ผมเป็นผู้ชาย...กินแบบผู้ชาย เดินแบบผู้ชาย แต่งตัวแบบผู้ชาย และก็นอนกับผู้ชายด้วยครับ ที่เขียนนี่เพราะอยากจะแชร์ประสบการณ์ความรักของคนๆหนึ่ง ที่ถึงแม้จะไม่ได้ผ่านอะไรมามากมายแต่อยากระบายให้ฟัง ก็ไม่คิดว่ามันจะมีประโยชน์ต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อะไรหรอกครับ ฮ่าๆ ว่างๆพิมพ์ให้มันเปลืองไฟเล่นๆ ยาวไปๆ
บอกก่อนเลยว่าอารมณ์ตอนเขียนนี่กำลังเศร้ามากครับ เจอแต่ความผิดหวัง ตอง ภัครมัยเคยร้องไว้ว่า...ได้พักสักหน่อย สักวันจะเจอกับรักที่ดี...ผมอยากจะเชื่อเธอครับ แต่ตอนนี้หมดศรัทธาจริงๆ แต่จะพยายามไม่เขียนให้เศร้าครับ
สิ่งที่เจอมาช่วงปีกว่านี่ทำให้ผมนึกย้อนกลับไปตั้งแต่จุดเริ่มต้น...เลยลองเรียบเรียงดูว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่นี่เกิดจากสิ่งที่ทำมาให้อดีตหรือเปล่า เหมือนกรรมน่ะครับ ที่เจนนิเฟอร์ คิ้มเคยร้องไว้อีกว่า...มันคงเป็นกรรมที่ต้องเกิดมาเพื่อเขา หรือเพราะว่าเป็นตัวเราเกิดมาเพื่อเสียใจ...
ผมเป็นคนธรรมดาครับ เกิดมาในครอบครัวคนจีน ถูกสอนแบบคนจีน ไม่ได้ลำบากแต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร พ่อแม่แยกทางกันครับ ไม่รู้เป็นเหตุให้เป็นคนโหยหาความรักหรือเปล่า แต่ก็ถือคติว่าถ้าเห็นว่าไม่น่าจะรอดจะตัดจบเลย เพราะดูจากแม่ที่ต้องทนทุกข์เป็นสิบปีนี่มันแย่จริงๆนะครับ แต่การตัดจบมันไม่ได้ทำง่ายๆทุกครั้ง เลิกรักยากกว่าเริ่มรักครับ ไม่งั้นคนเราจะเจ็บเพราะความรักเหรอ...
รักครั้งแรก (นายเอ) ~1เทอม
ตอนนั้นเรียนอยู่มหาลัยชื่อดังย่านรามคำแหง ประมาณปี 2000 ผมอยู่ในกลุ่มเด็กเก่งครับ มีกันสิบหกคน ตอนนั้นมีผู้หญิงเข้ามาคุยหลายคนครับ อาจเพราะบุคลิกง่ายๆ เป็นคนชอบฟัง ผู้หญิงต่อคิวกันโทรหา มีคนหนึ่งเคยบอกว่าไม่กล้าโทรหาผมเพราะผมคงคุยกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ 555
ผมก็คบผู้หญิงอยู่คนนึงครับ อยู่กลุ่มเดียวกันนี่หล่ะ แต่ก็แค่จับมือถือแขน ไปรับไปส่ง แต่ไม่มีอะไรกัน จริงๆก็สับสนนะครับเพราะเราก็ชอบมองผู้ชาย แต่ก็ชอบผู้หญิงด้วย
ประมาณปีสองก็ได้คุยกับเอ อยู่กลุ่มเดียวกันนี่หล่ะครับแต่ไม่สนิทมาก คือผมจะอ่อน Accounting มาก ไม่เข้าใจว่าจะเดบิต-เครดิตมันทำไมให้ยุ่งยาก แต่เอมันเก่งครับ จริงๆเด็กจบ ACC มาจะเก่ง Accounting กันทุกคนเพราะมันเรียนมาแล้ว สอบได้คะแนนเต็มกันหมด แฟนผมก็เก่งนะครับ แต่ตอนนั้นเอมันเสนอตัว
เอ: เฮ้ย ไมโง่งี้วะ ควิซ
โคตรง่ายเลยทำไมทำไม่ได้อ่ะ
ผม: เอ๊า กรูไม่ได้เรียนมาก่อนเหมือนเมิงนิ๊ กรูไม่เข้าใจเลยว่ะ แมร่งงง
เอ: เออ
มาติวบ้านกูไม๊ ไอ้บอล ไอ้เปิ้ล จะมาด้วย (บอล เปิ้ล เอ สนิทกันมาตั้งแต่ ACC บอลชอบเปิ้ล แต่เปิ้ลชอบเอ แต่ทุกวันนี้บอลกับเปิ้ลแต่งงานกันมีลูกสองคนแล้ว)
ผม: เออ เอาดิ เดี๋ยวกูไปส่งนิ้ง(แฟน)ก่อนแล้วเดี๋ยวไปหา
วันนั้นก็ไปติวบ้านเอครับ บ้านมันรวยมากกกกกก พ่อมันเป็นเจ้าพ่ออยู่ภูเก็ตค่อนข้างมีหน้ามีตาในสังคม ตัวมันขับ Benz มีคนขับรถแต่มันไม่ชอบใช้ พกเงินไม่เคยต่ำกว่าห้าพันในกระเป๋า ผมนี่ห้าร้อยก็หรูละตอนนั้น 555 เอเป็นคนไม่ค่อยพูดครับ แล้วก็ไม่เคยเอาใจใครเลย ไม่เคยช่วยใครถือหนังสือแม้แต่เปิ้ลมันก็ไม่ช่วยเลยครับ 555
ติวๆกันไปจนดึก บอลกับเปิ้ลจะกลับ ผมก็จะกลับด้วย แต่เอมันห้ามไว้
เอ: ห่า เมิงยังไม่ถึงไหนเลย จะไปไหนวะ
ผม: อ้าว ก็พวกมันกลับกูก็กลับดิวะ เกรงใจแม่เมิงอ่ะ
เอ: เมิงค้างบ้านกูเลยก็ได้
ผม: เอางั้นเหรอ เออๆเดี๋ยวกูบอกแม่กูก่อน
สรุปคืนนั้นผมก็นอนบ้านมันครับ ก็ติวกันไปจนเกือบเช้า...แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น (หรือคาดไว้แต่ไม่คิดว่าจะเกิดวะ)
ผม: เมิง...กูไม่ไหวละ จะอ้วกออกมาเป็น Balance Sheet แล้วอ่ะ
เอ: เออ นอนเหอะ พรุ่งนี้ค่อยต่อ
ผมก็กระโดดขึ้นเตียงล้มตัวลงนอน ดึงผ้าขึ้นมาห่มแล้วหลับไปทันที จำได้ว่าหลับไปสักพักก็ขยับตัวเพราะรู้สึกอึดอัด พอขยับตัวก็รู้สึกตัวก็แบบ...เห้ย...เอมันกอดผมอยู่ แล้วหน้านี่ห่างจากหน้าผมประมาณสองนิ้ว คือเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางชูขึ้นมาแล้วมาวางกั้นหน้าผมกับหน้ามันในแนวตั้งอ่ะ ปากมันจะโดนปากผมอยู่แล้วววววว
ผมก็ตกใจดิ ตอนนั้นก็ใจสั่นนะ ไม่รู้จะสู้หรือจะถอย แต่ก็ค่อยๆขยับหน้าหนีเบาๆไม่ให้มันตื่นแล้วก็หันหลังให้มัน มันก็ยังกอดผมอยู่นะครับ ตอนนั้นก็รู้สึกอืมมม....อุ่นจัง 555 สักพักคิดได้ครับ อ้าวเฮ้ย หันหลังให้มันแล้วตูดกรูล่ะ...ยังไม่ทันขาดคำ ก็มีของแข็งมาวางทาบก้นผม ผมก็เชี่ยละ กูหันกลับดีกว่า ก็ค่อยๆพลิกตัวกลับ ตอนนั้นเอมันก็ยังเหมือนหลับนะครับ มันอาจจะฝันอะไรอยู่สักอย่าง ผมก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเอง พอหันกลับมาก็นอนกอดกันอยู่อย่างนั้นล่ะครับ มันไม่ปล่อยหรือหันหนีเลย ผมก็ผล็อยหลับไป...
เช้าตื่นมาอีกที...เอาแหล่วๆๆๆ ลืมตาขึ้นมาคราวนี้ปากมันวางอยู่บนปากผมแล้วครับ แต่อารมณ์ผู้ชายตอนเช้าอ่ะครับ ไก่ขันตลอด #ฮอร์โมนวัยว้าวุ่นมาก ผมก็แกล้งอยู่นิ่งๆดูว่ามันจะทำยังไง เพราะผมมั่นใจว่ามันรู้สึกตัวแล้วครับ มันก็ไม่ถอยครับแถมยังเริ่มจูบอีก คือไม่ได้วางปากประกบกันเฉยๆแล้วครับคราวนี้ ปากมันเริ่มขยับครอบปากผม แล้วเราก็จูบกันแบบดูดดื่มมาก สักพักเอก็สอดลิ้นเข้ามาครับ ผมก็ไม่ถอยเลยครับ สู้ขาดใจ แต่วันนั้นก็จบแค่นั้น...
จำได้ว่านอนนัวกันอย่างนั้นจนเกือบๆเที่ยงพี่สาวเอมาเรียกไปกินข้าวครับ เลยได้แยกออกจากกัน หลังจากวันนั้นผมกับเอก็สนิทกันครับ สนิทถึงขนาดที่ว่า...
- ทุกวันเพื่อนที่ติดรถเอไปมหาลัยต้องไปหาเอที่บ้านก่อนเจ็ดโมงครึ่ง ถ้าสายล้อหมุนทันทีไม่มีรอ แต่...หลังจากที่ทุกคนมารวมตัวที่บ้านเอแล้ว เอจะขับรถพาทุกคนมารับผมที่บ้านแล้วค่อยไปมหาลัย ตอนหลังเพื่อนๆถึงกับเว้นที่ข้างหน้าไว้ให้ผมครับ ทุกคนไปนั่งหลังหมด
- เอรอผมกลับบ้านทุกวัน มันบอกเพื่อนคนอื่นว่าถ้ารอไม่ได้ให้กลับกันเอง
- เอถือหนังสือให้ผม
- โทรหาผมทุกวัน คุยกันเยอะมาก ไปเซี้ยงไฮ้ยังโทรมา กลับมาก็มาเจอผมก่อน
- ฯลฯ (นึกออกแค่นี้เพราะมันนานมากแล้ว)
ช่วงนั้นผมก็ไปนอนบ้านเอบ่อยมาก กับแฟนผู้หญิงก็ห่างๆออกมา ก็อ้างว่าไปติวหนังสือนี่แหละครับ แล้วตอนนั้นมหาลัยเปิดแคมปัสใหม่ที่บางนา ผมเป็นรุ่นแรกที่ได้ไปเรียน ผมก็ไปอยู่หอใน (ซึ่งเค้าเรียกคอนโด) เอก็ไปแต่อยู่คนละห้อง ผมเลยเจอแฟนแค่ตอนเรียนเพราะแฟนไม่ได้อยู่หอ ตอนหลังก็ตกลงเลิกกันครับ เค้าก็เฮิร์ทมาก แต่ตอนนั้นผมก็เลวครับ โลกเป็นสีชมพูแล้ว...กับผู้ชาย...เพื่อนๆก็ถามนะว่าจำเป็นมั้ย...ผมก็คิดนะ...
แต่แล้วไม่นานมันก็เลยเถิดครับ ยิ่งมาอยู่หอด้วยอะไรๆมันก็เลยเถิดไปอีก จากจูบใส่เสื้อผ้าก็เริ่มจูบไปถอดไป ไม่นานก็เริ่มใช้มือ แล้วก็ขยับมาใช้ปาก...อาบน้ำด้วยกัน...แต่ก็สุดอยู่แค่นั้นครับ
ก็เป็นอย่างนั้นอยู่หนึ่งเทอมครับ ผมไม่รู้ว่าใช่แฟนหรือเปล่า แต่ตอนนั้นก็ยังไม่เข้าใจคำว่าเกย์ครับ ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมันคืออะไร แต่ก็มีความสุขมาก คิดว่าเป็นรักครั้งแรกของผมครับ แล้วการที่คนที่ไม่เคยทำอะไรให้ใครเลยมาทำให้เราขนาดนี้ ผมงี้ใจอ่อนไปหมดครับ
ทีนี้พอเปิดเทอมใหม่มาก็เป็นเรื่องครับ เอเปลี๋ยนไป๋...หน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ วันนึงทนไม่ไหวเลยถามมันตรงๆ
ผม: เฮ้ย เมิงเป็นไรวะพักนี้ หลบหน้ากูจัง
เอ: อืม กูไม่ค่อยสบายว่ะ
ผม: เอาตรงๆ เมิงเป็นไร
เอ: กูว่าเราสองคนเลยเถิดไปแล้วว่ะ ถ้าพ่อกูรู้
บ้านแตก
ผม: เฮ้ย ก็เราเป็นเพื่อนกัน ทำไมบ้านต้องแตกวะ
เอ: เมิงก็รู้กูหมายถึงอะไร
ผม: กูรักเมิงนะ (เป็นครั้งแรกที่พูดครับ เพราะแอ๊คเป็นเพื่อนกันตลอด ไม่รู้ทำไมโพล่งออกไปแบบนั้น)
เอ: กูก็รักเมิง แต่เราปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ว่ะ ครอบครัวกู...ไม่ได้ว่ะ
ผม: เออ กูเข้าใจ
จริงๆไม่เข้าใจครับ มันคืออะไรครับ พี่มอสร้องว่า...ก็ไม่รู้มันคืออะไร ที่แล้วมามันคืออะไร...ผมไม่คุยกับมันสองเทอมครับ หลบหน้าตลอด #ร้องไห้หนักมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่รู้สึกเจ็บจริงๆ ตอนนั้นไม่สนใจเรียนเลย จาก 3.4 เกรดตกไปเหลือ 2.3 ดร็อปไปตัวหนึ่งอีก ขับรถไปบางแสนนั่งเล่นมิวสิคริมชายหาดบ่อยมาก ตอนนั้นกลายเป็นนิ้ง(แฟนเก่าผู้หญิง)ที่อยู่ข้างผมตลอด จนวันหนึ่งผมก็ตัดสินใจเล่าเรื่องเอให้เค้าฟังแบบหมดเปลือก...เค้าอยู่ข้างผมตลอดเลยครับเวลาผมร้องไห้ ผมซึ้งใจมาก เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งในชีวิตผม ตอนนี้นิ้งไปอยู่ต่างประเทศแล้วครับ
พอเทอมสุดท้ายได้ทำโปรเจ็กต์จบกลุ่มเดียวกัน ต้องทำแผนธุรกิจจากเริ่มจนจบ ในกลุ่มมีสิบสองคน กลุ่มเราก็เลือกทำโปรเจ็กต์ธุรกิจที่ภูเก็ตเพราะเอมีบ้านที่นั่น ตอนนั้นผมก็ดีขึ้นมากแล้วแต่ยังไม่คุยกัน คืนนั้นพวกเราออกไปทานข้าว พอกลับมาที่พักก็คุยกันเฮฮา จำได้ว่าเป็นอีกคืนหนึ่งในชีวิตที่ #หัวเราะหนักมาก
พอดึกทุกคนก็แยกย้ายไปนอน อิท่าไหนไม่รู้ครับ ผมนอนห้องเดียวกับเอ ในห้องมีห้าคน สามคนนั้นเหมือนรู้กันครับ มันไปนอนพื้นกันหมด ผมก็เอาล่ะสิ ต้องนอนเตียงเดียวกับเอสองคน นอนไปสักพักเอมาจับมือผมครับ แล้วก็ลุกขึ้นมาจูงมือผมลงไปข้างล่าง ผมก็เดินตามลงไป...
เอ: เมิงเป็นไงมั่งวะ
ผม: เออ กูดีขึ้นละ (ในใจคิดว่าที่เมิงทำอ่ะ กูเกือบตายเลยนะ)
เอ: ดีขึ้นก็ดีละ (แล้วมันก็เอามือมายีหัวผม แล้วก็จับหัวผมนอนบนตักมัน)
แล้วเราก็คุยกันถึงเช้าในท่านั้นครับ มันนั่งบนโซฟาโดยมีผมนอนหนุนตักมันอยู่ ในที่สุดก็ผล็อยหลับไปทั้งคู่...พอสายๆเปิ้ลลงมาครับ พอมันเห็นเราสองคนในท่านั้นมันคงตกใจ รีบปลุกพวกเราให้ขึ้นไปข้างบนครับ คงไม่อยากให้เพื่อนคนอื่นเห็น ต้องขอบคุณมันมากๆ
หลังจากวันนั้นผมกับเอก็เป็นเพื่อนสนิทที่คุยกันได้ทุกเรื่องจนถึงทุกวันนี้ครับ
จริงๆมันมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ประทับใจและพอจำได้ แต่เดี๋ยวจะยาวไป...
เรียนจบแล้วพร้อมกับความรักที่จบไป...เดี๋ยวจะเจอคนที่สองละครับ...ไว้มาเล่าต่อ...
ป.ล.1 ตอนนี้เอแต่งงานมีลูกหนึ่งคนแล้วคร้าบบบบ ผมไม่ได้ไปงานแต่งเพราะตอนนั้นอยู่ต่างประเทศ...
ป.ล.2 ขอโทษที่ใช้คำหยาบครับ เอามาจากชีวิตจริงเลย
ป.ล.3 ตัวละครใช้ชื่อสมมุติทุกคนนะคร้าบบ
นี่ตัวฉันผมผิดหรือไร ผมต้องใช้หนี้กรรมให้ใคร...ขอเล่าประสบการณ์ความรักของผมครับ
บอกก่อนเลยว่าอารมณ์ตอนเขียนนี่กำลังเศร้ามากครับ เจอแต่ความผิดหวัง ตอง ภัครมัยเคยร้องไว้ว่า...ได้พักสักหน่อย สักวันจะเจอกับรักที่ดี...ผมอยากจะเชื่อเธอครับ แต่ตอนนี้หมดศรัทธาจริงๆ แต่จะพยายามไม่เขียนให้เศร้าครับ
สิ่งที่เจอมาช่วงปีกว่านี่ทำให้ผมนึกย้อนกลับไปตั้งแต่จุดเริ่มต้น...เลยลองเรียบเรียงดูว่าปัจจุบันที่เป็นอยู่นี่เกิดจากสิ่งที่ทำมาให้อดีตหรือเปล่า เหมือนกรรมน่ะครับ ที่เจนนิเฟอร์ คิ้มเคยร้องไว้อีกว่า...มันคงเป็นกรรมที่ต้องเกิดมาเพื่อเขา หรือเพราะว่าเป็นตัวเราเกิดมาเพื่อเสียใจ...
ผมเป็นคนธรรมดาครับ เกิดมาในครอบครัวคนจีน ถูกสอนแบบคนจีน ไม่ได้ลำบากแต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร พ่อแม่แยกทางกันครับ ไม่รู้เป็นเหตุให้เป็นคนโหยหาความรักหรือเปล่า แต่ก็ถือคติว่าถ้าเห็นว่าไม่น่าจะรอดจะตัดจบเลย เพราะดูจากแม่ที่ต้องทนทุกข์เป็นสิบปีนี่มันแย่จริงๆนะครับ แต่การตัดจบมันไม่ได้ทำง่ายๆทุกครั้ง เลิกรักยากกว่าเริ่มรักครับ ไม่งั้นคนเราจะเจ็บเพราะความรักเหรอ...
รักครั้งแรก (นายเอ) ~1เทอม
ตอนนั้นเรียนอยู่มหาลัยชื่อดังย่านรามคำแหง ประมาณปี 2000 ผมอยู่ในกลุ่มเด็กเก่งครับ มีกันสิบหกคน ตอนนั้นมีผู้หญิงเข้ามาคุยหลายคนครับ อาจเพราะบุคลิกง่ายๆ เป็นคนชอบฟัง ผู้หญิงต่อคิวกันโทรหา มีคนหนึ่งเคยบอกว่าไม่กล้าโทรหาผมเพราะผมคงคุยกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ 555
ผมก็คบผู้หญิงอยู่คนนึงครับ อยู่กลุ่มเดียวกันนี่หล่ะ แต่ก็แค่จับมือถือแขน ไปรับไปส่ง แต่ไม่มีอะไรกัน จริงๆก็สับสนนะครับเพราะเราก็ชอบมองผู้ชาย แต่ก็ชอบผู้หญิงด้วย
ประมาณปีสองก็ได้คุยกับเอ อยู่กลุ่มเดียวกันนี่หล่ะครับแต่ไม่สนิทมาก คือผมจะอ่อน Accounting มาก ไม่เข้าใจว่าจะเดบิต-เครดิตมันทำไมให้ยุ่งยาก แต่เอมันเก่งครับ จริงๆเด็กจบ ACC มาจะเก่ง Accounting กันทุกคนเพราะมันเรียนมาแล้ว สอบได้คะแนนเต็มกันหมด แฟนผมก็เก่งนะครับ แต่ตอนนั้นเอมันเสนอตัว
เอ: เฮ้ย ไมโง่งี้วะ ควิซโคตรง่ายเลยทำไมทำไม่ได้อ่ะ
ผม: เอ๊า กรูไม่ได้เรียนมาก่อนเหมือนเมิงนิ๊ กรูไม่เข้าใจเลยว่ะ แมร่งงง
เอ: เออ มาติวบ้านกูไม๊ ไอ้บอล ไอ้เปิ้ล จะมาด้วย (บอล เปิ้ล เอ สนิทกันมาตั้งแต่ ACC บอลชอบเปิ้ล แต่เปิ้ลชอบเอ แต่ทุกวันนี้บอลกับเปิ้ลแต่งงานกันมีลูกสองคนแล้ว)
ผม: เออ เอาดิ เดี๋ยวกูไปส่งนิ้ง(แฟน)ก่อนแล้วเดี๋ยวไปหา
วันนั้นก็ไปติวบ้านเอครับ บ้านมันรวยมากกกกกก พ่อมันเป็นเจ้าพ่ออยู่ภูเก็ตค่อนข้างมีหน้ามีตาในสังคม ตัวมันขับ Benz มีคนขับรถแต่มันไม่ชอบใช้ พกเงินไม่เคยต่ำกว่าห้าพันในกระเป๋า ผมนี่ห้าร้อยก็หรูละตอนนั้น 555 เอเป็นคนไม่ค่อยพูดครับ แล้วก็ไม่เคยเอาใจใครเลย ไม่เคยช่วยใครถือหนังสือแม้แต่เปิ้ลมันก็ไม่ช่วยเลยครับ 555
ติวๆกันไปจนดึก บอลกับเปิ้ลจะกลับ ผมก็จะกลับด้วย แต่เอมันห้ามไว้
เอ: ห่า เมิงยังไม่ถึงไหนเลย จะไปไหนวะ
ผม: อ้าว ก็พวกมันกลับกูก็กลับดิวะ เกรงใจแม่เมิงอ่ะ
เอ: เมิงค้างบ้านกูเลยก็ได้
ผม: เอางั้นเหรอ เออๆเดี๋ยวกูบอกแม่กูก่อน
สรุปคืนนั้นผมก็นอนบ้านมันครับ ก็ติวกันไปจนเกือบเช้า...แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น (หรือคาดไว้แต่ไม่คิดว่าจะเกิดวะ)
ผม: เมิง...กูไม่ไหวละ จะอ้วกออกมาเป็น Balance Sheet แล้วอ่ะ
เอ: เออ นอนเหอะ พรุ่งนี้ค่อยต่อ
ผมก็กระโดดขึ้นเตียงล้มตัวลงนอน ดึงผ้าขึ้นมาห่มแล้วหลับไปทันที จำได้ว่าหลับไปสักพักก็ขยับตัวเพราะรู้สึกอึดอัด พอขยับตัวก็รู้สึกตัวก็แบบ...เห้ย...เอมันกอดผมอยู่ แล้วหน้านี่ห่างจากหน้าผมประมาณสองนิ้ว คือเอานิ้วชี้กับนิ้วกลางชูขึ้นมาแล้วมาวางกั้นหน้าผมกับหน้ามันในแนวตั้งอ่ะ ปากมันจะโดนปากผมอยู่แล้วววววว
ผมก็ตกใจดิ ตอนนั้นก็ใจสั่นนะ ไม่รู้จะสู้หรือจะถอย แต่ก็ค่อยๆขยับหน้าหนีเบาๆไม่ให้มันตื่นแล้วก็หันหลังให้มัน มันก็ยังกอดผมอยู่นะครับ ตอนนั้นก็รู้สึกอืมมม....อุ่นจัง 555 สักพักคิดได้ครับ อ้าวเฮ้ย หันหลังให้มันแล้วตูดกรูล่ะ...ยังไม่ทันขาดคำ ก็มีของแข็งมาวางทาบก้นผม ผมก็เชี่ยละ กูหันกลับดีกว่า ก็ค่อยๆพลิกตัวกลับ ตอนนั้นเอมันก็ยังเหมือนหลับนะครับ มันอาจจะฝันอะไรอยู่สักอย่าง ผมก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเอง พอหันกลับมาก็นอนกอดกันอยู่อย่างนั้นล่ะครับ มันไม่ปล่อยหรือหันหนีเลย ผมก็ผล็อยหลับไป...
เช้าตื่นมาอีกที...เอาแหล่วๆๆๆ ลืมตาขึ้นมาคราวนี้ปากมันวางอยู่บนปากผมแล้วครับ แต่อารมณ์ผู้ชายตอนเช้าอ่ะครับ ไก่ขันตลอด #ฮอร์โมนวัยว้าวุ่นมาก ผมก็แกล้งอยู่นิ่งๆดูว่ามันจะทำยังไง เพราะผมมั่นใจว่ามันรู้สึกตัวแล้วครับ มันก็ไม่ถอยครับแถมยังเริ่มจูบอีก คือไม่ได้วางปากประกบกันเฉยๆแล้วครับคราวนี้ ปากมันเริ่มขยับครอบปากผม แล้วเราก็จูบกันแบบดูดดื่มมาก สักพักเอก็สอดลิ้นเข้ามาครับ ผมก็ไม่ถอยเลยครับ สู้ขาดใจ แต่วันนั้นก็จบแค่นั้น...
จำได้ว่านอนนัวกันอย่างนั้นจนเกือบๆเที่ยงพี่สาวเอมาเรียกไปกินข้าวครับ เลยได้แยกออกจากกัน หลังจากวันนั้นผมกับเอก็สนิทกันครับ สนิทถึงขนาดที่ว่า...
- ทุกวันเพื่อนที่ติดรถเอไปมหาลัยต้องไปหาเอที่บ้านก่อนเจ็ดโมงครึ่ง ถ้าสายล้อหมุนทันทีไม่มีรอ แต่...หลังจากที่ทุกคนมารวมตัวที่บ้านเอแล้ว เอจะขับรถพาทุกคนมารับผมที่บ้านแล้วค่อยไปมหาลัย ตอนหลังเพื่อนๆถึงกับเว้นที่ข้างหน้าไว้ให้ผมครับ ทุกคนไปนั่งหลังหมด
- เอรอผมกลับบ้านทุกวัน มันบอกเพื่อนคนอื่นว่าถ้ารอไม่ได้ให้กลับกันเอง
- เอถือหนังสือให้ผม
- โทรหาผมทุกวัน คุยกันเยอะมาก ไปเซี้ยงไฮ้ยังโทรมา กลับมาก็มาเจอผมก่อน
- ฯลฯ (นึกออกแค่นี้เพราะมันนานมากแล้ว)
ช่วงนั้นผมก็ไปนอนบ้านเอบ่อยมาก กับแฟนผู้หญิงก็ห่างๆออกมา ก็อ้างว่าไปติวหนังสือนี่แหละครับ แล้วตอนนั้นมหาลัยเปิดแคมปัสใหม่ที่บางนา ผมเป็นรุ่นแรกที่ได้ไปเรียน ผมก็ไปอยู่หอใน (ซึ่งเค้าเรียกคอนโด) เอก็ไปแต่อยู่คนละห้อง ผมเลยเจอแฟนแค่ตอนเรียนเพราะแฟนไม่ได้อยู่หอ ตอนหลังก็ตกลงเลิกกันครับ เค้าก็เฮิร์ทมาก แต่ตอนนั้นผมก็เลวครับ โลกเป็นสีชมพูแล้ว...กับผู้ชาย...เพื่อนๆก็ถามนะว่าจำเป็นมั้ย...ผมก็คิดนะ...
แต่แล้วไม่นานมันก็เลยเถิดครับ ยิ่งมาอยู่หอด้วยอะไรๆมันก็เลยเถิดไปอีก จากจูบใส่เสื้อผ้าก็เริ่มจูบไปถอดไป ไม่นานก็เริ่มใช้มือ แล้วก็ขยับมาใช้ปาก...อาบน้ำด้วยกัน...แต่ก็สุดอยู่แค่นั้นครับ
ก็เป็นอย่างนั้นอยู่หนึ่งเทอมครับ ผมไม่รู้ว่าใช่แฟนหรือเปล่า แต่ตอนนั้นก็ยังไม่เข้าใจคำว่าเกย์ครับ ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมันคืออะไร แต่ก็มีความสุขมาก คิดว่าเป็นรักครั้งแรกของผมครับ แล้วการที่คนที่ไม่เคยทำอะไรให้ใครเลยมาทำให้เราขนาดนี้ ผมงี้ใจอ่อนไปหมดครับ
ทีนี้พอเปิดเทอมใหม่มาก็เป็นเรื่องครับ เอเปลี๋ยนไป๋...หน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ วันนึงทนไม่ไหวเลยถามมันตรงๆ
ผม: เฮ้ย เมิงเป็นไรวะพักนี้ หลบหน้ากูจัง
เอ: อืม กูไม่ค่อยสบายว่ะ
ผม: เอาตรงๆ เมิงเป็นไร
เอ: กูว่าเราสองคนเลยเถิดไปแล้วว่ะ ถ้าพ่อกูรู้บ้านแตก
ผม: เฮ้ย ก็เราเป็นเพื่อนกัน ทำไมบ้านต้องแตกวะ
เอ: เมิงก็รู้กูหมายถึงอะไร
ผม: กูรักเมิงนะ (เป็นครั้งแรกที่พูดครับ เพราะแอ๊คเป็นเพื่อนกันตลอด ไม่รู้ทำไมโพล่งออกไปแบบนั้น)
เอ: กูก็รักเมิง แต่เราปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ว่ะ ครอบครัวกู...ไม่ได้ว่ะ
ผม: เออ กูเข้าใจ
จริงๆไม่เข้าใจครับ มันคืออะไรครับ พี่มอสร้องว่า...ก็ไม่รู้มันคืออะไร ที่แล้วมามันคืออะไร...ผมไม่คุยกับมันสองเทอมครับ หลบหน้าตลอด #ร้องไห้หนักมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่รู้สึกเจ็บจริงๆ ตอนนั้นไม่สนใจเรียนเลย จาก 3.4 เกรดตกไปเหลือ 2.3 ดร็อปไปตัวหนึ่งอีก ขับรถไปบางแสนนั่งเล่นมิวสิคริมชายหาดบ่อยมาก ตอนนั้นกลายเป็นนิ้ง(แฟนเก่าผู้หญิง)ที่อยู่ข้างผมตลอด จนวันหนึ่งผมก็ตัดสินใจเล่าเรื่องเอให้เค้าฟังแบบหมดเปลือก...เค้าอยู่ข้างผมตลอดเลยครับเวลาผมร้องไห้ ผมซึ้งใจมาก เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งในชีวิตผม ตอนนี้นิ้งไปอยู่ต่างประเทศแล้วครับ
พอเทอมสุดท้ายได้ทำโปรเจ็กต์จบกลุ่มเดียวกัน ต้องทำแผนธุรกิจจากเริ่มจนจบ ในกลุ่มมีสิบสองคน กลุ่มเราก็เลือกทำโปรเจ็กต์ธุรกิจที่ภูเก็ตเพราะเอมีบ้านที่นั่น ตอนนั้นผมก็ดีขึ้นมากแล้วแต่ยังไม่คุยกัน คืนนั้นพวกเราออกไปทานข้าว พอกลับมาที่พักก็คุยกันเฮฮา จำได้ว่าเป็นอีกคืนหนึ่งในชีวิตที่ #หัวเราะหนักมาก
พอดึกทุกคนก็แยกย้ายไปนอน อิท่าไหนไม่รู้ครับ ผมนอนห้องเดียวกับเอ ในห้องมีห้าคน สามคนนั้นเหมือนรู้กันครับ มันไปนอนพื้นกันหมด ผมก็เอาล่ะสิ ต้องนอนเตียงเดียวกับเอสองคน นอนไปสักพักเอมาจับมือผมครับ แล้วก็ลุกขึ้นมาจูงมือผมลงไปข้างล่าง ผมก็เดินตามลงไป...
เอ: เมิงเป็นไงมั่งวะ
ผม: เออ กูดีขึ้นละ (ในใจคิดว่าที่เมิงทำอ่ะ กูเกือบตายเลยนะ)
เอ: ดีขึ้นก็ดีละ (แล้วมันก็เอามือมายีหัวผม แล้วก็จับหัวผมนอนบนตักมัน)
แล้วเราก็คุยกันถึงเช้าในท่านั้นครับ มันนั่งบนโซฟาโดยมีผมนอนหนุนตักมันอยู่ ในที่สุดก็ผล็อยหลับไปทั้งคู่...พอสายๆเปิ้ลลงมาครับ พอมันเห็นเราสองคนในท่านั้นมันคงตกใจ รีบปลุกพวกเราให้ขึ้นไปข้างบนครับ คงไม่อยากให้เพื่อนคนอื่นเห็น ต้องขอบคุณมันมากๆ
หลังจากวันนั้นผมกับเอก็เป็นเพื่อนสนิทที่คุยกันได้ทุกเรื่องจนถึงทุกวันนี้ครับ
จริงๆมันมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ประทับใจและพอจำได้ แต่เดี๋ยวจะยาวไป...
เรียนจบแล้วพร้อมกับความรักที่จบไป...เดี๋ยวจะเจอคนที่สองละครับ...ไว้มาเล่าต่อ...
ป.ล.1 ตอนนี้เอแต่งงานมีลูกหนึ่งคนแล้วคร้าบบบบ ผมไม่ได้ไปงานแต่งเพราะตอนนั้นอยู่ต่างประเทศ...
ป.ล.2 ขอโทษที่ใช้คำหยาบครับ เอามาจากชีวิตจริงเลย
ป.ล.3 ตัวละครใช้ชื่อสมมุติทุกคนนะคร้าบบ