แชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าสเปนค่ะ

เข้ามา Update
ได้วีซ่ามาแล้วค่ะ



เล่าคร่าวๆนะคะ จขกท มีหนุ่มที่ดูๆกันอยู่เป็นคนประเทศนั้นค่ะ เค้ามาประเทศเราอ่ะ ง่าย แค่หาวันว่างแล้วซื้อตั๋วจัดกระเป๋า  แต่พอเราจะไปที เพิ่งรู้ว่ามันแสนสาหัสขนาดนี้

   จขกท.ไม่เคยมีประสบการณ์เดินทางคนเดียว ไม่เคยขอวีซ่าเอง เคยเที่ยวต่างประเทศแบบที่ต้องทำวีซ่าก็นู่นนน  ปักกิ่งเมื่อหลายปีที่แล้วซึ่งบริษัททัวร์ทำให้ หนนี้คือเตรียมตัวเอง หาข้อมูลเอง ตามสารพัดเวป สารพัดblog ซึ่งข้อมูลก็เยอะเหลือเกิน(ประชดค่ะ) พอยื่นสำเร็จ... ย้ำนะคะ  แค่ยื่นสำเร็จ ยังไม่ได้วีซ่ามา เลยอยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ เผื่อคนที่จะขอวีซ่าประเทศนี้ได้เตรียมตัวกันไปดีๆ จะได้ไม่เสียเที่ยวกัน

เอกสารเราเรียงจากVFSเลยนะคะ

1    คำร้องขอวีซ่าเช้งเก้น 2ชุด เราโหลดมาพิมพ์รายละเอียดแล้วปริ๊นออกมาเซ็นต์
2    หนังสือเดินทางตัวจริง พร้อมสำเนา1ชุด
3    ภาพสี 2 นิ้ว 2 รูป ที่มีพื้นหลังสีขาว แปะไปเลยค่ะในใบสมัคร ถ้าไม่ได้ถ่ายมาให้กำตัง 250 ไปถ่ายที่ VFS
4    ประกันการเดินทางที่ได้รับการยอมรับโดยสถานทูตฯ เราซื้อ Online จากBupa  ในเวปจะมีให้เซ็คบริษัทที่สถานฑูตยอมรับค่ะ
5    ตั๋วเดินทางไปและกลับ  อันนี้บ้าดีเดือดค่ะ ซื้อเลย ปริ๊นสำเนาไป ตอนนี้นั่งปาดเหงื่อว่าวีซ่าจะผ่านไหม
6    เอกสารที่ระบุวัตถุประสงค์และรายละเอียดในการเดินทาง :
6.1    หลักฐานการจองที่พัก ของเราเป็นวีซ่าเยี่ยมค่ะ เลยไม่ได้ใช้ แต่ที่ทราบมาคือต้องปริ๊นหลักฐากการจองโรงแรมให้ครบทุกคืนและทุกคนที่ไปค่ะ
6.2    เยี่ยมญาติ/คนรู้จัก- หนังสือเชิญ ถ้าพักกับญาติ/คนรู้จัก ชี้แจงความสัมพันธ์ระหว่างผู้เชิญและผู้เดินทาง ระบุที่อยู่เต็ม และสำเนาหน้าหนังสือเดินทาง หรือสำเนาบัตรประชาชนของผู้เชิญ หรือ เอกสารหนังสือเชิญ (เอกสารต้นฉบับเท่านั้น) ที่ทำถูกต้องตามกฎหมาย (ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทยของประเทศสเปนที่ 1283/2007) โดยผู้เชิญต้องไปติดต่อขอเอกสารดังกล่าวที่สถานีตำรวจท้องที่ผู้เชิญมีถิ่นที่อยู่ หนังสือเชิญและหลักฐานของผู้ที่อยู่ในสเปน

     ข้อนี้นั่งงนานค่ะ จากที่หาข้อมูลคือ วีซ่าเยี่ยมจะมีอะไรที่หยุมหยิมไปอีกแบบนึง ในกรณีการชี้แจงความสัมพันธ์กับผู้เชิญ ซึ่งต้องพิสูจน์ได้ว่ารู้จักกันจริงๆ ของเราหนังสือเชิญเป็นการเชิญเพื่อน (Amistad)ค่ะ รับรองที่พัก แต่เราออกค่าใช้จ่ายเอง อย่างที่บอกแต่ต้นคือหนุ่มของเราอยู่ในระยะศึกษาให้รู้จักกันมากขึ้น ก่อนจะตัดสินใจให้ความสัมพันธ์ก้าวหน้าไปกว่านี้ จึงเลือกที่จะเชิญแบบเพื่อนแล้วแจ้งรับรองแค่ทีพักก็พอ (เราเกรงใจเรื่องเอกสารที่ฝั่งโน้นต้องเตรียมค่ะ ถ้าต้องรับรองค่าใช้จ่าย ซึ่งอันที่จริงคือไป เค้าก็ดูแลหมด)
เอกสารที่เรายื่นแนบมีดังนี้ค่ะ
6.2.1 จดหมายแนะนำตัวของผู้เชิญ ว่ารู้จักเรายังไง เชิญเราไปพักเพราะอะไร เขียนประมาณว่า เป็นเพื่อนกับเราและมาเที่ยวประเทศไทยโดยมีเราดูแลเป็นอย่างดี เลยอยากเชิญเราไปเที่ยวบ้านเค้าบ้างเป็นการตอบแทน ผู้เชิญเราเขียนด้วยมือเป็นภาษาสเปนค่ะ
6.2.2 จดหมายแนะนำตัวของเรา บอกว่าเราทำงานอะไร รู้จักกับเค้าได้ยังไง จะขอวีซ่าไปทำอะไร(ไปเที่ยวไงคะ เค้าชวน) จะไปกี่วัน แล้วก็บอกว่าจะกลับมาแน่นอนเพราะเหตผลอะไรบ้าง(ประมาณว่าชั้นไม่หนีวีซ่าหรอกย่ะ งิ) เราใส่ไปแค่ว่าเราเที่ยวได้แค่นั้นก็ต้องกลับเพราะความรับผิดชอบเรื่องงาน  ตัวอย่างจากเวปอื่นจะบอกเรื่องกลับมาดูแลพ่อแม่ที่แก่ชรา(ก็ว่าไปตามจริง เน้น ตามจริงนะคะ) ตัวอย่างจดหมายหาได้จากในเนตค่ะ เข้ามาอ่านพันทิปได้ ก็ใช้คีย์เวิร์ดนี้เสิร์ชได้ค่ะ
6.2.3 สำเนาพาสปอร์ตผู้เชิญ สำเนาหน้าที่สแตมป์เข้าเมืองไทยมาด้วย เราเขียนเล่าในจดหมายถึง Timeline ที่เจ้าตัวมาไทยด้วยค่ะ
6.2.4 กลัวเค้าไม่เชื่อ ปริ๊นหน้าอีเมลที่ทางโน้นบุ๊คโรงแรมที่ไทยในช่วงที่มาแล้วเมลบอกเรา เป็นการแสดงหลักฐานการติดต่อกัน
6.2.5 มาไทยไม่ได้แปลว่าเจอกันใช่ไหม ดังนั้นเลยปริ๊นรายการจองตั๋วเครื่องบินไปกลับในประเทศที่มีผู้โดยสารสองคนคือเรากับเค้า (ที่พากันเที่ยวในไทย) ผ่านการจองเดียวกันแนบไปด้วย เราไม่ได้แนบรูปถ่ายค่ะ(บางคน โดยเฉพาะถ้าเป็นเยี่ยมแฟนอันนี้น่าจะต้องแนบ) แค่ตั๋วเครื่องบินที่บินด้วยกันน่าจะเพียงพอ
7.    หลักฐานการเงินของผู้เดินทาง
7.1    หนังสือรับรองการทำงาน ให้ฝ่ายบุคคลออกให้เป็นภาษาอังกฤษค่ะ พยายามจะเกลี้ยกล่อมให้ระบุวันหยุดและวันกลับมาทำงาน แต่ฝ่ายบุคคลไม่ยอม เลยต้องแนบใบลาไปด้วย  แต่ใบลาเจ้าหน้าที่คืนเรามาบอกว่าไม่ต้องใช้
7.2    จดหมายรับรองจากธนาคาร และ สำเนาสมุดบัญชีย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน ที่แสดงสถานภาพทางการเงินที่เป็นปัจจุบัน หรือ หลักฐานการเป็นเจ้าของทรัพย์สิน ฯลฯหนังสือรับรองฐานะทางการเงินจากทางธนาคาร ที่แสดงว่าผู้ขอนั้นมีฐานะทางการเงินของตนเองเพียงพอในการเดินทางและตลอดระยะเวลาที่พำนัก เป็นระยะเวลาติดต่อกันจนถึงเดือนปัจจุบัน (ไม่รับพิจารณาหลักฐานการเงินของบุคคลอื่น หรือของบริษัทที่รับรองค่าใช้จ่าย)
     อันนี้ขอเป็นหนังสือรับรองค่ะ แจ้งธนาคารว่าจะอาไปทำวีซ่า ทุกธนาคารจะรู้ แล้วก็ขอสเตทเม้นย้อนหลังด้วย6เดือนอีกหนึ่งชุด
ไปอ่านบางเวป บอกใช้หนังสือรับรองกับซีร๊อกซ์บุ๊คเท่านั้น..ดันย้ำเท่านั้น  เราก็จิตตก เลยสำเนาบุ๊คแถมอีก แต่ตอนยื่น เจ้าหน้าที่คืนมาค่ะ บอกสเตทเม้นดีกว่า
ใครที่มีหลายบุ๊ค กวาดไปเผื่อไว้สบายใจค่ะ
เราขอวีซ่าไป 3 อาทิตย์ มีเงินแค่ประมาณสองแสนกว่าค่ะ
    กรณีใช้พ่อแม่หรือคู่สมรสรับรอง หลักฐานแสดงความเกี่ยวข้องพร้อมจดหมายชี้แจงให้เตรียมไปด้วยนะคะ....ข้อนี้ไม่ได้ทำค่ะ  แค่อ่านเจอ  แล้วอิเด็ก เอ๊ย...น้องนักศึกษาที่ไปยื่นคิวก่อนหน้าเจอมา  รู้สึกน้องนางจะขาดเอกสารชี้แจงตรงนี้บางจุด ไม่ได้สนใจแน่ชัดว่าเป็นเอกสารอะไร รู้แต่ว่านางเหวี่ยงเจ้าหน้าที่แล้วก็พูดจาได้ทำลายอีคิวคน มากๆ
-ทำไมหน้าเวปไม่แจ้งว่าต้องใช้ อย่างงี้เสียเวลาไปมาหลายรอบ... แหม่ มีปัญญาเสิร์ชทำหาข้อมูลทำแผนเที่ยวงามๆได้ เสิร์ชเรื่องเอกสารต่อไม่ยักได้เนาะคนเรา
-เมื่อไหร่จะเสร็จคะ หนูต้องรีบไปเรียน...  ที่นั่งอยู่ร้อยกว่าคน ขอวีซ่าสี่ประเทศคงว่างหมด?
-จะช้าไปไหน มีหน้าที่แค่รวมเอกสารกินหัวคิว....  ฟังแล้วแบ่บ.. อยากVFS เก็บตังค์อิน้องนี่แล้วไม่ต้องเช็คเอกสาร ปล่อยๆกลับไป เผื่อจะต้องจ่ายใหม่อีกซักสาม-สี่รอบ   เค้าเช็คละเอียดให้ก็ดีแล้วโอกาสผ่านจะได้สูงขึ้น เสียตังค์น้อยรอบป้ะ ไม่ใช่สักแต่รวมข้อมูลนะ
เด็กคนนี้ใช้เวลาไปประมาณชั่วโมงกว่าจะจบเรื่องเอกสาร นางรวมพลังกับผู้ปกครองโวยจนปิดจ๊อบที่นางจะเมลเอกสารที่ขาดให้เจ้าหน้าที่(รู้สึกเห็นใจเจ้าหน้าที่มาก ณ จุดนี้ เพราะคงไม่ได้เจอเป็นรายแรก)
      เมื่อได้คิว แล้วมีโอกาสที่จะปิดจ๊อบเอกสารได้ เค้าจะพยายามรอค่ะ ช่วยเหลือดีมาก แต่ดูเหมือนอิน้องจะไม่เข้าใจ  นอกจากคนที่ขาดเอกสารจำเป็นจริงๆ ไม่สามารถเสกได้ในวันนั้น เค้าถึงจะข้ามคิว ให้มาใหม่วันหลัง  อันนี้สังเกตจากการนั่งมองเพราะรอนานจัดค่ะ
    
หมายเหตุ เอกสารทุกอย่าง ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ และต้องเป็นเอกสารที่ออกมาล่าสุดไม่เกิน1เดือน

หมายเหตุอีกอัน... อ่านหมายเหตุเค้าดีๆค่ะ

    คิวของเรา ถัดจากน้องนักศึกษาไป 2คิว เราเตรียมเอกสารมาแบบ อยากหยิบอะไรเลือกเลย ขนมาหมด ใบเปลี่ยนชื่อสกุลพร้อมแปล, หนังสือรับรองหัก ณ ที่จ่าย,สลิปเงินเดิน(นี่ขอวีซ่าหรือยื่นกู้?,สำเนาหน้าบัตรเครดิตรที่มี,กระทั่งสำเนาโฉนด คือเตรียมไปเว่อร์เวินมาก แต่น้องเจ้าหน้าที่คืนมาหมดค่ะ บอกว่าที่เลือกไว้ก็เพียงพอแล้ว พวกนี้ไม่ต้องใช้ เจ้าหน้าที่เค้าเตอร์ใช้เวลาพิจารณาเอกสารแต่ละใบๆ ดูละเอียดค่ะ เลยใช้เวลานาน อะไรที่เค้าเลือกไว้คือเค้าดูแล้วว่ายื่นไปดีกว่า  สรุปว่าเอกสารของเราใช้เวลาประมาณสิบนาทีนิดๆ เราถูกเรียกสองรอบค่ะ รอบแรกเซ็นชื่อจุดที่ลืม กับอีกรอบคือจ่ายเงิน คิวเราใช้เวลาประมาณสิบห้านาที  หลังจากนั้นไปนั่งรอพิมพ์ลายนิ้วมืออีก ประมาณสิบนาที

อย่าลืมค่าธรรมเนียมวีซ่าค่ะ  เตรียมไปให้พอดีนะคะ  ของเรา 3313 บาทค่ะ

  ย้ำอีกรอบค่ะ ว่าแค่ยื่นเอกสารสำเร็จ แค่นี้ก็รู้สึกโล่งไปเปลาะนึง ว่าเตรียมเอกสารมาครบและเรียบร้อยดี(เกินไปเยอะ)  จะผ่านไม่ผ่านขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ Embassyเค้าแล้ว

ไว้ถ้าได้วีซ่าจะมาupdateนะคะ ตอนนี้ลุ้นค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่