ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ NMG ได้เขียนจดหมายถึงนายสุทธิชัย หยุ่น เนื่องจากผู้ถือหุ้นรายย่อยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท
โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นเรียกร้องให้นายสุทธิชัย ดำเนินการใดๆ ก็ตามเพื่อก่อให้เกิดความสงบของบริษัทและดำเนินการให้บริษัทก้าวหน้าไปอย่างยั่งยืนตามกฎหมายและธรรมาภิบาล ตามที่เคยให้เป็นนโยบายไว้
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ขอให้นายสุทธิชัย หยุ่น ชี้แจงข้อมูลดังต่อไปนี้
1. เหตุผลที่เลือกนายเสริมสิน สมะลาภา เป็นประธานกรรมการบริหารของบริษัทเนชั่น ซึ่งประวัติทำงานคุณเสริมสินเคยบริหารบริษัท Natural Par หรือ NPARK ตั้งแต่ปี 2546 ถึง วันที่ 24 มี.ค. 2554 โดยในระหว่างนั้น ราคาหุ้นของ NPARK ได้ลดลงจากราคาสูงสุดที่ 1.15 บาทในปี 2546 ลงมาเหลือเพียง 0.01 บาทในปี 2554 และมีผลขาดทุนสะสม ณ สิ้นปี 2554 สูงถึง 8,344.08 ล้านบาท
โดยระหว่างนั้น บริษัท NPARK ประสบผลขาดทุนจากการดำเนินงานมาตลอด และปรากฎว่าในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัท NPARK มีคดีที่ถูกฟ้องร้องและแพ้คดีความมากมาย ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย และยังมีคดีที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ได้กล่าวโทษผู้บริหารของบริษัท NPARK อีกด้วย
นอกจากนี้ นายเสริมสินมีการทำธุรกิจส่วนตัว โดยเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ ซึ่งน่าจะเป็นการทำธุรกิจที่ขัดแย้งกับธุรกิจของบริษัทเนชั่น ที่มีมหาวิทยาลัยเนชั่นอยู่ และยังสงสัยได้ว่าใช้เงินทุนของมหาวิทยาลัยดังกล่าวเข้ามาซื้อขายเก็งกำไรและทำกำไรหุ้น NMG และ NMG-W3 เป็นว่าเล่นผ่านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (ASP)
โดยที่ผ่านมา นายเสริมสินซื้อขายและโอนหุ้นไปมาของบริษัท NMG และบริษัทในเครือภายในเวลา 3 ปีย้อนหลังกว่า 150 รายการ มูลค่ากว่า 3,800 ลบ.และได้ทำกำไรมากกว่า NMG ทั้งเครือในปี 2557 โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งหมด และในกรณีนายเสริมสินยังได้ทำการซื้อขายหุ้นบริษัท NMG และบริษัทในเครือก่อนงบการเงินออกและก่อนเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งไม่น่าจะถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาลและคุณธรรม
2. เหตุผลที่นายสุทธิชัยมองข้ามผู้บริหารเก่าแก่รายอื่นๆ ขององค์กร เราเข้าใจถึงความจำเป็นขณะนี้ที่คุณสุทธิชัยต้องหาพันธมิตรเพื่อร่วมทัพในการถือหุ้น
แต่ท่านไม่จำเป็นต้องสละตำแหน่งที่สำคัญขององค์กรของเราให้กับคุณเสริมสิน ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประวัติเคยถูกผู้ถือหุ้นรายย่อยขว้างแก้วระบายความโกรธแค้น ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพียงหนึ่งเดียวในตลาดทุนไทย มาเป็นประธานกรรมการบริหารขององค์กร แทนที่จะเลือกเอาจากคนในที่ทำงานมาด้วยความซื่อสัตย์ และร่วมต่อสู้มาเป็นเวลานาน
3. ผู้ที่อยู่เบื้องหลังนายเสริมสินในการวางแผนการควบคุมบริษัท และนำแหล่งเงินทุนมาจากไหน
4. จริงหรือไม่ที่นายเสริมสินประกาศ ณ วันที่ 9-10 มี.ค. 2558 เวลาหลังเลิกงาน ต่อหน้าพนักงานเครือเนชั่น กว่าหลายร้อยชีวิตว่ากลุ่มของตนมีหุ้นกว่า 40% แล้ว หากเป็นเรื่องจริง อยากให้ชี้แจงว่าเหตุใดจึงไม่มีการทำ TENDER OFFER ตามกฎหมายให้ถูกต้อง และเหตุใดพนักงานของท่านจึงไม่ดำเนินการกับผู้ที่ทำผิดกฎหมายและเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อย
http://www.kaohoon.com 
NMG รายย่อยขอเคลียร์ใจ จี้ “สุทธิชัย หยุ่น” ตอบปมสงสัย 4 ข้อ
โดยกลุ่มผู้ถือหุ้นเรียกร้องให้นายสุทธิชัย ดำเนินการใดๆ ก็ตามเพื่อก่อให้เกิดความสงบของบริษัทและดำเนินการให้บริษัทก้าวหน้าไปอย่างยั่งยืนตามกฎหมายและธรรมาภิบาล ตามที่เคยให้เป็นนโยบายไว้
นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ขอให้นายสุทธิชัย หยุ่น ชี้แจงข้อมูลดังต่อไปนี้
1. เหตุผลที่เลือกนายเสริมสิน สมะลาภา เป็นประธานกรรมการบริหารของบริษัทเนชั่น ซึ่งประวัติทำงานคุณเสริมสินเคยบริหารบริษัท Natural Par หรือ NPARK ตั้งแต่ปี 2546 ถึง วันที่ 24 มี.ค. 2554 โดยในระหว่างนั้น ราคาหุ้นของ NPARK ได้ลดลงจากราคาสูงสุดที่ 1.15 บาทในปี 2546 ลงมาเหลือเพียง 0.01 บาทในปี 2554 และมีผลขาดทุนสะสม ณ สิ้นปี 2554 สูงถึง 8,344.08 ล้านบาท
โดยระหว่างนั้น บริษัท NPARK ประสบผลขาดทุนจากการดำเนินงานมาตลอด และปรากฎว่าในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัท NPARK มีคดีที่ถูกฟ้องร้องและแพ้คดีความมากมาย ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย และยังมีคดีที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ได้กล่าวโทษผู้บริหารของบริษัท NPARK อีกด้วย
นอกจากนี้ นายเสริมสินมีการทำธุรกิจส่วนตัว โดยเป็นนายกสภามหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ ซึ่งน่าจะเป็นการทำธุรกิจที่ขัดแย้งกับธุรกิจของบริษัทเนชั่น ที่มีมหาวิทยาลัยเนชั่นอยู่ และยังสงสัยได้ว่าใช้เงินทุนของมหาวิทยาลัยดังกล่าวเข้ามาซื้อขายเก็งกำไรและทำกำไรหุ้น NMG และ NMG-W3 เป็นว่าเล่นผ่านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซียพลัส (ASP)
โดยที่ผ่านมา นายเสริมสินซื้อขายและโอนหุ้นไปมาของบริษัท NMG และบริษัทในเครือภายในเวลา 3 ปีย้อนหลังกว่า 150 รายการ มูลค่ากว่า 3,800 ลบ.และได้ทำกำไรมากกว่า NMG ทั้งเครือในปี 2557 โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยทั้งหมด และในกรณีนายเสริมสินยังได้ทำการซื้อขายหุ้นบริษัท NMG และบริษัทในเครือก่อนงบการเงินออกและก่อนเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งไม่น่าจะถูกต้องตามหลักธรรมาภิบาลและคุณธรรม
2. เหตุผลที่นายสุทธิชัยมองข้ามผู้บริหารเก่าแก่รายอื่นๆ ขององค์กร เราเข้าใจถึงความจำเป็นขณะนี้ที่คุณสุทธิชัยต้องหาพันธมิตรเพื่อร่วมทัพในการถือหุ้น
แต่ท่านไม่จำเป็นต้องสละตำแหน่งที่สำคัญขององค์กรของเราให้กับคุณเสริมสิน ซึ่งเป็นบุคคลที่มีประวัติเคยถูกผู้ถือหุ้นรายย่อยขว้างแก้วระบายความโกรธแค้น ในที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพียงหนึ่งเดียวในตลาดทุนไทย มาเป็นประธานกรรมการบริหารขององค์กร แทนที่จะเลือกเอาจากคนในที่ทำงานมาด้วยความซื่อสัตย์ และร่วมต่อสู้มาเป็นเวลานาน
3. ผู้ที่อยู่เบื้องหลังนายเสริมสินในการวางแผนการควบคุมบริษัท และนำแหล่งเงินทุนมาจากไหน
4. จริงหรือไม่ที่นายเสริมสินประกาศ ณ วันที่ 9-10 มี.ค. 2558 เวลาหลังเลิกงาน ต่อหน้าพนักงานเครือเนชั่น กว่าหลายร้อยชีวิตว่ากลุ่มของตนมีหุ้นกว่า 40% แล้ว หากเป็นเรื่องจริง อยากให้ชี้แจงว่าเหตุใดจึงไม่มีการทำ TENDER OFFER ตามกฎหมายให้ถูกต้อง และเหตุใดพนักงานของท่านจึงไม่ดำเนินการกับผู้ที่ทำผิดกฎหมายและเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อย
http://www.kaohoon.com