สำหรับ ควรเก็บอย่างมีเกณฑ์ เกณฑ์ที่เราทำประชาพิจารณ์กันขึ้นมานี้แหละ เพราะพวกนี้เป็นปัจจัย 4 (แต่ไม่ควรอ้างสูงอายุ)
1 มีบ้านหลัง 5-10 ล้าน อย่างน้อยควรมีเงินจ่ายได้เท่าไร ? (ถ้าเป็นบ้านหลังเดียวจะผ่อนปรนหรือจ่ายได้แค่ไหน)
2 มีที่ดินมูลค่ามากกว่า 5-10 ล้าน ควรมีเงินจ่ายได้เท่าไร ไม่มีก็ให้เค้าเช่าที่ดินเถอะ คงพอเสียภาษีรายปี ยกเว้นเปิดโรงเรียน มูลนิธิ (ถ้ามีที่ดินแปลงเล็กๆ ไม่มีคนมาเช่าเลยแม้แต่แม่ค้าส้มตำ? แบ่งขายก็ยาก จะผ่อนปรนยังไง)
3. มีบ้าน คอนโด หลายหลัง เก็งกำไร พักตากอากาศ แต่ไม่มีเงินจ่ายภาษี ?
4. มีที่ดิน หลายแปลงเกินร้อย ไร่ แต่ไม่เสียภาษีเลย
ควรมาหาเกณฑ์ผ่อนผัน แต่เกณฑ์การเก็บ ******ไม่ใช่ ยกเลิกกกกกกกกก*********
วัตถุประสงค์จริงๆ ของภาษีพวกนี้ ลองไปอ่านดูนะครับ ประโยชน์ทางตรงและอ้อม แบ่งปันจากช่องว่างคนรวยสู่สังคมที่ไม่มีแม้แต่บ้านและที่ดิน จากอยู่คฤหาสถ์สู่คนนั่งรถเมลล์ร้อนๆ
ที่สำคัญ คือ เราต้องหาคนที่ไปช่วยดูแลเงินเหล่านี้ ไม่ใช่มาหวงเงินหวงสมบัติ ถ้าไม่พัฒนาสังคม ไม่พัฒนาประเทศ คุณอยู่ได้สุขสบายแต่รอบข้างเป็นสลัม ซ่องโจร จะเอาแบบนั้นเหรอ
ผมว่าเราควรมาดูจุดประสงค์ของภาษี และช่วยกันคิดว่าทำไงเราถึงจะจ่ายภาษีได้โดยไม่เป็นภาระมากไป แทนที่จะคัดค้าน
1 มีบ้านหลัง 5-10 ล้าน อย่างน้อยควรมีเงินจ่ายได้เท่าไร ? (ถ้าเป็นบ้านหลังเดียวจะผ่อนปรนหรือจ่ายได้แค่ไหน)
2 มีที่ดินมูลค่ามากกว่า 5-10 ล้าน ควรมีเงินจ่ายได้เท่าไร ไม่มีก็ให้เค้าเช่าที่ดินเถอะ คงพอเสียภาษีรายปี ยกเว้นเปิดโรงเรียน มูลนิธิ (ถ้ามีที่ดินแปลงเล็กๆ ไม่มีคนมาเช่าเลยแม้แต่แม่ค้าส้มตำ? แบ่งขายก็ยาก จะผ่อนปรนยังไง)
3. มีบ้าน คอนโด หลายหลัง เก็งกำไร พักตากอากาศ แต่ไม่มีเงินจ่ายภาษี ?
4. มีที่ดิน หลายแปลงเกินร้อย ไร่ แต่ไม่เสียภาษีเลย
ควรมาหาเกณฑ์ผ่อนผัน แต่เกณฑ์การเก็บ ******ไม่ใช่ ยกเลิกกกกกกกกก*********
วัตถุประสงค์จริงๆ ของภาษีพวกนี้ ลองไปอ่านดูนะครับ ประโยชน์ทางตรงและอ้อม แบ่งปันจากช่องว่างคนรวยสู่สังคมที่ไม่มีแม้แต่บ้านและที่ดิน จากอยู่คฤหาสถ์สู่คนนั่งรถเมลล์ร้อนๆ
ที่สำคัญ คือ เราต้องหาคนที่ไปช่วยดูแลเงินเหล่านี้ ไม่ใช่มาหวงเงินหวงสมบัติ ถ้าไม่พัฒนาสังคม ไม่พัฒนาประเทศ คุณอยู่ได้สุขสบายแต่รอบข้างเป็นสลัม ซ่องโจร จะเอาแบบนั้นเหรอ