บี ซึ่งเรานัดมาเจอที่ห้าง เรามาคนแรกแล้วเอก็มาคนที่สองตอนนั้นเขากับบียังไม่มา เอเลยให้เราไปเป็นเพื่อนทำธุระในห้าง ระหว่างที่รอเอ มือถือเราก็มีสายเข้าเป็นเบอร์แปลก รับสาย เสียงปลายสายเป็นเสียงผู้ชาย แว๊บแรกก็คิดว่าใช่เขาป่าววะ แต่มันไม่ใช่เบอร์ที่เราเซฟไว้ พอคุยอีกทีเป็นเขาจริงๆด้วยแฮะ ถึงจะไม่ได้คุยแบบได้ยินเสียงมาหลายปีก็ทำให้จำได้ว่าเป็นเขาจากสำเนียงที่พูด เลยนัดเจอที่ร้านอาหารในห้างกัน เรากับเอตื่นเต้นเพราะไม่ได้เจอเขานานมาก ระหว่างเดินมาหาเอเห็นเขานั่งอยู่หน้าร้านอาหาร ทีแรกเรามองไม่เห็นพยายามหา แต่พอได้เจอเท่านั้นล่ะขรั่บ ในใจรู้สึกดีใจมากที่ได้เจอกันแล้วได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเขา คือ เขาดูดีขึ้นเยอะมากจากแต่ก่อน เอก็ชวนเขาคุยทักทายเป็นไงมาไง เราเลยทักบ้างหาเรื่องคุย เริ่มแรกทักเรื่องดัดฟันซึ่งตอนนี้ยังดัดอยู่เลย ระหว่างนั้นบีมาถึงพอดีก็หาไรกินกัน เรานั่งตรงข้ามเขา ระหว่างที่นั่งมองตรงข้ามกันอยู่ๆในใจก็แอบเต้นรัวๆซะแล้ว แถมเขายังเผลอถ่ายรูปตอนเราเม้ากับเอและบีเมามัน (ที่เรารู้เพราะแฟรชมือถือเขาออก)แต่ก็ไม่คิดไรเลยเม้าต่อ พยายามไม่คิดไรมากเพียงอาจจะแค่ไม่ได้เจอนานเลยตื่นเต้นทำตัวไม่ถูก หลังจากนั้นก็เดินเที่ยวห้างเรื่อยเปื่อยแวะโซนเกมส์กัน เอกับบีเล่นเกมส์กันสองคน เรากับเขาก็ยืนดู ปรากฎว่าไปๆมาๆเอกับบีให้เรากับเขามาเล่นแทนมีช่วงที่เราเล่นเกมส์นำไป2-3คะแนน เขาถึงกับทำหน้าเหวอใส่ เราเห็นถึงกับปล่อยก๊ากต่อหน้าเขาเลยสุดท้ายเราแพ้ซะงั้น ฮ่าๆๆๆ ต่อมาเราชวนบีมาเล่นกีต้าฮีโร่ เอเล่นไม่ค่อยเป็นเลยให้เขามาช่วยเอเล่นครึ่งแป้น พอเล่นๆไปเอวางมือให้เขามาเล่นแทนทั้งหมด เราก็เล่นกับเขาแต่ครั้งนี้เราชนะ ฮ่าๆๆๆ หลังจากนั้นก็ดูหนังกันแต่เอมีนัดเลยไม่ได้ดูด้วย ดูเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ ซึ่งก่อนแยกย้ายกันกลับมันทำให้ความคิดเราเปลี่ยนแบบชัดเจน เรากับบีเดินแยกกับเขา เราหันไปโบกมือลาเขา เขาก็โบกมือยิ้มๆให้ แค่นั้นล่ะ หัวใจเต้นเองเออเองเลย
หลังจากที่แยกจากกัน อยู่ๆก็มีความรู้สึกเราเหมือนคงไม่ได้เจอกันอีกแน่ เลยคิดจะติดต่อคุยทางแชทไปเรื่อยๆ บอกเลยนะว่าเราเป็นคนหวั่นไหวง่ายมากแต่ถึงจะหวั่นไหวง่ายเราก็ชอบเพียงแค่คนเดียวนะ อิอิ เดี๋ยวมาเล่าต่อนะ เรื่องมันยาวจริงไรจริง ฮ่าๆๆๆๆ
แอบชอบเพื่อนสมัยประถม
เท่าที่จำได้เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนผู้ชายที่รู้จักกันตอนประถมแล้วตอนนั้นเขาเป็นคนเงียบๆเก็บกดสไตล์เด็กเรียนดัดฟันใส่แว่น เพื่อนเราชอบแกล้งเขาเสมอเพราะน่าแกล้งดีมั้ง ฮ่าๆๆๆ แต่ละครั้งที่แกล้งเขาก็จะชอบด่าเป็นฟืนเป็นไฟ(ปกติเขาเป็นคนปากจัดอยู่แล้วด้วย)ซึ่งเป็นภาพติดตาที่เห็นบ่อยๆในตอนนั้น พอขึ้นม.1 เขาย้ายไปเรียนโรงเรียนต่างจังหวัด เลยไม่ได้ติดต่อกันเลย แต่ตอนนั้นยังคิดแบบเพื่อนไม่ได้คิดอะไรเลย ....เคยทักไปถามไถ่ตอนช่วงม.2ได้มั้ง ช่วงนั้นก็ทักแชทไปคุยถามไถ่เขาตามภาษาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกัน เรียนไหนเป็นไงมั่ง แล้วจากนั้นก็ไม่ได้คุยไรกันอีก
จนถึงตอนนี้ ปัจจุบัน เราเรียนคณะสถาปัตย์ปี1 ก่อนช่วงปีใหม่เราบังเอิญเห็นชื่อเฟสเขาหน้าฟิต อยู่ๆก็คิดจะทักไปหาหน่อย ไม่ได้คุยกันนาน ก็ทักไปหาว่าเป็นไงไม่เจอกันนานมาก เราถามไปถามมารู้ว่าเขาเรียนอยู่คณะทันตะ ปี1 แต่อยู่คนละมหาลัยกับเรา เราก็คิดดีใจแทนเพื่อนนะเพราะปกติเรียนเก่งอยู่ละแถมยังติดทันตะอีก ด้วยความที่อยากเจอเพื่อนด้วยเลยชวนมาเจอกันตอนปิดเทอมเพราะพอปิดเทอมคนที่มาเรียนต่างจังหวัดก็จะกลับบ้านกัน เขาก็โอเคและให้เบอร์เรามาเผื่อติดต่อกันได้ เราก็เลยให้เบอร์ไปเผื่อติดต่อเช่นกัน
ถึงเวลาปิดเทอมไหนๆ จะเจอกันละ เลยคิดชวนเพื่อนๆที่คิดจะชวนด้วยสมัยประถมมานอกจากเขา แต่ไปๆมาๆ เพื่อนที่มาตามนัดก็มาแค่ 2 คน ยังไม่รวมเรากับเขานะ ทั้งหมดสองคนนี้เป็นผู้หญิงหมดกลายเป็นว่าเขาเป็นผู้ชายคนเดียวในกลุ่ม ตามจริงเพื่อนผู้หญิงอีกคนนึงจะไม่ได้มาเพราะมีติดนัดอื่นแต่ก็มาแว๊บเที่ยวด้วยแป๊ปนึงขอแทนชื่อเพื่อนผู้หญิงคนนี้ว่า เอ ละกัน ฮ่าๆๆๆ ส่วนเพื่อนผู้หญิงอีกคนชื่อ บี ซึ่งเรานัดมาเจอที่ห้าง เรามาคนแรกแล้วเอก็มาคนที่สองตอนนั้นเขากับบียังไม่มา เอเลยให้เราไปเป็นเพื่อนทำธุระในห้าง ระหว่างที่รอเอ มือถือเราก็มีสายเข้าเป็นเบอร์แปลก รับสาย เสียงปลายสายเป็นเสียงผู้ชาย แว๊บแรกก็คิดว่าใช่เขาป่าววะ แต่มันไม่ใช่เบอร์ที่เราเซฟไว้ พอคุยอีกทีเป็นเขาจริงๆด้วยแฮะ ถึงจะไม่ได้คุยแบบได้ยินเสียงมาหลายปีก็ทำให้จำได้ว่าเป็นเขาจากสำเนียงที่พูด เลยนัดเจอที่ร้านอาหารในห้างกัน เรากับเอตื่นเต้นเพราะไม่ได้เจอเขานานมาก ระหว่างเดินมาหาเอเห็นเขานั่งอยู่หน้าร้านอาหาร ทีแรกเรามองไม่เห็นพยายามหา แต่พอได้เจอเท่านั้นล่ะขรั่บ ในใจรู้สึกดีใจมากที่ได้เจอกันแล้วได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเขา คือ เขาดูดีขึ้นเยอะมากจากแต่ก่อน เอก็ชวนเขาคุยทักทายเป็นไงมาไง เราเลยทักบ้างหาเรื่องคุย เริ่มแรกทักเรื่องดัดฟันซึ่งตอนนี้ยังดัดอยู่เลย ระหว่างนั้นบีมาถึงพอดีก็หาไรกินกัน เรานั่งตรงข้ามเขา ระหว่างที่นั่งมองตรงข้ามกันอยู่ๆในใจก็แอบเต้นรัวๆซะแล้ว แถมเขายังเผลอถ่ายรูปตอนเราเม้ากับเอและบีเมามัน (ที่เรารู้เพราะแฟรชมือถือเขาออก)แต่ก็ไม่คิดไรเลยเม้าต่อ พยายามไม่คิดไรมากเพียงอาจจะแค่ไม่ได้เจอนานเลยตื่นเต้นทำตัวไม่ถูก หลังจากนั้นก็เดินเที่ยวห้างเรื่อยเปื่อยแวะโซนเกมส์กัน เอกับบีเล่นเกมส์กันสองคน เรากับเขาก็ยืนดู ปรากฎว่าไปๆมาๆเอกับบีให้เรากับเขามาเล่นแทนมีช่วงที่เราเล่นเกมส์นำไป2-3คะแนน เขาถึงกับทำหน้าเหวอใส่ เราเห็นถึงกับปล่อยก๊ากต่อหน้าเขาเลยสุดท้ายเราแพ้ซะงั้น ฮ่าๆๆๆ ต่อมาเราชวนบีมาเล่นกีต้าฮีโร่ เอเล่นไม่ค่อยเป็นเลยให้เขามาช่วยเอเล่นครึ่งแป้น พอเล่นๆไปเอวางมือให้เขามาเล่นแทนทั้งหมด เราก็เล่นกับเขาแต่ครั้งนี้เราชนะ ฮ่าๆๆๆ หลังจากนั้นก็ดูหนังกันแต่เอมีนัดเลยไม่ได้ดูด้วย ดูเสร็จก็แยกย้ายกันกลับ ซึ่งก่อนแยกย้ายกันกลับมันทำให้ความคิดเราเปลี่ยนแบบชัดเจน เรากับบีเดินแยกกับเขา เราหันไปโบกมือลาเขา เขาก็โบกมือยิ้มๆให้ แค่นั้นล่ะ หัวใจเต้นเองเออเองเลย
หลังจากที่แยกจากกัน อยู่ๆก็มีความรู้สึกเราเหมือนคงไม่ได้เจอกันอีกแน่ เลยคิดจะติดต่อคุยทางแชทไปเรื่อยๆ บอกเลยนะว่าเราเป็นคนหวั่นไหวง่ายมากแต่ถึงจะหวั่นไหวง่ายเราก็ชอบเพียงแค่คนเดียวนะ อิอิ เดี๋ยวมาเล่าต่อนะ เรื่องมันยาวจริงไรจริง ฮ่าๆๆๆๆ