เจ้าของที่เตรียมกระอัก มท.เคาะแล้วภาษีที่ดิน’67 ใช้อัตราเดิมเก็บเต็ม 100% ปล่อยที่ร้างจ่ายเพิ่มเท่าตัว

https://www.matichon.co.th/economy/news_4387139

เจ้าของที่เตรียมกระอัก มท.เคาะแล้วภาษีที่ดิน’67 ใช้อัตราเดิมเก็บเต็ม 100% ปล่อยที่ร้างจ่ายเพิ่มเท่าตัว
เมื่อวันที่ 21 มกราคม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า แนวทางการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2567 จะใช้อัตราที่จัดเก็บปัจจุบัน ได้แก่ ที่ดินเกษตรกรรมจัดเก็บ 0.01-0.1% ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยจัดเก็บ 0.02-0.1% ที่ดินอื่นๆ เช่น การพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม จัดเก็บ 0.3-0.7% และ ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์จัดเก็บ 0.3-0.7% และเก็บ 100% ไม่มีลดหย่อนให้ แต่ได้มีการขยายเวลาการชำระให้อีก 2 เดือน จากเดิมที่ผู้เสียภาษีจะต้องเสียภาษีภายในเดือนเมษายน 2567 เป็นภายในเดือนมิถุนายน 2567
 
นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2567 จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ คือ เก็บในอัตรา 100% ไม่มีลดหย่อนเหมือนปี 2566 ที่ลดให้ 15% เพื่อลดภาระงบประมาณภาครัฐที่ต้องจัดสรรงบมาชดเชยให้กับหน่วยงานท้องถิ่น คาดจะเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2567 ได้ประมาณ 41,459 ล้านบาท

นายขจรกล่าวว่า อย่างไรก็ตามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถออกข้อบัญญัติกำหนดอัตราภาษีที่สูงกว่าอัตราภาษีที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 37 วรรคหก ได้แต่จะกำหนดอัตราภาษีแยกตามประเภทการใช้ประโยชน์หรือตามเงื่อนไขแต่ละประเภทการใช้ประโยชน์ไม่ได้ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้ และกรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ 3 ปีติดต่อกัน ในปีที่ 4 จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.3 เพิ่มขึ้นเท่าตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2566 กระทรวงมหาดไทยได้ทำหนังสือถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อซักซ้อมขั้นตอนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2567 เพื่อให้การจัดเก็บเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง และถือปฎิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน จึงซักซ้อมขั้นตอนการจัดเก็บให้จังหวัดแจ้งองค์กรปครองส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล และเมืองพัทยา ดำเนินการ

โดยให้ศึกษาขั้นตอนการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ ,ชี้แจงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการชำระภาษี ,ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดที่ยังสำรวจข้อมูลที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไม่ครบถ้วนหรือไม่เป็นไปตามแบบมาตรกฐานสิ่งปลูกสร้างที่คณะกรรมการประเมินราคาทรัพย์สินกำหนดให้เร่งรัดสำรวจข้อมูลรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เพื่อนำมาจัดทำประกาศบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้างและบัญชีรายการห้องชุดเพิ่มเตม พร้อมทั้งปิดประกาศและแจ้งให้ประชาชนตรวจสอบและดำเนินการอื่นๆที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จ ภายในระยะเวลาที่ได้มีการขยายกำหนดเวลาดำเนินการไป

นอกจากนี้ในรายละเอียดยังมีการระบุถึง”อัตราภาษี 2567 ”โดยให้ใช้อัตราคงเดิมเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2564 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่ปีภาษี 2565 ต่อไป ได้แก่ ที่ดินเกษตรกรรมจัดเก็บ 0.01-0.1% ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยจัดเก็บ 0.02-0.1% ที่ดินอื่นๆ เช่น การพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม จัดเก็บ 0.3-0.7% และ ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์จัดเก็บ 0.3-0.7%

กรณีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ 3 ปีติดต่อกัน ในปีที่ 4 จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.3 จากอัตราภาษีที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกากำหนด อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2564 ทั้งนี้จะต้องเป็นกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการแจ้งการประเมินภาษีโดยส่งแบบประเมินภาษีเป็นประเภททิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพเป็นเวลา 3 ปีติดต่อกัน ในปีที่ 4 จึงจะปรับอัตราเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.3 จากอัตราภาษีที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกากำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2564

ด้านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถออกข้อบัญญัติกำหนดอัตราภาษีที่สูงกว่าอัตราภาษีที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 37 วรรคหก ได้แต่จะกำหนดอัตราภาษีแยกตามประเภทการใช้ประโยชน์หรือตามเงื่อนไขแต่ละประเภทการใช้ประโยชน์ไม่ได้ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจไว้

สำหรับการลดและการยกเว้นภาษีนั้น 1.ให้พิจารณาลดภาษีในอัตราร้อยละ 50 และร้อยละ 90 สำหรับทรัพย์สินบางประเภท ตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2563 ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาลดภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท (ถ้ามี) ทั้งนี้ การลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะลดเกินกว่าอัตราร้อยละ 90 มิได้

2.ผู้บริหารท้องถิ่นโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัดมีอำนาจลดหรือยกเว้นภาษีที่ดินให้แก่ผู้เสียภาษี โดยพิจารณาตามระยะเวลาประกอบกับสัดส่วนความเสียหาย ตามตัวอย่างการพิจารณาลดหรือยกเว้นภาษีใน 2 กรณี

ได้แก่ 1.กรณีมีเหตุพ้นวิสัยที่ยากจะป้องกันได้โดยทั่วไป เช่น อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย ภัยแล้ง ภาวะฝนแล้งฝนทิ้งช่วง ภัยจากลูกเห็บ ไฟป่า โรคระบาดของแมลงหรือศัตรูพืช อากาศหนาวจัด ภัยสงคราม ภัยจากการก่อการร้าย เป็นต้น ไม่ว่าเกิดจากธรรมชาติ หรือมีบุคคลหรือสัตว์ทำให้เกิดขึ้นซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง เมื่อเหตุดังกล่าวได้ยุติลงแล้วให้ประกาศให้ผู้เสียภาษีมาลงทะเบียน และประกาศรายชื่อผู้มาลงทะเบียน พร้อมทั้งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหาย เพื่อจัดทำบัญชีรายชื่อผู้เสียภาษี จำนวนพื้นที่ และสัดส่วนของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหาย และจำนวนภาษีที่เห็นควรลดหรือยกเว้น ภาษีตามหลักเกณฑ์เสนอคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้วแต่กรณีพิจารณาให้ความเห็นชอบตามรอบระยะเวลาที่ระเบียบกระทรวงมหาดไทยกำหนด

และ2.กรณีมีเหตุนอกจากข้อ (1) ทำให้ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างเฉพาะรายได้รับความเสียหาย หรือถูกรื้อถอนหรือทำลาย หรือชำรุดเสียหายจนเป็นเหตุให้ต้องซ่อมแซมในส่วนสำคัญโดยมิได้มีเหตุมาจากผู้เสียภาษี (พิจารณาตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่)ให้ผู้เสียภาษีมายื่นคำร้องภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างได้รับความเสียหายฯ พร้อมทั้งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่สำรวจความเสียหาย เพื่อจัดทำบัญชีรายชื่อผู้เสียภาษี จำนวนพื้นที่ และสัดส่วนของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งได้รับความเสียหาย และจำนวนภาษีที่เห็นควรลดหรือยกเว้นภาษีตามหลักเกณฑ์เสนอคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำจังหวัดหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้วแต่กรณีพิจารณาให้ความเห็นชอบตามรอบระยะเวลาที่ระเบียบกระทรวงมหาดไทยกำหนด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากปี 2567 อัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะเก็บอัตราเดิมแล้ว ในส่วนของราคาประเมินที่ดิน ทางกรมธนารักษ์ยังไม่ปรับขึ้นเช่นกัน

เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย มติชน
ติดตามข่าวสารต่างๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.matichon.co.th
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่