พึ่งกลับมาจาก อช.ลำคลองงู เอาภาพมาฝากกันครับ หลังจากใช้ความพยายามในการจองอยู่นาน กว่าจะได้ไปเนื่องจากที่นี่จำกัดปริมาณนักท่องเที่ยว และเปิดให้เที่ยวแค่ 2 เดือน มี.ค.-เม.ย. จริงๆจองไม่ได้ด้วยซ้ำ ด้วยความที่อยากไปมาก ก็เลยโทรไปสอบถามทุกต้นสัปดาห์ว่ามีกรุ๊ปไหนยกเลิกบ้าง ปรากฏว่ามีช่วงวันที่ 14-15 มี.ค.58 ก็เลยจัดไปตามนั้น สมาชิกน้อยหน่อยเพราะว่ากะทันหัน ไปด้วยกัน 5 คน
เริ่มต้นนัดหมายกันออกเดินทางตอนทุ่มนึง กะว่าไปให้ถึง อช.ลำคลองงู(หน่วยฯ.เขาพระอินทร์) ไม่ให้เกินเที่ยงคืน จะได้มีเวลานอนเอาแรงสำหรับเดินเที่ยววันรุ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริงรอกันไปรอกันมา กว่าจะได้ออกก็ 4 ทุ่มแล้ว ถึงที่ อช.ลำคลองงู(หน่วยฯ.เขาพระอินทร์) ประมาณตี 3 ครึ่ง กว่าจะกางเต็นท์ ได้นอนก็ตอนตี4 คำเตือนการมาเที่ยวลำคลองงูต้องมาที่หน่วยฯ.เขาพระอินทร์นะครับ อย่าหลงไปที่ทำการอุทธยานแห่งชาติลำคอลงู คนละที่กัน
เช้าๆอากาศที่นี่หนาวเหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นเดือนมี.ค.ก็ตาม
มาถึงดึกแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เลยให้กางเต็นท์แถวๆป้อมยามนั่นแหละ จริงๆจุดกางเต็นท์ต้องเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกนิด
วันนี้จะไปเที่ยวถ้ำเสาหินกัน โดยรถของเจ้าหน้าที่มาส่งที่จุดเดินเท้า ซึ่งตรงนี้จะมีป้ายให้ถ่ายรูปกันหนุกหนาน แบบว่าหลอกให้ตายใจ หลังจากนั้นก็จะเดินตามป่าไผ่เข้าไป มีขึ้นบ้างลงบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการเดินลง ช่วงป่าไผ่ระยะทางน่าจะประมาณ 1 กม. กว่าๆ หลังจากนั้นก็จะต้องเดินไต่ลงไปตามก้อนหิน ช่วงนี้แหละที่ต้องใช้กล้ามเนื้อต้นขาในการเดินเป็นอย่างมาก ยิ่งกลุ่มนี้เป็นพวก สว.ด้วย เรี่ยวแรงก็ถดถอยไปตามไวอ่ะคับ
เป็นครั้งแรกที่เดินป่าแล้วต้องใส่ชูชีพ ก็ดูแปลกๆดีเหมือนกัน มีล้มบ้างลื่นบ้างเป็นอาจินต์ เอ๊ะยังไง
ไต่ระห่ำนรก ตั้งชื่อให้ดูเว่อร์ๆไปงั้น แต่ก็เหนื่อยน่าดู
หลังจากฉุดกระชากลากถูกันมา พวกเราก็มาถึงปากทางเข้าถ้ำเสาหินจนได้ ซึ่งตรงปากถ้ำจะมีน้ำตกให้โดดน้ำเล่นกันด้วย
ก่อนจะมุดเข้าถ้ำ ขอแอ็คชั่นหน้าปากถ้ำกันหน่อย
ถ้ำเสาร์หินเป็นถ้ำที่มืดมาก ทุกคนต้องเตรียมไฟฉายคาดหัวมาด้วย ชูชีพที่เตรียมกันมาได้ใช้งานแล้ว จุดหมายภายในถ้ำก็คือเสาหินที่อยู่ด้านในสุด มีระยะทางประมาณ 400 เมตร ซึ่งจะต้องว่ายน้ำเข้าไป เป็นการว่ายทวนน้ำ สลับกับการปีนหินขึ้นไปเพื่อไปลงน้ำอีกที เป็นอย่างนี้อยู่ประมาณ 3-4 ช่วง เราก็จะมาถึงเสาหิน ได้มาเห็นกับตาจริงๆแล้วอดทึ่งในความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติไม่ได้ เป็นเสาหินที่ใหญ่และสูงตั้งแต่เพดานถ้ำจรดพื้นถ้ำ น่าเสียดายที่เอาขาตั้งกล้องมาไม่ถึง เพราะช่วงสุดท้ายน้ำแรงมากๆ ก็เลยไม่มีรูปเสาหินให้ชม มีแต่รูปที่ถ่ายในถ้ำได้รูปเดียว
หลังจากออกมาจากถ้ำแล้ว แวะมาถ่ายรูปที่ปากถ้ำอีกครั้ง
แล้วก็มากระโดดน้ำบริเวณน้ำตกหน้าถ้ำเสาหิน
เสร็จแล้วก็เดินทางกลับ ขามาว่าเหนื่อยแล้ว ขากลับเหนื่อยกว่า 2 เท่า ใช้ทางเดียวกันกับขามา แต่ขากลับเป็นการเดินขึ้นเขาเหนื่อยโฮกขอบอก ถึงที่กางเต็นท์ อาบน้ำ กินข้าว แล้วหลับเป็นตายเบย
หลังจากเมื่อคืนนอนหลับเป็นตาย วันนี้ตื่นมาด้วยความสดชื่น พร้อมลุยต่อ ระหว่างรอเพื่อนอีกกรุ๊ปหนึ่งที่ไปรถคันเดียวกัน วันนี้จะไปเที่ยวถ้ำนกนางแอ่นกันครับ
จุดเริ่มต้นเที่ยวถ้ำนกนางแอ่น มีแผนที่ให้ชมกัน
วันนี้เดินสบาย ไม่ชันและไม่ไกล เหมือนเมื่อวาน
ก่อนจะถึงถ้ำนกนางแอ่น จะต้องผ่านประตูทะลุมิติก่อน ซึ่งจะต้องมุดซอกหินออกมา เมื่อผ่านไปได้ ก็จะพบกับปากถ้ำนกนางแอ่นอันกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นเริ่มต้นของการเที่ยวถ้ำแห่งนี้
ปากถ้ำนกนางแอ่นใหญ่โตอลังการมากๆ
เลยจากปากถ้ำนกนางแอ่นมาหน่อยมีจุดให้กระโดดน้ำด้วยครับ จุดนี้ยังถือว่าไม่สูงมาก ประมาณ 3-4 เมตร สำหรับคนไม่เคยก็มีเสียวอยูน๊า
หลังจากจุดโดดน้ำก็ลอยตามน้ำมาเรื่อยๆ มีตื้นมากลึกบ้าง สลับกันไป มีโตรกผาสวยให้ชมกันตลอด
จุดนี้กระแสน้ำแรงมาก ต้องอาศัยเชือกเกาะ ไม่ให้น้ำพัดเข้าซอกหิน
หลังจากผ่านกระแสน้ำเชี่ยวมาได้ ก็จะได้พบกับหินงอกหินย้อย ที่นี่อลังการมากๆ
ถัดจากหินงอกหินย้อย ก็จะมาถึงจุดกระโดน้ำที่สูงที่สุดของลำคลองู ซึ่งจุดนี้จะมีหินรูปเอเลี่ยนอยู่ ที่เห็นไกลๆด้านขวามือคือจุดกระโดน้ำ สูงราวๆ 6-7 เมตร
หินรูปเอเลี่ยนดูๆไปก็น่ารักดีเหมือนกันนะ(ตรงไหน เพื่อนบอก)
จุดกระโดดน้ำจุดสุดท้าย เป็นจุดที่สูงที่สุด กล้าๆกลัว กว่าจะโดดครบทุกคนใช้เวลาทำใจนานเหมือนกัน
หลังจากกระโดน้ำที่จุดนี้แล้ว ล่องตามน้ำไปอีกนิด ก็ขึ้นฝั่งเดินไปยังที่จอดรถ เป็นอันเสร็จภารกิจ สำหรับทริปนี้ด้วยความสนุกสนานปนกับอาการปวดเนื้อปวดตัว โดยรวมแล้วประทับใจมากครับที่นี่ เริ่มตั้งแต่สถานที่ที่สวยงามมากๆ ความสนุกสนานของการกระโดน้ำและการล่องตามลำน้ำ การที่ต้องว่ายน้ำเข้าไปในถ้ำมืดๆ ในใจอดคิดไม่ได้ว่าข้างล่างมีอะไรหรือเปล่าแว้ เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือดีมากๆ ในใจคิดไว้แล้วปีหน้าต้องมาอีกแน่นอน
ราตรีสวัสดีพี่น้องชาวไทย
รายละเอียดเพิ่มเติม
ระยะทาง : จากปิ่นเกล้า จับไมล์ไป-กลับได้ 640 กม. ช่วงก่อนถึงหน่วยพระอินทร์เป็นทางลูกรังประมารณ 7-8 กม.รถเก๋งเข้าได้
สภาพอกาศ : เจ้าหน้าที่บอกช่วงกลางคืนหนาวทั้งปี เราไปเดือน มี.ค.ยังหนาวมากเลย
สัญญาณโทรศัพท์ : ที่หน่วยเขาพระอินทร์สัญญาณของ AIS DTAC ไม่มี ส่วน true ไม่ทราบเหมือนกัน
ค่ากางเต็นท์ : คนละ 30 บาท
ค่าเข้า : คนละ 40 บาท
ค่ารถเข้า : คันละ 30 บาท
ค่าเช่ารถ : เที่ยวถ้ำเสาหิน 1,500 บาท เที่ยวถ้ำนกนางแอ่น 1,000 บาท
ค่าชูชีพ : 50 บาท/วัน
ค่าอาหาร : ให้เจ้าหน้าที่ทำให้ 5 มื้อคิดราคา 450 บาท มื้อเช้ามีข้าวผัดหรือข้าวต้มและกาแฟ โอวัลติน มื้อเที่ยงผัดกระเพา+ไข่ต้ม หรือผัดพริกถั่ว+ไข่ต้ม มื้อเย็นมีแกงส้ม + ผัดผัก + ส่วนรสชาดค่อนข้างโอนะ
ค่าเจ้าหน้าที่ : วันละ 300 บาท/คน เจ้าหน้าที่ 1 คนต่อนักท่องเที่ยว 3-4 คน
ปล.ภาพทั้งหมดใช้กล้อง X-E1 + 18-55 และ samyang 8 mm fisheye ไม่ต้องถามนะว่าทำไมถึงใช้ฟูจิ เพราะสาวๆในห้องนั้น สวยๆกันทู๊กคน อิอิ
สวยจริง สนุกจริงและเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวจริงๆที่ลำคลองงู
เริ่มต้นนัดหมายกันออกเดินทางตอนทุ่มนึง กะว่าไปให้ถึง อช.ลำคลองงู(หน่วยฯ.เขาพระอินทร์) ไม่ให้เกินเที่ยงคืน จะได้มีเวลานอนเอาแรงสำหรับเดินเที่ยววันรุ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริงรอกันไปรอกันมา กว่าจะได้ออกก็ 4 ทุ่มแล้ว ถึงที่ อช.ลำคลองงู(หน่วยฯ.เขาพระอินทร์) ประมาณตี 3 ครึ่ง กว่าจะกางเต็นท์ ได้นอนก็ตอนตี4 คำเตือนการมาเที่ยวลำคลองงูต้องมาที่หน่วยฯ.เขาพระอินทร์นะครับ อย่าหลงไปที่ทำการอุทธยานแห่งชาติลำคอลงู คนละที่กัน
เช้าๆอากาศที่นี่หนาวเหมือนกัน แม้ว่าจะเป็นเดือนมี.ค.ก็ตาม มาถึงดึกแล้ว เจ้าหน้าที่ก็เลยให้กางเต็นท์แถวๆป้อมยามนั่นแหละ จริงๆจุดกางเต็นท์ต้องเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกนิด วันนี้จะไปเที่ยวถ้ำเสาหินกัน โดยรถของเจ้าหน้าที่มาส่งที่จุดเดินเท้า ซึ่งตรงนี้จะมีป้ายให้ถ่ายรูปกันหนุกหนาน แบบว่าหลอกให้ตายใจ หลังจากนั้นก็จะเดินตามป่าไผ่เข้าไป มีขึ้นบ้างลงบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการเดินลง ช่วงป่าไผ่ระยะทางน่าจะประมาณ 1 กม. กว่าๆ หลังจากนั้นก็จะต้องเดินไต่ลงไปตามก้อนหิน ช่วงนี้แหละที่ต้องใช้กล้ามเนื้อต้นขาในการเดินเป็นอย่างมาก ยิ่งกลุ่มนี้เป็นพวก สว.ด้วย เรี่ยวแรงก็ถดถอยไปตามไวอ่ะคับ
เป็นครั้งแรกที่เดินป่าแล้วต้องใส่ชูชีพ ก็ดูแปลกๆดีเหมือนกัน มีล้มบ้างลื่นบ้างเป็นอาจินต์ เอ๊ะยังไง
ไต่ระห่ำนรก ตั้งชื่อให้ดูเว่อร์ๆไปงั้น แต่ก็เหนื่อยน่าดู
หลังจากฉุดกระชากลากถูกันมา พวกเราก็มาถึงปากทางเข้าถ้ำเสาหินจนได้ ซึ่งตรงปากถ้ำจะมีน้ำตกให้โดดน้ำเล่นกันด้วย
ก่อนจะมุดเข้าถ้ำ ขอแอ็คชั่นหน้าปากถ้ำกันหน่อย
ถ้ำเสาร์หินเป็นถ้ำที่มืดมาก ทุกคนต้องเตรียมไฟฉายคาดหัวมาด้วย ชูชีพที่เตรียมกันมาได้ใช้งานแล้ว จุดหมายภายในถ้ำก็คือเสาหินที่อยู่ด้านในสุด มีระยะทางประมาณ 400 เมตร ซึ่งจะต้องว่ายน้ำเข้าไป เป็นการว่ายทวนน้ำ สลับกับการปีนหินขึ้นไปเพื่อไปลงน้ำอีกที เป็นอย่างนี้อยู่ประมาณ 3-4 ช่วง เราก็จะมาถึงเสาหิน ได้มาเห็นกับตาจริงๆแล้วอดทึ่งในความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติไม่ได้ เป็นเสาหินที่ใหญ่และสูงตั้งแต่เพดานถ้ำจรดพื้นถ้ำ น่าเสียดายที่เอาขาตั้งกล้องมาไม่ถึง เพราะช่วงสุดท้ายน้ำแรงมากๆ ก็เลยไม่มีรูปเสาหินให้ชม มีแต่รูปที่ถ่ายในถ้ำได้รูปเดียว
หลังจากออกมาจากถ้ำแล้ว แวะมาถ่ายรูปที่ปากถ้ำอีกครั้ง
แล้วก็มากระโดดน้ำบริเวณน้ำตกหน้าถ้ำเสาหิน
เสร็จแล้วก็เดินทางกลับ ขามาว่าเหนื่อยแล้ว ขากลับเหนื่อยกว่า 2 เท่า ใช้ทางเดียวกันกับขามา แต่ขากลับเป็นการเดินขึ้นเขาเหนื่อยโฮกขอบอก ถึงที่กางเต็นท์ อาบน้ำ กินข้าว แล้วหลับเป็นตายเบย
หลังจากเมื่อคืนนอนหลับเป็นตาย วันนี้ตื่นมาด้วยความสดชื่น พร้อมลุยต่อ ระหว่างรอเพื่อนอีกกรุ๊ปหนึ่งที่ไปรถคันเดียวกัน วันนี้จะไปเที่ยวถ้ำนกนางแอ่นกันครับ
จุดเริ่มต้นเที่ยวถ้ำนกนางแอ่น มีแผนที่ให้ชมกัน
วันนี้เดินสบาย ไม่ชันและไม่ไกล เหมือนเมื่อวาน
ก่อนจะถึงถ้ำนกนางแอ่น จะต้องผ่านประตูทะลุมิติก่อน ซึ่งจะต้องมุดซอกหินออกมา เมื่อผ่านไปได้ ก็จะพบกับปากถ้ำนกนางแอ่นอันกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นเริ่มต้นของการเที่ยวถ้ำแห่งนี้
ปากถ้ำนกนางแอ่นใหญ่โตอลังการมากๆ
เลยจากปากถ้ำนกนางแอ่นมาหน่อยมีจุดให้กระโดดน้ำด้วยครับ จุดนี้ยังถือว่าไม่สูงมาก ประมาณ 3-4 เมตร สำหรับคนไม่เคยก็มีเสียวอยูน๊า
หลังจากจุดโดดน้ำก็ลอยตามน้ำมาเรื่อยๆ มีตื้นมากลึกบ้าง สลับกันไป มีโตรกผาสวยให้ชมกันตลอด
จุดนี้กระแสน้ำแรงมาก ต้องอาศัยเชือกเกาะ ไม่ให้น้ำพัดเข้าซอกหิน
หลังจากผ่านกระแสน้ำเชี่ยวมาได้ ก็จะได้พบกับหินงอกหินย้อย ที่นี่อลังการมากๆ
ถัดจากหินงอกหินย้อย ก็จะมาถึงจุดกระโดน้ำที่สูงที่สุดของลำคลองู ซึ่งจุดนี้จะมีหินรูปเอเลี่ยนอยู่ ที่เห็นไกลๆด้านขวามือคือจุดกระโดน้ำ สูงราวๆ 6-7 เมตร
หินรูปเอเลี่ยนดูๆไปก็น่ารักดีเหมือนกันนะ(ตรงไหน เพื่อนบอก)
จุดกระโดดน้ำจุดสุดท้าย เป็นจุดที่สูงที่สุด กล้าๆกลัว กว่าจะโดดครบทุกคนใช้เวลาทำใจนานเหมือนกัน
หลังจากกระโดน้ำที่จุดนี้แล้ว ล่องตามน้ำไปอีกนิด ก็ขึ้นฝั่งเดินไปยังที่จอดรถ เป็นอันเสร็จภารกิจ สำหรับทริปนี้ด้วยความสนุกสนานปนกับอาการปวดเนื้อปวดตัว โดยรวมแล้วประทับใจมากครับที่นี่ เริ่มตั้งแต่สถานที่ที่สวยงามมากๆ ความสนุกสนานของการกระโดน้ำและการล่องตามลำน้ำ การที่ต้องว่ายน้ำเข้าไปในถ้ำมืดๆ ในใจอดคิดไม่ได้ว่าข้างล่างมีอะไรหรือเปล่าแว้ เจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือดีมากๆ ในใจคิดไว้แล้วปีหน้าต้องมาอีกแน่นอน
ราตรีสวัสดีพี่น้องชาวไทย
รายละเอียดเพิ่มเติม
ระยะทาง : จากปิ่นเกล้า จับไมล์ไป-กลับได้ 640 กม. ช่วงก่อนถึงหน่วยพระอินทร์เป็นทางลูกรังประมารณ 7-8 กม.รถเก๋งเข้าได้
สภาพอกาศ : เจ้าหน้าที่บอกช่วงกลางคืนหนาวทั้งปี เราไปเดือน มี.ค.ยังหนาวมากเลย
สัญญาณโทรศัพท์ : ที่หน่วยเขาพระอินทร์สัญญาณของ AIS DTAC ไม่มี ส่วน true ไม่ทราบเหมือนกัน
ค่ากางเต็นท์ : คนละ 30 บาท
ค่าเข้า : คนละ 40 บาท
ค่ารถเข้า : คันละ 30 บาท
ค่าเช่ารถ : เที่ยวถ้ำเสาหิน 1,500 บาท เที่ยวถ้ำนกนางแอ่น 1,000 บาท
ค่าชูชีพ : 50 บาท/วัน
ค่าอาหาร : ให้เจ้าหน้าที่ทำให้ 5 มื้อคิดราคา 450 บาท มื้อเช้ามีข้าวผัดหรือข้าวต้มและกาแฟ โอวัลติน มื้อเที่ยงผัดกระเพา+ไข่ต้ม หรือผัดพริกถั่ว+ไข่ต้ม มื้อเย็นมีแกงส้ม + ผัดผัก + ส่วนรสชาดค่อนข้างโอนะ
ค่าเจ้าหน้าที่ : วันละ 300 บาท/คน เจ้าหน้าที่ 1 คนต่อนักท่องเที่ยว 3-4 คน
ปล.ภาพทั้งหมดใช้กล้อง X-E1 + 18-55 และ samyang 8 mm fisheye ไม่ต้องถามนะว่าทำไมถึงใช้ฟูจิ เพราะสาวๆในห้องนั้น สวยๆกันทู๊กคน อิอิ