
ถ้าเอ่ยชื่อ ลำคลองงู ขาลุยหลายๆ คน อาจจะคุ้นชื่อของที่นี่ แต่ก็มีอีกหลายๆ คนที่ไม่รู้จักที่นี่เลย อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ตั้งอยู่ที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ ลง.1 เขาพระอินทร์ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี การที่จะเที่ยว ถ้ำเสาหิน ถ้ำนกนางแอ่น ของอุทยานแห่งชาติลำคลองงู จะเปิดให้ท่องเที่ยวแค่ 2 เดือนเท่านั้น คือเดือน มีนาคม และ เมษายน จะเปิดจองล่วงหน้าในวันที่ 30 มกราคม เบอร์โทรในการติดต่อจอง 082-247-3352 ถ้าเพื่อนๆ โทรจองได้แล้ว เจ้าหน้าที่จะให้รวบรวม ชื่อ - นามสกุล เลขบัตรประชาชน และโอนเงินมัดจำคนละ 300 บาท เพื่อเป็นการมัดจำไปให้เจ้าหน้าที่ (อันนี้เจ้าหน้าที่จะแจ้งรายละเอียดให้หลังจากที่เราโทรจองติดแล้ว) เรื่องของกินอุทยานมีร้านค้าสวัสดิการอยู่ มีเตาถ่านให้เช่า หรือจะนำของมาทำกินเองได้ แต่ไม่ให้ก่อไฟกับพื้นนะครับ
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเที่ยว
1. เจ้าหน้าที่ 1 คน ต่อนักท่องเที่ยว 3 คน 1 กรุ๊ฟควรจะมี 10 คน หรือจะมาร่วมกับกลุ่มอื่นก็ได้แต่ส่วนมากจะมากันครบแล้ว
ถ้ำเสาหิน 600 บาท/เจ้าหน้าที่ 1 คน
ถ้ำนกนางแอ่น 500 บาท/เจ้าหน้าที่ 1 คน
2. ค่ายานพาหนะที่จะพาเราไปเที่ยว
ถ้ำเสาหิน 1,000 บาท
ถ้ำนกนางแอ่น 1,800 บาท
3. ค่าเสื้อชูชีพ ตัวละ 50 บาท/ตัว/วัน
4. ค่าอาหาร(ถ้าสั่งล่วงหน้าตั้งแต่เจ้าหน้าที่ถามรายละเอียดตอนจองได้แล้วนะครับ) 450 บาท/คน (รวม 5 มื้อ) รายละเอียดในบิลที่ทางอุทยานให้มานะครับ
วันแรก เช้า = 100 บาท
กลางวัน = 60 บาท
เย็น = 120 บาท
วันที่สอง เช้า = 100 บาท
กลางวัน = 60 บาท
5. ค่าเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ค่ารถเข้าอุทยาน คันละ 30 บาท
6. ค่าพื้นที่กางเต็นท์คนละ 30 บาท (สำหรับคนเอาเต็นท์มาเองนะครับ)
สำหรับคนที่เช่าเต็นท์อุทยาน มี 2 ราคาในบิลนะครับ ราคาแรก 405 บาท อีกราคา 225 บาท (เต็นท์นี้น่าจะเป็นเต็นท์ 3 คนนอนเหมือนเต็นท์ อช.ภูกระดึง)
เครื่องนอน แผ่นรองนอน 20 บาท/แผ่น
ถุงนอน 30 บาท/ถุง
หมอน 10 บาท/ใบ
7. บ้านพักอุทยาน มี 2 ราคา คือ หลังละ 1,000 บาท และ หลังละ 2,000 บาท (ต้องถามเจ้าหน้าที่ว่านอนได้กี่คนนะครับ อันนี้ไม่ได้ถามรายละเอียดมา)
ส่วนอุปกรณ์ที่จำเป็น
1. ถุงกันน้ำ ocean pack สำหรับคนที่จะเอากล้อง DSLR ไปแนะนำใส่ 2 ชั้นอุ่นใจมากครับ ระหว่างเดินลงถ้ำถุงกันน้ำชั้นนอกอาจขูดกับหินได้ หินเป็นหินปูนจะแหลมคมมากครับ อาจทำให้รั่วได้ (ผมรั่วมาแล้วน้ำซึมเข้าเลย)
2. ไฟฉายคาดหัว (ถ้าไม่มีที่อุทยานมีขายครับ แต่เตรียมถ่านไปด้วยนะครับ เราจะใช้ไฟฉายแค่ถ้ำเสาหิน ส่วนถ้ำนกนางแอ่นไม่ต้องใช้ครับ
3. เสื้อผ้า ควรเป็นแบบแห้งไว และราคาไม่ต้องแพงมากครับ อาจเกี่ยวกับหินขาดได้ เดี๋ยวจะเสียดาย ชุดลุย 2 วันใช้ตัวเดียวกันได้เลยครับ ออกมาวันแรกก็ล้างน้ำตาก
4. ไฟฉายแรงสูง เอาไว้ส่องเสาหินไว้ถ่ายรูปครับ ในนั้นมืดมาก
5. น้ำและข้าว สำหรับคนที่จองทางร้านค้าสวัสดิการไว้ เจ้าหน้าที่จะพกไปให้เรานะครับ แต่เราพกน้ำไปเผื่ออีกขวดก็ดีระหว่างทางอาจกินน้ำเยอะ ขนมก็แล้วแต่จะจัดไปเองเลยครับ
6. รองเท้าพื้นหนาๆ สักหน่อยแต่ไม่ต้องเอารองเท้าเดินป่ามานะเดี๋ยวจะอมน้ำตอนลงน้ำ พี่ๆ เค้าบอกว่านันยางดีที่สุด หนึบ
เกิ่นมาพอสมควรแล้ว เพื่อนๆ คงอยากรู้แล้วว่าทำไมต้องตามเสาไฟไปลำคลองงู ตามผมมาเลยครับ (อาจเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งนะครับ รูปต่างๆ มีทั้งจากกล้องผมและกล้องเพื่อนๆ ในกลุ่มที่ไปด้วยกันครับ)
เริ่มเรื่องทริปนี้ พี่โอ๋ ได้เกริ่นเริ่มมาเลย และมีบอยคอยบิ้ว ส่วนผมนั้นพอเอ่ยชื่อลำคลองงูมาตอบตกลงเลย มันเลยเกิดทริปนี้ขึ้นมา เราเลยต้องหาสมาชิกเพิ่มเพื่อให้ครบ 10 คน หลังจากรวบรวมสมาชิกได้แล้ว 11 คน (ขอพี่เจ้าหน้าที่เพิ่มอีกคน) เราก็เตรียมตัวหารายละเอียดต่างๆ และแปะเบอร์ไว้ให้ทุกคนช่วยกันจอง ทริปนี้ได้น้องใหญ่ที่โทรติดและจองได้ ส่วนพวกผมโทรเป็นร้อยสายไม่ติด พวกเราทำการจองในวันที่ 25 - 26 มีนาคม 60 สมาชิกทริปนี้จะมี พี่โอ๋ โอ๊ต(ผมเอง) บอย กุ๊ก วรรณ พุ่ม ใหญ่ ลิณ เนย พวกเรานัดแนะไปเจอกันที่อุทยานเลย เพราะมาจากรถ 2 คัน คันที่ผมอยู่จะมี กุ๊ก(เจ้าของรถ) พุ่ม ผม ลิณ บอย เรานัดกันที่โลตัสพระราม 2 และไปรับบอยที่ราชบุรี และออกเดินทางต่อไปยังที่หมายกะไว้ว่าถึงอุทยานชิลๆ ตี 1 ตี 2 สบายๆ แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด เราไปถึง อ.ทองผาภูมิ และขับเลี้ยวไปทางสังขละ เจอป้ายอุทยานลำคลองงู ให้เลี้ยวขวา เราตามป้ายไปได้ระยะนึงแล้วป้ายก็หายไป ความหลงเริ่มบังเกิด เลยต้องพึ่ง GPS และแล้วก็มุ่งหน้าตาม GPS ตามที่เราอ่านรีวิวมาว่าก่อนถึงอุทยานมันจะเป็นทางลูกรัง เข้าก็เข้าไปตามป้ายอุทยานแห่งชาติลำคลองงูที่เจอตาม GPS เอาเว้ยเจอทางลูกรังแล้วใช่ชัวร์ แล้วเราก็ไปถึงหน้าป้อมอุทยาน แต่..... ทำไมมันไม่มีคนเลย หรือเค้าจะมาตอนเช้ากัน ความสงสัยบังเกิด เลยให้บอยลงไปถามเจ้าหน้าที่ (ถึงกับต้องไปปลุกเจ้าหน้าที่กันเลย) และได้ความว่าเรามาผิดทาง มีคนหลงมาตาม GPS หลายคนเลยตามที่เจ้าหน้าที่บอก ถ้าเราปัก GPS ว่าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู มันจะปักที่หน่วยน้ำตกนางครวญ ซึ่งมันเป็นที่ทำการเก่าแล้ว และเราก็ได้สอบถามทางไปว่าพี่ไปอีกกี่กิโลครับ ไปทางไหน พี่เค้าบอกว่าไปอีกไกลตามเสาไฟต้นใหญ่ไปเลย อยู่เขาพระอินทร์ (อ้าวแล้วจะรู้ไหมละเนี้ย ฮ่าๆ และมันก็เลยเกิดเป็นชื่อรีวิวขึ้นมาเลย ตามเสาไฟไปลำคลองงู) เราเลยขับออกมาจากจุดนั้น ตอนออกมาก็มีรถขับหลงเข้ามาเหมือนกันเลยบอกทางเค้าไปว่าทางนี้ไม่ใช่ให้ไปตามเสาไฟ แต่จากการที่เราตามเสาไฟมาตามเจ้าหน้าที่บอก เราก็มาถึงอุทยานแห่งชาติลำคลองงูจนได้ ซึ่งตั้งอยู่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ลง.1 เขาพระอินทร์ กว่าจะมาถึงได้จากที่ว่าชิลๆ แต่ก็เล่นเอาแย่เลย ส่วนอีกกลุ่มนึงยังมาไม่ถึงเลยกวาจะมาถึงก็ราวๆ ตี 3 ละมั้ง มาถึงก็แจ้งชื่อและเสียค่ารถ ค่าเข้าอุทยาน และกางเต็นท์นอนกันรอไปลุยตอนเช้า

ที่หลับนอนของกลุ่มเรา ส่วนที่มีหลังคานั้นคือร้านค้าสวัสดิการ
เช้านี้เรารีบตื่น ทำภารกิจส่วนตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าลุย แล้วไปกินข้าวที่ร้านค้าสวัสดิการ เช้านี้มีผัดฟักแม้ว ไข่เจียว กะเพรา หมูทอด และกาแฟ ขนมปัง(กาแฟ+ขนมปังบริการตัวเอง) เรานัดกันไว้ว่าจะไปเป็นกลุ่มแรกจะได้ไปถึงเร็วได้รูปที่ไม่มีคนติด
กินข้าวกันเรียบร้อยแล้วเราก็มาติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะจัดทีมพี่เจ้าหน้าที่ที่จะไปดูแลและพาพวกเราไปถ้ำเสาหิน ในวันแรก กลุ่มเราได้ พี่ชาย พี่เฮง น้องธรรม ที่มาดูแล

ระหว่างทางช่วงแรกที่จะไปถ้ำเสาหิน
ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถเพื่อที่จะไปถ้ำเสาหินเราก็คุยกันถึงเรื่องเมื่อคืนที่หลง(ผมนั่งอยู่ด้านหลังกระบะ) และแล้วจุดใต้ตำตอก็มา พี่เฮงบอกว่าก็คนขับรถเนี้ยแหละที่เราไปปลุกเขา ฮ่าๆ (แล้วทำไมพี่ไม่ให้พวกผมนอนนู้นแล้วมาตอนเช้าละเนี้ย) ส่วนพี่โอ๋และสาวๆ ที่นั่งอยู่ด้านหน้า ก็คุยเรื่องนี้เหมือนกันจนรู้ว่าพี่คนขับนี่แหละที่พวกเราไปปลุกนี่เอง เฮฮากันตั้งแต่เริ่มกันเลย พี่เจ้าหน้าที่ที่นี่อัธยาศัยดี ดูแลพวกเราดีสุดๆ

มาถึงแล้วถ่ายรูปกันก่อนลงไปลุย
พอมาถึงแล้วเราก็มาถ่ายรูปกับป้ายสักนิดก่อนลงไปลุยกัน ตอนเราไป ป่าเพิ่งโดนไฟไหม้ไปเมื่อสัปดาห์ก่อนเราไป บรรยากาศจะแห้งแล้งมากๆ และมีไอร้อนจากขี้เถ้าที่โดนไฟไหม้ยังระอุอยู่เลย ช่วงแรกที่เดินลงไปจะเป็นป่าไผ่ยาวๆ ขาไปเดินลงอย่างเดียว ไม่ต้องคิดถึงขากลับเลย ขึ้นรัวๆ ช่วงแรกเดินลงก็สบายๆ แต่อากาศจะร้อน พอลงมาถึงระยะนึงจะต้องปีนก้อนหินปูนกันลงไป หินค่อนข้างแหลมคม และมีบางก้อนที่ลื่น เดินลงค่อนข้างไกลพอสมควรเราก็จะมาเจอป่าเขียวๆ และน้ำตกหน้าถ้ำ เราแวะถ่ายรูปกันก่อนเข้าถ้ำ ข้างนอกนี้วิวสวยมาก

ระหว่างทางช่วงแรกแห้งแล้งดีจริงๆ

เถ้าจากที่โดนไฟไหม้

ช่วงตรงนี้ใบไผ่สีเหลืองสวยเลย ถึงจะแห้งแล้งแต่ก็มีสีสรร เดินไปคิดไปว่าถ้าไม่โดนไฟไหม้คงสวยมากแน่ๆ เลย รูปจาก Cr.วรรณ

มาถึงช่วงที่ต้องปีนหินลงไปช่วงแรกแล้ว มาถึงตรงจุดนี้เหมือนอยู่คนละที่กับด้านบนเลย เพราะป่าไม่โดนไฟตรงจุดนี้


น้ำตกเล็กๆ หน้าถ้ำที่เราต้องเดินเข้าไป คือด้านหลังน้ำตกนั่นเอง

ภาพจาก Cr.กุ๊ก

ภาพจาก Cr.วรรณ
เดี๋ยวมาต่อนะครับ คืนนี้ขอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ทำงานไปนอนก่อนละครับ
[CR] ตามเสาไฟไปลำคลองงู
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการเที่ยว
1. เจ้าหน้าที่ 1 คน ต่อนักท่องเที่ยว 3 คน 1 กรุ๊ฟควรจะมี 10 คน หรือจะมาร่วมกับกลุ่มอื่นก็ได้แต่ส่วนมากจะมากันครบแล้ว
ถ้ำเสาหิน 600 บาท/เจ้าหน้าที่ 1 คน
ถ้ำนกนางแอ่น 500 บาท/เจ้าหน้าที่ 1 คน
2. ค่ายานพาหนะที่จะพาเราไปเที่ยว
ถ้ำเสาหิน 1,000 บาท
ถ้ำนกนางแอ่น 1,800 บาท
3. ค่าเสื้อชูชีพ ตัวละ 50 บาท/ตัว/วัน
4. ค่าอาหาร(ถ้าสั่งล่วงหน้าตั้งแต่เจ้าหน้าที่ถามรายละเอียดตอนจองได้แล้วนะครับ) 450 บาท/คน (รวม 5 มื้อ) รายละเอียดในบิลที่ทางอุทยานให้มานะครับ
วันแรก เช้า = 100 บาท
กลางวัน = 60 บาท
เย็น = 120 บาท
วันที่สอง เช้า = 100 บาท
กลางวัน = 60 บาท
5. ค่าเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ค่ารถเข้าอุทยาน คันละ 30 บาท
6. ค่าพื้นที่กางเต็นท์คนละ 30 บาท (สำหรับคนเอาเต็นท์มาเองนะครับ)
สำหรับคนที่เช่าเต็นท์อุทยาน มี 2 ราคาในบิลนะครับ ราคาแรก 405 บาท อีกราคา 225 บาท (เต็นท์นี้น่าจะเป็นเต็นท์ 3 คนนอนเหมือนเต็นท์ อช.ภูกระดึง)
เครื่องนอน แผ่นรองนอน 20 บาท/แผ่น
ถุงนอน 30 บาท/ถุง
หมอน 10 บาท/ใบ
7. บ้านพักอุทยาน มี 2 ราคา คือ หลังละ 1,000 บาท และ หลังละ 2,000 บาท (ต้องถามเจ้าหน้าที่ว่านอนได้กี่คนนะครับ อันนี้ไม่ได้ถามรายละเอียดมา)
ส่วนอุปกรณ์ที่จำเป็น
1. ถุงกันน้ำ ocean pack สำหรับคนที่จะเอากล้อง DSLR ไปแนะนำใส่ 2 ชั้นอุ่นใจมากครับ ระหว่างเดินลงถ้ำถุงกันน้ำชั้นนอกอาจขูดกับหินได้ หินเป็นหินปูนจะแหลมคมมากครับ อาจทำให้รั่วได้ (ผมรั่วมาแล้วน้ำซึมเข้าเลย)
2. ไฟฉายคาดหัว (ถ้าไม่มีที่อุทยานมีขายครับ แต่เตรียมถ่านไปด้วยนะครับ เราจะใช้ไฟฉายแค่ถ้ำเสาหิน ส่วนถ้ำนกนางแอ่นไม่ต้องใช้ครับ
3. เสื้อผ้า ควรเป็นแบบแห้งไว และราคาไม่ต้องแพงมากครับ อาจเกี่ยวกับหินขาดได้ เดี๋ยวจะเสียดาย ชุดลุย 2 วันใช้ตัวเดียวกันได้เลยครับ ออกมาวันแรกก็ล้างน้ำตาก
4. ไฟฉายแรงสูง เอาไว้ส่องเสาหินไว้ถ่ายรูปครับ ในนั้นมืดมาก
5. น้ำและข้าว สำหรับคนที่จองทางร้านค้าสวัสดิการไว้ เจ้าหน้าที่จะพกไปให้เรานะครับ แต่เราพกน้ำไปเผื่ออีกขวดก็ดีระหว่างทางอาจกินน้ำเยอะ ขนมก็แล้วแต่จะจัดไปเองเลยครับ
6. รองเท้าพื้นหนาๆ สักหน่อยแต่ไม่ต้องเอารองเท้าเดินป่ามานะเดี๋ยวจะอมน้ำตอนลงน้ำ พี่ๆ เค้าบอกว่านันยางดีที่สุด หนึบ
เกิ่นมาพอสมควรแล้ว เพื่อนๆ คงอยากรู้แล้วว่าทำไมต้องตามเสาไฟไปลำคลองงู ตามผมมาเลยครับ (อาจเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่งนะครับ รูปต่างๆ มีทั้งจากกล้องผมและกล้องเพื่อนๆ ในกลุ่มที่ไปด้วยกันครับ)
เริ่มเรื่องทริปนี้ พี่โอ๋ ได้เกริ่นเริ่มมาเลย และมีบอยคอยบิ้ว ส่วนผมนั้นพอเอ่ยชื่อลำคลองงูมาตอบตกลงเลย มันเลยเกิดทริปนี้ขึ้นมา เราเลยต้องหาสมาชิกเพิ่มเพื่อให้ครบ 10 คน หลังจากรวบรวมสมาชิกได้แล้ว 11 คน (ขอพี่เจ้าหน้าที่เพิ่มอีกคน) เราก็เตรียมตัวหารายละเอียดต่างๆ และแปะเบอร์ไว้ให้ทุกคนช่วยกันจอง ทริปนี้ได้น้องใหญ่ที่โทรติดและจองได้ ส่วนพวกผมโทรเป็นร้อยสายไม่ติด พวกเราทำการจองในวันที่ 25 - 26 มีนาคม 60 สมาชิกทริปนี้จะมี พี่โอ๋ โอ๊ต(ผมเอง) บอย กุ๊ก วรรณ พุ่ม ใหญ่ ลิณ เนย พวกเรานัดแนะไปเจอกันที่อุทยานเลย เพราะมาจากรถ 2 คัน คันที่ผมอยู่จะมี กุ๊ก(เจ้าของรถ) พุ่ม ผม ลิณ บอย เรานัดกันที่โลตัสพระราม 2 และไปรับบอยที่ราชบุรี และออกเดินทางต่อไปยังที่หมายกะไว้ว่าถึงอุทยานชิลๆ ตี 1 ตี 2 สบายๆ แต่ไม่เป็นอย่างที่คิด เราไปถึง อ.ทองผาภูมิ และขับเลี้ยวไปทางสังขละ เจอป้ายอุทยานลำคลองงู ให้เลี้ยวขวา เราตามป้ายไปได้ระยะนึงแล้วป้ายก็หายไป ความหลงเริ่มบังเกิด เลยต้องพึ่ง GPS และแล้วก็มุ่งหน้าตาม GPS ตามที่เราอ่านรีวิวมาว่าก่อนถึงอุทยานมันจะเป็นทางลูกรัง เข้าก็เข้าไปตามป้ายอุทยานแห่งชาติลำคลองงูที่เจอตาม GPS เอาเว้ยเจอทางลูกรังแล้วใช่ชัวร์ แล้วเราก็ไปถึงหน้าป้อมอุทยาน แต่..... ทำไมมันไม่มีคนเลย หรือเค้าจะมาตอนเช้ากัน ความสงสัยบังเกิด เลยให้บอยลงไปถามเจ้าหน้าที่ (ถึงกับต้องไปปลุกเจ้าหน้าที่กันเลย) และได้ความว่าเรามาผิดทาง มีคนหลงมาตาม GPS หลายคนเลยตามที่เจ้าหน้าที่บอก ถ้าเราปัก GPS ว่าอุทยานแห่งชาติลำคลองงู มันจะปักที่หน่วยน้ำตกนางครวญ ซึ่งมันเป็นที่ทำการเก่าแล้ว และเราก็ได้สอบถามทางไปว่าพี่ไปอีกกี่กิโลครับ ไปทางไหน พี่เค้าบอกว่าไปอีกไกลตามเสาไฟต้นใหญ่ไปเลย อยู่เขาพระอินทร์ (อ้าวแล้วจะรู้ไหมละเนี้ย ฮ่าๆ และมันก็เลยเกิดเป็นชื่อรีวิวขึ้นมาเลย ตามเสาไฟไปลำคลองงู) เราเลยขับออกมาจากจุดนั้น ตอนออกมาก็มีรถขับหลงเข้ามาเหมือนกันเลยบอกทางเค้าไปว่าทางนี้ไม่ใช่ให้ไปตามเสาไฟ แต่จากการที่เราตามเสาไฟมาตามเจ้าหน้าที่บอก เราก็มาถึงอุทยานแห่งชาติลำคลองงูจนได้ ซึ่งตั้งอยู่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ลง.1 เขาพระอินทร์ กว่าจะมาถึงได้จากที่ว่าชิลๆ แต่ก็เล่นเอาแย่เลย ส่วนอีกกลุ่มนึงยังมาไม่ถึงเลยกวาจะมาถึงก็ราวๆ ตี 3 ละมั้ง มาถึงก็แจ้งชื่อและเสียค่ารถ ค่าเข้าอุทยาน และกางเต็นท์นอนกันรอไปลุยตอนเช้า
เช้านี้เรารีบตื่น ทำภารกิจส่วนตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าลุย แล้วไปกินข้าวที่ร้านค้าสวัสดิการ เช้านี้มีผัดฟักแม้ว ไข่เจียว กะเพรา หมูทอด และกาแฟ ขนมปัง(กาแฟ+ขนมปังบริการตัวเอง) เรานัดกันไว้ว่าจะไปเป็นกลุ่มแรกจะได้ไปถึงเร็วได้รูปที่ไม่มีคนติด
กินข้าวกันเรียบร้อยแล้วเราก็มาติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะจัดทีมพี่เจ้าหน้าที่ที่จะไปดูแลและพาพวกเราไปถ้ำเสาหิน ในวันแรก กลุ่มเราได้ พี่ชาย พี่เฮง น้องธรรม ที่มาดูแล
ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถเพื่อที่จะไปถ้ำเสาหินเราก็คุยกันถึงเรื่องเมื่อคืนที่หลง(ผมนั่งอยู่ด้านหลังกระบะ) และแล้วจุดใต้ตำตอก็มา พี่เฮงบอกว่าก็คนขับรถเนี้ยแหละที่เราไปปลุกเขา ฮ่าๆ (แล้วทำไมพี่ไม่ให้พวกผมนอนนู้นแล้วมาตอนเช้าละเนี้ย) ส่วนพี่โอ๋และสาวๆ ที่นั่งอยู่ด้านหน้า ก็คุยเรื่องนี้เหมือนกันจนรู้ว่าพี่คนขับนี่แหละที่พวกเราไปปลุกนี่เอง เฮฮากันตั้งแต่เริ่มกันเลย พี่เจ้าหน้าที่ที่นี่อัธยาศัยดี ดูแลพวกเราดีสุดๆ
พอมาถึงแล้วเราก็มาถ่ายรูปกับป้ายสักนิดก่อนลงไปลุยกัน ตอนเราไป ป่าเพิ่งโดนไฟไหม้ไปเมื่อสัปดาห์ก่อนเราไป บรรยากาศจะแห้งแล้งมากๆ และมีไอร้อนจากขี้เถ้าที่โดนไฟไหม้ยังระอุอยู่เลย ช่วงแรกที่เดินลงไปจะเป็นป่าไผ่ยาวๆ ขาไปเดินลงอย่างเดียว ไม่ต้องคิดถึงขากลับเลย ขึ้นรัวๆ ช่วงแรกเดินลงก็สบายๆ แต่อากาศจะร้อน พอลงมาถึงระยะนึงจะต้องปีนก้อนหินปูนกันลงไป หินค่อนข้างแหลมคม และมีบางก้อนที่ลื่น เดินลงค่อนข้างไกลพอสมควรเราก็จะมาเจอป่าเขียวๆ และน้ำตกหน้าถ้ำ เราแวะถ่ายรูปกันก่อนเข้าถ้ำ ข้างนอกนี้วิวสวยมาก
ระหว่างทางช่วงแรกแห้งแล้งดีจริงๆ
เถ้าจากที่โดนไฟไหม้
ช่วงตรงนี้ใบไผ่สีเหลืองสวยเลย ถึงจะแห้งแล้งแต่ก็มีสีสรร เดินไปคิดไปว่าถ้าไม่โดนไฟไหม้คงสวยมากแน่ๆ เลย รูปจาก Cr.วรรณ
มาถึงช่วงที่ต้องปีนหินลงไปช่วงแรกแล้ว มาถึงตรงจุดนี้เหมือนอยู่คนละที่กับด้านบนเลย เพราะป่าไม่โดนไฟตรงจุดนี้
น้ำตกเล็กๆ หน้าถ้ำที่เราต้องเดินเข้าไป คือด้านหลังน้ำตกนั่นเอง
ภาพจาก Cr.กุ๊ก
ภาพจาก Cr.วรรณ
เดี๋ยวมาต่อนะครับ คืนนี้ขอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ทำงานไปนอนก่อนละครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น