นายสุภาพ คลี่ขจาย นายกสมาคมผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล เปิดเผยภายในงานเสวนาและการรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อติดตามผลการดำเนินการและบริหารงานของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรื่องโทรทัศน์ยุคดิจิตอล กลไกหลักการยกระดับเศรษฐกิจสร้างสรรค์สู่เศรษฐกิจดิจิตอลว่า

จากความไม่พร้อมของ กสทช. ทั้งในเรื่องการแจกคูปองดิจิตอลและการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับทีวีดิจิตอลที่ล่าช้า และระบบโครงข่ายที่ยังไม่ทั่วถึง ส่งผลทำให้ช่องความคมชัดระดับสูง หรือเอชดี ไม่มีความแตกต่างจากช่องความคมชัดระดับทั่วไปหรือเอสดีมากนัก

ทำให้ผู้ประกอบการช่องเอชดีได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการประมูลช่องสูงกว่าช่องเอสดี การมีช่องดิจิตอลจำนวนมากเกินไป ทำให้ผู้ประกอบโทรทัศน์มีอำนาจต่อรองขายโฆษณาที่ยากขึ้น การสร้างรายได้จึงไม่ใช่สิ่งที่ง่าย ทำให้ผู้ประกอบการมักผลิตรายการรูปแบบเดียวกันเพื่อความอยู่รอด รวมทั้งมีการตัดราคาโฆษณากันเองในหมู่ผู้ประกอบการด้วยกัน

นอกจากนี้ ไม่เห็นด้วยกับการที่มีแนวคิดของร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิตอลที่จะมีการยุบรวม กสทช.เข้าไปอยู่ในคณะกรรมการดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยรูปแบบโครงสร้างในปัจจุบันที่เป็นอิสระปราศจากการแทรกแซงของฝ่ายการเมืองก็เป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว หากยุบรวมอาจส่งผลต่อความอิสระและทิศทางการทำงานกำกับดูแลผู้ประกอบการทีวีที่อาจเปลี่ยนไปในอนาคต

นายปราโมทย์ โชคสิริกุลชัย ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ไทยทีวีสี ช่อง 3 และนายกสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงไทย กล่าวว่า ทีวีดิจิตอลในไทยเกิดขึ้นภายใต้บรรยากาศที่ยังไม่พร้อม คือ ระบบโครงข่ายสัญญาณที่ยังไม่ทั่วถึง การขาดการประชาสัมพันธ์ให้แก่ประชาชนในเรื่องความรู้ทีวีดิจิตอล การแจกคูปองดิจิตอลที่ล่าช้า การจัดเรตติ้งที่ยังไม่เรียบร้อย จึงอยากเสนอให้กลับไปเริ่มต้นใหม่ให้เป็นช่วงทดลองออกอากาศไปก่อน เมื่อระบบโครงข่ายสัญญาณครอบคลุมถึง 80% ทั่วประเทศแล้วจึงค่อยเริ่มการออกอากาศอย่างแท้จริง

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1426737917