พิเชษฐ จวก รัฐบาลไม่สำเหนียก รีดภาษีที่ดิน- บ้านพัก
พิเชษฐ ค้าน เก็บภาษีที่ดิน-บ้านพักประชาชนเดือดร้อน จวก รัฐบาลไม่สำเหนียก เพราะมาจากการรัฐประหาร เตือน นายกฯถอยก่อนก้าวพลาด
วันนี้ (9 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต รมช.คลัง และอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตลอดมา เมื่อมีหน้าที่รับผิดชอบการจัดภาษีที่กระทรวงการคลัง เพราะภาระภาษีจะถูกผลักสู่ประชาชนทุกระดับชั้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม จนเป็นความเดือดร้อนของประชาชนทุกหย่อมหญ้า จึงขอฝากเพื่อพิจารณา คือ
1.คนชั้นกลางที่สะสมเงินไว้จนซื้อบ้านหลังเล็กๆ วันนี้ถูกประเมินว่าเกิน 1 ล้านบาท ต้องเสียภาษี ส่วนคนที่เช่าบ้านเขาอยู่ หากบ้านที่เช่าต้องเสียภาษี ผู้เช่าต้องกระทบจากค่าเช่าหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นคือ ภาระภาษีถูกผลักจากเจ้าบ้านไปยังผู้เช่า
2.คอนโดมีเนียม อพาร์ทเม้น หรือหอพักต่างๆเมื่อเจ้าของมีภาระต้องเสียค่าภาษีทรัพย์สินหรือภาษีโรงเรือนเพิ่มขึ้น จะมีการเพิ่มค่าเช่าจากผู้เช่าหรือไม่
3.ผู้เช่าสถานที่ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ ดีพาร์ทเม้นสโตร์ หรือศูนย์การค้า จะถูกเพิ่มค่าเช่า สถานที่จากผู้ให้เช่า ทำให้ต้องผลักภาระภาษีไปในราคาสินค้าสู่ผู้บริโภค
4.โรงงานทุกแห่งถูกขึ้นภาษีโรงเรือนในตัวโรงงานและเครื่องจักร จึงผลักภาระภาษีไปสู่ลูกค้า ลูกค้าช่วงผลักภาระภาษีไปในราคาสินค้าสู่ผู้บริโภคทั่วไป
5.ตึกแถวริมถนนทุกแห่ง ล้วนมีราคาเกิน1ล้านบาท ต่อไปต้องเสียภาษีทั้งหมด ทั้งเจ้าของ หรือผู้เช่า ทั้งที่ใช้เพื่ออยู่อาศัย หรือเพื่อการค้า
6.ที่ดินสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หรือทรัพย์สินส่วนพระองค์ทั้งสิ้น ต้องเสียภาษีหรือไม่ หากต้องเสีย จะมหาศาลขนาดไหน หากไม่ต้องเสีย ต้องออกกฎหมายยกเว้นให้ใหม่ หรือหากออกกฎหมายยกเว้นจะถูกขบวนการที่ไม่หวังดีต่อสถาบันยกขึ้นกล่าวร้ายอย่างกว้างขวางหรือไม่
และ 7.ในฐานะรัฐมนตรีผู้เคยรับผิดชอบในเรื่องการจัดเก็บภาษีนั้น ได้บัญชาให้ระงับความคิดเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในรูปแบบนี้ไว้ แม้ขณะนั้นเป็นยามที่ประเทศชาติกำลังมีวิกฤตสาหัสจากวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่ที่ผ่านมาพรรคปชป.พ้นวิกฤตดังกล่าว จากความคิดเรื่องภาษีที่ดินนี้ได้อย่างหวุดหวิด กลายเป็นภาระแก่รัฐบาลปัจจุบันที่หยิบยกขึ้นมาอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เขาคงไม่สำเหนียกนัก เพราะเขาเป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ไม่ต้องอาศัยการเลือกตั้ง
นายพิเชษฐ ยังระบุว่า มีหลักอยู่ว่า เศรษฐีหรือราชาที่ดินจะไม่หวั่นไหวกับภาระภาษี เพราะเขามีกำลังที่จะรับได้ และมีช่องทางที่จะถ่ายทอดผลักภาระต่อไปได้ แต่คนชั้นกลางจะเป็นผู้รับภาระภาษีล้วนๆ เพราะเป็นปลายทางทีไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
... ถอยเถอะท่านนายกฯ พลาดไปแล้ว ผู้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็อาจก้าวพลาดในเรื่องเช่นนี้บ่อยๆ แต่ผู้ฉลาดย่อมรู้ที่จะหาทางออกเสีย มิฉะนั้น วันหนึ่งเมื่อรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตยมาถึง เขายกเลิกกฎหมายของท่านแน่ และท่านในฐานะส่วนตัวจะเสียหายจากเรื่องนี้ไปอีกนาน...
ตกใจแรงมาก !!! พิเชษฐ จวก รัฐบาลไม่สำเหนียก รีดภาษีที่ดิน- บ้านพัก
พิเชษฐ จวก รัฐบาลไม่สำเหนียก รีดภาษีที่ดิน- บ้านพัก
พิเชษฐ ค้าน เก็บภาษีที่ดิน-บ้านพักประชาชนเดือดร้อน จวก รัฐบาลไม่สำเหนียก เพราะมาจากการรัฐประหาร เตือน นายกฯถอยก่อนก้าวพลาด
วันนี้ (9 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีต รมช.คลัง และอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตลอดมา เมื่อมีหน้าที่รับผิดชอบการจัดภาษีที่กระทรวงการคลัง เพราะภาระภาษีจะถูกผลักสู่ประชาชนทุกระดับชั้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม จนเป็นความเดือดร้อนของประชาชนทุกหย่อมหญ้า จึงขอฝากเพื่อพิจารณา คือ
1.คนชั้นกลางที่สะสมเงินไว้จนซื้อบ้านหลังเล็กๆ วันนี้ถูกประเมินว่าเกิน 1 ล้านบาท ต้องเสียภาษี ส่วนคนที่เช่าบ้านเขาอยู่ หากบ้านที่เช่าต้องเสียภาษี ผู้เช่าต้องกระทบจากค่าเช่าหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นคือ ภาระภาษีถูกผลักจากเจ้าบ้านไปยังผู้เช่า
2.คอนโดมีเนียม อพาร์ทเม้น หรือหอพักต่างๆเมื่อเจ้าของมีภาระต้องเสียค่าภาษีทรัพย์สินหรือภาษีโรงเรือนเพิ่มขึ้น จะมีการเพิ่มค่าเช่าจากผู้เช่าหรือไม่
3.ผู้เช่าสถานที่ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ ดีพาร์ทเม้นสโตร์ หรือศูนย์การค้า จะถูกเพิ่มค่าเช่า สถานที่จากผู้ให้เช่า ทำให้ต้องผลักภาระภาษีไปในราคาสินค้าสู่ผู้บริโภค
4.โรงงานทุกแห่งถูกขึ้นภาษีโรงเรือนในตัวโรงงานและเครื่องจักร จึงผลักภาระภาษีไปสู่ลูกค้า ลูกค้าช่วงผลักภาระภาษีไปในราคาสินค้าสู่ผู้บริโภคทั่วไป
5.ตึกแถวริมถนนทุกแห่ง ล้วนมีราคาเกิน1ล้านบาท ต่อไปต้องเสียภาษีทั้งหมด ทั้งเจ้าของ หรือผู้เช่า ทั้งที่ใช้เพื่ออยู่อาศัย หรือเพื่อการค้า
6.ที่ดินสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ หรือทรัพย์สินส่วนพระองค์ทั้งสิ้น ต้องเสียภาษีหรือไม่ หากต้องเสีย จะมหาศาลขนาดไหน หากไม่ต้องเสีย ต้องออกกฎหมายยกเว้นให้ใหม่ หรือหากออกกฎหมายยกเว้นจะถูกขบวนการที่ไม่หวังดีต่อสถาบันยกขึ้นกล่าวร้ายอย่างกว้างขวางหรือไม่
และ 7.ในฐานะรัฐมนตรีผู้เคยรับผิดชอบในเรื่องการจัดเก็บภาษีนั้น ได้บัญชาให้ระงับความคิดเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในรูปแบบนี้ไว้ แม้ขณะนั้นเป็นยามที่ประเทศชาติกำลังมีวิกฤตสาหัสจากวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่ที่ผ่านมาพรรคปชป.พ้นวิกฤตดังกล่าว จากความคิดเรื่องภาษีที่ดินนี้ได้อย่างหวุดหวิด กลายเป็นภาระแก่รัฐบาลปัจจุบันที่หยิบยกขึ้นมาอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่เขาคงไม่สำเหนียกนัก เพราะเขาเป็นรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ไม่ต้องอาศัยการเลือกตั้ง
นายพิเชษฐ ยังระบุว่า มีหลักอยู่ว่า เศรษฐีหรือราชาที่ดินจะไม่หวั่นไหวกับภาระภาษี เพราะเขามีกำลังที่จะรับได้ และมีช่องทางที่จะถ่ายทอดผลักภาระต่อไปได้ แต่คนชั้นกลางจะเป็นผู้รับภาระภาษีล้วนๆ เพราะเป็นปลายทางทีไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
... ถอยเถอะท่านนายกฯ พลาดไปแล้ว ผู้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็อาจก้าวพลาดในเรื่องเช่นนี้บ่อยๆ แต่ผู้ฉลาดย่อมรู้ที่จะหาทางออกเสีย มิฉะนั้น วันหนึ่งเมื่อรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตยมาถึง เขายกเลิกกฎหมายของท่านแน่ และท่านในฐานะส่วนตัวจะเสียหายจากเรื่องนี้ไปอีกนาน...