ในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เชื่อว่าคงมีประชาชนจำนวนมากที่ติดค้างชำระเงินกับธนาคารต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนชำระในเรื่องหนึ่งเรื่องใด  ผมก็เป็นหนึ่งในคนส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำและติดค้างชำระเงินค่างวดรถกับธนาคารธนชาติ  ซึ่งก็อย่างที่รู้ๆ ว่าเมื่อค้างชำระ 2 งวดก็จะมีการทวงถามและถ้าครบ 3 งวด ก็จะถูกยึดรถ  ผมค้างค่างวดรถที่จะต้องจ่ายให้ธนาคารธนาชาติมาแล้ว 2 งวดและกำลังจะเข้างวดที่ 3 ซึ่งก็พยายามเตรียมตัวเตรียมใจว่าจะต้องถูกยึดรถถ้าไม่สามารถหาเงินมาชำระได้ตามการทวงถามที่มีตลอดมาซึ่งจะว่าไปแล้วค่างวดรถที่ผมค้างไว้ก็เหลืออยู่ไม่มากแล้วแค่ประมาณ 27,000 บาทเท่านั้นเอง แต่รวมค่าติดตาม, ค่าดอกเบี้ย, ค่าเอกสาร.. บลาๆๆๆ  กลับกลายเป็นถึง 45,000 บาท  โหดสุด.... แต่แล้ววันหนึ่งเหตุการณ์สำคัญก็เกิดขึ้น

มีเจ้าหน้าที่ธนาคารธนชาติคนหนึ่งโทรฯ มาติดตามทวงถามค่าผ่อนชำระเช่นเคย  แต่ครั้งนี้มาแปลกคนที่ติดต่อมาชื่อ ตระกูล ทรงสิน บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ติดตามทวงหนี้และจะปิดบัญชีที่ค้างชำระให้โดยจะยกเว้นค่าปรับ ค่าต่อสัญญา ค่าเอกสารและอื่นๆ ให้โดยขอให้ชำระเพียงแค่เงินต้นคือ 12,719 บาทเท่านั้นก็จะสามารถปิดบัญชีได้และรอรับเล่มเท่านั้นอีกทั้งยังให้เบอร์โทรฯ ติดต่อกลับด้วย   ผมจึงติดต่อกลับไปยังธนาคารธนชาติโดยโทรฯ เข้าไปที่ Call Center เมื่อโทรฯ ไป Call Center ก็โอนเข้าไปยังฝ่ายติดตามหนี้สินของธนาคาร ซึ่งฝ่ายติดตามหนี้สินก็แจ้งมาคุณตระกูล เป็น Outsource ของธนาคารเพื่อติดตามหนี้สิน  โดยได้พูดคุยกับคุณ รสา ซึ่งเป็นลูกน้องของคุณตระกูล  อีกที  แต่ทำงานอยู่ฝ่ายเดียวกัน  ในที่สุดหลังจากพูดคุยย้ำอยู่หลายครั้ง (ใช้เวลา 2-3 วันเพื่อตรวจสอบ)  ทางคุณตระกูล และคุณรสา  ก็ยืนยันว่าฝ่ายติดตามหนี้สินสามารถยกเว้นค่าปรับ  ค่าต่อสัญญา และอื่นๆ ได้  โดยขอให้ชำระแค่เงินต้นเท่านั้นก็จะรอรับเล่มได้เลย  ซึ่งผมก็คิดว่าเป็นเงื่อนไขที่น่าสนใจและรับได้  เพราะติดต่อผ่านทางธนาคารและเบอร์บัญชีที่จะโอนไปก็เป็นเบอร์ของธนาคารธนชาติเอง  แต่เป็นของฝ่ายติดตามหนี้สิน

ในที่สุดผมก็โอนเงินไปให้ตามจำนวนที่คุณตระกูล แจ้งมาคือ 12,719 บาท  โดยหวังว่าจะปิดบัญชีตามที่เขาบอกมา  แต่ทว่าเมื่อโอนเงินไปแล้วจะถามเรื่องการโอนเล่มกลับโทรฯ ติดต่อเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวไม่ได้ และเมื่อสอบถามไปยังฝ่ายบัญชีจริงๆ ทางธนาคารกลับบอกว่ามีเงินโอนเข้ามาแต่ไม่ได้ปิดบัญชี เป็นเพียงแค่ชำระบางส่วนเท่านั้น  จึงเล่าเรื่องที่คุณตระกูลซึ่งเป็นตัวเจ้าหน้าที่ฝ่ายติดตามหนี้สินของธนาคารธนชาติให้ฟัง  เจ้าหน้าที่บัญชีบอกว่าบัญชีที่โอนไปเป็นบัญชีของฝ่ายติดตามหนี้สินของธนาคาร ซึ่งเมื่อโอนไปแล้วฝ่ายติดตามหนี้สินจะสามารถหักเงินค่าดำเนินการไว้ได้เลยตามจำนวนที่เป็นค่าจ้างของธนาคารจากนั้นก็จะโอนส่วนที่เหลือเข้ามา  ซึ่งมีลูกค้าของธนชาติหลายคนโดนกรณีเช่นนี้มาหลายรายแล้ว ผมจึงส่งหลักฐานการคุยกันกับคุณตระกูล  คุณรสา ที่เป็นการคุยกันทางไลน์ และคลิปเสียงบางส่วนไปให้เจ้าหน้าที่ธนาชาติทางเมล  ทางธนชาติก็ตอบกลับมาว่าจะดำเนินการให้  แต่ทุกอย่างก็เงียบไป

และผมก็ติดตามโดยโทรฯ ไปยังเบอร์ต่างๆ ที่ได้คุยกับคุณตระกูล และเจ้าหน้าที่ของธนชาติได้ให้ไว้  จนในที่สุดก็ได้รู้ว่า คุณตระกูล  กับคุณ รสา เป็นเจ้าหน้าที่ outsource ฝ่ายติดตามหนี้สินของธนชาติโดยใช้ชื่อบริษัทว่า  ธารสายน้ำ  โดยมีคุณ ยศวี  เป็นเจ้าของ และเมื่อติดต่อกับคุณตระกูลได้อีกครั้งก็ถามถึงเรื่องเงินที่โอนไป และการโอนเล่ม  คราวนี้คุณตระกูลกับบอกว่า  “คงต้องรอไปก่อน...และถ้าไม่ใช้วิธีนี้ก็คงจะไม่ได้เงินค่างวดที่โอนมา”  เงินโอนไปแล้วก็ไม่สามารถปิดบัญชีได้  แถมยังถูกหลอกอีกต่างหาก.. เจ็บไม๊ล่ะ  ซึ่งที่จริงแล้วผมก็ไม่เคยคิดจะไม่ชำระค่างวดรถก็ชำระมาจนจะหมดอยู่แล้ว  เหลืออีกแค่ไม่กี่หมื่น  แต่มันก็เกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจจริงๆ  จึงต้องติดค้าง  แต่พอมาโดนเจ้าหน้าที่ธนาคารทำอย่างนี้มันเจ็บมาก

ซึ่งการกระทำของเจ้าหน้าที่ฝ่ายติดตามหนี้สินของธนชาตินี้ถือได้ว่าเป็นการหลอกลวง ต้มตุ๋น  และกระทำให้เกิดความเข้าใจผิด  ตาม  พรบ. ทวงหนี้ ฉบับใหม่ที่ประกาศ ณ วันที่ 3 มีนาคม 2558 ในข้อที่ 4 ที่บัญญัติว่า   4.ห้ามมิให้ผู้ติดตามหนี้กระทำการในลักษณะที่เป็นเท็จ หรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด ในการติดตามทวงหนี้ เช่น ทำให้เข้าใจว่าเป็นการกระทำของศาล เจ้าพนักงานบังคับคดี รัฐ หน่วยงานของรัฐ ทนายความ หรือสำนักงานกฎหมาย ทำให้เชื่อว่าหากไม่ชำระหนี้จะถูกดำเนินคดี ถูกยึดหรืออายัดทรัพย์หรือเงินเดือน ข่มขู่ว่าจะดำเนินการใด ทั้งที่ไม่มีอำนาจจะกระทำได้ตามกฎหมาย.... อย่างชัดเจน...  

ผมก็ไม่รู้จะทำไงต่อไปกับกรณีนี้  จึงเขียนเป็นกระทู้มาไว้เพื่อเป็นข้อเตือนใจทุกๆ ท่าน  และขอคำแนะนำสำหรับท่านที่พอจะรู้หรือมีช่องทางแนะนำด้วยนะครับ..

ปูนนก