ต่อจากตอนก่อนที่พวกพระเอก น้องประธานชมรม กับคนน้องไปเยี่ยมอ.คิริยะถึงบ้านด้วยกัน แล้วปรากฏว่ามีสาวแว่นหน้าตาสวยลงมารับ (มีแอบเปิดเผยความลับนิดหน่อยว่าคนน้องได้ที่อยู่อาจารย์มาได้ไง...ก็ไปหักคอเอากันแฟนเก่าพี่สาวมานั่นแหละ
)
คุยกันสักพัก สาวแว่นก็เชิญพวกพระเอกขึ้นมารอในห้องอาจารย์ บอกว่าอาจารย์กำลังทำงานอยู่ ซักพักคงออกมา ระหว่างนั่งรอ พระเอกกับคนน้องก็แอบเม้าธ์กันสองคนว่าสาวแว่นคนนั้นเป็นใครมีความสัมพันธ์ยังไงกับอาจารย์ ส่วนน้องประธานชมรมได้แต่นั่งหน้าเครียดตัวเกร็งตลอดรายการ
ผ่านไปซักพัก อาจารย์ก็เดินสโลเสลออกมาจากห้อง หน้าตาซีดเซียวเหมือนเพิ่งทำงานหนักมา ออกมาเสร็จก็เดินไปยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลซองใหญ่ส่งให้สาวแว่นพร้อมขอโทษที่ส่งงานให้สาย สาวแว่นก็บอกขอบคุณแล้วก็ขอตัวออกจากห้องไปดื้อๆ ทำเอาพวกพระเอกงงเป็นไก่ตาแตกว่านี่มันอะไรกัน
หลังสาวแว่นออกไปแล้ว พวกพระเอกก็มานั่งคุยกับอาจารย์เรื่องที่อาจารย์โดนพักสอนแบบไม่ยุติธรรม ทั้งๆ ที่คนก่อเรื่องคือยัยหัวทองแท้ๆ ทำไมอาจารย์ถึงโดนลงโทษอยู่คนเดียว อาจารย์ก็บอกว่าเข้าใจอยู่ว่าพวกพระเอกอยากพูดอะไร แต่เด็กคนนั้นถ้ายังเรียนอยู่ตอนนี้ก็น่าจะอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของชีวิต หากโดนลงโทษตอนนี้ก็อาจลำบากในอนาคตได้ แล้วถามพวกพระเอกกลับว่าครูเองก็ลงโทษเด็กคนนั้นในแบบของครูต่อหน้าทุกคนไปแล้ว ยังไม่พออีกเหรอ ครูคิดว่าโดนคนที่เกลียดมาตลอดตบล้างน้ำต่อหน้าธารกำนัลแบบนั้น สำหรับเด็กคนนั้นก็ถือเป็นบทลงโทษที่เจ็บแสบที่สุดแล้ว ที่สำคัญ ตอนพาตัวกลับไปส่งบ้าน เด็กคนนั้นก็ยอมขอโทษทีหลังด้วย เพราะงั้นก็ถือว่าน่าจะสำนึกผิดบ้างแล้วล่ะ พวกพระเอกได้ฟังดังนั้นก็ได้แต่เงียบพูดอะไรไม่ออก
คุยเรื่องโดนพักสอนจบก็มาคุยกันเรื่องอื่นต่อ โดยอาจารย์เล่าว่านอกจากเป็นครูสอนม.ปลายแล้ว ตัวเองยังทำงานเป็นนักเขียนนิยายอยู่ด้วย ทำเอาพวกพระเอกถึงกับอึ้งกิมกี่เพราะนึกไม่ถึง (อนึ่ง สาวแว่นผมดำที่โผล่มาตอนแรกคนนั้นเป็นคนทวงต้นฉบับครับ ไม่ใช่เมียหรือแฟนอาจารย์อย่างที่เก็งไว้อาทิตย์ก่อน) คุยไปคุยมา อาจารย์ก็แนะนำพวกพระเอกว่าลองส่งเรื่องที่เขียนลงนิตยสารทำมือไปชิงรางวัลดูมั้ย ตอนนี้นิตยสารที่อาจารย์เขียนนิยายลงอยู่กำลังจะเปิดรับเรื่องสำหรับชิงรางวัลนักเขียนหน้าใหม่ ถ้าได้รางวัลก็เท่ากับปูทางสู่การเป็นนักเขียนมืออาชีพได้ หรือถึงไม่คิดจะเป็นนักเขียนอาชีพก็ยังเอาไปลงโปรไฟล์ตอนเรียนต่อหรือสมัครงานก็ได้ พระเอกได้ยินดังนั้นก็ตาลุกบอกทันทีว่าจะส่งประกวดแน่
ตัดฉากมาอีกวันหนึ่ง พระเอกกับคนน้องเพิ่งมาถึงโรงเรียนด้วยกันในตอนเช้า ระหว่างนั้นก็เดินมาเจอน้องประธานชมรมที่เพิ่งมาถึงโรงเรียนเหมือนกัน ก็เลยได้คุยกัน คุยไปคุยมาก็เลยได้รู้ว่าที่พระเอกกับยัยเอ๋อไปเจออาจารย์กับน้องประธานในร้านกาแฟวันนั้น (เหตุการณ์ในตอน 38) จริงๆ คือแค่คุยกันเรื่องยัยหัวทองเขียนด่าอาจารย์แค่นั้นเอง ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น (น้องประธานบอกว่าเป็นห่วงอาจารย์เรื่องโดนคนเขียนด่า อาจารย์ไม่รู้ว่าน้องประธานแอบชอบตัวเองอยู่ก็ตอบไปหน้าตาเฉยว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับน้องประธาน อย่าใส่ใจเลย น้องประธานก็เลยเสียใจที่โดนอาจารย์พูดใส่แบบนั้น เลยลุกขึ้นวิ่งหนีไปทั้งน้ำตา พวกพระเอกมาเห็นเข้าก็เลยเข้าใจผิดไปว่าอาจารย์กับน้องประธานคบเป็นแฟนกัน)
น้องประธานพอรู้ว่าพระเอกเข้าใจผิดเรื่องนั้นก็อายหน้าแดง พระเอกนึกสนุกเลยแกล้งแหย่ต่อเรื่องตอนไปบ้านอาจารย์แล้วเจอสาวแว่นคนทวงต้นฉบับว่า ดีจังนะที่เค้าไม่ใช่แฟนอาจารย์ น้องประธานเลยยิ่งอายใหญ่ ถองใส่สีข้างพระเอกเข้าเต็มรักแก้เขิน พระเอกโดนถองไม่ทันตั้งตัวก็เสียหลัก กลิ้งตกบันไดปึงๆๆ ผลคือขาเดาะต้องเข้าเฝือกไปข้างหนึ่ง
ไปโรงบาลให้หมอเข้าเฝือกเสร็จ พระเอกก็กลับมาพักฟื้นที่บ้านโดยมีคนน้องคอยดูแล ฝ่ายคนพี่รู้เรื่องพระเอกขาเดาะต้องเข้าเฝือกก็ตาลีตาลานกลับบ้านมาดูว่าพระเอกเป็นอะไรมากหรือเปล่า พระเอกต้องค่อยๆ ปลอบว่าไม่เป็นไรจริงๆ คนพี่ถึงค่อยสงบใจได้ พระเอกก็ขอโทษคนพี่ว่าขาเป็นแบบนี้คงต้องอยู่บ้านไปหาถึงอพาร์ทเมนท์ไม่ได้สักพัก คนพี่ก็ฝืนยิ้มบอกว่าไม่ได้เจอกันถึงจะเหงาบ้าง แต่ยังไงให้พระเอกพักรักษาตัวก็สำคัญกว่า ดังนั้นเธอจะอดทนจนกว่าพระเอกจะหาย (มีบอกด้วยว่าระหว่างนั้นก็ถ่ายรูปส่งเมล์มาให้หายคิดถึงบ้างนะ)
หลังคนพี่กลับไป คนน้องก็ยกข้าวเย็นมาให้พระเอกกินถึงห้อง วางเสร็จก็นั่งจ้องพระเอกอยู่แบบนั้นไม่ยอมออกไป พระเอกต้องบอกว่านั่งจ้องแบบนั้นชั้นกินลำบากนะ คนน้องเลยแกล้งเอนตัวลงนอนทับขาข้างที่เข้าเฝือกของพระเอก พระเอกเลยโวยลั่นว่าทำแบบนี้ได้ไง
แต่คนน้องไม่สน กลับมองพระเอกด้วยสายตาโหยหาแล้วบอกว่าจริงๆ ชั้นดีใจนะที่นายขาเดาะต้องอยู่บ้านตลอดแบบนี้ พระเอกก็โวยว่าดีที่ไหนกัน แต่ยังไม่ทันโวยจบ ก็เกิดเหตุการณ์ในภาพข้างล่างขึ้นซะก่อน
พระเอกช็อคตาค้าง คนน้องก็พูดแบบงอนๆ ว่าหมู่นี้พระเอกเอาแต่ไปกินข้าวร้านเพื่อนสนิทเกือบตลอด แทบไม่ยอมอยู่กินข้าวเย็นที่บ้านเลย (คิดว่าเพราะอยากหลบหน้าคนน้องนั่นแหละ) แต่ขาเดาะแบบนี้คงไปไหนไม่ได้สักพักใช่มั้ยล่ะ
ว่าถึงตรงนี้ คนน้องก็เอนตัวลงนอนข้างตัวพระเอก แล้วพูดด้วยรอยยิ้มหวานหยดว่า เชื่อมือได้เลย จากนี้ไปชั้นจะพยาบาลนายอย่างดีไม่ให้นายต้องเบื่อเลยซักวัน
ก็เป็นอันจบเนื้อเรื่องดราม่าสั้นๆ ของอาจารย์กับน้องประธานชมรมแล้วแฮะ
ว่าแต่เห็นสองหน้าสุดท้ายของตอนนี้แล้วคาดว่าทีมคนน้องทั้งหลายคงจิ้นกันกระจายแน่ๆ ว่าตอนหน้าจะมีฉากหวานๆ ระหว่างพระเอกกับคนน้องให้ได้เห็นกันมั้ย
ส่วนผม...จะพี่ จะน้อง จะยัยเอ๋อ หรือคนไหนก็รอดูโลดครับ
อนึ่ง ชอบสาวแว่นคนทวงต้นฉบับแฮะ อยากให้มีบทอีกจังเลยน้า
[Spoil] Domestic na Kanojo #42 - ความลับของอ.คิริยะ
คุยกันสักพัก สาวแว่นก็เชิญพวกพระเอกขึ้นมารอในห้องอาจารย์ บอกว่าอาจารย์กำลังทำงานอยู่ ซักพักคงออกมา ระหว่างนั่งรอ พระเอกกับคนน้องก็แอบเม้าธ์กันสองคนว่าสาวแว่นคนนั้นเป็นใครมีความสัมพันธ์ยังไงกับอาจารย์ ส่วนน้องประธานชมรมได้แต่นั่งหน้าเครียดตัวเกร็งตลอดรายการ
ผ่านไปซักพัก อาจารย์ก็เดินสโลเสลออกมาจากห้อง หน้าตาซีดเซียวเหมือนเพิ่งทำงานหนักมา ออกมาเสร็จก็เดินไปยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลซองใหญ่ส่งให้สาวแว่นพร้อมขอโทษที่ส่งงานให้สาย สาวแว่นก็บอกขอบคุณแล้วก็ขอตัวออกจากห้องไปดื้อๆ ทำเอาพวกพระเอกงงเป็นไก่ตาแตกว่านี่มันอะไรกัน
หลังสาวแว่นออกไปแล้ว พวกพระเอกก็มานั่งคุยกับอาจารย์เรื่องที่อาจารย์โดนพักสอนแบบไม่ยุติธรรม ทั้งๆ ที่คนก่อเรื่องคือยัยหัวทองแท้ๆ ทำไมอาจารย์ถึงโดนลงโทษอยู่คนเดียว อาจารย์ก็บอกว่าเข้าใจอยู่ว่าพวกพระเอกอยากพูดอะไร แต่เด็กคนนั้นถ้ายังเรียนอยู่ตอนนี้ก็น่าจะอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญของชีวิต หากโดนลงโทษตอนนี้ก็อาจลำบากในอนาคตได้ แล้วถามพวกพระเอกกลับว่าครูเองก็ลงโทษเด็กคนนั้นในแบบของครูต่อหน้าทุกคนไปแล้ว ยังไม่พออีกเหรอ ครูคิดว่าโดนคนที่เกลียดมาตลอดตบล้างน้ำต่อหน้าธารกำนัลแบบนั้น สำหรับเด็กคนนั้นก็ถือเป็นบทลงโทษที่เจ็บแสบที่สุดแล้ว ที่สำคัญ ตอนพาตัวกลับไปส่งบ้าน เด็กคนนั้นก็ยอมขอโทษทีหลังด้วย เพราะงั้นก็ถือว่าน่าจะสำนึกผิดบ้างแล้วล่ะ พวกพระเอกได้ฟังดังนั้นก็ได้แต่เงียบพูดอะไรไม่ออก
คุยเรื่องโดนพักสอนจบก็มาคุยกันเรื่องอื่นต่อ โดยอาจารย์เล่าว่านอกจากเป็นครูสอนม.ปลายแล้ว ตัวเองยังทำงานเป็นนักเขียนนิยายอยู่ด้วย ทำเอาพวกพระเอกถึงกับอึ้งกิมกี่เพราะนึกไม่ถึง (อนึ่ง สาวแว่นผมดำที่โผล่มาตอนแรกคนนั้นเป็นคนทวงต้นฉบับครับ ไม่ใช่เมียหรือแฟนอาจารย์อย่างที่เก็งไว้อาทิตย์ก่อน) คุยไปคุยมา อาจารย์ก็แนะนำพวกพระเอกว่าลองส่งเรื่องที่เขียนลงนิตยสารทำมือไปชิงรางวัลดูมั้ย ตอนนี้นิตยสารที่อาจารย์เขียนนิยายลงอยู่กำลังจะเปิดรับเรื่องสำหรับชิงรางวัลนักเขียนหน้าใหม่ ถ้าได้รางวัลก็เท่ากับปูทางสู่การเป็นนักเขียนมืออาชีพได้ หรือถึงไม่คิดจะเป็นนักเขียนอาชีพก็ยังเอาไปลงโปรไฟล์ตอนเรียนต่อหรือสมัครงานก็ได้ พระเอกได้ยินดังนั้นก็ตาลุกบอกทันทีว่าจะส่งประกวดแน่
ตัดฉากมาอีกวันหนึ่ง พระเอกกับคนน้องเพิ่งมาถึงโรงเรียนด้วยกันในตอนเช้า ระหว่างนั้นก็เดินมาเจอน้องประธานชมรมที่เพิ่งมาถึงโรงเรียนเหมือนกัน ก็เลยได้คุยกัน คุยไปคุยมาก็เลยได้รู้ว่าที่พระเอกกับยัยเอ๋อไปเจออาจารย์กับน้องประธานในร้านกาแฟวันนั้น (เหตุการณ์ในตอน 38) จริงๆ คือแค่คุยกันเรื่องยัยหัวทองเขียนด่าอาจารย์แค่นั้นเอง ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น (น้องประธานบอกว่าเป็นห่วงอาจารย์เรื่องโดนคนเขียนด่า อาจารย์ไม่รู้ว่าน้องประธานแอบชอบตัวเองอยู่ก็ตอบไปหน้าตาเฉยว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับน้องประธาน อย่าใส่ใจเลย น้องประธานก็เลยเสียใจที่โดนอาจารย์พูดใส่แบบนั้น เลยลุกขึ้นวิ่งหนีไปทั้งน้ำตา พวกพระเอกมาเห็นเข้าก็เลยเข้าใจผิดไปว่าอาจารย์กับน้องประธานคบเป็นแฟนกัน)
น้องประธานพอรู้ว่าพระเอกเข้าใจผิดเรื่องนั้นก็อายหน้าแดง พระเอกนึกสนุกเลยแกล้งแหย่ต่อเรื่องตอนไปบ้านอาจารย์แล้วเจอสาวแว่นคนทวงต้นฉบับว่า ดีจังนะที่เค้าไม่ใช่แฟนอาจารย์ น้องประธานเลยยิ่งอายใหญ่ ถองใส่สีข้างพระเอกเข้าเต็มรักแก้เขิน พระเอกโดนถองไม่ทันตั้งตัวก็เสียหลัก กลิ้งตกบันไดปึงๆๆ ผลคือขาเดาะต้องเข้าเฝือกไปข้างหนึ่ง
ไปโรงบาลให้หมอเข้าเฝือกเสร็จ พระเอกก็กลับมาพักฟื้นที่บ้านโดยมีคนน้องคอยดูแล ฝ่ายคนพี่รู้เรื่องพระเอกขาเดาะต้องเข้าเฝือกก็ตาลีตาลานกลับบ้านมาดูว่าพระเอกเป็นอะไรมากหรือเปล่า พระเอกต้องค่อยๆ ปลอบว่าไม่เป็นไรจริงๆ คนพี่ถึงค่อยสงบใจได้ พระเอกก็ขอโทษคนพี่ว่าขาเป็นแบบนี้คงต้องอยู่บ้านไปหาถึงอพาร์ทเมนท์ไม่ได้สักพัก คนพี่ก็ฝืนยิ้มบอกว่าไม่ได้เจอกันถึงจะเหงาบ้าง แต่ยังไงให้พระเอกพักรักษาตัวก็สำคัญกว่า ดังนั้นเธอจะอดทนจนกว่าพระเอกจะหาย (มีบอกด้วยว่าระหว่างนั้นก็ถ่ายรูปส่งเมล์มาให้หายคิดถึงบ้างนะ)
หลังคนพี่กลับไป คนน้องก็ยกข้าวเย็นมาให้พระเอกกินถึงห้อง วางเสร็จก็นั่งจ้องพระเอกอยู่แบบนั้นไม่ยอมออกไป พระเอกต้องบอกว่านั่งจ้องแบบนั้นชั้นกินลำบากนะ คนน้องเลยแกล้งเอนตัวลงนอนทับขาข้างที่เข้าเฝือกของพระเอก พระเอกเลยโวยลั่นว่าทำแบบนี้ได้ไง
แต่คนน้องไม่สน กลับมองพระเอกด้วยสายตาโหยหาแล้วบอกว่าจริงๆ ชั้นดีใจนะที่นายขาเดาะต้องอยู่บ้านตลอดแบบนี้ พระเอกก็โวยว่าดีที่ไหนกัน แต่ยังไม่ทันโวยจบ ก็เกิดเหตุการณ์ในภาพข้างล่างขึ้นซะก่อน
พระเอกช็อคตาค้าง คนน้องก็พูดแบบงอนๆ ว่าหมู่นี้พระเอกเอาแต่ไปกินข้าวร้านเพื่อนสนิทเกือบตลอด แทบไม่ยอมอยู่กินข้าวเย็นที่บ้านเลย (คิดว่าเพราะอยากหลบหน้าคนน้องนั่นแหละ) แต่ขาเดาะแบบนี้คงไปไหนไม่ได้สักพักใช่มั้ยล่ะ
ว่าถึงตรงนี้ คนน้องก็เอนตัวลงนอนข้างตัวพระเอก แล้วพูดด้วยรอยยิ้มหวานหยดว่า เชื่อมือได้เลย จากนี้ไปชั้นจะพยาบาลนายอย่างดีไม่ให้นายต้องเบื่อเลยซักวัน
ก็เป็นอันจบเนื้อเรื่องดราม่าสั้นๆ ของอาจารย์กับน้องประธานชมรมแล้วแฮะ
ว่าแต่เห็นสองหน้าสุดท้ายของตอนนี้แล้วคาดว่าทีมคนน้องทั้งหลายคงจิ้นกันกระจายแน่ๆ ว่าตอนหน้าจะมีฉากหวานๆ ระหว่างพระเอกกับคนน้องให้ได้เห็นกันมั้ย
ส่วนผม...จะพี่ จะน้อง จะยัยเอ๋อ หรือคนไหนก็รอดูโลดครับ
อนึ่ง ชอบสาวแว่นคนทวงต้นฉบับแฮะ อยากให้มีบทอีกจังเลยน้า