พอดีเมื่อตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ได้ไปขอวีซ่าเชงเก้นไว้ 1 วันได้เล่มเลย แต่เราให้ส่งเอกสารทางไปรษณีย์ ก็เลยเป็น 3 วันค่ะ
ช่วงเตรียมเอกสารก็หาข้อมูลเยอะมาก เพราะส่วนใหญ่คนที่เชิญก็จะเป็นเจ้าบ้านเชิญ แฟน พ่อ-แม่แฟนเป็นคนเชิญ อะไรแบบนี้ ก็เลยอยากมาแชร์ค่ะ เพราะตอนหาข้อมูลก็ไม่มีใครเป็นแบบเราเลย เรามาปะติดปะต่อข้อมูลเอาเอง
ในเคสของเราแฟนเราเป็นคนเชิญและเป็นสปอนเซอร์ซัพพอร์ททุกอย่างค่ะ แต่แฟนเราก็ไม่ได้เป็นเจ้าบ้าน เช่าอพาร์ทเม้นต์อยู่ แล้วพอโทรถามทาง TLS เจ้าหน้าที่ก็ยัง งงๆกับเอกสารที่เราถามว่าต้องใช้อะไรบ้าง เราก็บอกแฟนไปให้เตรียมตามความน่าจะเป็นที่เราคิด เผื่อเหลือเผื่อขาด จริงๆแล้วเราว่าสถานทูตดูแค่เอกสารสอดคล้องกันไหมก็แค่นั้นค่ะ ถ้าเตรียมเอกสารไปเยอะๆ แล้วมันขัดกันเอง เกรงว่าจะไม่ผ่าน จิตตกไปช่วงนึงค่ะ เตรียมเอกสารตั้งแต่มกรา ได้ยื่นจริง 20 กุมภาพันธ์ เดินทางช่วง 31 มี.ค. 61-12 เม.ย. 61 ค่ะ เห็นว่าคนยื่นเดินทางช่วงเมษาเยอะ เลยรีบยื่นเอกสารก่อนค่ะ กลัวนาน แต่เปล่าเลย เร็วมาก
เอกสารที่ให้แฟนเตรียมมีดังนี้ค่ะ
1.สำเนาพาสปอร์ตของแฟนหน้าข้อมูลส่วนตัว (เพราะแฟนเป็นสปอนเซอร์ด้วย ต้องใช้พาสปอร์ตของสปอนเซอร์)
2.จดหมายเชิญ/สปอนเซอร์ชิป (แฟนพิมพ์เป็นภาษาฝรั่งเศสแล้วเซ็นสดค่ะ)
3.จดหมายแสดงความสัมพันธ์ (แฟนพิมพ์เป็นภาษาฝรั่งเศสแล้วเซ็นสดค่ะ)
4.หนังสือที่ออกโดยสำนักงานเขต เอกสารนี้ต้องใช้ฉบับจริงค่ะ (ให้แฟนไปขอที่เขตค่ะ ต้องใช้สำเนาพาสปอร์ตของเรา เพื่อแจ้งว่าเราจะไปอยู่ที่โน่นกี่วัน จ่ายตังประมาณ 20 กว่ายูโรค่ะ ไม่แน่ใจ จริงๆต้องใช้สำเนาจองตั๋วเครื่องบินด้วยค่ะ แต่ว่าแฟนไม่รู้ พอดีเจ้าหน้าที่รู้จักกับญาติแฟน เขาก็เลยช่วยทำให้ทุกอย่างเลยค่ะ 7วันทำการถัดมาก็ได้เอกสารค่ะ)
5.สลิปเงินเดือนของแฟนย้อนหลัง 3 เดือน
6.สเตทเม้นของแฟนย้อนหลัง 3 เดือน
7.สำเนาการจ่ายค่าเช่าบ้านย้อนหลัง 3 เดือน
8.เอกสารการเสียภาษีปีล่าสุด
9.สำเนาพาสปอร์ตหน้าที่ประทับตราเข้า-ออก ประเทศไทย
จดหมายต่างๆ ใช้ฉบับจริงค่ะ หนังสือรับรองการให้ที่พักที่ออกโดยเขต ใช้ตัวจริงกับสำเนา(ตามลิสรายการไม่ได้เขียนว่าใช้สำเนา เราต้องไปถ่ายที่โน่นหน้าละ 8 บาทมี 3 หน้า) ส่วนเอกสารอื่นๆที่ต้องใช้สำเนา(ตามลิสรายการบอก) เราใช้วิธีปริ๊นสีไปกับปริ๊นขาวดำค่ะ เพื่อความชัดเจนว่าเป็นฉบับจริงกับสำเนาค่ะ
ส่วนเอกสารฝั่งเรามีดังนี้ค่ะ
1.หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯค่ะ (แจ้งบริษัทฯว่าขอหนังสือรับรองไปทำวีซ่า ระบุวันที่ไป-กลับด้วยนะคะ)
2.สำเนาสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือนฉบับภาษาอังกฤษ (ต้องใช้ฉบับจริงและฉบับแปลค่ะ แต่ของเราเป็น2 ภาษาอยู่แล้วเลยไม่ต้องแปลค่ะ แต่สำเนาไป 1 ชุดค่ะ)
3.สเตทเม้นย้อนหลัง 3 เดือนฉบับภาษาอังกฤษ (เราปริ๊นจากเมลล์ค่ะ ใช้ K plus ให้ส่งสเตทเม้นเข้าอีเมลล์แล้วปริ้นเอาค่ะ)
4.หนังสือรับรองการเป็นเจ้าของบัญชีจากธนาคาร (ไปขอที่ธนาคารค่ะ วันที่ไปขอมีเงินในบัญชี 500 บาท ธนาคารถามว่าจะให้รับรองสถานะทางการเงินยังไงมี 500 บาท เพิ่มเงินไหม ตอนนั้นจะสิ้นเดือน เงินก็ไม่มีละค่ะ ตังที่แฟนโอนมาค่าวีซ่าก็ยังไม่ถึง เลยบอกว่าเอาแค่รับรองเป็นเจ้าของบัญชีค่ะ ไม่ต้องใส่ยอดเงินในนั้น แค่ระบุว่าบัญชียังเคลื่อนไหวอยู่ค่ะ ผู้จัดการสาขาเป็นคนเซ็น ค่าธรรมเนียม 100 บาท)
5.เอกสารประกันการเดินทาง (เราใช้ของ Krungthai Axa ค่ะ 1000 บาท โอนเงินแล้วได้เอกสารทางอีเมลล์เลยค่ะ ราคาไม่เท่ากันแล้วแต่ช่วงที่เราเดินทางและกลุ่มประเทศที่เราไปค่ะ)
6.สำเนาการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (เราจองของการบินไทยก่อนวันไปยื่นเอกสาร 1 วันค่ะ เลือกแบบจ่ายเงินที่การบินไทยเอกสารจะมีอายุ 72 ชม.ค่ะ ถ้าไม่ไปจ่ายเขาก็จะตัดการจองของเรา ไม่ต้องเสียเงินก่อนค่ะ)
7.รูปถ่าย ไปถ่ายที่โน่นค่ะ ไปเช้าๆ ไม่มีคิวถ่ายรูปค่ะ รูปดีไม่ดียังไง ถ่ายที่โน่น เขาไม่ปฏิเสธเลยค่ะ เราว่ารูปเรามันออกเหลืองๆส้มๆด้วยนะ เขาก็เอาค่ะ พยายามเปิดหูนะคะ ต้องเห็นคิ้วกับหู ถ้ามีหน้าม้านี่ต้องติดกิ๊บขึ้นไปเลยค่ะ ของเราหน้าม้ายาวแล้วก็ปัดออกได้ค่ะ หน้าบานกันไปค่ะ
8.จดหมายแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ว่าเราทำงานที่ไหน ตำแหน่งอะไร ที่อยู่ในประเทศไทยที่ไหน จะต้องกลับมาทำอะไร วันที่เท่าไหร่ พบแฟนที่ไหน รู้จักกันเมื่อไหร่ แฟนบินมาหาเมื่อไหร่ แล้วเราจะบินไปเยี่ยมแฟนบ้างและญาติๆของแฟนด้วย โดยแฟนจะเป็นสปอนเซอร์ให้ ตอนไปก็จะพักที่บ้านแฟน บ้านเลขที่เท่าไหร่ (บ้านเลขที่ต้องตรงกับเอกสารที่แฟนขอจากเขตนะคะ) แล้วก็ติดรูปถ่ายเรากะแฟนตอนพบกันที่ไทยค่ะ ไปกินข้าวกัน ไปเที่ยวกัน ติดไปแค่ 3-4 รูป (ล้างมาตั้งเยอะ) เจ้าหน้าที่ TLS บอกไม่อยากเอา แต่เราอยากให้ 555555 ก็นั่งติดตรงนั้นเลยค่ะ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่เลย จริงๆจะแนบไปทั้งซอง เขาบอกติดดีกว่า อ่ะ ติดก็ติด
พอเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว
ยกเว้นสำเนาจองตั๋วเครื่องบินที่ต้องเตรียมก่อนวันยื่นนะคะ
เราก็เข้าเว็บไซต์ของ TLS contact เลยค่ะ
1.สมัครสมาชิก ยืนยันตัวตน
2.ล็อกอินกรอกใบสมัครให้เรียบร้อย แล้วปริ้นใบสมัครไว้ค่ะ
3.เช็คลิสตามรายการเอกสารที่เขาระบุในเว็บไซต์
4.ทำการนัดหมายค่ะ ถ้าเป็นตัวเทาๆ คลิกไม่ได้ แปลว่าคิวเต็มนะคะ ให้เลือกเวลาที่ยังว่างค่ะ (เราได้คิววันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 เลือกไป 8.30 หรือ 9.00 น. ไม่แน่ใจค่ะ)
5.ปริ๊นใบนัดไว้ค่ะ
6.ก่อนวันยื่นเอกสาร กดจองตั๋วเครื่องบินค่ะ ราคาเท่าไหร่ก็จองไปค่ะ เพราะเราไม่ได้จ่ายเงินจริงๆ
7.เตรียมเงินค่ะ ค่าวีซ่า 60ยูโร หรือ 2317 บาท ขึ้นอยู่กับค่าเงินช่วงเวลานั้นๆ ค่าบริการของ TLS 1119 บาท (เราจำผิด บอกแฟนไป 1600 อันนั้นเป็นบริการพรีเมี่ยมค่ะ)
8.ลางานเตรียมไปยื่นเอกสารค่ะ (เราไม่ได้ลา วันนั้นเรามีทำงานนอกสถานที่พอดีที่ม.เกษตร เลยแวะไปยื่นก่อน ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชม.แล้วตามไปสมทบกับทีมงานทีหลัง)
วันยื่นเอกสาร
1.เดินทางไปที่สำนักงาน TLS contact อาคารสาธรซิตี้ ลงสถานี BTS ช่องนนทรี โดยใช้ทางออกหมายเลข 5 แต่เราไปด้วย grab car (บ้านเราอยู่ลำลูกกา จ.ปทุมค่ะ ขึ้นทางด่วนไปรวมค่ารถ 495 บาท) แอบแพง แต่มันคนละซีกโลกอ่าเนอะ เวลาเร่งด่วนด้วย
2.แลกบัตร ตรงประชาสัมพันธ์ ข้างร้านกาแฟ คนจะมาต่อคิวแลกบัตรเยอะๆ (เราหาประชาสัมพันธ์ไม่เจอ เดินเลยไปอีกฝั่งนึง 55555 แกรบมาจอดให้อีกประตู ที่ไม่มีประชาสัมพันธ์)
3.เดินขึ้นบันไดเลื่อนแล้วเลี้ยวขวาผ่านประตูกั้นที่ชั้น 3 ใช้บัตรที่แลกมา แตะตรงทางเข้า (คล้ายๆทางเข้ารถไฟฟ้า)
4.รอลิฟต์ไปชั้น 12
5.ฝากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (ตอนเราไปถึง เขายังไม่เปิด เลยต้องเข้าคิวก่อนเพื่อฝากอุปกรณ์ค่ะ)
6.ยื่นพาสปอร์ตกับใบนัดที่โต๊ะด้านหน้า ของเราเวลานัดมันเป็นรอบ 2 ของวัน น่าจะ 8.30 หรือ 9.00 น. ไม่แน่ใจ เลยต้องรอให้รอบแรกเข้าไปก่อน เขาให้เรารออีก 9 นาทีค่ะ
7.ระหว่างรอเราก็มาเข้าคิวถ่ายรูปค่ะ ไม่มีเงินทอนนะคะ ใช้วิธีเสียบแบงค์กับตู้เอาค่ะ ตอนที่เราไปมี 2 คิวถ่ายรูปก่อนหน้าค่ะ เลยเดินไปแลกตังที่แคชเชียร์ด้านในก่อน ระหว่างถ่ายรูปคนก็เริ่มทยอยมากันเยอะขึ้นเรื่อยๆ พอถ่ายเสร็จก็ครบเวลาที่ต้องรอพอดี
8.ยื่นพาสปอร์ตกับใบนัดให้เจ้าหน้าที่ตรวจและกดคิวให้ค่ะ
9.เข้าไปนั่งรอด้านใน คอยมองจอว่าชื่อเราเรียกเข้าช่องไหน ทุกครั้งที่เรียกคิวใหม่จะมีเสียงกระดิ่ง ให้ดูที่จอค่ะ ช่องขอเชงเก้นมี 2 ช่อง ตรงกลางค่ะ ส่วนใหญ่จะขอของฝรั่งเศสกับสวิสประเทศเดียว ก็จะมีหลายช่องเลยค่ะ
10.เราถูกเรียกเข้าช่องขอเชงเก้นค่ะ ก็ยื่นเอกสารตามปกติให้เขาตรวจ
เจ้าหน้าที่เป็นผู้ชาย ก็ตรวจเอกสารแล้วก็ถามว่า แฟนชื่ออะไร ไปประเทศอะไร เมืองอะไร ไปทำอะไร แฟนเคยมาไทยไหม มาเมื่อไหร่
และเราลืมเอาสำเนาหนังสือรับรองที่พักมา (ในเช็คลิสเอกสารไม่แจ้งว่าเอาสำเนา แจ้งแต่ว่าฉบับจริง) แต่เจ้าหน้าที่ก็ไปถ่ายให้ หน้าละ 8 บาท ทั้งหมด 3 หน้าค่ะ
แล้วเราก็บอกว่าขอยื่นรูปถ่ายด้วยค่ะ เจ้าหน้าที่ถามว่าจะติดกี่รูป ก็ยื่นกระดาษเอ 4 ให้ 1 ใบ เราติดไป 3-4 รูปก็เต็มแผ่นค่ะ แค่นั้นพอ เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่อยากให้ยื่น มันเป็นความทรงจำของเรา (แต่เราล้างมาเพื่อการณ์นี้ตั้งหลายบาทนะยู เอาไปเหอะ)
แล้วเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า เอกสารครบ ดีมาก เดี๋ยวเอาเอกสารนี้ไปจ่ายเงินที่ช่องโน้นนะครับ (เอกสารจะเป็นห่อๆสีน้ำเงิน มีใบปะหน้า)
11.ต่อคิวรอยื่นเอกสาร เพื่อจ่ายเงิน เขาก็เก็บใบปะหน้าไปแล้วเรียกเก็บเงินค่ะ พอจ่ายเรียบร้อย เขาก็ให้เราไปถ่ายรูปเก็บลายนิ้วมือที่ช่องถัดไป
12.รอคิวหน้าห้อง (อารมณ์คล้ายๆรอพบหมอ) พอมีชื่อเราขึ้นที่จอหน้าห้องว่าให้เข้าห้องไหน แต่เราดันเข้าผิดห้องจ้าาาา ไม่มีเจ้าหน้าที่เลย 5555555555 เลยเดินออกมาใหม่ แล้วเข้าอีกห้องนึง แล้วก็สารภาพว่า ไปผิดห้องมา นึกว่าให้เข้าห้องขวา ไม่รู้ว่าต้องเป็นห้องซ้าย ห้องมันเป็นแค่ผ้าม่านกั้นสีเขียวๆอ่ะยู เหมือนพบหมอแมะ
13.พอพบเจ้าหน้าที่เข้าก็ให้ถ่ายรูป รูปนี้แหละที่จะใช้ติดวีซ่า แล้วก็เก็บลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วค่ะ
14.เสร็จเรียบร้อย รับโทรศัพท์ กลับบ้านได้ (เราก็ไปทำงานต่อ)
ทั้งหมดเราเสร็จในเวลา 9 โมงนิดๆค่ะ ไม่นานเลย
วันต่อมาก็มีอีเมลล์มาแจ้งจาก TLS ว่าได้รับเล่มคืนแล้ว เราก็รอไปรษณีย์มาส่ง มาถึงเราวันจันทร์โน่นแน่ะ ติดวันเสาร์ออฟฟิศไม่มีคนอยู่
แล้วเราก็ได้เชงเก้นวีซ่ามาครอบครอง 90 วัน วะฮ่ะฮ่า!!
ตอนแรกลุ้นมาก ว่าจะไม่ผ่าน เปิดหาหน้าที่เขาแปะวีซ่าไม่เจอ เขาคืนหนังสือรับรองที่พักจากเขตมาให้ด้วยนะคะ ติดแม็กมาให้หน้าสุดท้าย
แต่สุดท้ายก็เปิดเจอหน้าที่แปะวีซ่า พร้อมกับกระดาษเขียนคำแนะนำเมื่อไปถึงที่ฝรั่งเศสว่าควรทำตัวยังไงตอนผ่าน ตม.
ปล.ตม.งานดีมากมายก่ายกอง ดีตั้งแต่ลงเครื่องเหยียบย่างเข้าฝรั่งเศสเลยจ้าาาาา ตอนลงเครื่องเตรียมวีซ่าไว้เลยนะจ๊าาาา เข้าตรวจก่อนเข้าสนามบิน แล้วก็ตรวจอีกทีก่อนเข้ารับกระเป๋า
ประสบการณ์ขอวีซ่าเชงเก้นเยี่ยมเยียนฝรั่งเศส แบบมีสปอนเซอร์
ช่วงเตรียมเอกสารก็หาข้อมูลเยอะมาก เพราะส่วนใหญ่คนที่เชิญก็จะเป็นเจ้าบ้านเชิญ แฟน พ่อ-แม่แฟนเป็นคนเชิญ อะไรแบบนี้ ก็เลยอยากมาแชร์ค่ะ เพราะตอนหาข้อมูลก็ไม่มีใครเป็นแบบเราเลย เรามาปะติดปะต่อข้อมูลเอาเอง
ในเคสของเราแฟนเราเป็นคนเชิญและเป็นสปอนเซอร์ซัพพอร์ททุกอย่างค่ะ แต่แฟนเราก็ไม่ได้เป็นเจ้าบ้าน เช่าอพาร์ทเม้นต์อยู่ แล้วพอโทรถามทาง TLS เจ้าหน้าที่ก็ยัง งงๆกับเอกสารที่เราถามว่าต้องใช้อะไรบ้าง เราก็บอกแฟนไปให้เตรียมตามความน่าจะเป็นที่เราคิด เผื่อเหลือเผื่อขาด จริงๆแล้วเราว่าสถานทูตดูแค่เอกสารสอดคล้องกันไหมก็แค่นั้นค่ะ ถ้าเตรียมเอกสารไปเยอะๆ แล้วมันขัดกันเอง เกรงว่าจะไม่ผ่าน จิตตกไปช่วงนึงค่ะ เตรียมเอกสารตั้งแต่มกรา ได้ยื่นจริง 20 กุมภาพันธ์ เดินทางช่วง 31 มี.ค. 61-12 เม.ย. 61 ค่ะ เห็นว่าคนยื่นเดินทางช่วงเมษาเยอะ เลยรีบยื่นเอกสารก่อนค่ะ กลัวนาน แต่เปล่าเลย เร็วมาก
เอกสารที่ให้แฟนเตรียมมีดังนี้ค่ะ
1.สำเนาพาสปอร์ตของแฟนหน้าข้อมูลส่วนตัว (เพราะแฟนเป็นสปอนเซอร์ด้วย ต้องใช้พาสปอร์ตของสปอนเซอร์)
2.จดหมายเชิญ/สปอนเซอร์ชิป (แฟนพิมพ์เป็นภาษาฝรั่งเศสแล้วเซ็นสดค่ะ)
3.จดหมายแสดงความสัมพันธ์ (แฟนพิมพ์เป็นภาษาฝรั่งเศสแล้วเซ็นสดค่ะ)
4.หนังสือที่ออกโดยสำนักงานเขต เอกสารนี้ต้องใช้ฉบับจริงค่ะ (ให้แฟนไปขอที่เขตค่ะ ต้องใช้สำเนาพาสปอร์ตของเรา เพื่อแจ้งว่าเราจะไปอยู่ที่โน่นกี่วัน จ่ายตังประมาณ 20 กว่ายูโรค่ะ ไม่แน่ใจ จริงๆต้องใช้สำเนาจองตั๋วเครื่องบินด้วยค่ะ แต่ว่าแฟนไม่รู้ พอดีเจ้าหน้าที่รู้จักกับญาติแฟน เขาก็เลยช่วยทำให้ทุกอย่างเลยค่ะ 7วันทำการถัดมาก็ได้เอกสารค่ะ)
5.สลิปเงินเดือนของแฟนย้อนหลัง 3 เดือน
6.สเตทเม้นของแฟนย้อนหลัง 3 เดือน
7.สำเนาการจ่ายค่าเช่าบ้านย้อนหลัง 3 เดือน
8.เอกสารการเสียภาษีปีล่าสุด
9.สำเนาพาสปอร์ตหน้าที่ประทับตราเข้า-ออก ประเทศไทย
จดหมายต่างๆ ใช้ฉบับจริงค่ะ หนังสือรับรองการให้ที่พักที่ออกโดยเขต ใช้ตัวจริงกับสำเนา(ตามลิสรายการไม่ได้เขียนว่าใช้สำเนา เราต้องไปถ่ายที่โน่นหน้าละ 8 บาทมี 3 หน้า) ส่วนเอกสารอื่นๆที่ต้องใช้สำเนา(ตามลิสรายการบอก) เราใช้วิธีปริ๊นสีไปกับปริ๊นขาวดำค่ะ เพื่อความชัดเจนว่าเป็นฉบับจริงกับสำเนาค่ะ
ส่วนเอกสารฝั่งเรามีดังนี้ค่ะ
1.หนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทฯค่ะ (แจ้งบริษัทฯว่าขอหนังสือรับรองไปทำวีซ่า ระบุวันที่ไป-กลับด้วยนะคะ)
2.สำเนาสลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือนฉบับภาษาอังกฤษ (ต้องใช้ฉบับจริงและฉบับแปลค่ะ แต่ของเราเป็น2 ภาษาอยู่แล้วเลยไม่ต้องแปลค่ะ แต่สำเนาไป 1 ชุดค่ะ)
3.สเตทเม้นย้อนหลัง 3 เดือนฉบับภาษาอังกฤษ (เราปริ๊นจากเมลล์ค่ะ ใช้ K plus ให้ส่งสเตทเม้นเข้าอีเมลล์แล้วปริ้นเอาค่ะ)
4.หนังสือรับรองการเป็นเจ้าของบัญชีจากธนาคาร (ไปขอที่ธนาคารค่ะ วันที่ไปขอมีเงินในบัญชี 500 บาท ธนาคารถามว่าจะให้รับรองสถานะทางการเงินยังไงมี 500 บาท เพิ่มเงินไหม ตอนนั้นจะสิ้นเดือน เงินก็ไม่มีละค่ะ ตังที่แฟนโอนมาค่าวีซ่าก็ยังไม่ถึง เลยบอกว่าเอาแค่รับรองเป็นเจ้าของบัญชีค่ะ ไม่ต้องใส่ยอดเงินในนั้น แค่ระบุว่าบัญชียังเคลื่อนไหวอยู่ค่ะ ผู้จัดการสาขาเป็นคนเซ็น ค่าธรรมเนียม 100 บาท)
5.เอกสารประกันการเดินทาง (เราใช้ของ Krungthai Axa ค่ะ 1000 บาท โอนเงินแล้วได้เอกสารทางอีเมลล์เลยค่ะ ราคาไม่เท่ากันแล้วแต่ช่วงที่เราเดินทางและกลุ่มประเทศที่เราไปค่ะ)
6.สำเนาการจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (เราจองของการบินไทยก่อนวันไปยื่นเอกสาร 1 วันค่ะ เลือกแบบจ่ายเงินที่การบินไทยเอกสารจะมีอายุ 72 ชม.ค่ะ ถ้าไม่ไปจ่ายเขาก็จะตัดการจองของเรา ไม่ต้องเสียเงินก่อนค่ะ)
7.รูปถ่าย ไปถ่ายที่โน่นค่ะ ไปเช้าๆ ไม่มีคิวถ่ายรูปค่ะ รูปดีไม่ดียังไง ถ่ายที่โน่น เขาไม่ปฏิเสธเลยค่ะ เราว่ารูปเรามันออกเหลืองๆส้มๆด้วยนะ เขาก็เอาค่ะ พยายามเปิดหูนะคะ ต้องเห็นคิ้วกับหู ถ้ามีหน้าม้านี่ต้องติดกิ๊บขึ้นไปเลยค่ะ ของเราหน้าม้ายาวแล้วก็ปัดออกได้ค่ะ หน้าบานกันไปค่ะ
8.จดหมายแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ว่าเราทำงานที่ไหน ตำแหน่งอะไร ที่อยู่ในประเทศไทยที่ไหน จะต้องกลับมาทำอะไร วันที่เท่าไหร่ พบแฟนที่ไหน รู้จักกันเมื่อไหร่ แฟนบินมาหาเมื่อไหร่ แล้วเราจะบินไปเยี่ยมแฟนบ้างและญาติๆของแฟนด้วย โดยแฟนจะเป็นสปอนเซอร์ให้ ตอนไปก็จะพักที่บ้านแฟน บ้านเลขที่เท่าไหร่ (บ้านเลขที่ต้องตรงกับเอกสารที่แฟนขอจากเขตนะคะ) แล้วก็ติดรูปถ่ายเรากะแฟนตอนพบกันที่ไทยค่ะ ไปกินข้าวกัน ไปเที่ยวกัน ติดไปแค่ 3-4 รูป (ล้างมาตั้งเยอะ) เจ้าหน้าที่ TLS บอกไม่อยากเอา แต่เราอยากให้ 555555 ก็นั่งติดตรงนั้นเลยค่ะ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่เลย จริงๆจะแนบไปทั้งซอง เขาบอกติดดีกว่า อ่ะ ติดก็ติด
พอเตรียมเอกสารเรียบร้อยแล้ว ยกเว้นสำเนาจองตั๋วเครื่องบินที่ต้องเตรียมก่อนวันยื่นนะคะ
เราก็เข้าเว็บไซต์ของ TLS contact เลยค่ะ
1.สมัครสมาชิก ยืนยันตัวตน
2.ล็อกอินกรอกใบสมัครให้เรียบร้อย แล้วปริ้นใบสมัครไว้ค่ะ
3.เช็คลิสตามรายการเอกสารที่เขาระบุในเว็บไซต์
4.ทำการนัดหมายค่ะ ถ้าเป็นตัวเทาๆ คลิกไม่ได้ แปลว่าคิวเต็มนะคะ ให้เลือกเวลาที่ยังว่างค่ะ (เราได้คิววันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 เลือกไป 8.30 หรือ 9.00 น. ไม่แน่ใจค่ะ)
5.ปริ๊นใบนัดไว้ค่ะ
6.ก่อนวันยื่นเอกสาร กดจองตั๋วเครื่องบินค่ะ ราคาเท่าไหร่ก็จองไปค่ะ เพราะเราไม่ได้จ่ายเงินจริงๆ
7.เตรียมเงินค่ะ ค่าวีซ่า 60ยูโร หรือ 2317 บาท ขึ้นอยู่กับค่าเงินช่วงเวลานั้นๆ ค่าบริการของ TLS 1119 บาท (เราจำผิด บอกแฟนไป 1600 อันนั้นเป็นบริการพรีเมี่ยมค่ะ)
8.ลางานเตรียมไปยื่นเอกสารค่ะ (เราไม่ได้ลา วันนั้นเรามีทำงานนอกสถานที่พอดีที่ม.เกษตร เลยแวะไปยื่นก่อน ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชม.แล้วตามไปสมทบกับทีมงานทีหลัง)
วันยื่นเอกสาร
1.เดินทางไปที่สำนักงาน TLS contact อาคารสาธรซิตี้ ลงสถานี BTS ช่องนนทรี โดยใช้ทางออกหมายเลข 5 แต่เราไปด้วย grab car (บ้านเราอยู่ลำลูกกา จ.ปทุมค่ะ ขึ้นทางด่วนไปรวมค่ารถ 495 บาท) แอบแพง แต่มันคนละซีกโลกอ่าเนอะ เวลาเร่งด่วนด้วย
2.แลกบัตร ตรงประชาสัมพันธ์ ข้างร้านกาแฟ คนจะมาต่อคิวแลกบัตรเยอะๆ (เราหาประชาสัมพันธ์ไม่เจอ เดินเลยไปอีกฝั่งนึง 55555 แกรบมาจอดให้อีกประตู ที่ไม่มีประชาสัมพันธ์)
3.เดินขึ้นบันไดเลื่อนแล้วเลี้ยวขวาผ่านประตูกั้นที่ชั้น 3 ใช้บัตรที่แลกมา แตะตรงทางเข้า (คล้ายๆทางเข้ารถไฟฟ้า)
4.รอลิฟต์ไปชั้น 12
5.ฝากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (ตอนเราไปถึง เขายังไม่เปิด เลยต้องเข้าคิวก่อนเพื่อฝากอุปกรณ์ค่ะ)
6.ยื่นพาสปอร์ตกับใบนัดที่โต๊ะด้านหน้า ของเราเวลานัดมันเป็นรอบ 2 ของวัน น่าจะ 8.30 หรือ 9.00 น. ไม่แน่ใจ เลยต้องรอให้รอบแรกเข้าไปก่อน เขาให้เรารออีก 9 นาทีค่ะ
7.ระหว่างรอเราก็มาเข้าคิวถ่ายรูปค่ะ ไม่มีเงินทอนนะคะ ใช้วิธีเสียบแบงค์กับตู้เอาค่ะ ตอนที่เราไปมี 2 คิวถ่ายรูปก่อนหน้าค่ะ เลยเดินไปแลกตังที่แคชเชียร์ด้านในก่อน ระหว่างถ่ายรูปคนก็เริ่มทยอยมากันเยอะขึ้นเรื่อยๆ พอถ่ายเสร็จก็ครบเวลาที่ต้องรอพอดี
8.ยื่นพาสปอร์ตกับใบนัดให้เจ้าหน้าที่ตรวจและกดคิวให้ค่ะ
9.เข้าไปนั่งรอด้านใน คอยมองจอว่าชื่อเราเรียกเข้าช่องไหน ทุกครั้งที่เรียกคิวใหม่จะมีเสียงกระดิ่ง ให้ดูที่จอค่ะ ช่องขอเชงเก้นมี 2 ช่อง ตรงกลางค่ะ ส่วนใหญ่จะขอของฝรั่งเศสกับสวิสประเทศเดียว ก็จะมีหลายช่องเลยค่ะ
10.เราถูกเรียกเข้าช่องขอเชงเก้นค่ะ ก็ยื่นเอกสารตามปกติให้เขาตรวจ
เจ้าหน้าที่เป็นผู้ชาย ก็ตรวจเอกสารแล้วก็ถามว่า แฟนชื่ออะไร ไปประเทศอะไร เมืองอะไร ไปทำอะไร แฟนเคยมาไทยไหม มาเมื่อไหร่
และเราลืมเอาสำเนาหนังสือรับรองที่พักมา (ในเช็คลิสเอกสารไม่แจ้งว่าเอาสำเนา แจ้งแต่ว่าฉบับจริง) แต่เจ้าหน้าที่ก็ไปถ่ายให้ หน้าละ 8 บาท ทั้งหมด 3 หน้าค่ะ
แล้วเราก็บอกว่าขอยื่นรูปถ่ายด้วยค่ะ เจ้าหน้าที่ถามว่าจะติดกี่รูป ก็ยื่นกระดาษเอ 4 ให้ 1 ใบ เราติดไป 3-4 รูปก็เต็มแผ่นค่ะ แค่นั้นพอ เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่อยากให้ยื่น มันเป็นความทรงจำของเรา (แต่เราล้างมาเพื่อการณ์นี้ตั้งหลายบาทนะยู เอาไปเหอะ)
แล้วเจ้าหน้าที่ก็แจ้งว่า เอกสารครบ ดีมาก เดี๋ยวเอาเอกสารนี้ไปจ่ายเงินที่ช่องโน้นนะครับ (เอกสารจะเป็นห่อๆสีน้ำเงิน มีใบปะหน้า)
11.ต่อคิวรอยื่นเอกสาร เพื่อจ่ายเงิน เขาก็เก็บใบปะหน้าไปแล้วเรียกเก็บเงินค่ะ พอจ่ายเรียบร้อย เขาก็ให้เราไปถ่ายรูปเก็บลายนิ้วมือที่ช่องถัดไป
12.รอคิวหน้าห้อง (อารมณ์คล้ายๆรอพบหมอ) พอมีชื่อเราขึ้นที่จอหน้าห้องว่าให้เข้าห้องไหน แต่เราดันเข้าผิดห้องจ้าาาา ไม่มีเจ้าหน้าที่เลย 5555555555 เลยเดินออกมาใหม่ แล้วเข้าอีกห้องนึง แล้วก็สารภาพว่า ไปผิดห้องมา นึกว่าให้เข้าห้องขวา ไม่รู้ว่าต้องเป็นห้องซ้าย ห้องมันเป็นแค่ผ้าม่านกั้นสีเขียวๆอ่ะยู เหมือนพบหมอแมะ
13.พอพบเจ้าหน้าที่เข้าก็ให้ถ่ายรูป รูปนี้แหละที่จะใช้ติดวีซ่า แล้วก็เก็บลายนิ้วมือทั้ง 10 นิ้วค่ะ
14.เสร็จเรียบร้อย รับโทรศัพท์ กลับบ้านได้ (เราก็ไปทำงานต่อ)
ทั้งหมดเราเสร็จในเวลา 9 โมงนิดๆค่ะ ไม่นานเลย
วันต่อมาก็มีอีเมลล์มาแจ้งจาก TLS ว่าได้รับเล่มคืนแล้ว เราก็รอไปรษณีย์มาส่ง มาถึงเราวันจันทร์โน่นแน่ะ ติดวันเสาร์ออฟฟิศไม่มีคนอยู่
แล้วเราก็ได้เชงเก้นวีซ่ามาครอบครอง 90 วัน วะฮ่ะฮ่า!!
ตอนแรกลุ้นมาก ว่าจะไม่ผ่าน เปิดหาหน้าที่เขาแปะวีซ่าไม่เจอ เขาคืนหนังสือรับรองที่พักจากเขตมาให้ด้วยนะคะ ติดแม็กมาให้หน้าสุดท้าย
แต่สุดท้ายก็เปิดเจอหน้าที่แปะวีซ่า พร้อมกับกระดาษเขียนคำแนะนำเมื่อไปถึงที่ฝรั่งเศสว่าควรทำตัวยังไงตอนผ่าน ตม.
ปล.ตม.งานดีมากมายก่ายกอง ดีตั้งแต่ลงเครื่องเหยียบย่างเข้าฝรั่งเศสเลยจ้าาาาา ตอนลงเครื่องเตรียมวีซ่าไว้เลยนะจ๊าาาา เข้าตรวจก่อนเข้าสนามบิน แล้วก็ตรวจอีกทีก่อนเข้ารับกระเป๋า