"ความกล้าหาญ ความเมตตา และความหวังของชนชั้นล่าง"
อ่านรีวิวเฉพาะหนังเรื่องนี้ ข้ามไปย่อหน้าที่ 5
หนึ่งในหนังที่ผมชอบดู มากเป็นที่สองรองจากหนังซูปเปอร์ฮีโร่คือหนังประเภท fantasy และ Chiclit ถ้าพูดถึงนิยายแฟนตาซีที่ใครๆ ก็ต้องรู้จักคงหนีไม่พ้นเรื่อง ซินเดอเรลล่า จริงๆ โครงเรื่องสไตล์ซินฯ - หญิงชาวบ้านกับหนุ่มผู้สูงศักดิ์ / เจ้าชาย - นี้มีอยู่ในหลายวัฒนธรรมมาก แต่ที่ดังที่สุดคือซินฯ ฉบับแปร์โรลต์ของนักเขียนชาวฝรั่งเศสที่ต่อมาถูกดิสนีย์ทำมาเป็นการ์ตูนและภาพยนต์ เอาจริงๆแล้วเรื่องซินฯ ถูกนำมาดัดแปลงเป็นละครเวที ภาพยนต์เกือบจะทุกหย่อมหญ้าของสื่อ เด็กๆ ก็เอาไปเล่นละครประจำโรงเรียนกันจนพรุนไปหมด เรียกได้ว่าในโลกนี้ใครๆ ก็ต้องรู้จักหล่ะ
ก็ไม่แปลกเพราะพล็อตและอืลิเมนท์ของเรื่องมันเป็นการส่งเสริมคุณค่าความดี ความเมตตาของคนที่ถูกปิดกั้น กดทับ หรือเป็นชนชั้นสองหรือสามในสังคม ซึ่งคุณค่าเหล่านี้ในที่สุดมันจะ pay off หรือจะทำให้ลืมตาอ้าปากขึ้นได้ไม่ช้าก็เร็ว ยิ่งคนที่ดูหรืออ่านเป็นคนที่สภาพชีวิตย่ำแย่เหลือทน พอมาดู หรืออ่านก็มีกำลังใจทำความดีต่อไป อย่าไปฮึดสู้บู้กับเจ้านายหรือหนีออกมาจากสถานการณ์นั้นๆเพราะทนไม่ได้ ทำแบบนั้นมันไม่งาม สู้ๆ ไปเดี๋ยวมันก็มีปาฏิหาริย์เอง ทนๆ หน่อย
ในซินฯ ฉบับล่าสุดที่ฉายอยู่ในโรง ก็เก็บเอาค่านิยมนี้อยู่ครบถ้วน แต่เน้นเป็นพิเศษเรื่องความกล้าหาญและความเมตตา อันที่จริงแล้วถ้าเอาคุณค่าสองระบบนี้มาเทียบกัน เหมือนมันไม่ไปในทางเดียวกันงัยไม่รู้ บางทีความกล้าหาญก็ทำให้ลดความเมตตาลงไปรึเปล่า อย่างไรก็ดีหนังก็ยังฉายภาพถึงการดิ้นรนในการอัปเกรดชีวิต (ตามเนื้อเรื่อง) โดยให้โอกาสประชาชนในการเข้างานเต้นรำเพื่อกลายเป็นชนชั้นสูง หรือ Elite ได้ แต่ตลกมากเพราะยังงัย ชนชั้นสูงก็ต้องการมัดอยู่กับชนชั้นสูงวันยังค่ำ (พระราชาบอกให้เจ้าชายแต่งกับคนที่มีสถานะคล้ายกัน) หรือภาพผู้หญิงซึ่งทำได้ทุกอย่างจริงๆ เพื่อจะได้อยู่กับเจ้าชาย (ต่อคิวยาวเป็นหางว่าวเพื่อให้เจอเจ้าชายสักครั้ง) คนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้แนวเฟมมินิสเพราะนางซินฯ สู้ด้วยตัวเอง กล้าหาญ เมตตาแต่ผมว่าไม่อ่ะ นางซินฯ ยังต้องพึ่งโชคชะตา ยังก้มหน้างกๆ ไม่มีปากมีเสียงแถมเจอเจ้าชายก็คุยทอดน่อง ขี่ม้าวนคุยกันจนม้าเวียนหัว แถมหนังยังทำให้ผู้หญิงทั้งเมืองโคตรอ่อนแอสุดๆ เฮโลกันไปต่อคิว กรี๊ดผู้ชาคนเดียว และสุดท้ายนางซินฯ ก็ยังพึ่งเจ้าชายอยู่ดี (ในการอัปเกรด) มันคงตลกมากถ้าแบบสุดท้ายเจ้าชายไปเจอและนางบอกว่า ฉันไม่แต่ง ฉันอยากเริศ ปรับปรุงบ้านทำฟาร์มธุรกิจต่อจากพ่อ แต่งตัวเก๋ๆและมีเพื่อนเป็นแม่ทูลหัว เหอะๆ
เอาเป็นว่านิยายเรื่องนี้ก็กล่อมเกลาให้ซึมซับคุณค่าที่แต่ละชนชั้นควรจะเป็น เจ้าชายก็คิดจะจัดงานก็จัดเลย อย่าว่างันงี้เลย ขนาดชนชั้นเดียวกันเอง พี่น้องกันเองยังตีกันเพื่อ social mobility เลยเหอะ จริงๆ การที่แม่ทูลหัวมาแปลงโฉมซินฯ โดยมีข้อแม้ว่าต้องเที่ยงคืน คือเป็นการให้โอกาสชนชั้นล่างซักครั้งในชีวิต เหมือนแบบถ้าคุณมีโอกาสได้กลายเป็นไฮโซครั้งหนึ่งในชีวิต คุณจะทำอย่างไร ดังนั้นซินฯ พอออกจากบ้านมีเฟอร์นเจอร์ครบ นางก็แรดได้เนียนดีแท้
สำหรับหนังเรื่องนี้
- พี่น้องสองคนลูกแม่เลี้ยง เสียงเพราะประมาณไจโกะ ไม่สิ น่าจะแย่กว่า
- ทุกอย่างที่ถูกเสกคืนสภาพหมด ยกเว้นรองเท้า อาจเป็นเพราะรองเท้าแก้วเสกใหม่เลยไม่คืนสภาพ
- ซินฯ เจอเจ้าชายครั้งเดียวแต่ติดใจมากจนพยายามอยากไปเจออีก เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา (แต่เอาจิงนางก็รักษาสิทธินะเพราะเจ้าชายเค้าเชิญ ญ โสดทุกคน เหมือนทีสิทธิเลือกตั้งก็ต้องไปกาป่ะ)
- ผู้หญิงที่มางานเยอะมาก เจ้าชายถ้าจะสัมภาษณ์จริงๆ คงหลายเดือน
- เสียงหัวเราะแม่เลี้ยงเด็ดมาก ทั้งเย้ยหยั้น ทั้งดูถูก ทั้งสมน้ำหน้า เลวดีแท้
- ยอมรับว่ากราฟฟิกดีมากสุดๆ ตอนนางซินฯ ได้ชุดใหม่ นางหมุนๆๆ เหมือนตอนเซเลอร์มูนแปลงร่าง เจ๋งตรงที่มีผีเสื้อมาเกาะที่ชุดตอนแปลงร่างเส็ด
- รองเท้าแก้วคือดี ถ้าเป็นผู้หญิงคนกรี๊ดอยากได้แน่ๆ
- รู้สึกว่านางซินฯ อยู่ในบ้านกับนอกบ้านคนละคาแรคเตอร์มาก อยู่บ้านนางคุยกะหนู นก อยู่ข้างนอกเจอหนุ่มแม่มแบบ หูตาไปละ
- เฉยๆ กะพระเอกห่วยๆ งัยไม่รู้
- ฉากที่ซินฯ เข้ามาในปราสาทและรี่เข้ามาเต้นกับเจ้าชาย แบบไม่แคร์ใครนี่คือ....
- ปกติหนังดิสนีย์จะมีสัตว์พูดได้แนวกวนตีนหนึ่งตัว แต่อันนี้ไม่มีแฮะ
- ชวารอฟสกี เป็นพาร์ทเนอร์ดิสนีย์ดังนั้น ชุดแต่งงาน ฉากเต้นรำจึงวอปแวปไปด้วยคริสตัลมากถึง 7 ล้านเม็ด #รองเท้าแก้วก็เช่นกัน
สรุปคือ นางซินฯ อินโนเซ็นส์ยึดมั่นความกล้าหาญเมตตา แต่เห็นเงียบๆ พอมีโอกาสนางจัดหนักเลยทีเดียว
8/10
[CR] [เม๊าหนัง] [สปอยล์] Cinderella
อ่านรีวิวเฉพาะหนังเรื่องนี้ ข้ามไปย่อหน้าที่ 5
หนึ่งในหนังที่ผมชอบดู มากเป็นที่สองรองจากหนังซูปเปอร์ฮีโร่คือหนังประเภท fantasy และ Chiclit ถ้าพูดถึงนิยายแฟนตาซีที่ใครๆ ก็ต้องรู้จักคงหนีไม่พ้นเรื่อง ซินเดอเรลล่า จริงๆ โครงเรื่องสไตล์ซินฯ - หญิงชาวบ้านกับหนุ่มผู้สูงศักดิ์ / เจ้าชาย - นี้มีอยู่ในหลายวัฒนธรรมมาก แต่ที่ดังที่สุดคือซินฯ ฉบับแปร์โรลต์ของนักเขียนชาวฝรั่งเศสที่ต่อมาถูกดิสนีย์ทำมาเป็นการ์ตูนและภาพยนต์ เอาจริงๆแล้วเรื่องซินฯ ถูกนำมาดัดแปลงเป็นละครเวที ภาพยนต์เกือบจะทุกหย่อมหญ้าของสื่อ เด็กๆ ก็เอาไปเล่นละครประจำโรงเรียนกันจนพรุนไปหมด เรียกได้ว่าในโลกนี้ใครๆ ก็ต้องรู้จักหล่ะ
ก็ไม่แปลกเพราะพล็อตและอืลิเมนท์ของเรื่องมันเป็นการส่งเสริมคุณค่าความดี ความเมตตาของคนที่ถูกปิดกั้น กดทับ หรือเป็นชนชั้นสองหรือสามในสังคม ซึ่งคุณค่าเหล่านี้ในที่สุดมันจะ pay off หรือจะทำให้ลืมตาอ้าปากขึ้นได้ไม่ช้าก็เร็ว ยิ่งคนที่ดูหรืออ่านเป็นคนที่สภาพชีวิตย่ำแย่เหลือทน พอมาดู หรืออ่านก็มีกำลังใจทำความดีต่อไป อย่าไปฮึดสู้บู้กับเจ้านายหรือหนีออกมาจากสถานการณ์นั้นๆเพราะทนไม่ได้ ทำแบบนั้นมันไม่งาม สู้ๆ ไปเดี๋ยวมันก็มีปาฏิหาริย์เอง ทนๆ หน่อย
ในซินฯ ฉบับล่าสุดที่ฉายอยู่ในโรง ก็เก็บเอาค่านิยมนี้อยู่ครบถ้วน แต่เน้นเป็นพิเศษเรื่องความกล้าหาญและความเมตตา อันที่จริงแล้วถ้าเอาคุณค่าสองระบบนี้มาเทียบกัน เหมือนมันไม่ไปในทางเดียวกันงัยไม่รู้ บางทีความกล้าหาญก็ทำให้ลดความเมตตาลงไปรึเปล่า อย่างไรก็ดีหนังก็ยังฉายภาพถึงการดิ้นรนในการอัปเกรดชีวิต (ตามเนื้อเรื่อง) โดยให้โอกาสประชาชนในการเข้างานเต้นรำเพื่อกลายเป็นชนชั้นสูง หรือ Elite ได้ แต่ตลกมากเพราะยังงัย ชนชั้นสูงก็ต้องการมัดอยู่กับชนชั้นสูงวันยังค่ำ (พระราชาบอกให้เจ้าชายแต่งกับคนที่มีสถานะคล้ายกัน) หรือภาพผู้หญิงซึ่งทำได้ทุกอย่างจริงๆ เพื่อจะได้อยู่กับเจ้าชาย (ต่อคิวยาวเป็นหางว่าวเพื่อให้เจอเจ้าชายสักครั้ง) คนอาจจะคิดว่าเรื่องนี้แนวเฟมมินิสเพราะนางซินฯ สู้ด้วยตัวเอง กล้าหาญ เมตตาแต่ผมว่าไม่อ่ะ นางซินฯ ยังต้องพึ่งโชคชะตา ยังก้มหน้างกๆ ไม่มีปากมีเสียงแถมเจอเจ้าชายก็คุยทอดน่อง ขี่ม้าวนคุยกันจนม้าเวียนหัว แถมหนังยังทำให้ผู้หญิงทั้งเมืองโคตรอ่อนแอสุดๆ เฮโลกันไปต่อคิว กรี๊ดผู้ชาคนเดียว และสุดท้ายนางซินฯ ก็ยังพึ่งเจ้าชายอยู่ดี (ในการอัปเกรด) มันคงตลกมากถ้าแบบสุดท้ายเจ้าชายไปเจอและนางบอกว่า ฉันไม่แต่ง ฉันอยากเริศ ปรับปรุงบ้านทำฟาร์มธุรกิจต่อจากพ่อ แต่งตัวเก๋ๆและมีเพื่อนเป็นแม่ทูลหัว เหอะๆ
เอาเป็นว่านิยายเรื่องนี้ก็กล่อมเกลาให้ซึมซับคุณค่าที่แต่ละชนชั้นควรจะเป็น เจ้าชายก็คิดจะจัดงานก็จัดเลย อย่าว่างันงี้เลย ขนาดชนชั้นเดียวกันเอง พี่น้องกันเองยังตีกันเพื่อ social mobility เลยเหอะ จริงๆ การที่แม่ทูลหัวมาแปลงโฉมซินฯ โดยมีข้อแม้ว่าต้องเที่ยงคืน คือเป็นการให้โอกาสชนชั้นล่างซักครั้งในชีวิต เหมือนแบบถ้าคุณมีโอกาสได้กลายเป็นไฮโซครั้งหนึ่งในชีวิต คุณจะทำอย่างไร ดังนั้นซินฯ พอออกจากบ้านมีเฟอร์นเจอร์ครบ นางก็แรดได้เนียนดีแท้
สำหรับหนังเรื่องนี้
- พี่น้องสองคนลูกแม่เลี้ยง เสียงเพราะประมาณไจโกะ ไม่สิ น่าจะแย่กว่า
- ทุกอย่างที่ถูกเสกคืนสภาพหมด ยกเว้นรองเท้า อาจเป็นเพราะรองเท้าแก้วเสกใหม่เลยไม่คืนสภาพ
- ซินฯ เจอเจ้าชายครั้งเดียวแต่ติดใจมากจนพยายามอยากไปเจออีก เรียกได้ว่าไม่ธรรมดา (แต่เอาจิงนางก็รักษาสิทธินะเพราะเจ้าชายเค้าเชิญ ญ โสดทุกคน เหมือนทีสิทธิเลือกตั้งก็ต้องไปกาป่ะ)
- ผู้หญิงที่มางานเยอะมาก เจ้าชายถ้าจะสัมภาษณ์จริงๆ คงหลายเดือน
- เสียงหัวเราะแม่เลี้ยงเด็ดมาก ทั้งเย้ยหยั้น ทั้งดูถูก ทั้งสมน้ำหน้า เลวดีแท้
- ยอมรับว่ากราฟฟิกดีมากสุดๆ ตอนนางซินฯ ได้ชุดใหม่ นางหมุนๆๆ เหมือนตอนเซเลอร์มูนแปลงร่าง เจ๋งตรงที่มีผีเสื้อมาเกาะที่ชุดตอนแปลงร่างเส็ด
- รองเท้าแก้วคือดี ถ้าเป็นผู้หญิงคนกรี๊ดอยากได้แน่ๆ
- รู้สึกว่านางซินฯ อยู่ในบ้านกับนอกบ้านคนละคาแรคเตอร์มาก อยู่บ้านนางคุยกะหนู นก อยู่ข้างนอกเจอหนุ่มแม่มแบบ หูตาไปละ
- เฉยๆ กะพระเอกห่วยๆ งัยไม่รู้
- ฉากที่ซินฯ เข้ามาในปราสาทและรี่เข้ามาเต้นกับเจ้าชาย แบบไม่แคร์ใครนี่คือ....
- ปกติหนังดิสนีย์จะมีสัตว์พูดได้แนวกวนตีนหนึ่งตัว แต่อันนี้ไม่มีแฮะ
- ชวารอฟสกี เป็นพาร์ทเนอร์ดิสนีย์ดังนั้น ชุดแต่งงาน ฉากเต้นรำจึงวอปแวปไปด้วยคริสตัลมากถึง 7 ล้านเม็ด #รองเท้าแก้วก็เช่นกัน
สรุปคือ นางซินฯ อินโนเซ็นส์ยึดมั่นความกล้าหาญเมตตา แต่เห็นเงียบๆ พอมีโอกาสนางจัดหนักเลยทีเดียว
8/10