กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--IR network
MAX แจงการเข้าซื้อหุ้น “ไซมิส แอสเสท หรือ SA” ไม่เข้าข่ายเป็น Backdoor Listing เหตุ MAX มีขนาดสินทรัพย์รวมที่ใหญ่กว่า อีกทั้งโครงสร้างการบริหารไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่การดำเนินธุรกิจหลักยังคงเป็นไปตามปกติ เพียงแต่มองหาธุรกิจที่มีศักยภาพใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้บริษัท เพื่อเสริมฐานด้านผลประกอบการให้ขยายตัว ส่วนการกำหนดราคาขายหุ้นเพิ่มทุน 1.30 บาท/หุ้น ระบุทำเพื่อผู้ถือหุ้นจริงๆ เพราะมีกองทุนติดต่อขอร่วมทุนกับ MAX ขณะที่บริษัทต้องการเงินประมาณ 2,500 ล้านบาท เพื่อผลสำเร็จในการขยายธุรกิจในด้านอสังหาริมทรัพย์ จึงกำหนดราคาขายหุ้นดังกล่าว แต่งานนี้ขอให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นเดิมได้เลือกก่อน
นายชำนิ จันทร์ฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MAX) เปิดเผยว่าถึงกรณีการเข้าลงทุนใน บริษัท ไซมิส แอสเสท จากัด (SA) คณะกรรมการของบริษัทรวมทั้งกรรมการตรวจสอบพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่เป็นการเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ทางอ้อม (Backdoor Listing) เนื่องจากการเข้าลงทุนใน SA เป็นเงิน 850 ล้านบาท เป็นส่วนเสริมสร้างความมั่นคงแข็งแกร่งและบริหารความเสี่ยงในการดำเนินการโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทที่มีแผนจะเริ่มดำเนินการในไตรมาสแรกของปี 2558 เมื่อคิดคำนวณขนาดรายการโดยส่วนเงินลงทุนจานวน 850 ล้านบาท เมื่อเทียบกับทรัพย์สินรวมของบริษัทจำนวน 960.59 ล้านบาทแล้ว ไม่เกินกว่าร้อยละ 100 ทั้งนี้ไม่รวมที่ดินเปล่าที่บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาต่อไปในอนาคต
สาหรับประเด็นการโอนอำนาจการควบคุมไปยังเจ้าของทรัพย์สินเดิม ในปัจจุบันบริษัทมีกรรมการที่ไม่ใช่กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ จำนวน 5 ท่าน ได้แก่ นายชำนิ จันทร์ฉาย , นายสิริวัฒน์ โตวชิรกุล, นายสมยศ นาคมั่น, นายสมยศ วงษ์ทองสาลี และนายพันธ์เทพ อาสนิททอง ซึ่งการเข้าดำรงตำแหน่งก็โดยการเชื้อเชิญจากประธานกรรมการ และได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัททุกครั้ง โดยเฉพาะนายสมยศ นาคมั่น และนายสมยศ วงษ์ทองสาลี ที่เข้าดำรงตำแหน่งก็โดยผ่านมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนที่ นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ จะเข้ามาถือหุ้นบริษัท อีกทั้งการเข้าลงทุนใน SA ครั้งนี้ไม่ทำให้ผู้ถือหุ้น และกรรมการเดิมของ SA เข้ามาร่วมบริหารในบริษัท หรือมีผลในการควบคุมกิจการผ่านคณะกรรมการบริษัท จึงไม่มีการโอนอำนาจการควบคุมไปยังเจ้าของทรัพย์สินเดิม
นอกจากนี้ในประเด็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ เป็นผลให้ผู้ถือหุ้นเดิมมีสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้วหรือไม่นั้น คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาแล้วว่าการทำรายการได้มาในครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งใน SA จำนวน 30% เข้ามาถือหุ้นในบริษัทเกินกว่า 50% เนื่องจากปัจจุบันนายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ได้ถือหุ้นในบริษัทอยู่แล้วเป็นจานวน 60.50% รวมทั้งการได้มาในครั้งนี้ไม่มีการออกหุ้นของบริษัทจดทะเบียนให้เจ้าของสินทรัพย์เดิม
เขากล่าวต่อถึงเรื่องการเพิ่มทุนในราคา 1.30 บาทต่อหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมว่าก่อนหน้านี้ MAX ได้มีการเพิ่มทุนเมื่อเดือน เมษายน 2557 และได้รับเงินจากการเพิ่มทุนเป็นจานวน 900 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการที่จะใช้ในการดำเนินธุรกิจเหล็กอันเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ทั้งนี้ตามแผนงานจะนำเงินไปใช้ในการจัดซื้อโรงงานผลิตเหล็ก เป็นทรัพย์สินของบริษัทเองรวมถึงสำรองไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการผลิตและเพื่อการค้าเหล็ก อีกทั้งได้มีแผนสำรองไว้ว่าหากมีปัญหาติดขัดจากการลงทุนซื้อทรัพย์สินดังกล่าว ก็จะศึกษาหาช่องทางเพื่อลงทุนในธุรกิจอื่นที่จะอำนวยให้บริษัทดำเนินธุรกิจให้มีความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
ต่อมาในวันที่ 11 มิถุนายน 2557 คณะกรรมการบริษัทได้มีการประชุมเพื่อรับทราบผลจากการที่เจ้าของกรรมสิทธิในโรงงานเหล็ก ทั้งที่เป็นของสถาบันการเงินแห่งหนึ่งและของภาคเอกชนอีกแห่งหนึ่งมีท่าทีที่จะปฏิเสธในการขายโรงงานผลิตเหล็กให้แก่บริษัท ที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้ฝ่ายบริหารได้ศึกษาธุรกิจอื่น เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจไปได้อย่างต่อเนื่อง
“ได้มีคำแนะนำให้ฝ่ายบริหารพิจารณาศึกษาธุรกิจพลังงานอันอยู่ในความสนใจของนักลงทุนทั่วไปอยู่ และคาดว่าน่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าพอใจ ฝ่ายบริหารและที่ปรึกษาได้ขอเข้าศึกษาและขอร่วมทุนกับผู้ถือหุ้นของบริษัทผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลคือแกลบและเศษไม้ พบว่าผลตอบแทนอยู่ในระดับ 15%-20% นับว่าน่าสนใจแต่เมื่อเข้าเจรจาราคาและเงื่อนไขการชำระเงินแล้ว ไม่สามารถตกลงกันได้ ฝ่ายบริหารจึงได้รายงานคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 10 กรกฎาคม 2557 พร้อมกับรายงานให้ทราบถึงการตอบปฎิเสธอย่างเป็นทางการจากเจ้าของโรงงานผลิตเหล็กทั้ง 2 ราย คณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติขอให้ฝ่ายบริหารเข้าขอศึกษาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากกิจการของ คุณขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ คือ SA เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะขยายธุรกิจออกไป ฝ่ายบริหารพร้อมที่ปรึกษาได้เข้าศึกษาธุรกิจในกลุ่ม SA แล้วได้รายงานในการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2557 ได้ผลว่า หากลงทุนที่ 850 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะได้ผลตอบแทนที่ 24.97% ประกอบกับ SA มีศักยภาพด้านกำลังคน และบุคคลากรที่มีความชำนาญ ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนทางด้านเงินทุน และการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสม ในการดำเนินการโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนได้อีกมาก คณะกรรมการจึงได้มีมติในการประชุมวันดังกล่าว มอบหมายให้ฝ่ายบริหารเจรจาขอซื้อหุ้นของ SA จากผู้ถือหุ้นเดิม พร้อมทั้งจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมอีก 2,500 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโครงการในอนาคต”
เขากล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาฝ่ายบริหารของ MAX ได้ติดต่อกับนักลงทุนประเภทสถาบัน (“กองทุน”) ที่สนใจจะร่วมลงทุนกับบริษัทหลายราย เพื่อสอบถามความสนใจร่วมลงทุนกับบริษัท ในกรณีที่บริษัทจะขยายธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ โดยขอให้บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จากัด (มหาชน) เป็นผู้ประสานงาน ต่อมากองทุนได้แจ้งความประสงค์มายังบริษัทว่าสนใจอย่างยิ่งที่จะร่วมลงทุนกับบริษัทหากบริษัทมีการเพิ่มทุนเพื่อที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยกำหนดวงเงินร่วมลงทุนประมาณ 100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ที่ราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกินกว่า 1.30 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ต้องการให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2557 นี้ เนื่องจากกองทุนต้องมีการทบทวนแผนการและนโยบายการลงทุนทุกๆ สิ้นปี
“ ฝ่ายบริหารได้ขอเจรจากับกองทุนว่าหากมีการเพิ่มทุนในบริษัท เพื่อระดมทุนในวงเงินประมาณ 2,500 ลบ. ที่ราคา 1.30 บาทต่อหุ้น ขอให้จัดสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิมก่อนในราคาที่เท่ากันกับกองทุนได้หรือไม่ และในเรื่องของกรอบเวลาขอให้บริษัทมีเวลาพิจารณาถึงไตรมาส 1 ปี 2558 ได้หรือไม่ กองทุนได้แจ้งแก่บริษัทว่า ยอมรับถึงการจัดสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมก่อน สำหรับเรื่องกรอบเวลาทางกองทุนสามารถขยายเวลาได้ภายในเดือนมกราคม 2558 เท่านั้น” นายชำนิ กล่าวในที่สุด
http://www.ryt9.com/s/prg/2017530 
MAX แจงการเข้าซื้อหุ้น “ไซมิส แอสเสท หรือ SA” ไม่เข้าข่ายเป็น Backdoor Listing เหตุ MAX มีขนาดสินทรัพย์รวมที่ใหญ่กว่า
MAX แจงการเข้าซื้อหุ้น “ไซมิส แอสเสท หรือ SA” ไม่เข้าข่ายเป็น Backdoor Listing เหตุ MAX มีขนาดสินทรัพย์รวมที่ใหญ่กว่า อีกทั้งโครงสร้างการบริหารไม่มีการเปลี่ยนแปลง ขณะที่การดำเนินธุรกิจหลักยังคงเป็นไปตามปกติ เพียงแต่มองหาธุรกิจที่มีศักยภาพใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้บริษัท เพื่อเสริมฐานด้านผลประกอบการให้ขยายตัว ส่วนการกำหนดราคาขายหุ้นเพิ่มทุน 1.30 บาท/หุ้น ระบุทำเพื่อผู้ถือหุ้นจริงๆ เพราะมีกองทุนติดต่อขอร่วมทุนกับ MAX ขณะที่บริษัทต้องการเงินประมาณ 2,500 ล้านบาท เพื่อผลสำเร็จในการขยายธุรกิจในด้านอสังหาริมทรัพย์ จึงกำหนดราคาขายหุ้นดังกล่าว แต่งานนี้ขอให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นเดิมได้เลือกก่อน
นายชำนิ จันทร์ฉาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) บริษัท แมกซ์ เมทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MAX) เปิดเผยว่าถึงกรณีการเข้าลงทุนใน บริษัท ไซมิส แอสเสท จากัด (SA) คณะกรรมการของบริษัทรวมทั้งกรรมการตรวจสอบพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่เป็นการเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ทางอ้อม (Backdoor Listing) เนื่องจากการเข้าลงทุนใน SA เป็นเงิน 850 ล้านบาท เป็นส่วนเสริมสร้างความมั่นคงแข็งแกร่งและบริหารความเสี่ยงในการดำเนินการโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทที่มีแผนจะเริ่มดำเนินการในไตรมาสแรกของปี 2558 เมื่อคิดคำนวณขนาดรายการโดยส่วนเงินลงทุนจานวน 850 ล้านบาท เมื่อเทียบกับทรัพย์สินรวมของบริษัทจำนวน 960.59 ล้านบาทแล้ว ไม่เกินกว่าร้อยละ 100 ทั้งนี้ไม่รวมที่ดินเปล่าที่บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาต่อไปในอนาคต
สาหรับประเด็นการโอนอำนาจการควบคุมไปยังเจ้าของทรัพย์สินเดิม ในปัจจุบันบริษัทมีกรรมการที่ไม่ใช่กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ จำนวน 5 ท่าน ได้แก่ นายชำนิ จันทร์ฉาย , นายสิริวัฒน์ โตวชิรกุล, นายสมยศ นาคมั่น, นายสมยศ วงษ์ทองสาลี และนายพันธ์เทพ อาสนิททอง ซึ่งการเข้าดำรงตำแหน่งก็โดยการเชื้อเชิญจากประธานกรรมการ และได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัททุกครั้ง โดยเฉพาะนายสมยศ นาคมั่น และนายสมยศ วงษ์ทองสาลี ที่เข้าดำรงตำแหน่งก็โดยผ่านมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนที่ นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ จะเข้ามาถือหุ้นบริษัท อีกทั้งการเข้าลงทุนใน SA ครั้งนี้ไม่ทำให้ผู้ถือหุ้น และกรรมการเดิมของ SA เข้ามาร่วมบริหารในบริษัท หรือมีผลในการควบคุมกิจการผ่านคณะกรรมการบริษัท จึงไม่มีการโอนอำนาจการควบคุมไปยังเจ้าของทรัพย์สินเดิม
นอกจากนี้ในประเด็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์ เป็นผลให้ผู้ถือหุ้นเดิมมีสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้วหรือไม่นั้น คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาแล้วว่าการทำรายการได้มาในครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งใน SA จำนวน 30% เข้ามาถือหุ้นในบริษัทเกินกว่า 50% เนื่องจากปัจจุบันนายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ ได้ถือหุ้นในบริษัทอยู่แล้วเป็นจานวน 60.50% รวมทั้งการได้มาในครั้งนี้ไม่มีการออกหุ้นของบริษัทจดทะเบียนให้เจ้าของสินทรัพย์เดิม
เขากล่าวต่อถึงเรื่องการเพิ่มทุนในราคา 1.30 บาทต่อหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมว่าก่อนหน้านี้ MAX ได้มีการเพิ่มทุนเมื่อเดือน เมษายน 2557 และได้รับเงินจากการเพิ่มทุนเป็นจานวน 900 ล้านบาท โดยมีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการที่จะใช้ในการดำเนินธุรกิจเหล็กอันเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ทั้งนี้ตามแผนงานจะนำเงินไปใช้ในการจัดซื้อโรงงานผลิตเหล็ก เป็นทรัพย์สินของบริษัทเองรวมถึงสำรองไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการผลิตและเพื่อการค้าเหล็ก อีกทั้งได้มีแผนสำรองไว้ว่าหากมีปัญหาติดขัดจากการลงทุนซื้อทรัพย์สินดังกล่าว ก็จะศึกษาหาช่องทางเพื่อลงทุนในธุรกิจอื่นที่จะอำนวยให้บริษัทดำเนินธุรกิจให้มีความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
ต่อมาในวันที่ 11 มิถุนายน 2557 คณะกรรมการบริษัทได้มีการประชุมเพื่อรับทราบผลจากการที่เจ้าของกรรมสิทธิในโรงงานเหล็ก ทั้งที่เป็นของสถาบันการเงินแห่งหนึ่งและของภาคเอกชนอีกแห่งหนึ่งมีท่าทีที่จะปฏิเสธในการขายโรงงานผลิตเหล็กให้แก่บริษัท ที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้ฝ่ายบริหารได้ศึกษาธุรกิจอื่น เพื่อให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจไปได้อย่างต่อเนื่อง
“ได้มีคำแนะนำให้ฝ่ายบริหารพิจารณาศึกษาธุรกิจพลังงานอันอยู่ในความสนใจของนักลงทุนทั่วไปอยู่ และคาดว่าน่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าพอใจ ฝ่ายบริหารและที่ปรึกษาได้ขอเข้าศึกษาและขอร่วมทุนกับผู้ถือหุ้นของบริษัทผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลคือแกลบและเศษไม้ พบว่าผลตอบแทนอยู่ในระดับ 15%-20% นับว่าน่าสนใจแต่เมื่อเข้าเจรจาราคาและเงื่อนไขการชำระเงินแล้ว ไม่สามารถตกลงกันได้ ฝ่ายบริหารจึงได้รายงานคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 10 กรกฎาคม 2557 พร้อมกับรายงานให้ทราบถึงการตอบปฎิเสธอย่างเป็นทางการจากเจ้าของโรงงานผลิตเหล็กทั้ง 2 ราย คณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติขอให้ฝ่ายบริหารเข้าขอศึกษาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากกิจการของ คุณขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ คือ SA เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะขยายธุรกิจออกไป ฝ่ายบริหารพร้อมที่ปรึกษาได้เข้าศึกษาธุรกิจในกลุ่ม SA แล้วได้รายงานในการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2557 ได้ผลว่า หากลงทุนที่ 850 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะได้ผลตอบแทนที่ 24.97% ประกอบกับ SA มีศักยภาพด้านกำลังคน และบุคคลากรที่มีความชำนาญ ซึ่งหากได้รับการสนับสนุนทางด้านเงินทุน และการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสม ในการดำเนินการโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนได้อีกมาก คณะกรรมการจึงได้มีมติในการประชุมวันดังกล่าว มอบหมายให้ฝ่ายบริหารเจรจาขอซื้อหุ้นของ SA จากผู้ถือหุ้นเดิม พร้อมทั้งจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมอีก 2,500 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโครงการในอนาคต”
เขากล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาฝ่ายบริหารของ MAX ได้ติดต่อกับนักลงทุนประเภทสถาบัน (“กองทุน”) ที่สนใจจะร่วมลงทุนกับบริษัทหลายราย เพื่อสอบถามความสนใจร่วมลงทุนกับบริษัท ในกรณีที่บริษัทจะขยายธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ โดยขอให้บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จากัด (มหาชน) เป็นผู้ประสานงาน ต่อมากองทุนได้แจ้งความประสงค์มายังบริษัทว่าสนใจอย่างยิ่งที่จะร่วมลงทุนกับบริษัทหากบริษัทมีการเพิ่มทุนเพื่อที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยกำหนดวงเงินร่วมลงทุนประมาณ 100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ที่ราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกินกว่า 1.30 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ต้องการให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2557 นี้ เนื่องจากกองทุนต้องมีการทบทวนแผนการและนโยบายการลงทุนทุกๆ สิ้นปี
“ ฝ่ายบริหารได้ขอเจรจากับกองทุนว่าหากมีการเพิ่มทุนในบริษัท เพื่อระดมทุนในวงเงินประมาณ 2,500 ลบ. ที่ราคา 1.30 บาทต่อหุ้น ขอให้จัดสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิมก่อนในราคาที่เท่ากันกับกองทุนได้หรือไม่ และในเรื่องของกรอบเวลาขอให้บริษัทมีเวลาพิจารณาถึงไตรมาส 1 ปี 2558 ได้หรือไม่ กองทุนได้แจ้งแก่บริษัทว่า ยอมรับถึงการจัดสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมก่อน สำหรับเรื่องกรอบเวลาทางกองทุนสามารถขยายเวลาได้ภายในเดือนมกราคม 2558 เท่านั้น” นายชำนิ กล่าวในที่สุด
http://www.ryt9.com/s/prg/2017530