รถบรรทุกหกล้อเคลื่อนเข้ามาในโรงสี ท้ายกระบะเต็มไปด้วยกระสอบบรรจุข้าวเปลือก น้ำหนักรวมกันราว ๆ สิบตัน หลังจากการชั่งน้ำหนัก เจ้าหน้าที่ของโรงสีเก็บตัวอย่างข้าวเปลือกไปวัดความชื้น ใช้เวลาเพียงไม่นาน ผลลัพธ์ก็ออกมา
“หืม ทำไมราคาเป็นแบบนี้ล่ะ” ทศร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจ หันไปบอกหุ้นส่วนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “ยังไงวะเนี่ย”
ชาติส่ายหน้าเบา ๆ “ราคาก็ตามนั้นแหละเพื่อน”
“อะไรวะ” ทศหันไปถามเจ้าหน้าที่หญิง “นี่ คุณครับ ทำไมราคาถูกจังล่ะ”
“ข้าวของคุณมีความชื้นสูงค่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ความชื้น?” ทศแทบไม่เชื่อหู ก้มมองรายละเอียดในกระดาษ ปรากฏว่าความชื้นสูงถึง 18% “เฮ้ย ทำไมสูงแบบนี้วะ”
เธอว่าต่อ “เราหักเพราะความชื้นเกินค่ะ ความชื้นต้องไม่เกินสิบห้าเปอร์เซ็นต์นะคะ”
“เรื่องนั้นผมรู้ครับ” ทศสวนทันควัน “แต่ข้าวของผม ความชื้นไม่น่าจะเกินนะ”
“เอ่อ...แต่เครื่องของเราวัดออกมาได้แบบนี้ค่ะ” เธอพยายามปั้นสีหน้าให้ดูปกติ
“ผมว่าไม่ใช่ละ เครื่องของคุณมั่วแน่ ๆ วัดใหม่เถอะครับ” ทศมั่นใจ
เธอเริ่มออกอาการตะกุกตะกัก “เอ่อ...คือ...”
ชาติไม่อยากให้มีเรื่อง “เฮ้ยไอ้ทศ เมิงใจเย็นก่อนดิวะ” เขาดึงตัวเพื่อนออกมาจากหน้าเคาน์เตอร์
ทศร้องถาม “อะไรของเมิงเนี่ย กูจะให้มันวัดใหม่”
“ใจเย็น ๆ ก่อน” ชาติปราม กระซิบข้างในหู “กูจะบอกอะไรให้นะ วัดใหม่ก็ไม่มีประโยชน์หรอก ญาติกูเจอมาแล้ว โรงสีนี้แม่xงขี้โกง”
ทศตาโต “เมิงว่าไงนะ”
“เออ พวกเราทำอะไรไม่ได้หรอก กูว่ายอม ๆ ขายแม่xงไปเหอะ”
“ยอม? เมิงจะยอมให้มันเอาเปรียบแบบนี้น่ะเหรอ เงินของเมิงนะเว้ย นี่แม่xงปล้นกันชัด ๆ”
“แล้วเมิงจะทำอะไรมันได้วะ ถ้ามันไม่ซื้อ เมิงก็ต้องไปขายในเมือง แค่ค่ารถก็ไม่คุ้มแล้ว”
“ไม่เว้ย กูไม่ยอม” ทศกลับไปหาเจ้าหน้าที่ “นี่คุณ ผมขอพบเจ้าของโรงสีได้ไหม”
ชาติวิ่งตามมา “ไอ้ทศเมิงจะทำอะไรเนี่ย”
เธอทำตัวไม่ถูก “เอ่อ...หนูว่า...”
ทศหันไปยังโกดังขนาดใหญ่ เห็นป้าย ‘ติดต่อผู้จัดการ’ แปะอยู่หน้าทางเข้า “ข้างในนั้นใช่ไหม” ว่าแล้วก็มุ่งตรงไปที่นั่น
“เฮ้ย รอกูด้วย” ชาติวิ่งตาม
เรื่องเขย่าขวัญ : ขายข้าว
“หืม ทำไมราคาเป็นแบบนี้ล่ะ” ทศร้องขึ้นด้วยความประหลาดใจ หันไปบอกหุ้นส่วนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “ยังไงวะเนี่ย”
ชาติส่ายหน้าเบา ๆ “ราคาก็ตามนั้นแหละเพื่อน”
“อะไรวะ” ทศหันไปถามเจ้าหน้าที่หญิง “นี่ คุณครับ ทำไมราคาถูกจังล่ะ”
“ข้าวของคุณมีความชื้นสูงค่ะ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ความชื้น?” ทศแทบไม่เชื่อหู ก้มมองรายละเอียดในกระดาษ ปรากฏว่าความชื้นสูงถึง 18% “เฮ้ย ทำไมสูงแบบนี้วะ”
เธอว่าต่อ “เราหักเพราะความชื้นเกินค่ะ ความชื้นต้องไม่เกินสิบห้าเปอร์เซ็นต์นะคะ”
“เรื่องนั้นผมรู้ครับ” ทศสวนทันควัน “แต่ข้าวของผม ความชื้นไม่น่าจะเกินนะ”
“เอ่อ...แต่เครื่องของเราวัดออกมาได้แบบนี้ค่ะ” เธอพยายามปั้นสีหน้าให้ดูปกติ
“ผมว่าไม่ใช่ละ เครื่องของคุณมั่วแน่ ๆ วัดใหม่เถอะครับ” ทศมั่นใจ
เธอเริ่มออกอาการตะกุกตะกัก “เอ่อ...คือ...”
ชาติไม่อยากให้มีเรื่อง “เฮ้ยไอ้ทศ เมิงใจเย็นก่อนดิวะ” เขาดึงตัวเพื่อนออกมาจากหน้าเคาน์เตอร์
ทศร้องถาม “อะไรของเมิงเนี่ย กูจะให้มันวัดใหม่”
“ใจเย็น ๆ ก่อน” ชาติปราม กระซิบข้างในหู “กูจะบอกอะไรให้นะ วัดใหม่ก็ไม่มีประโยชน์หรอก ญาติกูเจอมาแล้ว โรงสีนี้แม่xงขี้โกง”
ทศตาโต “เมิงว่าไงนะ”
“เออ พวกเราทำอะไรไม่ได้หรอก กูว่ายอม ๆ ขายแม่xงไปเหอะ”
“ยอม? เมิงจะยอมให้มันเอาเปรียบแบบนี้น่ะเหรอ เงินของเมิงนะเว้ย นี่แม่xงปล้นกันชัด ๆ”
“แล้วเมิงจะทำอะไรมันได้วะ ถ้ามันไม่ซื้อ เมิงก็ต้องไปขายในเมือง แค่ค่ารถก็ไม่คุ้มแล้ว”
“ไม่เว้ย กูไม่ยอม” ทศกลับไปหาเจ้าหน้าที่ “นี่คุณ ผมขอพบเจ้าของโรงสีได้ไหม”
ชาติวิ่งตามมา “ไอ้ทศเมิงจะทำอะไรเนี่ย”
เธอทำตัวไม่ถูก “เอ่อ...หนูว่า...”
ทศหันไปยังโกดังขนาดใหญ่ เห็นป้าย ‘ติดต่อผู้จัดการ’ แปะอยู่หน้าทางเข้า “ข้างในนั้นใช่ไหม” ว่าแล้วก็มุ่งตรงไปที่นั่น
“เฮ้ย รอกูด้วย” ชาติวิ่งตาม