คำถามนี้เกิดขึ้นในหัวดิฉัน เมื่อ 3 ปีที่แล้วตอนที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมอบรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะผู้บรรยายก็บอกว่าพูดถึงเรื่องนี้แทบทุกปีให้เฝ้าระวังไม่รู้จะมาเมื่อไร
ที่บอกว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก็เพื่อจะบอกว่า ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้ถูก "ชง" โดยกระทรวงการคลังผ่านรัฐบาลมาหลายรัฐบาลหลายปีแล้ว
ไม่ใช่เพิ่งจะมาเกิดในยุคนี้ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าคนในวงการอสังหา developer ทั้งหลายไม่ได้ออกมาโวยวายอะไรกันเลย
เพราะส่วนมากเค้ารู้กันอยู่แล้วว่ายังไงภาษีตัวนี้ก็ต้องออก แต่ที่ไม่รู้ชัดๆคือ หลักเกณฑ์แต่ก็พอจะมีคร่าวๆอยู่แล้ว เและที่สำคัญคือไม่รู้เมื่อไรมันจะออก?
คำถามที่ดิฉันถามผู้บรรยายคือ แล้วทำไมมันถึงไม่ออกสะทีล่ะ
คำตอบคือ แล้วที่ดินในประเทศของเราส่วนมากใครถือครอง?
แน่นอนนักการเมืองและนายทุนคือคนกลุ่มใหญ่กลุ่มนั้น แล้วคุณคิดว่านักการเมืองจะออกกฏหมายที่เค้ามาทำลายตัวเอง นายทุน และฐานเสียงทำไม?
ผู้บรรยายยังพูดติดตลกต่อว่า ถ้าเกิดปฏิวัติรัฐประหารขึ้นมาก็ไม่แน่ เพราะรัฐไม่จำเป็นต้องนึงถึงนายทุนและฐานเสียงแล้ว
...ดิฉันยังจำคำพูดนี้ได้ดี ซึ่งวันนี้ดูท่ามันจะเกิดขึ้นแล้ว
คำถามที่ดิฉันคิดต่อในต่อนั้นก่อนที่จะโวยวายว่าจะเก็บทำไม บลาๆๆ ซึ่งแน่นอนคนไม่เคยเสียเงินแล้วต้องมาเสียทุกคนต้องโวยวายอยู่แล้ว
ดิฉันจึงอยากรู้ว่าทำไมถึงต้องเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
แกก็บอกว่ามันจะเข้า ASEAN แล้ว ภาษีบุคคลธรรมดาก็ลดเพื่อกันสมองไหล Vat ที่เก็บอยู่ก็ถูกมาก คนที่มีรายได้จำนวนมากอยู่นอกระบบภาษี
และถ้าอยากรู้ให้ชัดเจนให้ไปหาอ่านจากเวบไซต์กระทรวงการคลังอ่านเอา
ซึ่งวันนี้เพิ่งว่างหลังจากผ่านไปสามปีจึงเพิ่งเข้าเวบไซต์หา และก็มีการตอบประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องการเก็บภาษีนี้ด้วย
จึงอยากมาแชร์ให้ได้ทราบกันค่ะ เราจะได้มีข้อมูลก่อนที่จะวิจารณ์กันนะคะ บางคนถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับเลย
ปล.เอาจริงๆร่างใหม่นี้ยังไม่ปรากฏเลย แต่ถ้าเป็นร่างเดิมที่เก็บเชิงพานิช 0.5% ที่อยู่อาศัย 0.1% เกษตรกรรม 0.05% รกร้าง 0.5% เพิ่ม 1เท่าทุก 3 ปี
ยังไม่ได้ดูในเคสลดหย่อนนะคะ ถ้าเป็นแนวทางนี้ดิฉันรับได้นะ
อันนี้เป็นข้อมูลที่อ้างอิงมาจากเวบไซต์ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังนะคะ
เยอะหน่อย เสียเวลาอ่านหน่อย เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นค่ะ
http://www.fpo.go.th/land_tax/faq.htmlประเด็นคำถามคำตอบจากการสัมนาเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้า้ง
1.ทำไมต้องจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบันมีการจัดเก็บภาษีจากที่ดิน
และสิ่งปลูกสร้างในรูปภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนและที่ดินอยู่แล้ว
ตอบ เนื่องจาก ภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนและที่ดินที่จัดเก็บอยู่ในปัจจุบันมีปัญหา
ซึ่งสรุปได้ดังนี้
(1) ปัญหาของภาษีบำรุงท้องที่
1) ฐานราคาที่ดินไม่เป็นปัจจุบัน กล่าวคือ ใช้ราคาปานกลางของที่ดินในปี 2521-2524 ในการจัดเก็บภาษี ทำให้มูลค่าฐานภาษีต่ำเกินไป
2) มีการสะสมที่ดินเพื่อทำกำไร การใช้ฐานราคาปานกลางของที่ดินปี 2521-2524 ส่งผลให้
มีภาระภาษีที่ต้องชำระน้อยมาก ทำให้ผู้เสียภาษีสามารถถือครองที่ดินจำนวนมากเพื่อทำกำไร
3) มีการลดหย่อนที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยเอง ตั้งแต่ 50 ตารางวา ถึง 5 ไร่ ทำให้เจ้าของที่ดินได้รับการลดหย่อนที่ดินที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยจนไม่ต้องเสียภาษี
4) ท้องถิ่นมีรายได้จากภาษีนี้น้อยมาก เนื่องจากใช้ฐานราคาที่ดินต่ำมาก และเจ้าของ
ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ได้รับลดหย่อนพื้นที่ที่ดินจนไม่ต้องเสียภาษี
(2) ปัญหาของภาษีโรงเรือนและที่ดิน
1) ฐานภาษีไม่มีความแน่นอน โดยเฉพาะในกรณีไม่มีค่าเช่าหรือหาค่าเช่าไม่ได้ เช่น เจ้าของดำเนินการเอง เจ้าหน้าที่ต้องใช้ดุลยพินิจในการประเมินค่ารายปี
2) อัตราภาษีสูงเกินไป ในอัตราร้อยละ 12.5 ของค่าเช่าต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันทำให้มีการหลบเลี่ยงภาษี
3)ฐานภาษีแคบ เนื่องจากยกเว้นภาษีให้แก่โรงเรือนที่เจ้าของใช้อยู่อาศัยและ
โรงเรือนปิดว่าง ซึ่งทำให้มีผู้เข้าสู่ระบบภาษีประมาณร้อยละ 50 ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม
และเป็นผลทำให้ท้องถิ่นมีเงินไม่เพียงพอแก่การใช้จ่าย
4) มีการยกเว้นบ้านอยู่อาศัยที่ไม่เป็นธรรม กล่าวคือ ยกเว้นภาษีสำหรับโรงเรือนซึ่งเจ้าของ
อยู่อาศัยเองโดยไม่ได้คำนึงถึงมูลค่าของบ้านและที่ดินที่แตกต่างกันมาก ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม
ในการยกเว้นทรัพย์สินระหว่างผู้ที่มีฐานะแตกต่างกันมาก
5) ไม่เป็นธรรมต่อผู้เช่าโรงเรือนอยู่อาศัย ผู้เช่าโรงเรือนอยู่อาศัยมักจะถูกผลักภาระภาษี
ตามสัญญาเช่าโรงเรือนอยู่อาศัยในขณะที่เจ้าของโรงเรือนบ้านอยู่อาศัยกลับได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
6) ขัดกับหลักการจัดเก็บภาษีทรัพย์สิน การจัดเก็บภาษีจากทรัพย์สินควรใช้ฐานมูลค่าทรัพย์สินในการเรียกเก็บภาษีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการเสียภาษีโดยผู้ที่มีทรัพย์สินมูลค่าสูงต้องเสียภาษีมากกว่าผู้ซึ่งมีทรัพย์สินมูลค่าต่ำ การใช้ฐานค่าเช่ารายปีขัดกับหลักการจัดเก็บภาษีทรัพย์สินเพราะเป็นการจัดเก็บภาษีเฉพาะทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้เท่านั้น
2. ประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างคืออะไร
ตอบ 2.1 เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เสียภาษี โดยที่
- ฐานภาษีมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยจะจัดเก็บจากที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง
ทุกประเภท ทั้งที่เจ้าของใช้อยู่อาศัยเอง ที่ดินเกษตรกรรม โรงเรือนปิดว่าง ห้องชุด โรงเรือน
เพื่อใช้ประกอบกิจการต่างๆ เพื่อให้เจ้าของภาษีทุกรายมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นของตน ตามหลักการได้รับประโยชน์จากการบริการของท้องถิ่น (Benefit Principle) และหลักความสามารถในการเสียภาษี (Ability to Pay Principle) ซึ่งผู้ที่ถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าสูงจะต้องเสียภาษีมากกว่าผู้ที่ถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าต่ำ
- แก้ไขปัญหาการใช้ดุลยพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในการประเมินค่ารายปีของภาษีโรงเรือนและที่ดินโดยเฉพาะในส่วนที่ไม่มีค่าเช่า เนื่องจาก เจ้าของทรัพย์สินดำเนินกิจการเอง แต่การประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะมีความชัดเจนแน่นอนกว่า เพราะใช้บัญชีราคาประเมินทุนทรัพย์ซึ่งกำหนดโดยคณะอนุกรรมการประจำจังหวัดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน
2.2 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อนำไปใช้พัฒนาท้องถิ่นให้ตรงกับความต้องการของประชาชน ลดการพึ่งพาจากรัฐบาล และเป็นการส่งเสริมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้อำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกข้อบัญญัติกำหนดอัตราภาษีเพิ่มขึ้นจากที่คณะกรรมการกำหนด แต่ไม่เกินเพดานอัตราภาษีที่กฎหมายกำหนด
2.3 ลดการกักตุนที่ดินเพื่อการเก็งกำไรและผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์ในที่ดิน
อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยจัดเก็บภาษีในอัตราสูงสำหรับที่ดินที่มิได้ใช้ประโยชน์ตามควรหรือที่ดินรกร้างว่างเปล่า
2.4 สร้างความเข้มแข็ง และส่งเสริมประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะทำให้ประชาชนผู้เสียภาษีมีความสนใจ และมีส่วนร่วมมากขึ้นกับการปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งในส่วนของการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง การจัดทำงบประมาณ การตรวจสอบ และการวางแผนพัฒนาท้องถิ่น
3. การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นการลงโทษคนจน ผู้มีบ้านอยู่อาศัยหรือที่ดิน เกษตรกรรม และเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจภาคเอกชนใช่หรือไม่
ตอบ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะมีการยกเว้นการจัดเก็บภาษีจากคนจนหรือผู้มีรายได้น้อย
และเกษตรกรที่เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหรือที่ดินทำกินที่มีมูลค่าไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดใน
พระราชกฤษฎีกา นอกจากนี้ อัตราภาษีที่จัดเก็บจากธุรกิจจะสูงกว่าอัตราที่จัดเก็บจากการใช้ที่ดินเพื่อ
การอยู่อาศัย และที่ดินเพื่อใช้เพื่อการเกษตรกรรม
4.ผู้เสียภาษีที่มีที่ดินเพื่ออยู่อาศัยเองจะแบกภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมากที่สุด ใช่หรือไม่
ตอบ ผู้เสียภาษีที่มีที่ดินเพื่ออยู่อาศัยเองไม่ได้เป็นผู้แบกภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมากที่สุด เนื่องจาก การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างยึดตามหลักความสามารถในการเสียภาษีของเจ้าของ
ซึ่งเจ้าของที่ดินว่างเปล่าเพื่อการเก็งกำไรจะถูกเก็บภาษีในอัตราสูงกว่าที่ดินประเภทอื่น รองลงมาคือ เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการพาณิชย์ และเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการกสิกรรมซึ่งจะถูกเก็บภาษีในอัตราลดหลั่นกันไป
5.รัฐบาลมีนโยบายที่จะจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเนื่องจากมีรายได้จากการจัดเก็บ ภาษีประเภทอื่นไม่เพียงพอใช่หรือไม่
ตอบ รายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในเขตท้องถิ่นใด เป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ซึ่งจะนำไปใช้เพื่อพัฒนาท้องถิ่นนั้นๆ ต่อไปโดยไม่ต้องนำส่งรัฐบาล
6.การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะทำให้เกิดความซ้ำซ้อนกับการจัดเก็บภาษีโรงเรือน และที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่หรือไม่
ตอบ เมื่อมีการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะยกเลิกการจัดเก็บภาษีโรงเรือน
และที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ จึงไม่เป็นการจัดเก็บภาษีซ้ำซ้อน
7.กฎหมายภาษีที่ดินฯ ได้ให้ความหมายของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้อย่างไร
ตอบ “ที่ดิน” หมายถึง พื้นที่ดิน รวมทั้งพื้นที่ภูเขาและพื้นที่ที่มีน้ำด้วย
“สิ่งปลูกสร้าง” หมายถึง โรงเรือน อาคาร ตึก รวมทั้งคลังสินค้า และแพที่บุคคลอาจจะเข้าอยู่หรือ
ใช้สอยได้ รวมทั้งสิ่งที่สร้างขึ้นอย่างอื่นที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นสิ่งปลูกสร้างตาม พ.ร.บ. นี้ด้วย
8.ผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหมายถึงใครบ้าง
ตอบ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้แก่
8.1 ผู้เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
8.2 ผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐ
โดยที่ ผู้เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ได้แก่ ผู้ที่มีเอกสารสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เช่น บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน เป็นต้น
ผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐ
ได้แก่
1) ผู้ที่ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐที่มีเอกสารสิทธิ์ เช่น
ที่ดิน สปก. และที่ราชพัสดุ เป็นต้น
2) ผู้ที่ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เช่น
ที่ดินในเขตป่าสงวนและมีการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซ้อนในพื้นที่ดังกล่าว
เป็นต้น
9.เหตุใดจึงต้องจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกับเจ้าของทรัพย์สินที่อยู่อาศัยเองหรือโรงเรือนปิดว่างที่มิได้ประกอบกิจการใดๆ
ตอบ การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากโรงเรือนอยู่อาศัยเองหรือโรงเรือนปิดว่าง
มีเหตุผลดังนี้
(1) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นภาษีที่เรียกเก็บจากฐานมูลค่าของทรัพย์สินซึ่งเป็น
การจัดเก็บจากความมั่งคั่ง (Wealthy) ของเจ้าของทรัพย์สิน โดยผู้ที่มีทรัพย์สินมูลค่ามาก
จะเสียภาษีมากกว่าผู้ที่มีทรัพย์สินมูลค่าน้อย ซึ่งในต่างประเทศก็ถือว่าเป็นแนวทางปฏิบัติสากลในการจัดเก็บภาษีประเภทนี้กับที่อยู่อาศัยหรือโรงเรือนปิดว่าง
(2) การดำรงอยู่ของทรัพย์สินก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น การทำถนน การทำท่อระบายน้ำ การบำบัดน้ำเสีย การคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้น เจ้าของทรัพย์สินทุกคนที่ได้รับบริการสาธารณะของท้องถิ่นจึงมีหน้าที่เสียภาษีให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ทำไมถึงต้องเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง?
และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะผู้บรรยายก็บอกว่าพูดถึงเรื่องนี้แทบทุกปีให้เฝ้าระวังไม่รู้จะมาเมื่อไร
ที่บอกว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก็เพื่อจะบอกว่า ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้ถูก "ชง" โดยกระทรวงการคลังผ่านรัฐบาลมาหลายรัฐบาลหลายปีแล้ว
ไม่ใช่เพิ่งจะมาเกิดในยุคนี้ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าคนในวงการอสังหา developer ทั้งหลายไม่ได้ออกมาโวยวายอะไรกันเลย
เพราะส่วนมากเค้ารู้กันอยู่แล้วว่ายังไงภาษีตัวนี้ก็ต้องออก แต่ที่ไม่รู้ชัดๆคือ หลักเกณฑ์แต่ก็พอจะมีคร่าวๆอยู่แล้ว เและที่สำคัญคือไม่รู้เมื่อไรมันจะออก?
คำถามที่ดิฉันถามผู้บรรยายคือ แล้วทำไมมันถึงไม่ออกสะทีล่ะ
คำตอบคือ แล้วที่ดินในประเทศของเราส่วนมากใครถือครอง?
แน่นอนนักการเมืองและนายทุนคือคนกลุ่มใหญ่กลุ่มนั้น แล้วคุณคิดว่านักการเมืองจะออกกฏหมายที่เค้ามาทำลายตัวเอง นายทุน และฐานเสียงทำไม?
ผู้บรรยายยังพูดติดตลกต่อว่า ถ้าเกิดปฏิวัติรัฐประหารขึ้นมาก็ไม่แน่ เพราะรัฐไม่จำเป็นต้องนึงถึงนายทุนและฐานเสียงแล้ว
...ดิฉันยังจำคำพูดนี้ได้ดี ซึ่งวันนี้ดูท่ามันจะเกิดขึ้นแล้ว
คำถามที่ดิฉันคิดต่อในต่อนั้นก่อนที่จะโวยวายว่าจะเก็บทำไม บลาๆๆ ซึ่งแน่นอนคนไม่เคยเสียเงินแล้วต้องมาเสียทุกคนต้องโวยวายอยู่แล้ว
ดิฉันจึงอยากรู้ว่าทำไมถึงต้องเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
แกก็บอกว่ามันจะเข้า ASEAN แล้ว ภาษีบุคคลธรรมดาก็ลดเพื่อกันสมองไหล Vat ที่เก็บอยู่ก็ถูกมาก คนที่มีรายได้จำนวนมากอยู่นอกระบบภาษี
และถ้าอยากรู้ให้ชัดเจนให้ไปหาอ่านจากเวบไซต์กระทรวงการคลังอ่านเอา
ซึ่งวันนี้เพิ่งว่างหลังจากผ่านไปสามปีจึงเพิ่งเข้าเวบไซต์หา และก็มีการตอบประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องการเก็บภาษีนี้ด้วย
จึงอยากมาแชร์ให้ได้ทราบกันค่ะ เราจะได้มีข้อมูลก่อนที่จะวิจารณ์กันนะคะ บางคนถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับเลย
ปล.เอาจริงๆร่างใหม่นี้ยังไม่ปรากฏเลย แต่ถ้าเป็นร่างเดิมที่เก็บเชิงพานิช 0.5% ที่อยู่อาศัย 0.1% เกษตรกรรม 0.05% รกร้าง 0.5% เพิ่ม 1เท่าทุก 3 ปี
ยังไม่ได้ดูในเคสลดหย่อนนะคะ ถ้าเป็นแนวทางนี้ดิฉันรับได้นะ
อันนี้เป็นข้อมูลที่อ้างอิงมาจากเวบไซต์ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังนะคะ
เยอะหน่อย เสียเวลาอ่านหน่อย เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้นค่ะ
http://www.fpo.go.th/land_tax/faq.htmlประเด็นคำถามคำตอบจากการสัมนาเรื่องภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้า้ง
1.ทำไมต้องจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทั้ง ๆ ที่ปัจจุบันมีการจัดเก็บภาษีจากที่ดิน
และสิ่งปลูกสร้างในรูปภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนและที่ดินอยู่แล้ว
ตอบ เนื่องจาก ภาษีบำรุงท้องที่และภาษีโรงเรือนและที่ดินที่จัดเก็บอยู่ในปัจจุบันมีปัญหา
ซึ่งสรุปได้ดังนี้
(1) ปัญหาของภาษีบำรุงท้องที่
1) ฐานราคาที่ดินไม่เป็นปัจจุบัน กล่าวคือ ใช้ราคาปานกลางของที่ดินในปี 2521-2524 ในการจัดเก็บภาษี ทำให้มูลค่าฐานภาษีต่ำเกินไป
2) มีการสะสมที่ดินเพื่อทำกำไร การใช้ฐานราคาปานกลางของที่ดินปี 2521-2524 ส่งผลให้
มีภาระภาษีที่ต้องชำระน้อยมาก ทำให้ผู้เสียภาษีสามารถถือครองที่ดินจำนวนมากเพื่อทำกำไร
3) มีการลดหย่อนที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยเอง ตั้งแต่ 50 ตารางวา ถึง 5 ไร่ ทำให้เจ้าของที่ดินได้รับการลดหย่อนที่ดินที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยจนไม่ต้องเสียภาษี
4) ท้องถิ่นมีรายได้จากภาษีนี้น้อยมาก เนื่องจากใช้ฐานราคาที่ดินต่ำมาก และเจ้าของ
ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ได้รับลดหย่อนพื้นที่ที่ดินจนไม่ต้องเสียภาษี
(2) ปัญหาของภาษีโรงเรือนและที่ดิน
1) ฐานภาษีไม่มีความแน่นอน โดยเฉพาะในกรณีไม่มีค่าเช่าหรือหาค่าเช่าไม่ได้ เช่น เจ้าของดำเนินการเอง เจ้าหน้าที่ต้องใช้ดุลยพินิจในการประเมินค่ารายปี
2) อัตราภาษีสูงเกินไป ในอัตราร้อยละ 12.5 ของค่าเช่าต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่ไม่เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันทำให้มีการหลบเลี่ยงภาษี
3)ฐานภาษีแคบ เนื่องจากยกเว้นภาษีให้แก่โรงเรือนที่เจ้าของใช้อยู่อาศัยและ
โรงเรือนปิดว่าง ซึ่งทำให้มีผู้เข้าสู่ระบบภาษีประมาณร้อยละ 50 ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม
และเป็นผลทำให้ท้องถิ่นมีเงินไม่เพียงพอแก่การใช้จ่าย
4) มีการยกเว้นบ้านอยู่อาศัยที่ไม่เป็นธรรม กล่าวคือ ยกเว้นภาษีสำหรับโรงเรือนซึ่งเจ้าของ
อยู่อาศัยเองโดยไม่ได้คำนึงถึงมูลค่าของบ้านและที่ดินที่แตกต่างกันมาก ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรม
ในการยกเว้นทรัพย์สินระหว่างผู้ที่มีฐานะแตกต่างกันมาก
5) ไม่เป็นธรรมต่อผู้เช่าโรงเรือนอยู่อาศัย ผู้เช่าโรงเรือนอยู่อาศัยมักจะถูกผลักภาระภาษี
ตามสัญญาเช่าโรงเรือนอยู่อาศัยในขณะที่เจ้าของโรงเรือนบ้านอยู่อาศัยกลับได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี
6) ขัดกับหลักการจัดเก็บภาษีทรัพย์สิน การจัดเก็บภาษีจากทรัพย์สินควรใช้ฐานมูลค่าทรัพย์สินในการเรียกเก็บภาษีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการเสียภาษีโดยผู้ที่มีทรัพย์สินมูลค่าสูงต้องเสียภาษีมากกว่าผู้ซึ่งมีทรัพย์สินมูลค่าต่ำ การใช้ฐานค่าเช่ารายปีขัดกับหลักการจัดเก็บภาษีทรัพย์สินเพราะเป็นการจัดเก็บภาษีเฉพาะทรัพย์สินที่ก่อให้เกิดรายได้เท่านั้น
2. ประโยชน์ที่จะได้รับจากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างคืออะไร
ตอบ 2.1 เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้เสียภาษี โดยที่
- ฐานภาษีมีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยจะจัดเก็บจากที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง
ทุกประเภท ทั้งที่เจ้าของใช้อยู่อาศัยเอง ที่ดินเกษตรกรรม โรงเรือนปิดว่าง ห้องชุด โรงเรือน
เพื่อใช้ประกอบกิจการต่างๆ เพื่อให้เจ้าของภาษีทุกรายมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่นของตน ตามหลักการได้รับประโยชน์จากการบริการของท้องถิ่น (Benefit Principle) และหลักความสามารถในการเสียภาษี (Ability to Pay Principle) ซึ่งผู้ที่ถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าสูงจะต้องเสียภาษีมากกว่าผู้ที่ถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าต่ำ
- แก้ไขปัญหาการใช้ดุลยพินิจของพนักงานเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ในการประเมินค่ารายปีของภาษีโรงเรือนและที่ดินโดยเฉพาะในส่วนที่ไม่มีค่าเช่า เนื่องจาก เจ้าของทรัพย์สินดำเนินกิจการเอง แต่การประเมินภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะมีความชัดเจนแน่นอนกว่า เพราะใช้บัญชีราคาประเมินทุนทรัพย์ซึ่งกำหนดโดยคณะอนุกรรมการประจำจังหวัดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการกำหนดราคาประเมินทุนทรัพย์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน
2.2 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อนำไปใช้พัฒนาท้องถิ่นให้ตรงกับความต้องการของประชาชน ลดการพึ่งพาจากรัฐบาล และเป็นการส่งเสริมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้อำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกข้อบัญญัติกำหนดอัตราภาษีเพิ่มขึ้นจากที่คณะกรรมการกำหนด แต่ไม่เกินเพดานอัตราภาษีที่กฎหมายกำหนด
2.3 ลดการกักตุนที่ดินเพื่อการเก็งกำไรและผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์ในที่ดิน
อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยจัดเก็บภาษีในอัตราสูงสำหรับที่ดินที่มิได้ใช้ประโยชน์ตามควรหรือที่ดินรกร้างว่างเปล่า
2.4 สร้างความเข้มแข็ง และส่งเสริมประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมของประชาชนต่อการปกครองส่วนท้องถิ่น โดยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะทำให้ประชาชนผู้เสียภาษีมีความสนใจ และมีส่วนร่วมมากขึ้นกับการปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งในส่วนของการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง การจัดทำงบประมาณ การตรวจสอบ และการวางแผนพัฒนาท้องถิ่น
3. การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นการลงโทษคนจน ผู้มีบ้านอยู่อาศัยหรือที่ดิน เกษตรกรรม และเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจภาคเอกชนใช่หรือไม่
ตอบ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะมีการยกเว้นการจัดเก็บภาษีจากคนจนหรือผู้มีรายได้น้อย
และเกษตรกรที่เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหรือที่ดินทำกินที่มีมูลค่าไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดใน
พระราชกฤษฎีกา นอกจากนี้ อัตราภาษีที่จัดเก็บจากธุรกิจจะสูงกว่าอัตราที่จัดเก็บจากการใช้ที่ดินเพื่อ
การอยู่อาศัย และที่ดินเพื่อใช้เพื่อการเกษตรกรรม
4.ผู้เสียภาษีที่มีที่ดินเพื่ออยู่อาศัยเองจะแบกภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมากที่สุด ใช่หรือไม่
ตอบ ผู้เสียภาษีที่มีที่ดินเพื่ออยู่อาศัยเองไม่ได้เป็นผู้แบกภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมากที่สุด เนื่องจาก การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างยึดตามหลักความสามารถในการเสียภาษีของเจ้าของ
ซึ่งเจ้าของที่ดินว่างเปล่าเพื่อการเก็งกำไรจะถูกเก็บภาษีในอัตราสูงกว่าที่ดินประเภทอื่น รองลงมาคือ เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการพาณิชย์ และเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เพื่ออยู่อาศัยและเพื่อการกสิกรรมซึ่งจะถูกเก็บภาษีในอัตราลดหลั่นกันไป
5.รัฐบาลมีนโยบายที่จะจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเนื่องจากมีรายได้จากการจัดเก็บ ภาษีประเภทอื่นไม่เพียงพอใช่หรือไม่
ตอบ รายได้จากการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในเขตท้องถิ่นใด เป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ซึ่งจะนำไปใช้เพื่อพัฒนาท้องถิ่นนั้นๆ ต่อไปโดยไม่ต้องนำส่งรัฐบาล
6.การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะทำให้เกิดความซ้ำซ้อนกับการจัดเก็บภาษีโรงเรือน และที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่หรือไม่
ตอบ เมื่อมีการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จะยกเลิกการจัดเก็บภาษีโรงเรือน
และที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ จึงไม่เป็นการจัดเก็บภาษีซ้ำซ้อน
7.กฎหมายภาษีที่ดินฯ ได้ให้ความหมายของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้อย่างไร
ตอบ “ที่ดิน” หมายถึง พื้นที่ดิน รวมทั้งพื้นที่ภูเขาและพื้นที่ที่มีน้ำด้วย
“สิ่งปลูกสร้าง” หมายถึง โรงเรือน อาคาร ตึก รวมทั้งคลังสินค้า และแพที่บุคคลอาจจะเข้าอยู่หรือ
ใช้สอยได้ รวมทั้งสิ่งที่สร้างขึ้นอย่างอื่นที่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นสิ่งปลูกสร้างตาม พ.ร.บ. นี้ด้วย
8.ผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหมายถึงใครบ้าง
ตอบ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้แก่
8.1 ผู้เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
8.2 ผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐ
โดยที่ ผู้เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ได้แก่ ผู้ที่มีเอกสารสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เช่น บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน เป็นต้น
ผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐ
ได้แก่
1) ผู้ที่ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐที่มีเอกสารสิทธิ์ เช่น
ที่ดิน สปก. และที่ราชพัสดุ เป็นต้น
2) ผู้ที่ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เช่น
ที่ดินในเขตป่าสงวนและมีการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซ้อนในพื้นที่ดังกล่าว
เป็นต้น
9.เหตุใดจึงต้องจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกับเจ้าของทรัพย์สินที่อยู่อาศัยเองหรือโรงเรือนปิดว่างที่มิได้ประกอบกิจการใดๆ
ตอบ การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากโรงเรือนอยู่อาศัยเองหรือโรงเรือนปิดว่าง
มีเหตุผลดังนี้
(1) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นภาษีที่เรียกเก็บจากฐานมูลค่าของทรัพย์สินซึ่งเป็น
การจัดเก็บจากความมั่งคั่ง (Wealthy) ของเจ้าของทรัพย์สิน โดยผู้ที่มีทรัพย์สินมูลค่ามาก
จะเสียภาษีมากกว่าผู้ที่มีทรัพย์สินมูลค่าน้อย ซึ่งในต่างประเทศก็ถือว่าเป็นแนวทางปฏิบัติสากลในการจัดเก็บภาษีประเภทนี้กับที่อยู่อาศัยหรือโรงเรือนปิดว่าง
(2) การดำรงอยู่ของทรัพย์สินก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น การทำถนน การทำท่อระบายน้ำ การบำบัดน้ำเสีย การคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้น เจ้าของทรัพย์สินทุกคนที่ได้รับบริการสาธารณะของท้องถิ่นจึงมีหน้าที่เสียภาษีให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น