ขออนุญาตนำบทความที่หลายๆ คนอยากรู้แต่ไม่กล้าถาม ที่หมอเมษ์และหมอเจม แห่งเพจใกล้มิตรชิดหมอเคยเขียนเอาไว้ จึงขอรวบรวมเอามาให้อ่านกันค่ะ บทความมีทั้งหมด 3 ตอนนะคะ
เริ่มจากตอนแรก Sex in pregnancy โดยหมอเมษ์
... เชื่อว่าเป็นคำถามที่คุณแม่หลายคนอยากถาม แต่ไม่กล้า ไม่รู้จะถามใคร
ในชีวิตคู่ ต้องยอมรับว่านอกจากความรักแล้ว การมีเพศสัมพันธ์เปรียบเสมือนการแสดงออกของความรักผ่านสัมผัสงกายที่ทำให้เกิดความลึกซึ้งระหว่างคู่รัก เมื่อเกิดการตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงทางสรีระของร่างกาย ความกังวล การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ ทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ความรู้สึกและความต้องการทางเพศของฝ่ายหญิงลดลง ... แต่สำหรับฝ่ายชาย เมื่อฮอร์โมนเพศชายยังพลุ่งพล่าน ก็จะยังมีความต้องการตลอด ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในเรื่องนี้ ในระหว่างที่ตั้งครรภ์คุณทั้งคู่ก็ต้องมีการปรับตัวและทำความเข้าใจกันและกันด้วยนะคะ
@ เพศสัมพันธ์ในระหว่างตั้งครรภ์สามารถมีได้หรือเปล่า ... คำตอบคือ "มีได้คะ ... แต่ไม่ทุกคน" เขียนแบบนี้คงจะเกิดคำถามเยอะแยะมากมายตามมาใช่มั๊ยคะ มาดูกัน
@ แล้วจะปลอดภัยหรือเปล่า ... จากข้อมูลที่มีในปัจจุบัน ไม่พบว่าก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด ยกเว้นบางภาวะที่ควรงดหรือหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างการตั้งครรภ์
... งั้นใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างตั้งครรภ์ ก็ได้แก่
- คนที่มีประวัติแท้งบ่อยๆ หลายๆ ครั้ง (recurrent abortion)
- คนที่มีเลือดออกในระหว่างการตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรก เช่น มีภาวะแท้งคุกคาม (Threatened abortion) ** อ่านเพิ่มเติมเรื่องการแท้งแบบต่างๆตามลิงค์นี้นะคะ
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=149683181877141&set=a.150076331837826.1073741856.138161163029343&type=3&theater
- คนที่มีภาวะรกเกาะต่ำ (Placenta previa) ** อ่านเรื่องรกเกาะต่ำได้ตามลิ้งค์นี้คะ
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=142856312559828&set=a.146343765544416.1073741846.138161163029343&type=3&theater
- คนที่ท่าของทารกผิดปกติในช่วงใกล้คลอด
- คนที่มีความเสี่ยงที่จะมีประวัติคลอดก่อนกำหนด เช่น เคยมีประวัติคลอดก่อนกำหนด หรือตั้งครรภ์ทารกมากกว่า 1 คน เป็นต้น
- คนที่มีภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการตั้งครรภ์ เช่น เป็นโรคหัวใจ หรือครรภ์เป็นพิษ
... อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าจะต้อง งดเพศสัมพันธ์ "ตลอด" การตั้งครรภ์นะคะ ขึ้นกับภาวะด้วย เช่นคนที่มีภาวะแท้งคุกคามในช่วงไตรมาสแรก อาจจะงดเพศสัมพันธ์ในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังจากที่ทีเลือดออก หลังจากนั้นถ้าการตั้งครรภ์สามารถดำเนินไปได้อย่างปกติ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ ถ้าคุณไม่ได้มีข้อห้ามอื่นๆ ด้วย
@ แล้วจะมีเพศสัมพันธ์ "ท่า" ไหน แบบไหนดี จึงจะไม่มีปัญหา ... จริงๆ ไม่ได้มีข้อจำกัดหรือท่าแนะนำชัดเจนนะคะ แต่ควรเป็นท่าที่คุณทั้งคู้รู้สึกสบาย และมีข้อควรจำ 4 ข้อ คือ
1. ห้าม/หลีกเลี่ยงการกดทับไปบนส่วนของมดลูก ... เพราะอาจจะกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวและเกิดการเจ็บครรภ์คลอดได้โดยเฉพาะช่วงหลังของการตั้งครรภ์
2. หลีกเลี่ยงการกระตุ้นเต้านม ... ** โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสหลังของการตั้งครรภ์ เพราะว่าการกระตุ้นที่เต้านม จะทำให้ต่อมใต้สมองส่วนหลังหลั่งฮอร์โมน Oxytocin เข้าสู่กระแสเลือด ไปกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของมดลูกและเกิดการเจ็บครรภ์คลอดได้
3. รักษาความสะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอด โดยอาจจะเลือกใส่ถุงยางอนามัย หรือทำความสะอาดร่างกายก่อนทำกิจกรรม
4. หลีกเลี่ยงการสอดใส่เข้าไปลึกๆ (deep penetration)
สรุปว่า เพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ ... ถ้าไม่มีข้อห้าม ก็มีได้ แต่ต้องระวังด้วยนะคะ ^^
.......................................................................................................................................................
ตอนที่ 2 แนบชิดกันท่าไหนเวลาตั้งครรภ์ Sex Position in pregnancy โดยหมอเจม
ทุกคนสนใจบทความของคุณหมอเมษ์กันใช่มั้ยละครับ ^^ จริงๆเป็นเรื่องที่สำคัญเลยนะ เพราะระยะเวลาการตั้งครรภ์ก็ประมาณ9เดือน การรักษาความสัมพันธ์ของคุณพ่อคุณแม่ไม่ให้ห่างเหินกันเป็นสิ่งที่ต้องทำเลยล่ะ
ผมขอมาเสริมบทความต่อจากคุณหมอเมษ์สั้นๆครับว่าท่าที่เหมาะสมในการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ควรเป็นท่าไหน
จริงๆแล้วช่วงตั้งครรภ์ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างสีสันใหม่ๆให้กับชีวิตคู่ด้วยนะครับ เพราะคุณพ่อคุณแม่อาจจะได้ทดลองสิ่งใหม่ๆท่าใหม่ๆนั่นเอง(ไม่ได้ทะลึ่งนะ^^)
จำไว้ว่าอย่าสอดใส่ลึกมาก(deep penetration) อย่าให้เกิดแรงกดทับลงบนมดลูก และเหล่านี้คือท่าที่แนะนำครับ
- ท่าแรก WOT (women on top) ครับ คือคุณแม่อยู่ด้านบน สามารถทั้งในกรณีที่คุณพ่อนอนหรือนั่งบนเก้าอี้นะครับ ข้อดีมากๆเลยคือคุณแม่จะสามารถควบคุมความลึกความแรงของการสอดใส่ได้ด้วยตัวเองทำให้ไม่รู้สึกไม่สบาย และไม่มีการกดทับมดลูกครับ
- ท่าที่2 side by side คือให้คุณแม่นอนตะแคงซ้าย คุณพ่อหันหน้าเข้าหาหลังคุณแม่และสอดใส่ ในท่านี้จะถูกบังคับให้ไม่สามารถสอดใส่ได้ลึกครับ
- ท่าที่3 pillow on the side คุณแม่นอนตะแคงซ้ายวางหมอนพยุงหลัง คุณพ่อหันหน้าเข้าหาคุณแม่ ในท่านี้จะไม่มีแรงกดลงมดลูกครับ
- ท่าที่4 lie on elbows and knees คุณแม่คุกเข่าวางน้ำหนักบนข้อศอกและเข่าสองข้าง คุณพ่อคุกเข่าอยู่ทางด้านหลังนะครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนสามารถสร้างความสัมพันธ์ให้แนบชิดได้มากขึ้นระหว่างตั้งครรภ์นะครับ
.......................................................................................................................................................
ตอนที่ 3 หลังคลอดแล้วจะเริ่มมีเพศสัมพันธ์ได้เมื่อไหร่
#เวลาที่เหมาะสมคือเมื่อไหร่
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์เชิงประจักษ์ที่จะบอกว่าเมื่อไหร่เป็นเวลาที่เหมาะสมในการที่จะมีเพศสัมพันธ์หลังคลอด ในหนังสือก็เขียนทำนองว่า เรื่องนี้ก็ต้องใช้ common sense หรือสามัญสำนึกเอาเองประมาณนั้นนะจ๊ะ ดังนั้นก็หมายถึงเมื่อไหร่ที่รู้สึกพร้อมหรือรู้สึกมีความต้องการ ก็สามารถมีได้
#ถ้ามีเพศสัมพันธ์ทันทีหลังจากกลับบ้านเลยได้ไหม (สามีอยากรู้)
การมีเพศสัมพันธ์เร็วเกินไป อาจจะทำให้เกิดปัญหารู้สึกไม่สุขสบายหรือเจ็บบริเวณฝีเย็บที่ยังไม่หายดี ประกอบกับผนังช่องคลอดในช่วงหลังคลอดใหม่ๆ จะยังบางและสร้างสารคัดหลั่งมาหล่อลื่นได้ไม่เต็มที่เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) ลดระดับหลังคลอดก็ช่วยกันส่งเสริมให้การมีเพศสัมพันธ์หลังคลอดที่เร็วเกินไปไม่น่าพิสมัยเท่าไรนัก ซึ่งระดับของเอสโตรเจนจะต่ำไปจนถึงช่วงเวลาที่เกิดการตกไข่ (ซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่) หลังจากนั้นแล้วปัญหาเรื่องเอสโตรเจนต่ำก็จะดีขึ้น ระหว่างนั้นถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ก็สามารถใช้เจลช่วยหล่อลื่นช่วยแก้ปัญหาไปพลางๆ ได้ค่ะ
#แล้วทำไมก่อนกลับบ้านหมอบอกให้งดเพศสัมพันธ์จนกว่าจะถึงวันนัดตรวจหลังคลอดล่ะ (สามีบ่น)
โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้งดเพศสัมพันธ์ตั้งแต่หลังคลอดไปจนถึงวันนัดตรวจหลังคลอดซึ่งจะนัดที่ 4-6 สัปดาห์ เหตุผลก็เพื่อให้คุณแม่ปรับตัวกับบทบาทใหม่ที่จะต้องหลับตื่นไม่เป็นเวลา รอให้แผลหายดี และที่สำคัญที่สุด คุณแม่จะได้รับการตรวจหลังคลอดและให้คำแนะนำหรือเริ่มการคุมกำเนิดก่อนที่จะเริ่มมีเพศสัมพันธ์ เพื่อจะได้เว้นระยะการมีบุตรที่เหมาะสม เพราะการคุมกำเนิดบางอย่างสามารถเริ่มได้อย่างปลอดภัยตามคำแนะนำหลังจาก 4 สัปดาห์หลังคลอด จึงเป็นที่มาว่า ทำไมหมอจึงแนะนำให้ลดเพศสัมพันธ์ในระหว่างนั้น
นอกจากนี้คุณแม่ที่ให้นม แม้ว่าจะเชื่อว่าการให้นมบุตรจะยับยั้งการตกไข่ได้ แต่ว่าเราไม่ถือเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ เพราะผลไม่แน่นอนและจะเกิดการตกไข่วันไหนเราไม่มีทางรู้ได้ จำเป็นจะต้องมีการคุมวิธีอื่นที่มีประสิทธิกว่าร่วมด้วย ซึ่งจะคุมยังไงนั้น อ่านได้จากบทความเก่าของหมอบาสค่ะ
https://www.facebook.com/Drnextdoor/photos/a.198677816977677.1073741942.138161163029343/195585403953585/ และสามารถอ่านบทความทั้งหมดเกี่ยวกับร่างกายคุณแม่หลังคลอดจากบทความตามนี้นะคะ
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.198677816977677.1073741942.138161163029343&type=3
หวังว่าหลายๆ คนคงได้คำตอบกับคำถามที่สงสัยกันนะคะ
บทความจาก เพจใกล้มิตรชิดหมอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.facebook.com/Drnextdoor/photos/a.153071918204934.1073741875.138161163029343/152763778235748/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Drnextdoor/photos/a.153071918204934.1073741875.138161163029343/152855564893236/?type=3&theater
https://www.facebook.com/Drnextdoor/photos/a.198677816977677.1073741942.138161163029343/375552155956908/?type=3&theater
อยากรู้แต่ไม่อยากถามกับเรื่อง sex ขณะตั้งครรภ์และหลังคลอด
เริ่มจากตอนแรก Sex in pregnancy โดยหมอเมษ์
... เชื่อว่าเป็นคำถามที่คุณแม่หลายคนอยากถาม แต่ไม่กล้า ไม่รู้จะถามใคร
ในชีวิตคู่ ต้องยอมรับว่านอกจากความรักแล้ว การมีเพศสัมพันธ์เปรียบเสมือนการแสดงออกของความรักผ่านสัมผัสงกายที่ทำให้เกิดความลึกซึ้งระหว่างคู่รัก เมื่อเกิดการตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงทางสรีระของร่างกาย ความกังวล การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์ ทั้งหมดทั้งปวงนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ความรู้สึกและความต้องการทางเพศของฝ่ายหญิงลดลง ... แต่สำหรับฝ่ายชาย เมื่อฮอร์โมนเพศชายยังพลุ่งพล่าน ก็จะยังมีความต้องการตลอด ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในเรื่องนี้ ในระหว่างที่ตั้งครรภ์คุณทั้งคู่ก็ต้องมีการปรับตัวและทำความเข้าใจกันและกันด้วยนะคะ
@ เพศสัมพันธ์ในระหว่างตั้งครรภ์สามารถมีได้หรือเปล่า ... คำตอบคือ "มีได้คะ ... แต่ไม่ทุกคน" เขียนแบบนี้คงจะเกิดคำถามเยอะแยะมากมายตามมาใช่มั๊ยคะ มาดูกัน
@ แล้วจะปลอดภัยหรือเปล่า ... จากข้อมูลที่มีในปัจจุบัน ไม่พบว่าก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด ยกเว้นบางภาวะที่ควรงดหรือหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างการตั้งครรภ์
... งั้นใครบ้างที่ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างตั้งครรภ์ ก็ได้แก่
- คนที่มีประวัติแท้งบ่อยๆ หลายๆ ครั้ง (recurrent abortion)
- คนที่มีเลือดออกในระหว่างการตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรก เช่น มีภาวะแท้งคุกคาม (Threatened abortion) ** อ่านเพิ่มเติมเรื่องการแท้งแบบต่างๆตามลิงค์นี้นะคะ http://www.facebook.com/photo.php?fbid=149683181877141&set=a.150076331837826.1073741856.138161163029343&type=3&theater
- คนที่มีภาวะรกเกาะต่ำ (Placenta previa) ** อ่านเรื่องรกเกาะต่ำได้ตามลิ้งค์นี้คะ http://www.facebook.com/photo.php?fbid=142856312559828&set=a.146343765544416.1073741846.138161163029343&type=3&theater
- คนที่ท่าของทารกผิดปกติในช่วงใกล้คลอด
- คนที่มีความเสี่ยงที่จะมีประวัติคลอดก่อนกำหนด เช่น เคยมีประวัติคลอดก่อนกำหนด หรือตั้งครรภ์ทารกมากกว่า 1 คน เป็นต้น
- คนที่มีภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการตั้งครรภ์ เช่น เป็นโรคหัวใจ หรือครรภ์เป็นพิษ
... อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าจะต้อง งดเพศสัมพันธ์ "ตลอด" การตั้งครรภ์นะคะ ขึ้นกับภาวะด้วย เช่นคนที่มีภาวะแท้งคุกคามในช่วงไตรมาสแรก อาจจะงดเพศสัมพันธ์ในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังจากที่ทีเลือดออก หลังจากนั้นถ้าการตั้งครรภ์สามารถดำเนินไปได้อย่างปกติ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ ถ้าคุณไม่ได้มีข้อห้ามอื่นๆ ด้วย
@ แล้วจะมีเพศสัมพันธ์ "ท่า" ไหน แบบไหนดี จึงจะไม่มีปัญหา ... จริงๆ ไม่ได้มีข้อจำกัดหรือท่าแนะนำชัดเจนนะคะ แต่ควรเป็นท่าที่คุณทั้งคู้รู้สึกสบาย และมีข้อควรจำ 4 ข้อ คือ
1. ห้าม/หลีกเลี่ยงการกดทับไปบนส่วนของมดลูก ... เพราะอาจจะกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวและเกิดการเจ็บครรภ์คลอดได้โดยเฉพาะช่วงหลังของการตั้งครรภ์
2. หลีกเลี่ยงการกระตุ้นเต้านม ... ** โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสหลังของการตั้งครรภ์ เพราะว่าการกระตุ้นที่เต้านม จะทำให้ต่อมใต้สมองส่วนหลังหลั่งฮอร์โมน Oxytocin เข้าสู่กระแสเลือด ไปกระตุ้นให้เกิดการหดตัวของมดลูกและเกิดการเจ็บครรภ์คลอดได้
3. รักษาความสะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอด โดยอาจจะเลือกใส่ถุงยางอนามัย หรือทำความสะอาดร่างกายก่อนทำกิจกรรม
4. หลีกเลี่ยงการสอดใส่เข้าไปลึกๆ (deep penetration)
สรุปว่า เพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ ... ถ้าไม่มีข้อห้าม ก็มีได้ แต่ต้องระวังด้วยนะคะ ^^
.......................................................................................................................................................
ตอนที่ 2 แนบชิดกันท่าไหนเวลาตั้งครรภ์ Sex Position in pregnancy โดยหมอเจม
ทุกคนสนใจบทความของคุณหมอเมษ์กันใช่มั้ยละครับ ^^ จริงๆเป็นเรื่องที่สำคัญเลยนะ เพราะระยะเวลาการตั้งครรภ์ก็ประมาณ9เดือน การรักษาความสัมพันธ์ของคุณพ่อคุณแม่ไม่ให้ห่างเหินกันเป็นสิ่งที่ต้องทำเลยล่ะ
ผมขอมาเสริมบทความต่อจากคุณหมอเมษ์สั้นๆครับว่าท่าที่เหมาะสมในการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างตั้งครรภ์ควรเป็นท่าไหน
จริงๆแล้วช่วงตั้งครรภ์ถือเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างสีสันใหม่ๆให้กับชีวิตคู่ด้วยนะครับ เพราะคุณพ่อคุณแม่อาจจะได้ทดลองสิ่งใหม่ๆท่าใหม่ๆนั่นเอง(ไม่ได้ทะลึ่งนะ^^)
จำไว้ว่าอย่าสอดใส่ลึกมาก(deep penetration) อย่าให้เกิดแรงกดทับลงบนมดลูก และเหล่านี้คือท่าที่แนะนำครับ
- ท่าแรก WOT (women on top) ครับ คือคุณแม่อยู่ด้านบน สามารถทั้งในกรณีที่คุณพ่อนอนหรือนั่งบนเก้าอี้นะครับ ข้อดีมากๆเลยคือคุณแม่จะสามารถควบคุมความลึกความแรงของการสอดใส่ได้ด้วยตัวเองทำให้ไม่รู้สึกไม่สบาย และไม่มีการกดทับมดลูกครับ
- ท่าที่2 side by side คือให้คุณแม่นอนตะแคงซ้าย คุณพ่อหันหน้าเข้าหาหลังคุณแม่และสอดใส่ ในท่านี้จะถูกบังคับให้ไม่สามารถสอดใส่ได้ลึกครับ
- ท่าที่3 pillow on the side คุณแม่นอนตะแคงซ้ายวางหมอนพยุงหลัง คุณพ่อหันหน้าเข้าหาคุณแม่ ในท่านี้จะไม่มีแรงกดลงมดลูกครับ
- ท่าที่4 lie on elbows and knees คุณแม่คุกเข่าวางน้ำหนักบนข้อศอกและเข่าสองข้าง คุณพ่อคุกเข่าอยู่ทางด้านหลังนะครับ
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนสามารถสร้างความสัมพันธ์ให้แนบชิดได้มากขึ้นระหว่างตั้งครรภ์นะครับ
.......................................................................................................................................................
ตอนที่ 3 หลังคลอดแล้วจะเริ่มมีเพศสัมพันธ์ได้เมื่อไหร่
#เวลาที่เหมาะสมคือเมื่อไหร่
ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์เชิงประจักษ์ที่จะบอกว่าเมื่อไหร่เป็นเวลาที่เหมาะสมในการที่จะมีเพศสัมพันธ์หลังคลอด ในหนังสือก็เขียนทำนองว่า เรื่องนี้ก็ต้องใช้ common sense หรือสามัญสำนึกเอาเองประมาณนั้นนะจ๊ะ ดังนั้นก็หมายถึงเมื่อไหร่ที่รู้สึกพร้อมหรือรู้สึกมีความต้องการ ก็สามารถมีได้
#ถ้ามีเพศสัมพันธ์ทันทีหลังจากกลับบ้านเลยได้ไหม (สามีอยากรู้)
การมีเพศสัมพันธ์เร็วเกินไป อาจจะทำให้เกิดปัญหารู้สึกไม่สุขสบายหรือเจ็บบริเวณฝีเย็บที่ยังไม่หายดี ประกอบกับผนังช่องคลอดในช่วงหลังคลอดใหม่ๆ จะยังบางและสร้างสารคัดหลั่งมาหล่อลื่นได้ไม่เต็มที่เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) ลดระดับหลังคลอดก็ช่วยกันส่งเสริมให้การมีเพศสัมพันธ์หลังคลอดที่เร็วเกินไปไม่น่าพิสมัยเท่าไรนัก ซึ่งระดับของเอสโตรเจนจะต่ำไปจนถึงช่วงเวลาที่เกิดการตกไข่ (ซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่) หลังจากนั้นแล้วปัญหาเรื่องเอสโตรเจนต่ำก็จะดีขึ้น ระหว่างนั้นถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ก็สามารถใช้เจลช่วยหล่อลื่นช่วยแก้ปัญหาไปพลางๆ ได้ค่ะ
#แล้วทำไมก่อนกลับบ้านหมอบอกให้งดเพศสัมพันธ์จนกว่าจะถึงวันนัดตรวจหลังคลอดล่ะ (สามีบ่น)
โดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำให้งดเพศสัมพันธ์ตั้งแต่หลังคลอดไปจนถึงวันนัดตรวจหลังคลอดซึ่งจะนัดที่ 4-6 สัปดาห์ เหตุผลก็เพื่อให้คุณแม่ปรับตัวกับบทบาทใหม่ที่จะต้องหลับตื่นไม่เป็นเวลา รอให้แผลหายดี และที่สำคัญที่สุด คุณแม่จะได้รับการตรวจหลังคลอดและให้คำแนะนำหรือเริ่มการคุมกำเนิดก่อนที่จะเริ่มมีเพศสัมพันธ์ เพื่อจะได้เว้นระยะการมีบุตรที่เหมาะสม เพราะการคุมกำเนิดบางอย่างสามารถเริ่มได้อย่างปลอดภัยตามคำแนะนำหลังจาก 4 สัปดาห์หลังคลอด จึงเป็นที่มาว่า ทำไมหมอจึงแนะนำให้ลดเพศสัมพันธ์ในระหว่างนั้น
นอกจากนี้คุณแม่ที่ให้นม แม้ว่าจะเชื่อว่าการให้นมบุตรจะยับยั้งการตกไข่ได้ แต่ว่าเราไม่ถือเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ เพราะผลไม่แน่นอนและจะเกิดการตกไข่วันไหนเราไม่มีทางรู้ได้ จำเป็นจะต้องมีการคุมวิธีอื่นที่มีประสิทธิกว่าร่วมด้วย ซึ่งจะคุมยังไงนั้น อ่านได้จากบทความเก่าของหมอบาสค่ะ https://www.facebook.com/Drnextdoor/photos/a.198677816977677.1073741942.138161163029343/195585403953585/ และสามารถอ่านบทความทั้งหมดเกี่ยวกับร่างกายคุณแม่หลังคลอดจากบทความตามนี้นะคะ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.198677816977677.1073741942.138161163029343&type=3
หวังว่าหลายๆ คนคงได้คำตอบกับคำถามที่สงสัยกันนะคะ
บทความจาก เพจใกล้มิตรชิดหมอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้