++ ทุกข์ใจกับเรื่องของสามี...ชีวิตหลังแต่งงานไม่มีความสุขเลย++

....ตอนนี้ยอมรับว่าตัวเองเหนื่อยและสับสนมากๆ เราแต่งงานอยู่กินกับสามีมา 3 ปีกว่าๆ มีลูกอายุ 1.8 ขวบ ช่วงแรกๆ ที่แต่งงานกันใหม่ๆ เรามีปัญหาทะเลาะกันบ่อยๆ เนื่องจากสามีค่อนข้างใจร้อน บวกกับตัวเราเองก็เป็นคนไม่ค่อยยอมคน เราพยายามหลีกเลี่ยงที่จะประทะอารมณ์ใส่กัน เวลาเริ่มจะทะเลาะกันเห็นท่าไม่ดีก็ต่างคนต่างเงียบ แยกย้ายกันไป จะได้ไม่เกิดเรื่องวุ่นวาย



ปัจจุบันนี้เราย้ายกลับมาอยู่บ้านแม่เนื่องจากแม่เป็นคนเลี้ยงลูกให้ เราทำอาชีพ Sales อยู่บริษัทต่างชาติ งานก็ค่อนข้างกดดันพอสมควรแต่รายได้ก็ถือว่าโอเคอยู่ในหลัก 50,xxx หากรวมค่าคอมจะได้เพิ่มอีกประมาณ 10K-30K เนื่องจากเรามีภาระหลายอย่างผ่อนบ้านแม่ที่อยู่ 15K (บ้านแม่กำลังประกาศขายและย้ายไปหลังใหม่)+ซื้อบ้านอีกหลัง 20K +ผ่อนรถอีก 1 คัน 11K + และคชจ.เกี่ยวกับลูกและที่บ้านทั้งหมด เราเป็นคนรับผิดชอบ

               ส่วนสามีเราทำงานด้านรายการทีวี รายได้ประจำอยู่ประมาณ 28,xxx แต่มีรับงานฟรีแลนซ์เพิ่มบ้าง ตัวเลขแน่นอนเราไม่ทราบเนื่องจากสามีไม่เคยบอก เราเองก็ไม่อยากถามเนื่องจากทะเลาะกันบ่อยๆ เรื่องเงิน เรื่องใช้จ่ายในบ้าน ช่วงแต่งงานใหม่ๆ เงินเดือนออกสามีให้เราทั้งหมด แต่เวลาใช้จ่ายหรือเวลาไปไหนหรือเค้าอยากได้อะไรเราไม่เคยห้าม ไม่เคยว่า นอกจากเดือนไหนมันช๊อต เราก็จะอธิบายเหตุผลว่าเพราะอะไร แต่ผ่านไปประมาณสักปีกว่าๆ เค้าเริ่มอิดออดไม่อยากให้เงิน จนเราต้องทวงถามและเกิดการทะเลาะกันบ่อยๆ เค้าหาว่างก เห็นแก่เงิน อะไรทำนองนั้น (สามีไม่ทราบว่าเราได้เงินเดือนเท่าไหร่ เราเคยบอกว่าได้ประมาณ เกือบ 40K  บวกคอมบ้างนิดหน่อย)
                 เราเบื่อที่จะพูดก็เลยใช้วิธีตกลงตัวเลขที่เค้าสามารถให้เราได้ และเค้าก็ช่วยเหลือเราที่ 15,000 บาท เค้ารับผิดชอบในส่วนผ่อนมอเตอร์ไซด์เดือนละ 3500 บาท ส่วนเงินใช้ชีวิตประจำวันก็ต่างคนต่างใช้ของตัวเอง


--------------------------------------------
และล่าสุดเราเพิ่งไปเห็นข้อความที่เค้าคุยกันกับรุ่นพี่ที่ไปทำงานฟรีแลนซ์ แล้วเราสงสัยว่าเค้าน่าจะกำลังเล่นยา

aa: คืนนี้มาไหม มีของดี มี E กะ C
สามี: คืนนี้ไม่ไหวว่ะพี่ พรุ่งนี้มีงานสัมภาษณ์เช้ากลัวพูดไม่รู้เรื่อง
aa: เออไม่เปนไร สะดวกค่อยมา

ตอนแรกเราก็ไม่แน่ใจ แต่เราก็พยายามสังเกตพฤติกรรมของเค้าคู่กันไป ส่วนใหญ่หลังจากเลิกงานประจำแล้วเค้าก็ไปทำฟรีแลนซ์ต่อ ช่วงหลังนี่ถี่มากๆ ไม่ค่อยกลับบ้าน กลับมาก็กลิ่นเหล้าหึ่ง แล้วก็มีอาการมึนๆ เบลอๆ เดือนก่อนหน้านี้อารมณ์เค้าขึ้นๆ ลงๆ เหวี่ยงมาก พูดอะไรไม่ค่อยได้ พอขัดใจก็ไม่พาลไปหมด เราเองก็ทุกข์ใจ จนไม่กล้าจะพูดอะไรมาก พยายามนิ่งเฉย จนกระทั่งมาเห็นข้อความ แล้วแฟนของน้องสาวเค้าก็ทักกับแม่เรา ว่าพี่เค้าเล่นยามาหรือป่าว อาการเหมือนเลย (แม่เพิ่งมาเล่าให้ฟัง ซึ่งก็ตรงกับที่เราคิด) ซึ่งเราเองก็ค่อนข้างเป็นห่วงเค้า แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มพูดหรือถามยังไง


-------------------------------------------------------------
ชีวิตเราตอนนี้เหมือนไม่มีความสุขเลย ก่อนหน้าจะมาเจอแฟนคนนี้ แฟนเก่าที่เราเคยคบ ก็เป็นคนดี แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้เราไม่สามารถใช้ชีวิตคู่ด้วยกันได้ อาจจะไม่ใช่คู่กันจริงๆ นะค่ะ เฮ้ออออ...เหมือนที่เค้าว่า เลือกนักมักได้แร่...

ชีวิตหลังแต่งงานมีแต่ความทุกข์ใจ ทุกวันนี้พยายามคิดถึงแต่ลูก พยายามทำงานเก็บเงินเพื่ออนาคตลูก
ใจนึงเคยคิดอยากเลิก เราเริ่มรู้สึกว่าไม่มีเค้าเราก็สามารถดูแลลูกได้ แต่เค้าก็รักลูกมาก เวลาเห็นเค้าเล่นกับลูกแล้วก็ดูมีความสุขดี หลังๆ นี่เค้าเริ่มเปลี่ยนไปเยอะมาก อารมณ์ฉุนเฉียวง่ายมาก จนเราเองต้องคอยระวังคำพูดหรือท่าทางต่างๆ เพื่อไม่ให้ทะเลาะกัน อีกอย่างเราก็สงสารพ่อกับแม่เรามากๆ ดูท่านเป็นกังวลกับเรา เราก็พยายามไม่เล่าหรือแสดงออกอะไรมากเพื่อให้ท่านสบายใจ

เมื่อคืนกล่อมลูกนอนแล้วก็นั่งคุยกับแม่จนดึก  คุยกันไปก็น้ำตาไหลกันไป แม่บอกว่าสงสารเรามาก เห็นทำงานหนัก สามีก็เหมือนไม่เคยเห็นความดี ไม่เคยเป็นห่วงเป็นใยเราเท่าไหร่ พ่อกับแม่เองก็พูดอะไรกับเค้าไม่ค่อยได้ พูดแล้วก็ไม่ค่อยเชื่อฟัง จนพ่อเราเอือมระอาที่จะพูด เราได้แต่คอยระวังคำพูดกัน เพราะเกรงว่าถ้าพูดไม่ถูกหูจะมีเรื่องกันในบ้าน เราเคยทะเลาะกันแรงๆ 2-3 ครั้งตอนที่อยู่บ้านแม่ แล้วเราสงสารแม่มาก จนพยายามเลี่ยงที่จะไม่ให้เกิดปัญหากัน พยายามนิ่ง ใจเย็นให้มาก...

ขอบคุณพื้นที่พันทิพในการระบายความอึดอัดใจ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
อย่าเคืองเรานะคะ  คุณไม่ได้ทุกข์และทนเพื่อลูกคนเดียว  แต่คุณลากพ่อแม่มาทุกข์และทนกับคุณไปด้วย

ตั้งสติแล้วพูดคุยกันค่ะ  ไม่ต้องคิดว่าต้องเริ่มต้นยังไง  เพราะคำพูดจะจุกอยู่ที่คอหอย
เริ่มต้นเรื่องเงินที่เค้าต้องรับผิดชอบ  เรื่องยาที่คุณและน้องสามีคุณสงสัย  ต้องไปตรวจด้วยกันที่ รพ.  ถ้าเค้าติดยาจริงก็ต้องรักษา
แต่ถ้าไม่ยอมไปตรวจ  ความเห็น(โหด)ของเราคือ  เราจะไม่ให้คนติดยามาใกล้ลูกและพ่อแม่ของเราค่ะ

อะไรที่เค้าควรปรับปรุงก็ต้องบอก  แล้วให้โอกาสเค้าปรับปรุงตัว ตกลงกันให้เข้าใจหากยังอยากเป็นครอบครัว
ถ้าเค้าไม่เคลียร์หรือไม่ดีขึ้น  คุณก็ต้องเลือกแล้วหล่ะว่าจะเอายังไงต่อไปดีกับชีวิตค่ะ ... สู้ๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่