หลายครั้งที่เราดูข่าวหัวขโมยหรือแก๊งต้มตุ๋นแล้วอดคิดไม่ได้ว่าในโลกนี้มีคนที่ทำอาชีพแบบนี้จริงๆเหรอ มันมีศาสตร์ที่ฝึกสอนกันได้ไหม มีครูฝึกหรือเปล่า คงไม่ถึงขั้นมีโรงเรียนมั้ง บางคนรํ่ารวยได้ดิบได้ดีกับอาชีพนี้ ขณะที่ส่วนใหญ่ไปจบที่คุกที่ตาราง ฮอลลีวู้ดเคยทำหนังเกี่ยวกับแก๊งค์ต้มตุ๋นมากมาย แต่โดยมากจะแฝงแง่มุมขบขันมากกว่าที่จะจริงจังกับอาชีพนี้ และ Focus คือหนังเรื่องล่าสุดซึ่งวิพากย์อาชีพนี้ได้สนุกทีเดียว
Focus กำกับและเขียนบทโดย เกลนน์ ฟิคาร์รา กับ จอห์น เรควา แต่ที่น่าสนใจคือคู่นักแสดงนำ การกลับมาของ วิล สมิธ ที่ต้องเข้าคู่กับ มาร์ก็อต ร็อบบี้ นักแสดงสาวสวยที่กำลังมาแรงที่สุดคนหนึ่งในวงการฮอลลีวู้ดหลังจากที่เธอได้รับบทเด่นครั้งแรกในหนัง The Wolf of Wall Street ซึ่งถือว่าแจ้งเกิดได้พอสมควร
ตัวหนังเล่าถึงความสัมพันธ์ของ นิคกี้ หนุ่มจอมเจ้าเลห์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการต้มตุ๋น กับ เจส หัวขโมยสาวมือใหม่สุดเซ็กซี่ เขาเป็นครูสอนเทคนิคต่างๆมากมายให้เธอ ความใกล้ชิดทำให้เขาและเธอเริ่มหวั่นไหว แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ทันตกลงปลงใจกัน นิคกี้ ก็หนีหายออกไปจากชีวิตของ เจส กระทั่ง3ปีต่อมา นิคกี้ ได้พบกับ เจส อีกครั้งที่อาร์เจนติน่า นิคกี้ กำลังทำงานสำคัญร่วมกับเจ้าของทีมรถแข่งรถหนุ่ม ซึ่ง เจส ดันเป็นแฟนกับเขาอยู่ แผนที่ นิคกี้ วางไว้จึงไม่ราบรื่น นิคกี้ พยายามขอโทษและขอคืนดีกับ เจส แต่เธอก็ไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆ เธอไม่ไว้ใจเขาเพราะกลัวถูกหลอก เช่นเดียวกับที่เขาก็ไม่ไว้ใจเธอเหมือนกัน
บทหนังแม้จะดูหลวมๆไปบ้างแต่ก็มีลูกเล่นต่างๆที่น่าสนใจ พาคนดูให้เพลิดเพลินไปกับขบวนการหัวขโมยและแก๊งต้มตุ๋นตัวฉกาจ ดูแล้วนึกถึงหนังตระกูล Ocean's Eleven ผสมกับ Now You See Me เพียงแต่ Focus ด้อยกว่าเรื่อง เทคนิคมือไว อุปกรณ์ลํ้าๆ ทริคเจ๋งๆ โดยเน้นไปทางความสามารถในการใช้จิตวิทยากับความโลภและความหลงของคนมากกว่า ซึ่งมีความสดใหม่พอดู อีกอย่างคือการเน้นเรื่องความสัมพันธ์แบบรักๆไคร่ๆของตัวละครนำ ผู้กำกับพยายามจะให้ออกมาโรแมนติก แต่ก็มีความอีโรติกเจือปนอยู่มาก
ฉากไฮไลต์อยู่ที่การเดิมพันในสนามอเมริกันฟุตบอล ต้องบอกว่าต้มคนดูซะสุกเลยทีเดียว จุดเด่นอีกอย่างคือตัวหนังตั้งใจมาหลอกเราจึงคาดเดาเนื้อเรื่องไม่ได้ พอเฉลยแล้วนึกย้อนกลับไปเราถึงจะร้องอ๋อยาวๆ กระนั้น หนังก็มีฉากที่ไม่สมจริงหลายฉากทั้ง การล้วงกระเป๋ารัวๆแบบสะดวกง่ายดายเกินไป ความอู้ฟู่หรูหราเกินงามของแก๊งต้มตุ๋น พื้นหลังของตัวละครก็มีข้อมูลน้อยไปหน่อย และพาร์ดดราม่าก็ยังทำได้ไม่ถึง
มาร์ก็อต ร็อบบี้ นักแสดงสาวผมบลอนด์พิมพ์นิยมแจ้งเกิดได้เต็มตัวในบท เจส สเน่ห์ ความเซ็กซี่ ความแพรวพราว ของเธอสะกดใจหนุ่มๆได้อยู่หมัด ถึงเธอจะดูไม่น่าเชื่อว่าเป็นหัวขโมยสาวตัดแสบ แต่สิ่งที่เธอขโมยได้แน่ๆคือหัวใจของคนดูผู้ชาย แน่นอนว่านอกจากเรื่องของรูปร่างหน้าตา ฝีมือการแสดงของเธอก็นับว่าพัฒนาความสามารถจาก The Wolf of Wall Street ขึ้นมาอีก1สเต็ป ด้าน วิล สมิธ จัดว่าเป็นการแสดงที่ดีของเขาในรอบหลายปี โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหนังเรื่องที่ผ่านมา ความเก๋า รวมถึงมาดนิ่งๆกวนๆช่วยส่งให้ นิคกี้ เป็นหนุ่มที่น่าหลงใหลในสายตาสาวๆ ไม่บ่อยครั้งนักที่นักแสดงนำผิวสีกับผิวขาวจับคู่กันแล้วประสบความสำเร็จ ซึ่งต้องขอเว้นให้กับหนังเรื่องนี้
ช่วงท้ายหนังจบแบบมีเซอร์ไพรส์หักมุมเล็กๆ แถมยังทิ้งบางอย่างเอาไว้เผื่อจะมีภาคต่อ สำหรับ Focus ที่แปลว่าจุดสนใจ ไม่ได้สนใจประเด็นความดีเลว ถูกผิด หรือให้บทเรียนชีวิต เพียงแต่นำเสมอเรื่องด้านมืดในมุมสีเทาและแฝงความตลกขบขันเข้าไป โดยมองว่ามันเป็นแต่เกม ชิงไหวชิงพริบระว่างคนสองคน
คะแนน 7/10
โดย นกไซเบอร์
ที่มา
https://www.facebook.com/pages/Cyberbird/1407293122900238?ref=hl
รีวิวหนัง : Focus หนุ่มร้อยเล่ห์กับสาวมากสเน่ห์
หลายครั้งที่เราดูข่าวหัวขโมยหรือแก๊งต้มตุ๋นแล้วอดคิดไม่ได้ว่าในโลกนี้มีคนที่ทำอาชีพแบบนี้จริงๆเหรอ มันมีศาสตร์ที่ฝึกสอนกันได้ไหม มีครูฝึกหรือเปล่า คงไม่ถึงขั้นมีโรงเรียนมั้ง บางคนรํ่ารวยได้ดิบได้ดีกับอาชีพนี้ ขณะที่ส่วนใหญ่ไปจบที่คุกที่ตาราง ฮอลลีวู้ดเคยทำหนังเกี่ยวกับแก๊งค์ต้มตุ๋นมากมาย แต่โดยมากจะแฝงแง่มุมขบขันมากกว่าที่จะจริงจังกับอาชีพนี้ และ Focus คือหนังเรื่องล่าสุดซึ่งวิพากย์อาชีพนี้ได้สนุกทีเดียว
Focus กำกับและเขียนบทโดย เกลนน์ ฟิคาร์รา กับ จอห์น เรควา แต่ที่น่าสนใจคือคู่นักแสดงนำ การกลับมาของ วิล สมิธ ที่ต้องเข้าคู่กับ มาร์ก็อต ร็อบบี้ นักแสดงสาวสวยที่กำลังมาแรงที่สุดคนหนึ่งในวงการฮอลลีวู้ดหลังจากที่เธอได้รับบทเด่นครั้งแรกในหนัง The Wolf of Wall Street ซึ่งถือว่าแจ้งเกิดได้พอสมควร
ตัวหนังเล่าถึงความสัมพันธ์ของ นิคกี้ หนุ่มจอมเจ้าเลห์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการต้มตุ๋น กับ เจส หัวขโมยสาวมือใหม่สุดเซ็กซี่ เขาเป็นครูสอนเทคนิคต่างๆมากมายให้เธอ ความใกล้ชิดทำให้เขาและเธอเริ่มหวั่นไหว แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ทันตกลงปลงใจกัน นิคกี้ ก็หนีหายออกไปจากชีวิตของ เจส กระทั่ง3ปีต่อมา นิคกี้ ได้พบกับ เจส อีกครั้งที่อาร์เจนติน่า นิคกี้ กำลังทำงานสำคัญร่วมกับเจ้าของทีมรถแข่งรถหนุ่ม ซึ่ง เจส ดันเป็นแฟนกับเขาอยู่ แผนที่ นิคกี้ วางไว้จึงไม่ราบรื่น นิคกี้ พยายามขอโทษและขอคืนดีกับ เจส แต่เธอก็ไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆ เธอไม่ไว้ใจเขาเพราะกลัวถูกหลอก เช่นเดียวกับที่เขาก็ไม่ไว้ใจเธอเหมือนกัน
บทหนังแม้จะดูหลวมๆไปบ้างแต่ก็มีลูกเล่นต่างๆที่น่าสนใจ พาคนดูให้เพลิดเพลินไปกับขบวนการหัวขโมยและแก๊งต้มตุ๋นตัวฉกาจ ดูแล้วนึกถึงหนังตระกูล Ocean's Eleven ผสมกับ Now You See Me เพียงแต่ Focus ด้อยกว่าเรื่อง เทคนิคมือไว อุปกรณ์ลํ้าๆ ทริคเจ๋งๆ โดยเน้นไปทางความสามารถในการใช้จิตวิทยากับความโลภและความหลงของคนมากกว่า ซึ่งมีความสดใหม่พอดู อีกอย่างคือการเน้นเรื่องความสัมพันธ์แบบรักๆไคร่ๆของตัวละครนำ ผู้กำกับพยายามจะให้ออกมาโรแมนติก แต่ก็มีความอีโรติกเจือปนอยู่มาก
ฉากไฮไลต์อยู่ที่การเดิมพันในสนามอเมริกันฟุตบอล ต้องบอกว่าต้มคนดูซะสุกเลยทีเดียว จุดเด่นอีกอย่างคือตัวหนังตั้งใจมาหลอกเราจึงคาดเดาเนื้อเรื่องไม่ได้ พอเฉลยแล้วนึกย้อนกลับไปเราถึงจะร้องอ๋อยาวๆ กระนั้น หนังก็มีฉากที่ไม่สมจริงหลายฉากทั้ง การล้วงกระเป๋ารัวๆแบบสะดวกง่ายดายเกินไป ความอู้ฟู่หรูหราเกินงามของแก๊งต้มตุ๋น พื้นหลังของตัวละครก็มีข้อมูลน้อยไปหน่อย และพาร์ดดราม่าก็ยังทำได้ไม่ถึง
มาร์ก็อต ร็อบบี้ นักแสดงสาวผมบลอนด์พิมพ์นิยมแจ้งเกิดได้เต็มตัวในบท เจส สเน่ห์ ความเซ็กซี่ ความแพรวพราว ของเธอสะกดใจหนุ่มๆได้อยู่หมัด ถึงเธอจะดูไม่น่าเชื่อว่าเป็นหัวขโมยสาวตัดแสบ แต่สิ่งที่เธอขโมยได้แน่ๆคือหัวใจของคนดูผู้ชาย แน่นอนว่านอกจากเรื่องของรูปร่างหน้าตา ฝีมือการแสดงของเธอก็นับว่าพัฒนาความสามารถจาก The Wolf of Wall Street ขึ้นมาอีก1สเต็ป ด้าน วิล สมิธ จัดว่าเป็นการแสดงที่ดีของเขาในรอบหลายปี โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับหนังเรื่องที่ผ่านมา ความเก๋า รวมถึงมาดนิ่งๆกวนๆช่วยส่งให้ นิคกี้ เป็นหนุ่มที่น่าหลงใหลในสายตาสาวๆ ไม่บ่อยครั้งนักที่นักแสดงนำผิวสีกับผิวขาวจับคู่กันแล้วประสบความสำเร็จ ซึ่งต้องขอเว้นให้กับหนังเรื่องนี้
ช่วงท้ายหนังจบแบบมีเซอร์ไพรส์หักมุมเล็กๆ แถมยังทิ้งบางอย่างเอาไว้เผื่อจะมีภาคต่อ สำหรับ Focus ที่แปลว่าจุดสนใจ ไม่ได้สนใจประเด็นความดีเลว ถูกผิด หรือให้บทเรียนชีวิต เพียงแต่นำเสมอเรื่องด้านมืดในมุมสีเทาและแฝงความตลกขบขันเข้าไป โดยมองว่ามันเป็นแต่เกม ชิงไหวชิงพริบระว่างคนสองคน
คะแนน 7/10
โดย นกไซเบอร์
ที่มา https://www.facebook.com/pages/Cyberbird/1407293122900238?ref=hl