Hokuriku Shinkansen (北陸新幹線) เป็นทางรถไฟสายใหม่จากโตเกียว (Tokyo)ไปคะนะซะวะ(Kanazawa) เริ่มเปิดบริการ 14 มีนาคม 2015 โดยทางญี่ปุ่นคาดว่าจะทำให้เพชรเม็ดงามอย่างคะนะซะวะที่ซ่อนตัวมาอย่างยาวนานเป็นที่รู้จักมากขึ้น
จากเดิมถ้าจะไปคะนะซะวะวิธีที่เร็วที่สุดคือนั่ง Tokaido Shinkansen ไปลงเกียวโต แล้วต่อขบวนรถด่วนต่างๆไปคะนะซะวะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมง แต่ถ้าเดินทางด้วย Hokuriku Shinkansen จะใช้เวลาประมาณแค่ 2ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
Hokuriku Shinkansen จริงๆแล้วเป็นส่วนต่อขยายจาก Nagano Shinkansen โดนมีสถานีถัดจาก Nagono 7 สถานีต่อไปนี้
Iiyama : JoetsuMyoko: Itoigawa: Kurobe Unazukionsen: Toyama: Shin-Takaoka: Kanazawa
ขบวนรถ
มาดูขบวนรถกันบ้าง ขบวนรถที่ใช้คือ W7 Series ที่พัฒนาต่อจาก E7 ทำความเร็วได้สูงสุด 260 กม./ชั่วโมง
ตัวรถด้านนอกใช้สี 3 สีคือ น้ำเงินแทนสีท้องฟ้า ขาวงาช้างให้ความรู้สึกสงบและหรูหราในแบบญี่ปุ่น ทองแดง แทนสีของภาชนะทองแดงญี่ปุ่น
ชั้นโดยสาร
Hokuriku Shinkansen ต่อพ่วงทั้งหมด 12 คันรถ เป็นรถ Ordinary 10 คัน Green และ Gran อย่างละคัน
GranClass
มีแค่ 16 ที่นั่งในหนึ่งขบวนเท่านั้น ที่นั่งค่อนข้างเป็นส่วนตัว สามารถปรับเอนได้มากพร้อมส่วนรองรับขา เบาะเป็นหนังแท้ ที่เก็บของเหนือศีรษะมีที่ปิดเหมือนเครื่องบิน
Green Car
มีปลั๊กจ่ายไฟทุกที่นั่ง
ตัวล็อคแก้วน้ำ
ไฟอ่านหนังสือ
OrdinaryClass
มีปลั๊กไฟให้กับทุกที่นั่ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของชินคันเซนที่มีปลั๊กไฟให้กับชั้น Ordinary Car ทุกที่นั่ง
Universal Design
ส่วนของห้องน้ำออกแบบเพื่อคนปกติ/พิการ/ทุพพลภาพ/มีเด็กเล็กไปด้วยมีในรถคันที่ 7 และ 11
ส่วนห้องน้ำธรรมดามีในรถคันที่ 1,3, 5
ห้องแต่งหน้าสำหรับคุณผู้หญิง
อักษรเบรลล์บอกเลขที่นั่งสำหรับผู้พิการทางสายตา
ระบบรักษาความปลอดภัย
กล้อง CCTV ในทุกคันรถ ซึ่งมีทั้งในตู้โดยสาร, ทางเดิน, ส่วนเชื่อมต่อระหว่างตู้โดยสาร
ปุ่มกดสำหรับเหตฉุกเฉิน มีในทุกตู้โดยสาร ห้องน้ำและ ห้องเอนกประสงค์
ประเภทของขบวนรถ
Kagayaki เป็นขบวนที่เร็วที่สุดจากระหว่าง Tokyo กับ Kanazawa ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 32 นาที
สถานีที่จอด Tokyo-Ueno-Omiya-Nagano-Toyama-Kanazawa
*หลังเดือนมิถุนายนนี้จะเริ่มมีรถจอด Shin Takaoka
ความถี่ในการเดินรถ ทั้งขาไปและกลับอย่างละ 10 ขบวนต่อวัน
มีชั้นโดยสารทุกคลาส
Hakutaka แบ่งเป็น 2 แบบ
แบบแรกวิ่งระหว่าง Tokyo กับ Kanazawa
สถานีที่จอดทุกขบวน Tokyo, Ueno, Omiya, Nagano, JoetsuMyoko, Itoigawa,
Kurobe-Unazukionsen, Toyama, Shin-Takaoka, Kanazawa
สถานีที่เหลือนั้นแล้วแต่ขบวน บางขบวนจอด บางขบวนไม่จอด
ความถี่ในการเดินรถ ทั้งขาไปและกลับอย่างละ 14 ขบวนต่อวัน
แบบที่สองวิ่งระหว่าง Nagano กับ Kanazawa จอดทุกสถานี
ความถี่ในการเดินรถ ทั้งขาไปและกลับอย่างละ 1 ขบวนต่อวัน
มีชั้นโดยสารทุกคลาส
Tsurugi วิ่งระหว่าง Kanazawa และ Toyama โดยไม่จอด Shin Takaoka
ความถี่ในการเดินรถ ทั้งขาไปและกลับอย่างละ 18 ขบวนต่อวัน
มีชั้นโดยสารเฉพาะ Green และ Ordinary
โลโก้
เป็นการใช้เลข 7 จากรถซีรีส์ W7 มาดัดแปลงให้ลักษณะเป็นลูกศร โดยสื่อว่า พุ่งไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่สดใส
**ข้อมูลและภาพทั้งหมดจากเว็บไซท์ JR West
Hokuriku Shinkansen เปิดให้บริการแล้วครับ
Hokuriku Shinkansen (北陸新幹線) เป็นทางรถไฟสายใหม่จากโตเกียว (Tokyo)ไปคะนะซะวะ(Kanazawa) เริ่มเปิดบริการ 14 มีนาคม 2015 โดยทางญี่ปุ่นคาดว่าจะทำให้เพชรเม็ดงามอย่างคะนะซะวะที่ซ่อนตัวมาอย่างยาวนานเป็นที่รู้จักมากขึ้น
จากเดิมถ้าจะไปคะนะซะวะวิธีที่เร็วที่สุดคือนั่ง Tokaido Shinkansen ไปลงเกียวโต แล้วต่อขบวนรถด่วนต่างๆไปคะนะซะวะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมง แต่ถ้าเดินทางด้วย Hokuriku Shinkansen จะใช้เวลาประมาณแค่ 2ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น
Hokuriku Shinkansen จริงๆแล้วเป็นส่วนต่อขยายจาก Nagano Shinkansen โดนมีสถานีถัดจาก Nagono 7 สถานีต่อไปนี้
Iiyama : JoetsuMyoko: Itoigawa: Kurobe Unazukionsen: Toyama: Shin-Takaoka: Kanazawa
ขบวนรถ
มาดูขบวนรถกันบ้าง ขบวนรถที่ใช้คือ W7 Series ที่พัฒนาต่อจาก E7 ทำความเร็วได้สูงสุด 260 กม./ชั่วโมง
ตัวรถด้านนอกใช้สี 3 สีคือ น้ำเงินแทนสีท้องฟ้า ขาวงาช้างให้ความรู้สึกสงบและหรูหราในแบบญี่ปุ่น ทองแดง แทนสีของภาชนะทองแดงญี่ปุ่น
ชั้นโดยสาร
Hokuriku Shinkansen ต่อพ่วงทั้งหมด 12 คันรถ เป็นรถ Ordinary 10 คัน Green และ Gran อย่างละคัน
GranClass
มีแค่ 16 ที่นั่งในหนึ่งขบวนเท่านั้น ที่นั่งค่อนข้างเป็นส่วนตัว สามารถปรับเอนได้มากพร้อมส่วนรองรับขา เบาะเป็นหนังแท้ ที่เก็บของเหนือศีรษะมีที่ปิดเหมือนเครื่องบิน
Green Car
มีปลั๊กจ่ายไฟทุกที่นั่ง
ตัวล็อคแก้วน้ำ
ไฟอ่านหนังสือ
OrdinaryClass
มีปลั๊กไฟให้กับทุกที่นั่ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของชินคันเซนที่มีปลั๊กไฟให้กับชั้น Ordinary Car ทุกที่นั่ง
Universal Design
ส่วนของห้องน้ำออกแบบเพื่อคนปกติ/พิการ/ทุพพลภาพ/มีเด็กเล็กไปด้วยมีในรถคันที่ 7 และ 11
ส่วนห้องน้ำธรรมดามีในรถคันที่ 1,3, 5
ห้องแต่งหน้าสำหรับคุณผู้หญิง
อักษรเบรลล์บอกเลขที่นั่งสำหรับผู้พิการทางสายตา
ระบบรักษาความปลอดภัย
กล้อง CCTV ในทุกคันรถ ซึ่งมีทั้งในตู้โดยสาร, ทางเดิน, ส่วนเชื่อมต่อระหว่างตู้โดยสาร
ปุ่มกดสำหรับเหตฉุกเฉิน มีในทุกตู้โดยสาร ห้องน้ำและ ห้องเอนกประสงค์
ประเภทของขบวนรถ
Kagayaki เป็นขบวนที่เร็วที่สุดจากระหว่าง Tokyo กับ Kanazawa ใช้เวลา 2 ชั่วโมง 32 นาที
สถานีที่จอด Tokyo-Ueno-Omiya-Nagano-Toyama-Kanazawa
*หลังเดือนมิถุนายนนี้จะเริ่มมีรถจอด Shin Takaoka
ความถี่ในการเดินรถ ทั้งขาไปและกลับอย่างละ 10 ขบวนต่อวัน
มีชั้นโดยสารทุกคลาส
Hakutaka แบ่งเป็น 2 แบบ
แบบแรกวิ่งระหว่าง Tokyo กับ Kanazawa
สถานีที่จอดทุกขบวน Tokyo, Ueno, Omiya, Nagano, JoetsuMyoko, Itoigawa,
Kurobe-Unazukionsen, Toyama, Shin-Takaoka, Kanazawa
สถานีที่เหลือนั้นแล้วแต่ขบวน บางขบวนจอด บางขบวนไม่จอด
ความถี่ในการเดินรถ ทั้งขาไปและกลับอย่างละ 14 ขบวนต่อวัน
แบบที่สองวิ่งระหว่าง Nagano กับ Kanazawa จอดทุกสถานี
ความถี่ในการเดินรถ ทั้งขาไปและกลับอย่างละ 1 ขบวนต่อวัน
มีชั้นโดยสารทุกคลาส
Tsurugi วิ่งระหว่าง Kanazawa และ Toyama โดยไม่จอด Shin Takaoka
ความถี่ในการเดินรถ ทั้งขาไปและกลับอย่างละ 18 ขบวนต่อวัน
มีชั้นโดยสารเฉพาะ Green และ Ordinary
โลโก้
เป็นการใช้เลข 7 จากรถซีรีส์ W7 มาดัดแปลงให้ลักษณะเป็นลูกศร โดยสื่อว่า พุ่งไปข้างหน้าเพื่ออนาคตที่สดใส
**ข้อมูลและภาพทั้งหมดจากเว็บไซท์ JR West