เมื่อเย็นวันนี้ผมโพสต์เกี่ยวกับ Max ว่าน่าจะกลับตัวกลับใจไปในทางที่ดี แต่ก็ไม่ได้พูดถึงเหตุผลเพราะมีเวลาว่างนิดเดียว พอดีตอนนี้ว่างก็เลยขอเพิ่มเติมข้อมูลมุมมองของผมเกี่ยวกับตัวนี้ ผมไม่ประสงค์ที่จะแชร์ทุกท่านให้ซื้อนะครับ เพียงแต่มาแชร์ความเห็นในมุมมองส่วนตัวในหลักทรัพย์ตัวหนึ่ง ๆ เหมือนกับที่หลาย ๆ ท่านนำมาแชร์ในที่นี้ ดังมุมมอง ดังนี้
มุมลบ
-จ้าวโหดมาก ลากจากหลักสตางค์ไปบาทกว่า แล้วทุบเหลือตอนนี้ ยี่สิบกว่าตังค์
-ปีที่แล้วขายให้ PP 1.8 หมื่นหุ้น ราคา .05 ตังค์ (1.นายขจรศิษฐ์ฯ 1.2 หมื่นล้านหุ้น 2.นายอนุกูลฯ 4 พันล้านหุ้น 3. นายสุทธิพจน์ฯ 2 พันล้านหุ้น)
(จ้าวทุนต่ำ)
-ข่าวดีในการซื้อหุ้นสามัญ บ.ไซมิส แอสเสท (SA) ได้เลื่อนออกไป
-อาจมีประเด็นอื่น ๆ ที่ผมคิดไปถึง
มุมบวก
- ส่วนตัว ณ ราคาตอนนี้ .29 สตางค์ ก็ OK (อนาคตไม่รู้จะลงต่อหรือไต่ขึ้น) ก่อนหน้าราคาสูงกว่านี้ก็แย่งกันซื้อ
- คนที่ซื้อ PP ตอนนี้ดูจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ขจรศิษฐ์ฯ จำนวนหุ้นยังคงเดิม อนุกูลฯ คงเหลือ 3 ร้อยกว่าล้านหุ้น ส่วนสุทธิพจน์ ไม่เหลือแล้ว
- คิดว่าขจรศิษฐ์ฯ คงไม่คิดเข้ามาซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น สำหรับคนอื่น ๆ ไม่แน่
- การเข้าซื้อ SA อาจมีการพิจารณาอีกครั้ง ถ้า SA มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
- max มองหารายได้ที่มั่นคงในระยะยาว โดยหันมาสนใจที่จะทำธุรกิจด้านพลังงานทดแทน และได้ตั้งบริษัทย่อย วีพีเอ็น แอนด์ไซมิสทริค เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนประเภทพลังงานขยะ
-ล่าสุด 16 มี.ค. 58 ได้ปรับโครงสร้างผู้บริหาร โดยตั้งขจรศิษฐ์ฯ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ขจรศิษฐ์ฯ ดูไม่ธรรมดาเป็นผู้บริหารระดับสูงในหลาย ๆบริษัท รวมทั้งเป็นประธานกรรมการบริษัทไซมิส แอทเสท) เพื่อความคล่องในการบริหารงานให้เติบโตและเป็นผู้มีประสบการณ์ในการบริหารงานหลาย ๆ ด้านรวมทั้งด้านพลังงานด้วย
-แหล่งเงินทุนที่จะนำมาลงทุนโครงการด้านพลังงานก็จะนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นให้ PP ก็หลายร้อยล้านอยู่ ซึ่งเงินก้อนนี้ตอนแรกจะนำไปลงทุนซื้อ SA แต่ตอนนี้การซื้อ SA ได้เลื่อนออกไป จึงนำเงินก้อนนี้มาลงทุนด้านพลังงานแทน
-อนาคตอาจนำไปสู่หุ้นพื้นฐานดีตัวหนึ่งก็ได้
*****ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงความเห็นและเป็นข่าวสารทางบริษัทฯ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นไปตามนี้มากน้อยเพียงใด ก็คงเป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งที่มาแชร์กันเท่านั้นนะครับ*********
*****การลงทุนมีความเสี่ยง ควรพิจารณาในหลาย ๆ ด้าน/มุมมอง และจังหวะหรือโอกาสในการเข้าลงทุนในเวลานั้น นะครับ ขอให้โชคดีและรวยๆๆๆๆทุกคนนะครับ*****
ส่องอนาคต.........MAX........(มาแชร์กันครับ)
มุมลบ
-จ้าวโหดมาก ลากจากหลักสตางค์ไปบาทกว่า แล้วทุบเหลือตอนนี้ ยี่สิบกว่าตังค์
-ปีที่แล้วขายให้ PP 1.8 หมื่นหุ้น ราคา .05 ตังค์ (1.นายขจรศิษฐ์ฯ 1.2 หมื่นล้านหุ้น 2.นายอนุกูลฯ 4 พันล้านหุ้น 3. นายสุทธิพจน์ฯ 2 พันล้านหุ้น)
(จ้าวทุนต่ำ)
-ข่าวดีในการซื้อหุ้นสามัญ บ.ไซมิส แอสเสท (SA) ได้เลื่อนออกไป
-อาจมีประเด็นอื่น ๆ ที่ผมคิดไปถึง
มุมบวก
- ส่วนตัว ณ ราคาตอนนี้ .29 สตางค์ ก็ OK (อนาคตไม่รู้จะลงต่อหรือไต่ขึ้น) ก่อนหน้าราคาสูงกว่านี้ก็แย่งกันซื้อ
- คนที่ซื้อ PP ตอนนี้ดูจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ขจรศิษฐ์ฯ จำนวนหุ้นยังคงเดิม อนุกูลฯ คงเหลือ 3 ร้อยกว่าล้านหุ้น ส่วนสุทธิพจน์ ไม่เหลือแล้ว
- คิดว่าขจรศิษฐ์ฯ คงไม่คิดเข้ามาซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น สำหรับคนอื่น ๆ ไม่แน่
- การเข้าซื้อ SA อาจมีการพิจารณาอีกครั้ง ถ้า SA มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
- max มองหารายได้ที่มั่นคงในระยะยาว โดยหันมาสนใจที่จะทำธุรกิจด้านพลังงานทดแทน และได้ตั้งบริษัทย่อย วีพีเอ็น แอนด์ไซมิสทริค เพื่อประกอบธุรกิจเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนประเภทพลังงานขยะ
-ล่าสุด 16 มี.ค. 58 ได้ปรับโครงสร้างผู้บริหาร โดยตั้งขจรศิษฐ์ฯ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ขจรศิษฐ์ฯ ดูไม่ธรรมดาเป็นผู้บริหารระดับสูงในหลาย ๆบริษัท รวมทั้งเป็นประธานกรรมการบริษัทไซมิส แอทเสท) เพื่อความคล่องในการบริหารงานให้เติบโตและเป็นผู้มีประสบการณ์ในการบริหารงานหลาย ๆ ด้านรวมทั้งด้านพลังงานด้วย
-แหล่งเงินทุนที่จะนำมาลงทุนโครงการด้านพลังงานก็จะนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นให้ PP ก็หลายร้อยล้านอยู่ ซึ่งเงินก้อนนี้ตอนแรกจะนำไปลงทุนซื้อ SA แต่ตอนนี้การซื้อ SA ได้เลื่อนออกไป จึงนำเงินก้อนนี้มาลงทุนด้านพลังงานแทน
-อนาคตอาจนำไปสู่หุ้นพื้นฐานดีตัวหนึ่งก็ได้
*****ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงความเห็นและเป็นข่าวสารทางบริษัทฯ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นไปตามนี้มากน้อยเพียงใด ก็คงเป็นเพียงข้อมูลส่วนหนึ่งที่มาแชร์กันเท่านั้นนะครับ*********
*****การลงทุนมีความเสี่ยง ควรพิจารณาในหลาย ๆ ด้าน/มุมมอง และจังหวะหรือโอกาสในการเข้าลงทุนในเวลานั้น นะครับ ขอให้โชคดีและรวยๆๆๆๆทุกคนนะครับ*****