ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการที่ บอร์ด กสทช.พิจารณาเคาะราคาคูปองที่ 690 บาท เพราะมองว่า มูลค่าน้อยเกินไป อาจจะทำให้ผู้ชมเข้าถึงได้น้อย แต่บางส่วนเชื่อการแข่งขันจะทำให้ราคากล่องลดลง...
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้บริหารพีพีทีวี ช่อง 36 ไฮเดฟฟิเนชั่น เปิดเผยว่า ราคาคูปอง 690 บาท ไม่ถือเป็นแรงจูงใจในการซื้อสินค้า โดยเฉพาะทีวีที่มีราคาสูง ซึ่งมองว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่อาจต้องการซื้อทีวีมากกว่า เพราะมีอายุการใช้งาน รับประกันนานกว่ากล่อง ซึ่งหากคูปอง 1,000 บาท ก็เท่ากับว่า ลดราคาให้ผู้บริโภคลงถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเสียดายโอกาสของผู้บริโภค และเท่ากับยกภาระบางส่วนให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการด้วย และเชื่อว่าราคากล่องทีวีดิจิตอลจะลดลง
ผู้บริหารพีพีทีวี ช่อง 36 กล่าวอีกว่า ส่วนเงื่อนไขการแจกที่ไม่รวมการแลกกล่องดาวเทียม เคเบิล นั้น กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง มองว่า อาจทำให้ผู้บริโภครับชมทีวีดิจิตอลได้ช้าลง ส่งผลให้เม็ดเงินไม่กระจาย หรือ ผู้ชมกระจุก และยังส่งผลกระทบกับการกู้เงินจากธนาคารด้วย เพราะแม้ว่าจะมีคูปอง 690 บาท แต่ต้นทุนของผู้ประกอบการแต่ละรายยังคงอยู่ ซึ่งเมื่อคำนวณความเสียหายแล้วจะพบว่า ในช่องความคมชัดสูง หรือ ไฮเดฟฟิเนชั่น จะเสียหาย 1,000 ล้านบาท ช่องสแตนดาร์ดวาไรตี้ เสียหาย 700 ล้านบาท ช่องข่าว เสียหาย 500 ล้านบาท และช่องเด็ก 300 ล้านบาท รวมทั้งหมด 2,500 ล้านบาท
ด้าน นายธนะชัย วงศ์ทองศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท กล่าวว่า ต้องการให้ราคาที่ออกมาแลกซื้ออุปกรณ์รับชมทีวีดิจิตอลได้ทั้งกล่องและเสาอากาศ ส่วนเงื่อนไขที่ออกมา มีความเป็นห่วงว่าคนจะเข้าถึงทีวีดิจิตอลได้น้อย ซึ่งในฐานะผู้ผลิตกล่องด้วย ยังต้องประชุมหารือก่อนจะสรุปว่าจะลดราคากล่องที่ขายในท้องตลาดหรือไม่
ส่วน นางพรรทิภา สกุลชัย หรือ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยทีวี ช่องข่าว และช่องเด็ก เห็นด้วยกับราคา และเงื่อนไขที่บอร์ดกสทช. อนุมัติในครั้งนี้ เพราะเป็นไปตามกฎเดิมของ กสทช. ที่ชัดเจน ตั้งแต่ก่อนการประมูลทีวีดิจิตอล ซึ่งมองว่าราคากล่องตามท้องตลาดไม่ได้สูงไปกว่า 690 บาทมากนัก และมีคุณภาพ และเชื่อว่าอนาคตการแข่งขันจะทำให้ราคาปรับลดลงอีก.
ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอล ค้าน แจกคูปองในราคา 690 ชี้มูลค่าน้อยเกินไป อาจจะทำให้ผู้ชมเข้าถึงได้น้อย
นายเขมทัตต์ พลเดช กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ผู้บริหารพีพีทีวี ช่อง 36 ไฮเดฟฟิเนชั่น เปิดเผยว่า ราคาคูปอง 690 บาท ไม่ถือเป็นแรงจูงใจในการซื้อสินค้า โดยเฉพาะทีวีที่มีราคาสูง ซึ่งมองว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่อาจต้องการซื้อทีวีมากกว่า เพราะมีอายุการใช้งาน รับประกันนานกว่ากล่อง ซึ่งหากคูปอง 1,000 บาท ก็เท่ากับว่า ลดราคาให้ผู้บริโภคลงถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเสียดายโอกาสของผู้บริโภค และเท่ากับยกภาระบางส่วนให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการด้วย และเชื่อว่าราคากล่องทีวีดิจิตอลจะลดลง
ผู้บริหารพีพีทีวี ช่อง 36 กล่าวอีกว่า ส่วนเงื่อนไขการแจกที่ไม่รวมการแลกกล่องดาวเทียม เคเบิล นั้น กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง มองว่า อาจทำให้ผู้บริโภครับชมทีวีดิจิตอลได้ช้าลง ส่งผลให้เม็ดเงินไม่กระจาย หรือ ผู้ชมกระจุก และยังส่งผลกระทบกับการกู้เงินจากธนาคารด้วย เพราะแม้ว่าจะมีคูปอง 690 บาท แต่ต้นทุนของผู้ประกอบการแต่ละรายยังคงอยู่ ซึ่งเมื่อคำนวณความเสียหายแล้วจะพบว่า ในช่องความคมชัดสูง หรือ ไฮเดฟฟิเนชั่น จะเสียหาย 1,000 ล้านบาท ช่องสแตนดาร์ดวาไรตี้ เสียหาย 700 ล้านบาท ช่องข่าว เสียหาย 500 ล้านบาท และช่องเด็ก 300 ล้านบาท รวมทั้งหมด 2,500 ล้านบาท
ด้าน นายธนะชัย วงศ์ทองศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท กล่าวว่า ต้องการให้ราคาที่ออกมาแลกซื้ออุปกรณ์รับชมทีวีดิจิตอลได้ทั้งกล่องและเสาอากาศ ส่วนเงื่อนไขที่ออกมา มีความเป็นห่วงว่าคนจะเข้าถึงทีวีดิจิตอลได้น้อย ซึ่งในฐานะผู้ผลิตกล่องด้วย ยังต้องประชุมหารือก่อนจะสรุปว่าจะลดราคากล่องที่ขายในท้องตลาดหรือไม่
ส่วน นางพรรทิภา สกุลชัย หรือ เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยทีวี ช่องข่าว และช่องเด็ก เห็นด้วยกับราคา และเงื่อนไขที่บอร์ดกสทช. อนุมัติในครั้งนี้ เพราะเป็นไปตามกฎเดิมของ กสทช. ที่ชัดเจน ตั้งแต่ก่อนการประมูลทีวีดิจิตอล ซึ่งมองว่าราคากล่องตามท้องตลาดไม่ได้สูงไปกว่า 690 บาทมากนัก และมีคุณภาพ และเชื่อว่าอนาคตการแข่งขันจะทำให้ราคาปรับลดลงอีก.