รายย่อยร้องก.ล.ต. ระงับ SLC ลงทุนเนชั่น แกรมมี่
เหตุลงทุนเกิน 50% สินทรัพย์ แต่ไม่ขออนุมัติผู้ถือหุ้น
ผู้ถือหุ้นรายย่อย SLC ยื่น ก.ล.ต. ร้องการซื้อแกรมมี่-เนชั่น ผิดหลักเกณฑ์ตลาดฯ เหตุลงทุนเกิน 50% ของมูลค่าสินทรัพย์ แต่ไม่เรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติ จี้ก.ล.ต.ลงโทษ สั่งประชุมผู้ถือหุ้นโดยเร็ว และระงับการใช้สิทธิทุกประการในฐานะผู้ถือหุ้นแกรมมี่-เนชั่น
วันนี้ (27 เม.ย.) นายสมชาย ปัดภัย ประธานชมรมผู้ถือหุ้นไทย ได้ยื่นหนังสือถึงเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อร้องเรียนและกล่าวโทษ คณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ว่า ไม่ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน เรื่อง หลักเกณฑ์การทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน โดย SLC ได้ซื้อกิจการสื่อ 2 บริษัท คือ ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY จำนวน 10 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 13.50 บาท และซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG จำนวน 404.99 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 2.02 บาท และซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ (NMG-W3) จำนวน 225 ล้านหน่วย ในราคาเฉลี่ยหน่วยละ 0.99 บาท คิดเป็นเงินลงทุนรวมจำนวน 1,042.32 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนดังกล่าว มีมูลค่าเกินกว่าอำนาจของคณะกรรมการ SLC จะตัดสินใจ และขัดต่อประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนซึ่งระบุว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีอำนาจตัดสินใจลงทุนได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าสินทรัพย์ โดย SLC แจ้งขนาดการลงทุนครั้งนี้ว่า มีสัดส่วน 49.49 ของสินทรพย์ แต่เป็นการนับที่ไม่ถูกต้อง เพราะตามประกาศตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ฯ จะต้องนำการซื้อใบสำคัญแสดงสิทธ์ NMG-W3 มารวมด้วย ซึ่งจะทำให้การซื้อครั้งนี้มีขนาดรายการ เป็นสัดส่วน ร้อยละ 57.05
ดังนั้นการซื้อหลักทรัพย์ครั้งนี้ของ SLC จึงดำเนินการไม่ถูกต้อง เพราะเกินกว่าร้อยละ 50 จากมูลค่าสินทรัพย์ ซึ่ง SLC จะต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติการเข้าซื้อดังกล่าว อ้างอิงตามประกาศตลาดหลักทรัพย์ เรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ฯ ที่กำหนดว่า “ในกรณีที่สินทรัพย์ที่ได้มาหรือจำหน่ายไปเป็นหลักทรัพย์ ให้ประเมินมูลค่าของหลักทรัพย์ตามมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ตามสัดส่วนที่บริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทย่อยได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งหลักทรัพย์นั้น”
สำหรับคำนิยามของ “หลักทรัพย์” หมายความถึง หุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือหลักทรัพย์อื่น ที่อาจแปลงสภาพแห่งสิทธิเป็นหุ้นด้วย
นายสมชายได้ระบุว่า สำหรับเนื้อหาของจดหมายที่ยื่นต่อก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ได้เรียกร้องให้ SLC ดำเนินการจัดประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเข้าลงทุนในหลักทรัพย์ GRAMMY, NMG และ NMG-W3 พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลด้านการลงทุนในตลาดทุนดำเนินการตามกฎหมาย กรณี SLC ไม่ปฏิบัติตามประกาศหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ และขอให้ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ สั่งระงับการใช้สิทธิ์ใดๆ ของ SLC ในฐานะผู้ถือหุ้น GRAMMY และ NMG
------------------------
ไม่รู้ผมมโนไปเองหรือเปล่าว่า การประชุมผู้ถือหุ้นเนชั่น หรือ NMG ที่ซัดกันนัวเนียระหว่างผู้บริหารชุดเก่านำโดยสุทธิชัย หยุ่น กับค่ายพ่อมดตลาดหุ้น ฉาย บุนนาค ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค บ่ายสอง 29 เมย.58 งานนี้กระพริบตาไม่ได้ กลิ่นความแรง งัดกลยุทธ์สู้กันแบบหมดตัก
อีกฝ่ายรักษาบ้านที่หุ้นตกเป็นรองนิดๆ อีกฝ่ายขอเกิด ยึดเนชั่นได้ อะไรๆมันก็ไหลมาเทมา...
แต่ปัญหาหุ้นมากกว่าใช่ว่าจะทางโล่งเพราะอีกฝ่ายก็สู้ยิบตา แต่ดูสัญญาณจากข่าวแล้ว ฝ่ายพ่อมดที่หลบลี้ในถ้ำถูกกระแทก ถูกขุดให้เปิดตัวตนจนสุดท้าย ทนไม่ไหว จนอาจทำใหัเห็น"เกมโหดๆ"
ส่วนเสี่ยหยุ่นไดัเปรียบเป็นผู้บริหารเก่าคุมเกมประชุม แถมทุ่มสรรพกำลังระดมรายย่อยสู้ ใบมอบอำนาจไหลมาเทมา จนหุ้นสองฝ่ายชนกัน..ใครจะชนะ? นี่คือ ปมประเด็น ...
มองทางแก้ของฝ่ายพ่อมดที่ดิ้นพล่านช่วงหลัง ถึงขั้นออกทีวีกับเมียอัดเสี่ยหยุ่น เชิญนสพ.บางฉบับมาสัมภาษณ์อัดเสี่ยหยุ่นเต็มๆแล้ว งานนี้ถ้าศึกษาเกมเดิมๆ "หยุ่น"ตกเป็นเป้าที่จะพลิกโอกาสใหัเหนือเพื่อยึดเนชั่น เพราะหยุ่นต้องทำหน้าที่ประธานที่ประชุมคุมเกม...ถ้าไม่มีหยุ่นก็จบ
เห็นข่าวเช้านี้ ผู้กำกับฯสน.สวนพลู พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ กับพ.ต.ท.ชิษณุพงศ์ พรมมีเดช พนักงานสอบสวนตั้งโต๊ะแถลงข่าว เรื่องคดีที่อารักษ์ ประธานบริหาร SLC แจ้งความสุทธิชัย หยุ่น และพวกหมิ่นประมาท เมื่อ 18 กพ.58 แบบไม่ใช่นักข่าวจ่อไมค์ถามแลัว รู้สึกไดัเลยว่า"งานนี้มีการออกแบบ"
เพราะข่าวบอกตำรวจออกหมายเรียกไปให้มาพบ 27 เมย. 58 แต่โทรถามทนายหยุ่นบอกไม่ได้รับหมาย ตำรวจบอกงั้นเลื่อนเป็นวันรุ่งขึ้น 28 เมย.เพื่อนำผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลโดยไม่ตัองสอบสวน ถ้าไม่มาก็จะออกหมายจับ...
เอาแล้วสิ...ส่งฟัองโดยไม่สอบสวน? ทำไมเรื่องราวมันใหญ่โตเกิ้น แค่คดีหมิ่นประมาท...
ก็นึกเห็นภาพ 29 เมย.นี้ ที่เสี่ยหยุ่น กำลังจะขึ้นเป็นประธานประชุม มีตำรวจเอาหมายศาลมาที่โรงแรมขอเชิญตัวไปศาลซัก 2 ชั่วโมง วงประชุมก็เจ๊ง !
อีกฝ่ายก็ป่วนขอเลือกประธานที่ประชุม เข้าทางเลย..!!
เอาว่างานนี้บัดดี้พ่อมดอย่างPOLAR ที่รู้ทั่วเมืองว่า บิ๊กสีกากีฟาร์มไก่เป็นแบ้คอัพ...
อลังการงานสร้างหล่ะ ดูว่าเสี่ยหยุ่นจะแก้เกมยังไง?
จับตา!!! เสี่ยหยุ่นถูกอุ้มวันประชุม NMG 29 เม.ย.
รายย่อยร้องก.ล.ต. ระงับ SLC ลงทุนเนชั่น แกรมมี่
เหตุลงทุนเกิน 50% สินทรัพย์ แต่ไม่ขออนุมัติผู้ถือหุ้น
ผู้ถือหุ้นรายย่อย SLC ยื่น ก.ล.ต. ร้องการซื้อแกรมมี่-เนชั่น ผิดหลักเกณฑ์ตลาดฯ เหตุลงทุนเกิน 50% ของมูลค่าสินทรัพย์ แต่ไม่เรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติ จี้ก.ล.ต.ลงโทษ สั่งประชุมผู้ถือหุ้นโดยเร็ว และระงับการใช้สิทธิทุกประการในฐานะผู้ถือหุ้นแกรมมี่-เนชั่น
วันนี้ (27 เม.ย.) นายสมชาย ปัดภัย ประธานชมรมผู้ถือหุ้นไทย ได้ยื่นหนังสือถึงเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อร้องเรียนและกล่าวโทษ คณะกรรมการและผู้บริหารของบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ว่า ไม่ปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน เรื่อง หลักเกณฑ์การทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน โดย SLC ได้ซื้อกิจการสื่อ 2 บริษัท คือ ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY จำนวน 10 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 13.50 บาท และซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ NMG จำนวน 404.99 ล้านหุ้น ในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 2.02 บาท และซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ (NMG-W3) จำนวน 225 ล้านหน่วย ในราคาเฉลี่ยหน่วยละ 0.99 บาท คิดเป็นเงินลงทุนรวมจำนวน 1,042.32 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนดังกล่าว มีมูลค่าเกินกว่าอำนาจของคณะกรรมการ SLC จะตัดสินใจ และขัดต่อประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนซึ่งระบุว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีอำนาจตัดสินใจลงทุนได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าสินทรัพย์ โดย SLC แจ้งขนาดการลงทุนครั้งนี้ว่า มีสัดส่วน 49.49 ของสินทรพย์ แต่เป็นการนับที่ไม่ถูกต้อง เพราะตามประกาศตลาดหลักทรัพย์ เรื่อง การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ฯ จะต้องนำการซื้อใบสำคัญแสดงสิทธ์ NMG-W3 มารวมด้วย ซึ่งจะทำให้การซื้อครั้งนี้มีขนาดรายการ เป็นสัดส่วน ร้อยละ 57.05
ดังนั้นการซื้อหลักทรัพย์ครั้งนี้ของ SLC จึงดำเนินการไม่ถูกต้อง เพราะเกินกว่าร้อยละ 50 จากมูลค่าสินทรัพย์ ซึ่ง SLC จะต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติการเข้าซื้อดังกล่าว อ้างอิงตามประกาศตลาดหลักทรัพย์ เรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ฯ ที่กำหนดว่า “ในกรณีที่สินทรัพย์ที่ได้มาหรือจำหน่ายไปเป็นหลักทรัพย์ ให้ประเมินมูลค่าของหลักทรัพย์ตามมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์ ตามสัดส่วนที่บริษัทจดทะเบียนหรือบริษัทย่อยได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งหลักทรัพย์นั้น”
สำหรับคำนิยามของ “หลักทรัพย์” หมายความถึง หุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือหลักทรัพย์อื่น ที่อาจแปลงสภาพแห่งสิทธิเป็นหุ้นด้วย
นายสมชายได้ระบุว่า สำหรับเนื้อหาของจดหมายที่ยื่นต่อก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ได้เรียกร้องให้ SLC ดำเนินการจัดประชุมผู้ถือหุ้นเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเข้าลงทุนในหลักทรัพย์ GRAMMY, NMG และ NMG-W3 พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องให้หน่วยงานกำกับดูแลด้านการลงทุนในตลาดทุนดำเนินการตามกฎหมาย กรณี SLC ไม่ปฏิบัติตามประกาศหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ และขอให้ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ สั่งระงับการใช้สิทธิ์ใดๆ ของ SLC ในฐานะผู้ถือหุ้น GRAMMY และ NMG
------------------------
ไม่รู้ผมมโนไปเองหรือเปล่าว่า การประชุมผู้ถือหุ้นเนชั่น หรือ NMG ที่ซัดกันนัวเนียระหว่างผู้บริหารชุดเก่านำโดยสุทธิชัย หยุ่น กับค่ายพ่อมดตลาดหุ้น ฉาย บุนนาค ที่โรงแรมแลนด์มาร์ค บ่ายสอง 29 เมย.58 งานนี้กระพริบตาไม่ได้ กลิ่นความแรง งัดกลยุทธ์สู้กันแบบหมดตัก
อีกฝ่ายรักษาบ้านที่หุ้นตกเป็นรองนิดๆ อีกฝ่ายขอเกิด ยึดเนชั่นได้ อะไรๆมันก็ไหลมาเทมา...
แต่ปัญหาหุ้นมากกว่าใช่ว่าจะทางโล่งเพราะอีกฝ่ายก็สู้ยิบตา แต่ดูสัญญาณจากข่าวแล้ว ฝ่ายพ่อมดที่หลบลี้ในถ้ำถูกกระแทก ถูกขุดให้เปิดตัวตนจนสุดท้าย ทนไม่ไหว จนอาจทำใหัเห็น"เกมโหดๆ"
ส่วนเสี่ยหยุ่นไดัเปรียบเป็นผู้บริหารเก่าคุมเกมประชุม แถมทุ่มสรรพกำลังระดมรายย่อยสู้ ใบมอบอำนาจไหลมาเทมา จนหุ้นสองฝ่ายชนกัน..ใครจะชนะ? นี่คือ ปมประเด็น ...
มองทางแก้ของฝ่ายพ่อมดที่ดิ้นพล่านช่วงหลัง ถึงขั้นออกทีวีกับเมียอัดเสี่ยหยุ่น เชิญนสพ.บางฉบับมาสัมภาษณ์อัดเสี่ยหยุ่นเต็มๆแล้ว งานนี้ถ้าศึกษาเกมเดิมๆ "หยุ่น"ตกเป็นเป้าที่จะพลิกโอกาสใหัเหนือเพื่อยึดเนชั่น เพราะหยุ่นต้องทำหน้าที่ประธานที่ประชุมคุมเกม...ถ้าไม่มีหยุ่นก็จบ
เห็นข่าวเช้านี้ ผู้กำกับฯสน.สวนพลู พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ กับพ.ต.ท.ชิษณุพงศ์ พรมมีเดช พนักงานสอบสวนตั้งโต๊ะแถลงข่าว เรื่องคดีที่อารักษ์ ประธานบริหาร SLC แจ้งความสุทธิชัย หยุ่น และพวกหมิ่นประมาท เมื่อ 18 กพ.58 แบบไม่ใช่นักข่าวจ่อไมค์ถามแลัว รู้สึกไดัเลยว่า"งานนี้มีการออกแบบ"
เพราะข่าวบอกตำรวจออกหมายเรียกไปให้มาพบ 27 เมย. 58 แต่โทรถามทนายหยุ่นบอกไม่ได้รับหมาย ตำรวจบอกงั้นเลื่อนเป็นวันรุ่งขึ้น 28 เมย.เพื่อนำผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลโดยไม่ตัองสอบสวน ถ้าไม่มาก็จะออกหมายจับ...
เอาแล้วสิ...ส่งฟัองโดยไม่สอบสวน? ทำไมเรื่องราวมันใหญ่โตเกิ้น แค่คดีหมิ่นประมาท...
ก็นึกเห็นภาพ 29 เมย.นี้ ที่เสี่ยหยุ่น กำลังจะขึ้นเป็นประธานประชุม มีตำรวจเอาหมายศาลมาที่โรงแรมขอเชิญตัวไปศาลซัก 2 ชั่วโมง วงประชุมก็เจ๊ง !
อีกฝ่ายก็ป่วนขอเลือกประธานที่ประชุม เข้าทางเลย..!!
เอาว่างานนี้บัดดี้พ่อมดอย่างPOLAR ที่รู้ทั่วเมืองว่า บิ๊กสีกากีฟาร์มไก่เป็นแบ้คอัพ...
อลังการงานสร้างหล่ะ ดูว่าเสี่ยหยุ่นจะแก้เกมยังไง?