การชงชาเพื่อให้ได้กลิ่นหอมของชามากที่สุด ควรใช้วิธิการใดคะ

กระทู้คำถาม
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ทำชานมเย็นตามสูตรกระทู้แนะนำที่ใช้ชา 3 อย่างผสมเข้าด้วยกัน แล้วเอาไปให้เพื่อนที่ทำงานชิม พวกนางบอกอร่อยจ้า

ญาเองก็ว่าอร่อยนะคะ แต่คิดว่าความหอมของชามันน่าจะมากกว่านี้ วิธีชงก็ลอกตามกระทู้เลยค่ะ คือเทไปเทมาเหมือนทำชาชัก แต่ก็เมื่อยชะมัดเลย

ถึงกระนั้นแล้วอยากจะรับออร์เดอร์จากที่ทำงานเพิ่ม ก็เลยอยากสอบถามว่าถ้าต้มชาไว้สักพักแล้วเอามากรองเลยมันน่าจะหอมและรสชาดเข้มข้นกว่า

วิธีที่ทำอยู่ มีใครเลยลองบ้างมั้ยคะ

หมายเหตุ : สังเกตกันมั้ยคะร้านชาดำเย็นที่ต้มเป็นหม้อ ๆ แล้วเทขายจะหอมอร่อยกว่าแบบชงสด
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
องค์ประกอบในด้านความอร่อยของชา เกี่ยวข้องกับหลายๆเรื่องมากค่ะ

สายพันธุ์ชา var. sinensis, var. assamica , var. Indo-China

ความสดใหม่ของชา // ใบอ่อน - ใบแก่

ชนิดของชา (เกี่ยวกับรูปแบบการผลิต การนวด การหมัก) White Tea, Green Tea, Chinese Tea (Oolong Tea),
Red Tea or Blcak Tea, Herb+Tea, Fruit or Flower+Tea (Ex. Earl Grey Tea)

อุณหภูมิของน้ำ จำไม่ได้แล้วค่ะว่าเท่าไร แต่บางชนิดแค่ 80 องศาเซลเซียส บางชนิด 100 องซาเซลเซียส

สภาพแวดล้อมอื่นๆ ขณะดื่ม

ถ้วยชา ก็สำคัญค่ะ

---------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนการชง

ถ้าเป็นชาใบ ใส่กาน้ำชาจะดีที่สุดค่ะ เพราะจะมีไส้กรอง ใช้วิธีเทน้ำร้อนผ่านใบชาให้ชาสะดุ้งแล้วเททิ้ง ก่อนจะแช่ชา 15-20 นาทีค่ะ
จำนวนใบไม่ควรเกิน 3-5 ใบต่อน้ำหนึ่งแก้วค่ะ ถ้าชงจำนวนเยอะขึ้นก็ปรับเปลี่ยนตามปริมาณน้ำ และ ระยะเวลาในการแช่ค่ะ

ชาที่แช่ค้างนาน สารแทนนินจะออกมามากขึ้น บางท่านอาจชอบเพราะหอมขึ้น แต่รสชาติของชาจะเปลี่ยนเป็นขมขึ้นและฝาดขึ้นค่ะ

ถ้าเป็นชาซอง กดน้ำรอนลงแก้วก่อน วอมโดยการจุ่มถุงแล้วยก จากนั้นเทน้ำทิ้งเหมือนกันค่ะ แล้วค่อยแช่ชา 5-10 นาที

กรณีชาดำ และชาแดง(ชาจีน สายพันธุ์ Assam) ความหอม ความเข้มข้นจะแตกต่างไปจากการสะดุ้งชาและระยะเวลาในการแช่ค่ะ
(เพราะชาสองอย่างนี้ผ่านกระบวนการหมักในขั้นตอนการผลิตค่ะ)

แต่ถ้าเป็นชาเขียวเหมือนจะใส่ตรงๆ แล้วเทน้ำร้อนลงไปเลยจะหอมกว่าค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่