ประเด็นที่ ๕ ส.ศิวลักษ์ ตอบว่า ไม่รู้ว่าตัวเองมีความโกรธอยู่หรือไม่ ต้องเป็นพระอรหันต์ จึงรู้ ไม่จริง แค่ ปุถุชนคนธรรมดาก็รู้ว่า ตัวเองโกรธได้
แต่กลับไปบอกว่า หลวงตามหาบัว กับ หลวงพ่อพุทธทาส เทศน์ด้วยอารมณ์ โกรธ ตัวเองไม่รู้อารมณ์ตัวเอง แต่กลับรู้อารมณ์ของคนอื่น เป็นไปไม่ได้
ประเด็นที่ ๖ ส.ศิวลักษ์ ถามว่า ดร. เสถียร ว่า วัดธรรมกายสอนธรรมบริสุทธิ หรือ เปล่า ตอบว่า บ้างข้อก็ถูกต้องตามพระไตรปิฎก แต่บ้างข้อก็ไม่ถูกตามพระไตรปิฎก ซึ่งพระเถรสมาคม ก็ได้ลงมติไปแล้วว่า อะไรบ้างที่วัดธรรมกายสอนผิด และให้แนวทางแก้ไขไปแล้ว ส่วนอาจจะยังแก้ไขยังไม่ครบก็ต้องดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า วัดทุกวันในประเทศไทยจะ สอนผิดเหมือนวัดธรรมกาย ทั้งหมด ต้องแยกและแก้ไขเป็นเคช ๆ ไป อาตมาก็อยากถามกลับ ว่า แล้ว สมณะโพธิรักษ์ สอน บริสุทธิหรือไม่ ที่พูดอุตตริมนุสสธรรมว่าเป็นพระอริยะ และบอกว่าเป็นพระสารีบุตรกลับชาติมาเกิด ซึ่งพระสารีบุตร ท่านเป็นพระอรหันต์ ไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว ส.ศิวลักษ์ ประกาศตนเป็น กัลยาณมิตร กับ สมณโพธิรักษ์ พร้อมทั้ง สนับสนุน ให้จัดตั้งพรรค ชื่อพรรคการเมืองใหม่ โดยที่สมณโพธิรักษ์อาจว่าได้รับบัญชาจากฟ้า คือ เง็กเซียนฮ่องเต้ ให้มาทำการเมืองที่เป็น อริยะ หลังจากตั้ง พรรคพลังธรรม มาแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ ยังคุยว่าต่อไป สมณโพธิรักษ์ จะมาแทน สงฆ์ส่วนหลัก ประเด็นนี้ทำให้ ส.ศิวลักษ์ หมดความชอบธรรมที่จะมาพูดเรื่อง การปฎิรูปพระพุทธศาสนา ไปเลย
ประเด็นที่ ๗ เห็นด้วยกับพุทธอิสร กับการนำสังฆทานที่มีของต่ำไปถวายสมเด็จพระมหารัชมงคาจารย์ และเห็นว่าเป็นความฉลาด คำถามแรก คำว่า พุทธอิสระ ที่ พระสุวิทย์ ถิรธมฺโม ใช้นั้น พุทธ แปลว่า ผู้รู้แล้ว ,พระพุทธเจ้า + ก้บ คำว่า อิสฺสร แปลว่า ผู้เป็นใหญ่,ผู้ปกครอง,เจ้านาย,พระอิศวร อิสฺสตีติ อิสฺสโร รวมกันเป็น พุทธอิสฺสโร ภิกขุ แปลว่า ภิกษุผู้เป็นใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า การที่พระเทศน์จบแล้วโยมถวายโดยความเต็มใจแล้วพระรับ กับ พระสุวิทย์ไปในที่อโคจร(โรงแรม)และยังเรียกรับเงินโดยที่เขาน่าจะไม่ได้เต็มใจถวาย พระรูปนี้ควรเรียก อลัชชี หรือไม่ ส.ศิวลักษ์ เสว หรือ คบหา สมณโพธิรักษ์ ลัทธิที่บัญญัติเพิ่มจากพุทธพจน์ ว่า ผู้กินเนื้อ ปลา เป็นบาป ซึ่งเป็นข้อที่พระเทวทัต ถูลขอพระพุทธเจ้า จนนำไปสู่กันทำ สังฆเภท คือทำสงฆ์ให้แตกกัน เป็นกรรมหนักที่สุด เรียกว่าอนันตริยกรรม และคบพระสุวิทย์ที่ใช้ชือใหญ่กว่า พระพุทธเจ้าเสียอีก แถมยังประกาศตนว่าไม่มีศาสนา อย่างนี้อย่าว่าแต่ จะมาพูดปฏิรูปพระพุทธศาสนาเลย ไม่ควรแม้แต่จะเรียกว่า อุบาสกด้วยซ้ำ
พราหมณ์ชนปราชญ์ 2
ประเด็นที่ ๕ ส.ศิวลักษ์ ตอบว่า ไม่รู้ว่าตัวเองมีความโกรธอยู่หรือไม่ ต้องเป็นพระอรหันต์ จึงรู้ ไม่จริง แค่ ปุถุชนคนธรรมดาก็รู้ว่า ตัวเองโกรธได้
แต่กลับไปบอกว่า หลวงตามหาบัว กับ หลวงพ่อพุทธทาส เทศน์ด้วยอารมณ์ โกรธ ตัวเองไม่รู้อารมณ์ตัวเอง แต่กลับรู้อารมณ์ของคนอื่น เป็นไปไม่ได้
ประเด็นที่ ๖ ส.ศิวลักษ์ ถามว่า ดร. เสถียร ว่า วัดธรรมกายสอนธรรมบริสุทธิ หรือ เปล่า ตอบว่า บ้างข้อก็ถูกต้องตามพระไตรปิฎก แต่บ้างข้อก็ไม่ถูกตามพระไตรปิฎก ซึ่งพระเถรสมาคม ก็ได้ลงมติไปแล้วว่า อะไรบ้างที่วัดธรรมกายสอนผิด และให้แนวทางแก้ไขไปแล้ว ส่วนอาจจะยังแก้ไขยังไม่ครบก็ต้องดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่า วัดทุกวันในประเทศไทยจะ สอนผิดเหมือนวัดธรรมกาย ทั้งหมด ต้องแยกและแก้ไขเป็นเคช ๆ ไป อาตมาก็อยากถามกลับ ว่า แล้ว สมณะโพธิรักษ์ สอน บริสุทธิหรือไม่ ที่พูดอุตตริมนุสสธรรมว่าเป็นพระอริยะ และบอกว่าเป็นพระสารีบุตรกลับชาติมาเกิด ซึ่งพระสารีบุตร ท่านเป็นพระอรหันต์ ไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว ส.ศิวลักษ์ ประกาศตนเป็น กัลยาณมิตร กับ สมณโพธิรักษ์ พร้อมทั้ง สนับสนุน ให้จัดตั้งพรรค ชื่อพรรคการเมืองใหม่ โดยที่สมณโพธิรักษ์อาจว่าได้รับบัญชาจากฟ้า คือ เง็กเซียนฮ่องเต้ ให้มาทำการเมืองที่เป็น อริยะ หลังจากตั้ง พรรคพลังธรรม มาแล้วแต่ยังไม่สำเร็จ ยังคุยว่าต่อไป สมณโพธิรักษ์ จะมาแทน สงฆ์ส่วนหลัก ประเด็นนี้ทำให้ ส.ศิวลักษ์ หมดความชอบธรรมที่จะมาพูดเรื่อง การปฎิรูปพระพุทธศาสนา ไปเลย
ประเด็นที่ ๗ เห็นด้วยกับพุทธอิสร กับการนำสังฆทานที่มีของต่ำไปถวายสมเด็จพระมหารัชมงคาจารย์ และเห็นว่าเป็นความฉลาด คำถามแรก คำว่า พุทธอิสระ ที่ พระสุวิทย์ ถิรธมฺโม ใช้นั้น พุทธ แปลว่า ผู้รู้แล้ว ,พระพุทธเจ้า + ก้บ คำว่า อิสฺสร แปลว่า ผู้เป็นใหญ่,ผู้ปกครอง,เจ้านาย,พระอิศวร อิสฺสตีติ อิสฺสโร รวมกันเป็น พุทธอิสฺสโร ภิกขุ แปลว่า ภิกษุผู้เป็นใหญ่กว่าพระพุทธเจ้า การที่พระเทศน์จบแล้วโยมถวายโดยความเต็มใจแล้วพระรับ กับ พระสุวิทย์ไปในที่อโคจร(โรงแรม)และยังเรียกรับเงินโดยที่เขาน่าจะไม่ได้เต็มใจถวาย พระรูปนี้ควรเรียก อลัชชี หรือไม่ ส.ศิวลักษ์ เสว หรือ คบหา สมณโพธิรักษ์ ลัทธิที่บัญญัติเพิ่มจากพุทธพจน์ ว่า ผู้กินเนื้อ ปลา เป็นบาป ซึ่งเป็นข้อที่พระเทวทัต ถูลขอพระพุทธเจ้า จนนำไปสู่กันทำ สังฆเภท คือทำสงฆ์ให้แตกกัน เป็นกรรมหนักที่สุด เรียกว่าอนันตริยกรรม และคบพระสุวิทย์ที่ใช้ชือใหญ่กว่า พระพุทธเจ้าเสียอีก แถมยังประกาศตนว่าไม่มีศาสนา อย่างนี้อย่าว่าแต่ จะมาพูดปฏิรูปพระพุทธศาสนาเลย ไม่ควรแม้แต่จะเรียกว่า อุบาสกด้วยซ้ำ